ตะลุย 13 ไฮไลท์!! ภูมิภาคชูบุ Nagoya-Gifu-Gujo-Takayama ในมุมมองใหม่ (ตอนที่ 1)

ญี่ปุ่นกับเทศกาลท่องเที่ยวมีให้ตามเก็บไฮไลท์กันตลอดทั้งปี ยิ่งสำหรับช่วงเดือนกันยายน - พฤศจิกายน ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลแห่งการโพสต์ภาพของเหล่านักเดินทางเลยก็ว่าได้!!

ทริปนี้ตั้งใจวางเเพลนไปชมไฮไลท์ใบไม้เปลี่ยนสีที่เมืองแห่งธรรมชาติ ณ ภูมิภาคชูบุ!! เส้นทาง Nagoya, Gifu, Gujo, Takayama 4 วัน เดินทางด้วยสายการบินไทยเเอร์เอเชียเอ็กซ์ เส้นทางดอนเมือง - นาโกย่า สบายๆเลือกวันไปได้ เพราะมีบินตรงทุกวัน แถมมีโปรโมชั่นตลอดอีก

จองเสร็จพร้อมเดินทาง!!! รอบนี้แฮปปี้ได้นั่งริม ที่นั่งแบบตอน 3-3-3 นอนไป 5 ชม กว่าก็ถึงสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นเเทรร์ (Chubu Centrair) ที่นาโกย่า!!



 

Day 1 : พิพิธภัณฑ์มีดเมืองเซกิ Seki Hamono Museum >> โซเม็งร้าน Kamagataki Waterfall Chaya >> เมืองแห่งสายน้ำ Gujo Hachiman >> เมืองกุโจฮาจิมังทำเวิร์คช็อปอาหารจำลอง


Day 1- 1 : พิพิธภัณฑ์มีดเมืองเซกิ Seki Hamono Museum (関刃物ミュージアム) 




ที่แรกเราไปชมของดีของเมืองเซกิ จ.กิฟุ ในฐานะที่เมืองนี้มีชื่อเสียงมากในเรื่องของงานมีดและของมีคม เริ่มแรกเขาจะมีการแสดงที่ด้านหน้า โชว์การฟันดาบแบบซามูไรสมัยก่อน ฟันฉับ ๆ ลงไปบนไม้ไผ่ รวดเร็วเร้าใจมาก 



จากนั้นจะเข้าไปชมการตีดาบแบบโบราณที่ข้างในพิพิธภัณฑ์ ตอนท้ายก็จะให้ผู้ชมลองตีดาบด้วยตัวเองด้วย นอกจากนี้ก็มีการจัดแสดงดาบและมีดต่าง ๆ และขายของที่ระลึก ห้ามพลาดกรรไกรตัดเล็บหรือกรรไกรจิ๋ว หรือจะซื้อมีดทำครัวติดไม้ติดมือกลับบ้านก็ได้ค่ะ 

รายละเอียด Seki Hamono Museum (関刃物ミュージアム)
วัน-เวลาทำการ: เปิดทุกวัน เวลา 8:30-17:00 น.
ค่าเข้าชม: ภายในพิพิธภัณฑ์เข้าชมฟรี ส่วนการสาธิตตีดาบมีเก็บค่าเข้าชมเพิ่ม
เว็บไซต์: http://www.hamonoyasan.com/
พิกัด: https://goo.gl/maps/y4jAVTnq3ZwKELp36



 

Day 1-2 : ทานโซเมนไหลริมน้ำตกที่ร้าน Kamagataki Waterfall Chaya (釜ヶ滝滝茶屋)




โซเมนไหล (Nagashi Soumen) หนึ่งในอาหารที่นิยมทานกันในช่วงฤดูร้อนของชาวญี่ปุ่น คล้าย ๆ ราเมงเย็น เส้นโซเมนจะถูกปล่อยมาตามรางน้ำยาว ๆ รอบ ๆ โต๊ะ (ออริจินัลต้องเป็นรางไม้ไผ่ แต่อันนี้ประยุกต์มา) แล้วต่างคนต่างคีบเส้นขึ้นมา จุ่มในถ้วยที่ใส่นํ้าทสึยุก่อนทาน คุณจะทานเท่าไหร่ก็ได้ตามแต่ชอบเลย 



