หนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของนาโกย่า แน่นอนว่าคือย่าน Osu  ที่นี่เป็นแหล่งการค้าใหญ่ มีร้านช้อปปิ้ง ทั้งร้านเสื้อผ้า เครื่องสำอาง ของใช้ ของกิน ร้านอาหารมากมาย เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด

แหล่งช้อปนี้ตั้งอยู่ใกล้กับวัดชื่อดัง Osu Kannon มาไหว้พระเสร็จก็สามารถเดินช้อปปิ้ง ร้านค้า ของกิน ได้สบายๆเลย  มาที่นี่เราสามารถอยู่ได้เป็นวันเลยค่ะ เดินเพลินๆ

การเดินทางไม่ยากเลยค่ะ นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tsurumai Line มาลงสถานี Osu Kannon ออกทางออกที่ 2

วัด Osu Kannon เป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังของนาโกย่า เปิดให้บริการทุกวัน ไม่มีค่าเข้าชม วัดสวยงามมากเลยค่ะ มีผู้คนมาสักการะบูชาตลอดเวลา





ออกจากวัดมาเราจะเห็นร้านค้าเรียงรายกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวันธรรมดาหรือเสาร์อาทิตย์ ที่นี่ก็จะคึกคักเต็มไปด้วยผู้คน



มาที่นี่ต้องเผื่อเวลานะคะ  ใช้เวลาเดินกันหลายชั่วโมงแน่นอน เพราะตามถนนจะมีซอกซอยเล็กๆ เข้าไปอีก

มีทั้งร้านของกินของใช้ เสื้อผ้า เครื่องสำอาง เต็มไปหมด เป็นย่านที่สามารถละลายทรัพย์ได้ดีเลยทีเดียว



ร้านนี้โดนใจมากเลยค่ะ 390 Thank You mart  ทุกชิ้นราคา 390 เยน ไม่ว่าจะชิ้นไหนๆ หยิบมาก็ 390 เยน บางอันเราว่าคุ้มเกินราคา บางอันก็รู้สึกแพงไป ฮ่าๆๆ สนุกกับการเลือกมากๆ

















น่ารักๆ เพียบเลยใช่มั้ยคะ เราเหมาพวกเคสมือถือ กับกระเป๋าใส่ของมา ถ้าใครชอบเคสมือถือนี่อย่าพลาดมาร้านนี้นะคะ อาจจะหยิบจนล้นมือโดยไม่รู้ตัว

นอกจากร้านค้า ก็ยังมีร้านของกินอีกมากมาย  หนึ่งในร้านที่ไม่ควรพลาดก็คือ ร้านกาแฟ  KANNON COFFEE ที่ไม่ว่าใครจะมาแถวนี้ก็ต้องขอมาลองกาแฟซักหน่อย พร้อมถ่ายรูปเช็คอินเก๋ๆ  ร้านอยู่ไม่ไกลจากวัดค่ะ



เราเลือกสั่ง ลาเต้ร้อน ระหว่างรอกาแฟ ก็ได้กลิ่นหอมกาแฟมากๆ รสชาติกาแฟดีทีเดียว





มีเมนูขนมด้วยค่ะ



ถ้าไม่กินกาแฟ มีเมนูอิตาเลี่ยนโซดาให้ด้วย เค้าแนะนำให้เราสั่งอันนี้ค่ะ ส่วนตัวเรากินแล้วเฉยๆ เหมือนกินน้ำโซดาใส่สตรอเบอรี่ 5555





กินกาแฟเสร็จแล้ว ไปเดินต่อค่ะ  ถ่ายบรรยากาศร้านข้างทางของย่าน OSU มาให้ชมกัน ร้านของกินเพียบบ







ร้านที่ต้องมากินอีกร้านให้ได้ก็คือ ชาไข่มุก Quickly 名古屋大須店 ดูจากคนต่อแถว ทำให้อยากลองขึ้นมาทันที



ไปลองกันเลย ร้านเล็กแต่มีที่ให้นั่งข้างในนิดหน่อยค่ะ ซึ่งเก้าอี้ไม่เคยจะว่าง



เมนูจะมีทั้งชานม ชาใส น้ำผลไม้ ใส่ไขมุก เราเลือกสั่ง Pearl milk tea 350 เยน (Small size)

ได้มาแล้วค่ะ รอไม่นาน ชาเข้มข้น อร่อยมากๆ ให้น้ำแข็งน้อยด้วย



ยังคงตระเวนหาของกินเรื่อยๆ ค่ะ





เดินผ่านเห็นมีป้าย Okinawa cafe เลยเดินเข้าไปดู จะเป็นตึกๆ แล้วด้านในขายอาหารท้องถิ่นของโอกินาว่าด้วยค่ะ เน้นเป็นพวกโซบะ แต่ที่เราสนใจก็คือ ไอศกรีม Blue Seal  ไอศกรีมอันโด่งดังของโอกินาว่านั่นเอง

ไม่ได้ไปโอกินาว่าก็สามารถหากินได้ที่นี่ ก้อนละ 360 เยนค่ะ





รสที่ลองคือ Okinawa salt cookies กับ Mango Tango รสไอศกรีมอร่อยทั้ง 2 รส เนื้อไอศกรีมแน่น ละลายช้า เหนียวหนึบดี





ถ้าเราเดินมาเรื่อยๆ จนสุดถนนย่านนี้ เราสามารถเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานี Kamimaezu Station ก็ได้ค่ะ

ไม่ต้องเดินย้อนกลับไปที่ สถานี Osu Kannon

ก่อนขึ้นรถไฟฟ้า เราเห็นได้กลิ่นอบขนมปังหอมๆ ลองหันไปดู มีร้านขายเมลอนปังด้วย ชื่อร้าน Melon de melon 上前津店 ไหนๆก็จะกลับแล้ว ลองชิมซักชิ้นนึง

เดินกันจนพระอาทิตย์หายเลย



เมนูมีทั้งครัวซองต์ พาย แต่ที่คนนิยมสั่งคือ เมลอนปัง



อันนี้เลยค่ะ ที่คนสั่งกันเยอะ  Plain Melonpan 190 เยน



ร้อนๆ หอมๆ หน้ากรอบ เนื้อนุ่ม อร่อยจริงๆ เป็นอีกร้านนึงที่แนะนำค่ะ



วันนี้เราจบทริปกับย่าน OSU ใช้เวลา 1 วันเต็มๆ ตอนแรกไม่ได้คาดว่าจะมาทั้งวัน คิดว่าจะมาไหว้พระแล้วเดินเล่นนิดหน่อย ปรากฏว่าผิดคาดค่ะ มีอะไรให้ทำเยอะมากๆ ถ้ามานาโกย่า เราแนะนำให้มาเดินเล่นที่นี่เลย

มาช้อปปิ้งซื้อของฝาก หาของกินอร่อยๆ  ชมบรรยากาศเพลินๆ ถือเป็นอีก 1 วัน ที่คุ้มค่ามากๆ