ภาพบอลลูนเป็นสิบๆ อันลอยล่องอยู่บนฟ้าใน Saga balloon fiesta ถือเป็นความฝันของใครหลายๆ คนเลยใช่มั้ยล่ะคะ แต่ในขณะเดียวกันหลายๆ คนก็อาจจะยังนีกภาพไม่ออกล่ะสิ ว่าการที่เราต้องเดินทางไปไกลถึงซากะเพื่อไปดูบอลลูนนี่มันคุ้มค่ายังไง แต่ขอบอกเลยค่ะว่ามาครั้งเดียวได้ประสบการณ์ที่ประทับใจจนลืมไม่ลงแน่นอน

   ถึงเมืองซากะเป็นเมืองเล็กในคิวชู แต่การเดินทางก็สามารถไปได้หลายแบบเลยนะคะ เราเลือกนั่งรถไฟจากสถานีฮากาตะ ไปกลับ 2,520¥ ใช้เวลา 40 นาทีค่ะ แต่จะนั่งรถบัสมาจากเมืองอื่นๆ หรือเช่ารถขับมาก็ได้เหมือนกันนะ ในปีนี้เทศกาลจัดในวันที่ 30 ตค - 5 พย 62  

   ตารางการแสดงโดยคร่าวๆของงานนี้จะมีการแข่งบอลลูนตอนประมาณ 7.00-8.30 และ 15.00-16.30 ส่วนช่วงสายหรือ 9.00-10.30 จะเป็นโชว์บอลลูนแฟนซีหรือพวกตัวการ์ตูนน่ารักๆ ไม่มีค่าเข้าชมจ้า ด้วยความที่ไม่อยากตื่นเช้ามานักเลยเลือกไปสองวันคือ 3-4 ช่วงเสาร์อาทิตย์พอดีคนเลยเยอะเป็นพิเศษ

   “แค่นอนมองฟ้านิ่งๆ ก็มีความสุขแล้ว” นั่นแปลว่า “ท้องฟ้า” เป็นส่วนสำคัญกับงานนี้เหมือนกันนะ เราไม่สามารถกำหนดหรือคาดเดาได้หรอกว่าท้องฟ้าในวันที่เราไปจะเป็นยังไง ฟ้าจะโปร่งหรือฟ้าจะปิด อย่างตอนเราไปวันแรกฟ้าสวยมาก แค่ดูเมฆก็เพลินแล้ว แต่วันที่สองฟ้ามีแต่เมฆจนแทบไม่มีแสงเลย อีกอย่าง ท้องฟ้ามันมีการเปลี่ยนแปลงทุกๆ วัน ถ่ายรูปมาไม่มีทางเหมือนกันแน่นอน นั่นก็ถือเป็นข้อดีของการมาสองวันนะ

   สำหรับใครที่ชอบบรรยากาศงานเทศกาลของญี่ปุ่นต้องห้ามพลาดงานนี้เลย เราจะเพลิดเพลินไปกับอาหารข้างทางที่นิยมขายกันในเทศกาลอย่าง ยากิโซบะ ทาโกะยากิ ราเมง ผลไม้เชื่อม หรือแม้กระทั่งน้ำแข็งไสที่เราสามารถกดน้ำหวานใส่เองได้ตามใจ และที่สำคัญ เนื้อซากะพรีเมียมที่มาในไม้เสียบคล้ายหมูปิ้งบ้านเราก็ถือว่าห้ามพลาดเลยนะ มาถึงที่นี่แล้ว

   หลังจากรอมานาน เราก็ได้ชมบอลลูนกันซักที เรามารอบตอนบ่ายซึ่งเป็นการแข่งบอลลูน เราจะไม่ได้แค่ดูบอลลูนสวยๆ ลอยอยู่บนฟ้าอย่างเดียว แต่เราจะได้เห็นบรรยากาศการแข่งขันด้วย ซึ่งผู้แข่งขันจะบังคับบอลลูนมายังจุดให้คะแนนและปล่อยอุปกรณ์อะไรซักอย่างให้ลงตรงจุดที่กำหนดให้แม่นยำที่สุด ถ้าใครโยนเข้าเป้าทุกคนก็จะร้องยินดีไปกับเค้าทั้งงานเลยล่ะ

   ด้วยความที่เรามาตอนบ่ายก็เลยอยู่ทันชมพระอาทิตย์ตกดินด้วย ซากะเป็นเมืองที่ไม่มีตึกสูงและอาศัยรวมอยู่กับธรรมชาติ บวกกับท้องฟ้าที่เปิดของวันนั้นทำให้ภาพพระอาทิตย์ตกดินสวยเป็นพิเศษ อันนี้ถ่ายจากสถานีรถไฟบอลลูนซากะก่อนนั่งรถไฟกลับจ้า

   วันที่สองเรามาชมบอลลูนแฟนซี ยอมรับเลยว่ามาสายไปหน่อย 555 พอมาถึงเจ้าบอลลูนก็มาจอดอยู่ที่สนามแล้ว ข้อดีของวันนี้ก็คือเราสามารถเดินเข้าไปจับและถ่ายรูปกับบอลลูนที่พื้นดินได้ แต่คนก็จะเยอะหน่อย

สำหรับใต้ท้องวาฬสองตัวนี้ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็อดใจไม่ไหวจริงๆ ที่จะต้องไปลอดใต้ท้องมันแล้วลองกระโดดเอาหัวชนบอลลูน ยิ่งตอนบอลลูนเอนไปตามลมยิ่งสนุก งานนี้ไม่ต้องกลัวจะอายเด็กนะคะ เพราะทุกคนต่างก็มาสนุกกันทั้งนั้น

   ส่วนอันนี้เราแอบเห็นผู้ร่วมงานได้ขี้นไปบนบอลลูนด้วย แต่ไม่ต้องกลัวอันตรายนะ เพราะเค้ามีเชือกขึงไว้อยู่ ลมแรงแค่ไหนก็ไม่ปลิวไปแน่นอน

   สำหรับใครที่อยากมาร่วมงานเทศกาลนี้ในครั้งหน้าหรือครั้งต่อๆ ไป ขอแนะนำว่าให้จองที่พักตั้งแต่เนิ่นๆ นะคะ ก่อนที่ราคาจะขึ้นหรือหมด ส่วนวันจัดงานถ้ามาช่วงกลางวันอย่าลืมพกร่มกันแดดหรือหมวกมานะ เพราะแสงแดดแรงมาก พัดลมพกพาก็จำเป็นสำหรับคนขี้ร้อนนะ และถ้าจะให้ดีพกเสื่อหรือกระดาษพลาสติกมาปูตอนชมบอลลูนจะสบายมากเลย (คนญี่ปุ่นบางคนถึงขั้นเอาเต็นท์มากางเลยนะ)

    งานเทศกาลบอลลูนอาจจะถูกจัดในหลายประเทศทั่วโลก แต่เชื่อเถอะค่ะว่าบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นเนี่ย ไม่มีทางมีที่ไหนเหมือนอย่างแน่นอน