นอกจากนี้ยังมีปลาอายุย่างเกลือและไก่ย่างด้วย  ร้านนี้ความพิเศษอยู่ที่ตัวร้านตั้งอยู่ริมลำธาร และมีน้ำตกเล็ก ๆ และเส้นทางเดินเลียบแม่น้ำ ร่มรื่นและสวยงาม หากมาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็ยิ่งสวยมากขึ้นไปอีก สำหรับการเดินทางแนะนำเช่ารถขับ เพราะรถสาธารณะเข้าถึงยากค่ะ



รายละเอียด Kamagataki waterfall Chaya (釜ヶ滝滝茶屋)
วัน-เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ 10:30-15:00 น. / เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด 10:30-17:00 น.
ราคา: Nagashi Soumen ผู้ใหญ่ 800 เยน เด็กประถม 500 เยน เด็กเล็กต่ำกว่า 6 ขวบ 300 เยน นํ้าทสึยุ ราคา 200 เยน/ถ้วย
เว็บไซต์: http://www.nagashisoumen.jp/
พิกัด: https://goo.gl/maps/WpU6qPmhQAe5Q7aL6



 

Day 1-3 : ชมเมืองแห่งสายน้ำ Gujo Hachiman (郡上八幡)




เมืองกุโจฮาจิมังแห่งนี้ ยังคงมีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นสมัยอดีตเอาไว้ บ้านเรือนแต่ละหลังเป็นบ้านไม้แบบโบราณที่เรียงรายไปตามถนนเส้นเล็ก ๆ เมืองนี้มีรางน้ำจำนวนมากจนถูกขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งสายน้ำ จุดถ่ายภาพยอดฮิตนอกจากบรรยากาศในตัวเมืองแล้ว ยังมีสะพาน Shimizu Bashi สะพานสีแดงข้ามแม่น้ำ ที่มองเห็นวิวบ้านเรือนและน้ำใส ๆ ในแม่น้ำ 



ที่บริเวณใกล้ ๆ กันก็มีร้านคาเฟ่บรรยากาศดี มีชื่อว่า Sogian Café ภายในเป็นห้องแบบญี่ปุ่น สามารถนั่งมองสวนญี่ปุ่นสวย ๆ ได้ แนะนำเมนู Sougian Parfait ที่มีส่วนผสมของพุดดิ้ง เจลลี่ ไอศกรีมชาเขียว ถั่วแดงแสนอร่อย แถมยังมีศิลปะการโรยผงชาเขียวด้านบนสุดเป็นรูปการร่ายรำที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองกุโจแห่งนี้อีกด้วย



รายละเอียด Sogian Café (宗祇庵カフェ)
วัน-เวลาทำการ: 11:00-17:00 น. (L.O.16:30 น.) หยุดทุกวันพุธ (ช่วงฤดูหนาวหยุดวันอังคารและพุธ)
เว็บไซต์: https://sougian.jp/
พิกัด: https://goo.gl/maps/9E2KkrskXksJsVJi8



 

Day 1-4 : เวิร์คช็อปลองทำอาหารจำลอง (Food Replica Workshop) 




