พาเที่ยวมิยาซากิ เมืองแห่งเนื้อวัวและธรรมชาติอันสวยงาม

หากพูดถึงประเทศญี่ปุ่นแล้ว ทุกท่านคงจะนึกถึงความเป็นระเบียบ ธรรมชาติ ความสะอาด ผู้คนใจดี อาหารอร่อย และแผ่นดินไหว เอ้ย ไม่ใช่ครับ จากประสบการณ์การอยู่ญี่ปุ่นมาเกือบสองปีอยากบอกเลยว่าแผ่นดินไหวเกิดเพียงครั้งเดียวและไม่ได้อันตรายอย่างที่คิดเลยนะครับ เพราะฉะนั้นสบายใจได้เลย มาเที่ยวญี่ปุ่นกันได้ตามใจเรียกร้องเลยครับ 555


800px-map_of_japan_with_highlight_on_45_miyazaki_prefecture-svg


https://en.wikipedia.org/wiki/Miyazaki_Prefecture


มาเปลี่ยนเรื่องกันดีกว่าสำหรับท่านที่ชื่นชอบธรรมชาติ เช่ารถขับกับครอบครัวหรือจะมาฮันนีมูนกับคนที่คุณรัก วันนี้ผมขอแนะนำ จังหวัดมิยาซากิ จังหวัดที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคคิวชู ห่างจากจังหวัดฟุกุโอกะประมาณ 160 กิโลเมตร หรือประมาณ 3 ชั่วโมงถ้าเดินทางด้วยรถไฟครับ


beppu ekimae


beppu station


ในวันนี้ผมเริ่มออกเดินทางจากตัวเมืองเบบปุจังหวัดโออิตะ ที่สถานี Beppu Eki (別府駅) ด้วยรถไฟ นิชิริน (にちりん) เวลา 08:04 ครับ กำหนดถึงสถานี Miyazaki Eki (宮崎駅) เวลา 11:35 ครับ ซึ่งเมืองนี้อยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะคิวชู โดยเมืองเบบปุมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของบ่อออนเซน ซึ่งถือว่ามีมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในญี่ปุ่นและอันดับสองของโลกเลยทีเดียว


nishirin ticket


oita to miyazaki


nichirin car 2


เมื่อขึ้นมารอบนชานชาลาจะมีเลขตัวขบวนบอกไว้ให้ซึ่งจะง่ายต่อการขึ้นรถไฟของเราครับ โดยขบวนรถจะเขียนไว้บนตั๋วของเราครับโดยถ้าเป็นนิชิรินจะมีถึงขบวนที่ 8 ครับ วันนี้ผมขึ้นขบวนที่ 2 ครับ


nichirin train


และแล้วรถไฟก็มาเทียบชานชาลาแล้วละครับ รูปร่างโหดดุดันมาก ท่าทางจะทำความเร็วได้ดีครับ หลังจากรถไฟมาถึงเราจะมีเวลาประมาณ 1:30 นาทีในการขึ้นครับดังนั้นยืนให้ตรงกับเลขขบวนและอย่ามัวช้าเผลอไปเข้าห้องน้ำล่ะครับ


nichirin inside


เมื่อเข้ามาภายในตัวรถแล้วก็หาเลขที่นั่งเบาะเหมือนเวลาเราขึ้นเครื่องบินครับโดยท่านสามารเก็บสัมภาระได้ที่เก็บสัมภาระเหนือศีรษะหรือใต้ที่นั่งครับ


nichirin staff


พอรถไฟออกจากชานชาลาไปได้สักพักจะมีคุณลุงพนักงานประจำรถไฟใจดีมาตรวจตั๋วของเราครับโดยเราก็ยื่นตั๋วทั้งสองใบของเราให้คุณลุงเลยครับ


dsc04321


บรรยากาศตลอดทางถือว่าดีเลยทีเดียวครับ หากไม่ง่วงนอนก็นั่งดูวิวข้างทางเพลินๆ ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบครับ การเดินทางครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ โดยจะจอดเฉพาะสถานีใหญ่ๆ ครับ หากเหนื่อยก็นอนพักเก็บแรงไว้ได้ครับ


