ชิโซะ ผักใบใหญ่ ที่ไม่ธรรมดา

“ผักใบใหญ่ ขอบใบเป็นหยักๆ มีสีเขียวบ้าง มีสีแดงอมม่วงบ้าง มีกลิ่นฉุนไว้ใช้ดับกลิ่นคาว” จากข้อความข้างต้นนั้น ในเมนูอาหารไทยเราอาจจะไม่คุ้นเคยนักนะคะ แต่หากเป็นทางฝั่งของประเทศญี่ปุ่นแล้วละก็ ลักษณะดังกล่าวนั้น เป็นลักษณะที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีกับชาวญี่ปุ่นทุกคนแน่ๆ ค่ะ เพราะนั่นก็คือ ใบชิโซะ นั่นเองค่ะ



ใบชิโซะ (Shiso) หรือใบโอบะ จัดเป็นพืชล้มลุกและอยู่ในตระกูลเดียวกันกับมินต์ โหระพา และกะเพรา จึงทำให้เป็นผักที่มีกลิ่นฉุนค่อนข้างแรง โดยชิโซะหลักๆ เลยนั้นมีสองสีด้วยกันค่ะ ชนิดแรกเป็นชนิดที่มีใบเป็นสีแดง อาคะชิโซะ (Akashiso) นิยมนำมาบดทำเป็นผงโรยข้าว นำไปดองบ๊วยให้ได้สีแดงตามธรรมชาติ เพื่อนำไปใช้แต่งสีผักดอง หรือการนำไปสกัดน้ำมัน โดยการใช้เมล็ดเอโกะมะ ซึ่งเป็นชิโซะสีแดงชนิดหนึ่ง ทำให้ได้น้ำมันที่อุดมไปด้วยสารอาหาร ช่วยในเรื่องป้องกันการสะสมของไขมันในร่างกาย ลดระดับคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง แล้วยังช่วยลดโอกาสการเกิดโรคอัลไซเมอร์ หรือโรคความจำเสื่อมได้อีกด้วยค่ะ


ส่วนชนิดที่สอง เป็นชนิดที่มีใบสีเขียว อาโอะชิโซะ (Aoshiso) ที่ชาวญี่ปุ่นได้หยิบเอาประโยชน์ของกลิ่นฉุนมาใช้ในการดับกลิ่นคาวของอาหารทะเล และการรับประทานในเมนูต่างๆ อาทิ รับประทานเคียงกับเนื้อย่าง ซาชิมิ ซูชิ สลัดผัก เทมปุระชิโซะ หรือซอยใบชิโซะลงในชามโซเมนแล้วรับประทาน ก็ได้รสชาติอร่อยเด็ดอย่าบอกใครเลยละค่ะ โดยจะเลือกใช้ใบชิโซะที่ไม่แก่มากนักในการนำมาประกอบอาหารในแต่ละเมนูเพื่อเพิ่มความอร่อยให้กับเมนูนั้นค่ะ


นอกจากใบชิโซะจะมีความหลากหลายในการนำไปประกอบอาหารแล้ว เรื่องของคุณประโยชน์ก็มีมากมายหลากหลายเช่นกันค่ะ โดยในใบชิโซะนั้นมีสารอาหารนานๆ ชนิด ทั้ง แคโรทีน ที่มีมากที่สุดในบรรดาผักด้วยกันเองทั้งหมด โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 และวิตามินซี ที่ช่วยในการเสริมสร้างการทำงานของระบบประสาทและสมอง


และสำหรับท่านใดที่ชื่นชอบใบชิโซะและอยากรับเลี้ยงดูแล ก็ไม่ยากเลยค่ะ เพราะชิโซะเป็นพืชไม้ล้มลุกที่มีอายุสั้น โดยที่เราจะใช้เมล็ดในการเพาะปลูก หลังจากนั้นปล่อยให้ชิโซะเจริญงอกงามไปประมาณ 50- 60 วันแล้วจึงจะนำปรุงอาหารรับประทานหรือส่งขายได้ค่ะ ส่วนเรื่องการดูแลก็ง่ายมากค่ะ ด้วยชิโซะเป็นพันธุ์ไม้ที่ชอบแสงแดดอ่อนๆ รำไรๆ ชอบดินร่วนซุยที่ระบายน้ำได้ดี มีลำต้นตั้งตรง ที่มาพร้อมกับความสูงเพียง 30 -100 เซนติเมตรเท่านั้น ใบมีรูปทรงกลมปลายแหลม ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย ตัวของผิวบริเวณใบจะย่น ไม่เรียบ และดอกของต้นชิโซะมีสีม่วง

โดยจะออกดอกที่บริเวณโคนก้านใบหรือบนยอดกิ่งค่ะ เราสามารถปลูกชิโซะในกระถางได้เลยค่ะ เพราะเหมาะอย่างยิ่งสำหรับท่านใดที่มีพื้นที่จำกัดในการเพาะปลูก แถมปลูกไปปลูกมาได้ทั้งต้นไม้เพิ่มโอโซนให้กับห้องพักแล้วยังได้ผักอันมีประโยชน์ไว้รับประทานอีกด้วยค่ะ
จัดได้ว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ สำหรับใบชิโซะ อีกหนึ่งผักคู่ครัว เคียงคู่กับเมนูอาหาร เชื่อแน่ว่าจะต้องมีใครหลายคนต้องเคยลิ้มรสชาติของใบชิโซะมาแล้ว อาจจะมีทั้งที่ชอบและไม่ชอบนะคะ แต่มั่นใจได้เลยค่ะว่า ผักเขาดีมีประโยชน์แฝงอยู่มากมายจริงๆ ผักดีขนาดนี้ เราไม่อยากให้ทุกท่านพลาดด้วยประการทั้งปวงเลยค่ะ