เมืองกุโจฮาจิมัง ยังมีชื่อเสียงอีกเรื่องหนึ่งในฐานะที่เป็นเมืองแห่งการผลิตอาหารจำลอง หรืออาหารตัวอย่างที่ตั้งตามหน้าร้านขายอาหาร เช่น เทมปุระ เบนโตะ ราเม็ง ฯลฯ และที่นี่ก็มีร้านค้าที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ลองทำอาหารจำลองด้วยตัวเองอีกด้วย แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะทำยากมั้ย เพราะเขาจะจัดอาหารจำลองที่ขั้นตอนง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก มาให้เราลองทำกันค่ะ เช่น ผักกาดแก้ว กุ้งเทมปุระ ทำเสร็จสามารถเอากลับบ้านไปเป็นที่ระลึกได้ด้วย แถมไม่ต้องกังวลเรื่องภาษาด้วยนะ ถึงแม้เราจะไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่น แต่เขาก็สามารถอธิบายด้วยภาษากายผสมภาษาอังกฤษนิด ๆ หน่อย ๆ ได้อย่างไม่ยากเลย หากใครไม่ได้ทำเวิร์คช็อปก็สามารถแวะมาเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกที่ทำจากอาหารจำลองน่ารัก ๆ กันได้



รายละเอียด Sample Koubou สาขาหลัก (さんぷる工房 本館)
วัน-เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ 9:30-17:00 น. / เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด 9:00-17:00 น. (ปิดทำการช่วงเทศกาลปีใหม่)
ราคาเวิร์คช็อป: เริ่มต้นที่ 900 เยน/ชิ้นงาน/ท่าน (ต้องจองล่วงหน้าก่อน)
เว็บไซต์: http://samplekobo.com/
พิกัด: https://goo.gl/maps/fY1sXm7W4WQXWn1k8



 




Day 2 :  จุดพักรถชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีบนเส้นทาง Seseragi-Kaido Driveway >> เมืองเก่าทาคายาม่า (Takayama) >> รอยอะนิเมะ Your Name ที่เมือง Hida Furukawa >> ขี่จักรยานบนรางรถไฟแสนสนุก ที่ Rail Mountain Bike Gattan Go!! 


Day 2-1 : ชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีบนเส้นทาง Seseragi-Kaido Driveway


ออกเดินทางจากเมืองกุโจฮาจิมัง ไปตามเส้นทางหลวงที่ขึ้นมาทาคายาม่า ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีถนนสายนี้จะเปลี่ยนเป็นสีทอง เหมาะสำหรับผู้ที่เช่ารถขับ ระหว่างทางจะเต็มไปด้วยต้นไม้ ในบางช่วงของถนนก็จะมีแม่น้ำไหลขนาบข้าง ซึ่งสวยงามมาก ๆ เลยล่ะ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมใบไม้เปลี่ยนสีบนถนนสายนี้คือ กลางเดือนตุลาคม จนถึงต้นพฤศจิกายน ใครที่ไปทาคายาม่าด้วยการขับรถขึ้นมาจากกิฟุหรือเมืองกุโจฮาจิมังก็อย่าพลาดเส้นทางนี้ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีนะคะ



รายละเอียด Seseragi-Kaido Driveway (せせらぎ街道)
เว็บไซต์: http://www.hidakiyomi.org/nature/drive/drive02.html

พิกัด: https://goo.gl/maps/z4w5qvZR9g5rkHJx5



 

Day 2-2 : ลิ้มรสเนื้อฮิดะสุดฟิน ที่เมืองเก่าทาคายาม่า (Takayama)


และแล้วเราก็มาถึงเมืองทาคายาม่า เมืองท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดกิฟุ ใครที่เคยมาต่างก็ต้องอยากกลับมาอีกครั้ง ที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เมืองนี้ยังเป็นเมืองเชื่อมต่อไปยังที่เที่ยวอื่น ๆ ได้ เช่น คามิโคจิ  หมู่บ้านชิราคาวะโกะ  หรือโรปเวย์ชินโฮทาคะ



ไฮไลท์จุดถ่ายภาพอยู่ที่ถนนเส้นเล็ก ๆ ที่เรียงรายไปด้วยบ้านไม้สองชั้นแบบโบราณ ถ่ายภาพกับสะพานสีแดง Naka Bashi ที่อยู่กลางเมือง เที่ยวตลาดเช้าริมแม่น้ำ Miyagawa หาซื้อของฝากน่ารัก ๆ  และที่พลาดไม่ได้เลยคือลิ้มรสชาติเนื้อฮิดะย่าง แนะนำที่ร้าน Kyoya เลยค่ะ เนื้อนุ่มฟินมาก ๆ