miyazaki eki 1


และในเวลา 11:35 น. เราก็ได้เดินทางมาถึงสถานี Miyazaki Eki (宮崎駅) กันเป็นที่เรียบร้อยแล้วละครับ


miyazaki eki 2


การเดินทางภายในมิยาซากิ วันนี้เราได้ทำการเช่ารถจากบริษัทโตโยต้าเรนทาร์คาร์ ซึ่งทางบริษัทมีบริการขับรถมารับถึงสถานีด้วยละครับ ประทับใจมากๆเลย ซึ่งหากท่านจะทำการเช่ารถนั้นสามารถโทรติดต่อทางบริษัทให้นำรถมารับที่สถานีได้เลยครับ ในกรณีที่บริษัทอยู่ไกลจากสถานีรถไฟ


toyota rental car


พอเดินทางมาถึงบริษัทและก็ทำการดำเนินเรื่อง ชำระเงินค่าเช่ารถต่างๆ ซึ่งท่านสามารถหาข้อมูลได้จาก ที่นี่ เลยครับ ขั้นตอนไม่ยากเพียงท่านมีใบขับขี่รถยนต์สากล และที่สำคัญ......เงินครับ 555


toyata rental car 2


แต่นแต๊น!!! และนี่คือโฉมหน้ารถที่เราจะใช้ในเดินทางสองวันนี้ครับ ยี่ห้อโตโยต้ารุ่น Vitz ครับเป็นรถขนาดเล็กหรือที่นี่เค้าจะเรียกว่าคอมแพคไซส์ซึ่งก็เหมือนอีโค่คาร์บ้านเรา ถือว่าประหยัดน้ำมันมากและขับขึ้นเขาได้ไม่มีปัญหาเลยละครับ


หนึ่งในบริการของทางโตโยต้าเรนทาร์คาร์คือการคืนรถครับ โดยในการเดินทางครั้งนี้เรายืมรถกันที่สาขามิยาซากิแต่เราจะไปจบทริปกันที่จังหวัดโออิตะ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราสามารถคืนรถได้ที่บริษัทโตโยต้าเรนทาร์คาร์ สาขาโออิตะครับโดยเราเพียงแค่เสียค่าปริการเพิ่มนิดหน่อยแลกกลับความสะดวกสบายและประหยัดเงินการเดินทางอื่นๆอีกด้วยละครับ ดีมากๆเลย


rental car gps


rental car gps 2


โดยสถานที่แรกที่เราจะไปกันคือ ร้านมิยะชิคุ (ミヤチク) ซึ่งเป็นร้านเนื้อมิยาซากินอันดับต้นๆของทางจังหวัดเลย ดังนั้นก่อนออกเดินทางมาเรามาตั้งค่าระบบนำทางจีพีเอสกันเถอะครับ โดยครั้งนี้ผมใช้วิธีการใส่เบอร์โทรศัพท์ของร้านเข้าไปก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ ง่ายมากๆ อีซี่สุดๆ


miyachiku miyazaki


และเราก็เดินทางมาถึงร้านแล้วละครับ ร้านมิยะชิคุ (ミヤチク) โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีจากตัวสถานีครับ


ทางร้านมีสาขาอื่นๆ ที่เมืองโอซาก้าและฟุกุโอกะเช่นเดียวครับแต่ราคาจาแพงกว่าที่นี่ถึงสองถึงสามเท่าเลยทีเดียว โดยเนื้อที่ทางร้านใช้เป็นเนื้อคุณภาพสูง โดยจะมีการกำหนดวันและควบคุมปัจจัยต่างๆในการเลี้ยงวัวเลยละครับ ซึ่งทำให้ได้เนื้อที่อร่อยและมีคุณภาพมากๆ เนื่องด้วยชื่อเสียงและคุณภาพของเนื้อทำให้การจะได้มาทานที่ร้านนี้ท่านจำเป็นจะต้องจองล่วงหน้าก่อนอย่างน้อยเป็นเดือนๆ เลยละครับ โดยเฉพาะหากตรงกับวันเสาร์อาทิตย์ จะยิ่งต้องจองเผื่อไปอีก


mix steak course


วันนี้ผมสั่งเป็นเมนู มิกซ์สเต็กคอร์ส (ミックスステーキコース) ราคาอยู่ที่ 4,800 เยนครับ ถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับปริมาณและคุณภาพที่ได้ครับ โดยที่นั่งของทางร้านจะมีสองแบบครับ คือแบบเคาน์เตอร์กับแบบโต๊ะธรรมดา แบบเคาน์เตอร์นั้นจะมีพนักงานยืนย่างเนื้อและทำอาหารให้เราต่อหน้าเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าต้องจองกันยาวเลยละครับ


dsc04358


หลังจากวางสัมภาระเรียบร้อยก็ไปตักสลัดบาร์ เครื่องดื่มและของทานเล่นกันได้เลยครับ แน่นอนว่าเป็นแบบบุฟเฟต์ท่านสามารถตักเพิ่มได้ไม่ต้องกลัวไม่อิ่มครับ แต่อย่าทานเหลือนะครับเพราะที่นี่เค้าถือว่าเสียมารยาทน่ะครับ


dsc04348


พอได้สลัดเครื่องดื่มของทานเล่นเรียบร้อยแล้ว พี่พนักงานจะเข้ามาถามเราว่าต้องการข้าวแบบไหน มีแบบข้าวสวยธรรมดาและข้าวผัดครับ หลังจากนั้นพี่เค้าจะเริ่มทำการย่างเนื้อและทำข้าวผัด ปิ้งขนมปังและทำหลายอย่างๆ โดยทำเสร็จแล้วก็เสริฟให้เราต่อหน้าเลยละครับ


img_2894


miyachiku miyazaki


ระหว่างการย่างเนื้อพี่พนักงานจะทำการจุดไฟโดยพี่เค้าจะบอกให้ระวังเราก็เตรียมสิครับ ไม่ได้เตรียมหลบหรอก เตรียมหยิบกล้องมาถ่ายรูปต่างหาก 5555 ได้เนื้อที่หอมเหมือนเนื้อรมควันเลยละครับ


dsc04366


เราจะได้เนื้อย่างมารูปร่างหน้าตาแบบนี้ครับ โดยเราก็หยิบเนื้อมาจิ้มน้ำจิ้มซึ่งมีให้เลือกหลายแบบเลยครับ อร่อยคนละแบบ ลองดูให้หมดเลยนะครับ ส่วนขนมปังนั้นอย่าพึ่งกินนะครับ ผมพลาดไปแล้ว 5555 พี่เค้าจะนำไปปิ้งและใส่นมเนย ให้ทีหลังครับ อร่อยมาก ผมเผลอกินไป อายนิดนึง


dsc04373


หลังจากทานเรียบร้อยแล้วพี่เค้าก็จะนำขนมปังไปปิ้งให้ครับ อร่อยมากๆ จริงๆ ไม่น่าเผลอกัดไปเลย (สังเกตดีๆ จะเห็นว่ามีรอยแหว่งที่ชิ้นล่างสุด อิอิ)


[sc name="doubleclick_ads" ]


sunmesse nichihan


พออิ่มท้องกันแล้วก็มุ่งหน้ากันต่อเลย โดยเราจะเดินทางไปกันที่ ซันเมซนิจินัน (サンメッセ日南) ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากร้านอาหารประมาณ 1 ชั่วโมงครับ


moai miyazaki


สถานที่แห่งนี้ถือเป็น Landmark สำคัญของจังหวัดมิยาซากิโดยสถานที่ได้รับการรับรองว่าเหมือนตัวอีสเตอร์ที่ประเทศชิลีมาก ซึ่งได้รับอนุญาตจากเกาะอีสเตอร์ ประเทศชิลี ว่าสามารถสร้างขึ้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้ ซึ่งตัวโมไอทั้ง 7 ตัวได้ถูกสร้างขึ้นจากความร่วมมือของทั้งผ่ายประเทศญี่ปุ่นและผู้เชี่ยวชาญจากประเทศชิลี โดยเหตุผลที่สร้างตัวโมไอไว้ที่แห่งนี้ ก็เพราะว่าตัวโมไอจะหันหน้าไปยังเกาะอีสเตอร์ที่ประเทศชิลีนั่นเอง สุดยอดไปเลยละครับ


dsc04391


โดยตัวโมไอทั้ง 7 ตัวก็มีความหมายนะครับ โดยอยากประสบความสำเร็จด้านไหนก็ไปลูบหรือถ่ายรูปคู่กับตัวนั้นกันเลย