รายละเอียด ร้านเนื้อฮิดะ Kyoya (京や)
วัน-เวลาทำการ: 11:00-21:00 น. (L.O. 20:30) หยุดทุกวันพุธ
เว็บไซต์: http://www.kyoya-hida.jp/
พิกัด: https://goo.gl/maps/vSv4No7orU2fdikW7



 

Day 2-3 : ตามรอยอะนิเมะ Your Name ที่เมือง Hida Furukawa 


ฮิดะฟุรุคาวะ (Hida Furukawa) เมืองเล็กๆคู่แฝดทาคายาม่า เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชื่นชมความเป็นเมืองเก่าสมัยยุคเอโดะ และจุดเช็คอินเด่นๆของที่นี่จะเป็นคลองเล็ก ๆ ในเมืองที่มีปลาคราฟแวกว่ายกันตลอดสาย คนญี่ปุ่นบอกมาว่าที่นี่มีปลาคราฟมากถึง 1000 ตัวเชียวนะ (มีเฉพาะช่วงเดือนเมษายน - พฤศจิกายน เท่านั้น ช่วงฤดูหนาวเค้าจะย้ายปลาไปอาศัยที่อื่นชั่วคราวค่ะ)





อีกทั้งเมืองฮิดะฟุรุคาวะยังเป็นที่นิยมมากขึ้นอีกเมื่อภาพยนตร์เรื่อง Your Name มีฉากในเมืองให้เห็นผ่านตากันตลอดทั้งเรื่อง อย่างที่สถานีรถไฟ Hida Furukawa Station  คนก็มาถ่ายกันเเล้วทำภาพเทียบกับในภาพยนตร์ ช่วงนั้นจึงเกิดปรากฏการณ์ “ตามรอยภาพยนตร์ Your Name” ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศมาถ่ายรูปตามจุดต่าง ๆ ในภาพยนตร์กันเลยทีเดียว



รายละเอียด สถานี Hida Furukawa (飛騨古川駅)
การเดินทาง จากสถานี Nagoya นั่งรถไฟสาย JR Takayama line ไปลงสถานี Hida Furukawa
เว็บไซต์: https://www.hida-kankou.jp/kanko/foreign/en/

พิกัด: https://goo.gl/maps/nUruGhVYA3dFqrhEA



 

Day 2-4 : ไปขี่จักรยานบนรางรถไฟแสนสนุก ที่ Rail Mountain Bike Gattan Go!! 


Gattan Go!! กิจกรรมปั่นจักรยานสองล้อบนรางรถไฟสุดคูลของเมืองฮิดะ เพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ของเมืองตลอดทาง อดีตเคยเป็นทางรถไฟแต่ได้ยกเลิกการใช้งานไปแล้ว คนญี่ปุ่นเค้าก็คิดค้นปรับปรุงให้กลายเป็นที่ท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมสนุก ๆ



โดยที่จักรยานนี้เป็นจักรยานแบบพิเศษที่ตรงล้อยึดจะติดกับรางรถไฟ ทำให้เราสามารถปั่นจักรยานได้แบบง่าย ๆ เพียงแค่ออกแรงปั่นที่เท้าเท่านั้น  คนปั่นจักรยานไม่คล่องก็สามารถมาสนุกกันได้ เพราะต้องอาศัยจักรยาน 2 คันปั่นไปพร้อม ๆ กัน





เส้นการปั่นจักรยาน มี 2 เส้นทางคือ Town Course และ Canyon Course มารอบนี้ได้ลองปั่นเส้นทาง Town Course ที่ระหว่างทางจะผ่านหุบเขา สะพานสีแดงข้ามแม่น้ำ ผ่านอุโมงค์ใต้ดินมืด ๆ ที่ให้ความตื่นเต้น ไปสิ้นสุดทางที่อีกเมืองและกลับมาทางเดิม รวมระยะทาง 5.8 กิโลเมตร บอกเลยว่าที่นี่สนุกมาก ๆ เพราะว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ มาเล่นช่วงเดือนตุลาคมก็กำลังดี ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป ได้ชมใบไม้เปลี่ยนสี และสัมผัสลมปะทะร่างกายเย็นๆ ให้ความรู้สึกสดชื่นมากๆเลยทีเดียว