ตัวที่ 1 ว่าด้วยเรื่องของหน้าที่การงาน


ตัวที่ 2 ว่าด้วยเรื่อง สุขภาพ


ตัวที่ 3 ว่าด้วยเรื่องความรัก


ตัวที่ 4 เหมารวมประสบความสำเร็จในทุกๆด้านครับ


ตัวที่ 5 ว่าด้วยเรื่อง การแต่งงาน


ตัวที่ 6 ว่าด้วยเรื่องของเงินทอง


และสุดท้ายตัวที่ 7 ว่าด้วยเรื่อง การเรียนครับ


หลังจากไปลูบ ไปสัมผัสตัวโมโอกันแบบจุใจแล้วก็ไปเดินเล่นรอบกันเลยครับ แต่อาจจะเหนื่อยนิดหน่อยนะครับเพราะต้องเดินขึ้นเนินหน่อยครับ


dsc04394


dsc04411


พอเดินขึ้นมาด้านบนแล้วสวยมากๆเลยละครับ ความจริงแล้วถ้าหากเป็นคนญี่ปุ่นสามารถเช่ารถกอล์ฟขับขึ้นมาได้ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่สามารถเช่าได้ครับ ดังนั้นก็ก้มหน้าก้มตาเดินกันไป ชมวิวไปพลางๆครับ


dsc04418


เดินมาด้านบนก็จะพบประติมากรรมรูปร่างไม่คุ้นตาซึ่งเป็นประติมากรรมเกี่ยวกับศาสนาของชาวญี่ปุ่นครับ หลังจากนั้นถัดไปอีกหน่อยจะมีร้านอาหารและส่วนพิพิธภัณฑ์ครับ ซึ่งด้านในก็จะมีประวัติและสาระน่ารู้เกี่ยวกับโมโอเพียบเลย


dsc04425


dsc04427


พอเดินออกมาด้านนอกจะพบกับจุดชมวิวหลักที่เหมาะกับการถ่ายรูปมากเลยละครับ


dsc04436


พอได้รูปสวยๆ กันจนอิ่มหนำสำราญแล้วก็เดินกลับไปด้านล่างกันเลยครับ โดยด้านล่างจะมีร้านขายของฝากให้ซื้อของกลับไปฝากคนทางบ้านกันครับ โดยจังหวัดมิยาซากิมีชื่อเสียงในเรื่องของมะม่วงสุก และจะทำการแปรรูปเป็นมะม่วงกวน ขนมหวาน คุ๊กกี้ต่างๆ อร่อยมากเลยครับ


dsc04447


mango sweet cookie


พอซื้อของฝากต่างๆ ติดไม้ติดมือเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลายท่านๆ คงเริ่มท้องร้องกันแล้วเพราะออกแรงเดินซะเยอะ ดังนั้นที่ต่อไปที่เราจะเดินทางไปคือ ร้านไก่ชิคเกนนัมบัง ซึ่งต้องย้อนไปในเมืองมิยาซากิอีกรอบครับ แต่รับรองไม่เสียเที่ยวแน่นอนครับ หากได้ลิ้มลองแล้ว จะติดใจครับ โดยร้านนี้เป็นร้านเดียวที่เป็นต้นตำรับในจังหวัดมิยาซากิ หากมาเยือนแล้วไม่ควรพลาดครับ


ogura chiken nanban


ร้านนี้มีชื่อว่า Ogura (おぐら) เนื่องจากวันนี้เป็นวันเสาร์ คนก็เลยจะเยอะเป็นพิเศษ แต่เพราะมีสองชั้นจึงไม่ต้องกลัวจะรอคิวนาน มีที่นั่งแน่นอนครับ โดยเมนูที่ยอดฮิตของทางร้านคือ ชิคเก้นนัมบังพร้อมซอสทาร์ทาร์ หรือซอสมายองเนสรสชาติอมเปรี้ยมหวานจิ้มกับไก่ทอดกรอบกร๊วมแสนชุ่มฉ่ำ เข้ากันสุดๆเลยละครับ ทานพร้อมกับข้าวญี่ปุ่นเม็ดอ้วนๆ เหนียวๆ ไม่ต้องพูดมาก ฟินครับ


dsc04456


chicken nanban ogura


หลังจากอิ่มท้องกันเรียบร้อยแล้วก็เดินทางต่อไปสถานที่สุดท้ายก่อนจะราตรีสวัสดิ์กันวันนี้ โดยต้องใช้เวลาเดินทางอีกประมาณ 1 ชั่วโมงมุ่งหน้าไปยังเมือง ทาคาชิโฮะ (高千穂) โดยเราจะไปดูการแสดงตำนานดั้งเดิมเกี่ยวกับเทพเจ้าของญี่ปุ่นกันครับ


dsc04465


dsc04469


dsc04473


โดยเรื่องราวตำนานเทพเจ้าของญี่ปุ่นของศาสนาชินโตนี้ใช้เวลาประมาณ 45 นาที มีการเปิดแสดงทุกวันเวลา 20:00 เป็นต้นไป โดยนักแสดงจะสวมหน้ากากจำลองเป็นเทพเจ้าแต่ละองค์โดยเรียกเวลาโยคาคุระ เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อยุคสมัยเอโดะของญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าเทพสูงสุดคือเทพพระอาทิตย์ครับ และยังมีเทพเจ้าอื่นๆ มาเกี่ยวข้องคือ เทพแห่งลม ท้องทะเล น้ำ และอื่นๆ ครับ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าเทพทะเลาะกันจนเทพแห่งดวงอาทิตย์หลบหนีเข้าไปในถ้ำ ทำให้โลกมืดมิดไม่มีแสงอาทิตย์ ซึ่งเทพทั้งหลายจึงมีการประชุมกันในบริเวณศาลเจ้าซึ่งเป็นสถานที่ๆ เราจะไปกันพรุ่งนี้ครับ หลังจากประชุมกันแล้วเทพต่างๆ ก็ตัดสินใจทำการแสดงให้ครึกครื้นหวังให้เทพแห่งดวงอาทิตย์ออกมาดู และก็เป็นผลครับ เทพดวงอาทิตย์อยากออกมาดูและทำให้โลกกลับมาสดใสอีกครั้งครับ โดยที่แห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประเทศญี่ปุ่นเลยละครับ


img_2926


dsc04501


โดยหากจะมาที่นี่ควรมาตั้งแต่เวลาประมาณ 19:00 เพราะคนจะแน่นทุกๆ วันเลย ดังนั้นมานั่งจองที่ด้านหน้าๆ ไว้ก่อนครับ จะได้รูปที่สวยงามครับ


dsc04538


dsc04539


ดูการแสดงจบเรียบร้อยแล้ว คงเริ่มเหนื่อยและอยากพักผ่อนกันเต็มที่แล้วใช่ไหมครับ เรามาเดินทางเข้าที่พักของเรากันดีกว่าโดยที่พักวันนี่ที่เราจะเข้าพักกันอยู่ห่างจากที่ทำการแสดงเพียงไม่กี่กิโลเมตรครับ โดยโรงแรมมีชื่อว่า เกรทฟูล ทาคาชิโฮะ ครับ (ホテルグレトフル 高千穂)ห้องค่อนข้างกว้าง สะอาดมาก พร้อมสำหรับการพักผ่อนครับ แต่เดี๋ยว คนไทยอย่างเราพอเริ่มดึก มือก็คงจะเริ่มควานหาของทานกันแล้วใช่ไหมครับ ไม่ต้องห่วง ที่ชั้นหนึ่งของโรงแรมมีแฟมมิลี่มาร์ทเปิดตลอด 24 ชั่วโมงครับ ไปหาของกินกันได้เลย


เป็นอันจบทริปวันที่ 1 เรียบร้อยแล้ว แต่การเดินทางในมิยาซากิยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะวันพรุ่งนี้เราจะไปลุยกันต่อ ชมกันได้ที่ http://www.jgbthai.com/miyazaki-trip2