รายละเอียด Rail Mountain Bike Gattan Go!!
ตรวจสอบรอบวัน-เวลา และสำรองล่วงหน้าได้ที่ เว็บไซต์: https://rail-mtb.com/en

ราคา:
1) 
สำหรับ Town Course - 2 ท่าน ราคา 3,000 เยน/ยูนิต, 2-3 ท่าน ราคา 4,000 เยน/ยูนิต, 2-5 ท่าน ราคา 5,500 เยน/ยูนิต
2) สำหรับ Canyon Course - 2-3 ท่าน ราคา 5,000 เยน/ยูนิต
พิกัด: https://goo.gl/maps/j5yZtePFQr22HuKE7



 

Day 2-5 : Gero Onsen เมืองออนเซ็นที่ดีที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น


หากที่หาที่พักดี ๆ สักคืนก็ต้องที่นี่แหละ “เกโระออนเซ็น” เมืองออนเซ็นที่มีชื่อเสียงติดอันดับ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น ที่นี่มีเรียวกังหรือโรงแรมแบบญี่ปุ่นที่มีออนเซ็นอยู่หลายแห่ง อยากแนะนำให้ได้มาลองพักสักคืน แต่หากมีเวลาเพียงวันเดียวก็ยังสามารถเที่ยวได้ เพราะที่นี่จะมีออนเซ็นที่เปิดในนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เข้าพักค้างแรมสามารถใช้บริการได้ด้วย ภายในเมืองยังมีบ่อน้ำร้อนสำหรับแช่เท้าให้บริการอีกหลายจุด และหมู่บ้านโบราณเกโระ (Gassho Folk Village) ที่รูปทรงหลังคาแบบกัซโซ แบบเดียวกับที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ จะไปชมใบไม้เปลี่ยนสีก็งาม ชมซากุระก็งาม สวยหมดทุกฤดูกาลค่ะ



สำหรับคืนนี้ เรามาพักกันที่ เรียวกัง Kisoya (木曽屋) ซึ่งก็มีความพิเศษตรงที่ออนเซ็นบ่อผู้หญิงของที่เรียวกังนี้ มีลอยดอกกุหลาบ และสบู่และแชมพูเค้าก็มีกลิ่นหอมกุหลาบมาก ๆ นอนพักที่นี่คืนเดียว ก็ได้กลิ่นหอมของดอกกุหลาบติดตัวไปหลายวันเลยทีเดียว ส่วนอาหารเย็นและอาหารเช้าของที่นี่ก็อร่อยดีงามมาก ๆ เลย



รายละเอียด เรียวกัง Kisoya (木曽屋)
บริการออนเซ็นแบบ Day trip : ให้บริการเวลา 13:00 - 23:00 น.
ราคา : ผู้ใหญ่ (นร.ชั้นประถมขึ้นไป) ราคา 1,000 เยน / ท่าน, เด็กเล็กกว่าชั้นประถม ราคา 500 เยน / ท่าน
เว็บไซต์: http://www.kisoya.com/
พิกัด: https://goo.gl/maps/fYTsAxiLYSmas1o16



 

หลังจากแช่ออนเซ็น กินอิ่ม นอนหลับฝันดี ไปแล้วนั้น เราก็พร้อมจะออกเดินทางกันต่อ เพื่อไปยังที่เที่ยวใหม่ ๆ ในเมือง Gifu แล้วกลับลงมายังเมือง Nagoya เรื่องราวตอนต่อไปนั้นจะเป็นอย่างไร รอติดตามชมกันในตอนที่ 2 นะจ๊ะ 

อ่านต่อ >> PART 2 

 

เรื่องและภาพโดย JGB Reporter