“เดี๋ยวเดือนนี้ต้องไปมิยาซากินะ”
คำสั่งที่เหมือนดั่งคำประกาศิตจากนายหนนี้ ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง หรือสอบถามสรรพคุณใดๆ ให้มากความ เลิกงานกลับบ้านไปเตรียมตัวเก็บกระเป๋า แล้วก็ Let's go to มิยาซากิ สวรรค์น้อยๆ แห่งเกาะคิวชูกันเลยยย!!
ตอนที่ 1 : DAY 1 & 2 จาก Takachiho สู่ Nobeoka
ตอนที่ 2 : DAY 3 ชวนนั่งสมาธิ ล่องเรือ แล้วลุยต่อที่ Hyuga
ตอนที่ 3 : DAY 4 บ๊ายบาย...มิยาซากิ
---------------------------------
DAY 3 ชวนนั่งสมาธิ ล่องเรือ แล้วลุยต่อที่เมือง Hyuga
Fumonji Temple
วันนี้มาฝึกสมาธิกันแต่เช้าเลยค่ะที่ Fumonji Temple เป็นวัดที่เน้นเรื่องการฝึกสมาธิแบบเซน เรียกว่า ‘Zazen’ เป็นการฝึกสมาธิที่ทำเพื่อผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ รู้สึกสงบ และไม่หงุดหงิดง่าย
วิธีการก็คือเขาจะให้เรานั่งขัดสมาธิบนเบาะกลมเล็กๆ มือซ้ายทับมือขวา นิ้วโป้งทั้งสองข้างแตะกัน ผ่อนคลาย ไม่หลับตา แต่ก็ไม่ใช้สายตาเพ่งไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง ปล่อยวางความคิด ทำจิตใจให้ว่าง แล้วก็นั่งนิ่งๆ ประมาณ 20 นาที
เรียบร้อยแล้วก็ปิดท้ายด้วยวากาชิกับชาเขียวร้อนๆ ค่ะ หน้าตาสวยงามและอร่อยมาก
Kitaura Rinkai Park Cruising
สงบจิตสงบใจแล้วก็มาล่องเรือชื่นชมธรรมชาติกันต่อที่ Kitaura Rinkai Park Cruising มีหลายโปรแกรมให้เลือกตามอัธยาศัย ตั้งแต่ 30 นาที ไปจนถึง 1 ชั่วโมงเลย
เรือจะล่องไปรอบๆ ผ่านกระชังเลี้ยงปลากลางทะเล เกาะเล็กเกาะน้อย รวมถึงชิมะโนะอุระ เกาะเล็กๆ ที่มีชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่ประมาณ 900 คน โปรแกรมปกติจะไม่จอดที่เกาะนี้ค่ะ ถ้าอยากแวะขึ้นไปเที่ยวชมต้องจองล่วงหน้า
เราสามารถขอคนขับลองขับเรือได้ด้วยนะ แล้วก็ในโปรแกรมจะมีจอดให้อาหารปลาซาบะเลี้ยงในกระชังกลางทะเลด้วย
ระหว่างทางก็จะเห็นชาวญี่ปุ่นนั่งตกปลากันตามโขดหินกลางทะเลแบบนี้
เจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นกิจกรรมยอดนิยมอย่างหนึ่งของคนที่นี่ค่ะ ตอนเช้าๆ ก็จะมีเรื่องขับมาส่ง แล้วก็จะมารับกลับอีกทีตอนเย็น ส่วนเรื่องอาหารการกินเขาก็จะพกเบนโตะมากัน
ถึงเวลาขึ้นฝั่งท้องก็ร้องพอดี เที่ยงนี้เราทานข้าวกันที่ร้าน Takahiraya ค่ะ ไม่ไกลจากท่าเรือมาก ตัวร้านอยู่บนเขา บรรยากาศดีมากสามารถมองเห็นวิวได้รอบ
เมนูแนะนำคือ Tendon หรือ ข้าวหน้าเทมปุระ รวมมิตรของทอด ได้แก่ ปลาเส้น ปลาตัวเล็กๆ กุ้ง ไข่ออนเซ็น แล้วก็ผักต่างๆ
Cruz of the sea
หลังจากนั้นก็ถึงเวลาเข้าสู่เมือง Hyuga
ที่แรกที่เราจะไปเป็นจุดชมวิวบนเกาะโฮโซชิมะ เรียกว่า Cruz of the sea
ที่นี่ถ้ามองจากด้านบนลงมาจะเห็นวิวชายฝั่งมีลักษณะเว้าแหว่งเป็นรูปตัวอักษร 叶 (คานาอุ) ซึ่งมีความหมายว่า สมหวัง คนญี่ปุ่นก็เลยมีความเชื่อว่าถ้าได้มาขอพรที่นี่ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามก็จะสมหวัง
Omi Shrine
ศาลเจ้า Omi เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์
ภายในรายล้อมด้วยบรรยากาศเงียบสงบ มีลานกว้างๆ และที่นั่งไว้ให้ผู้ที่มาเยี่ยมเยือนได้ผ่อนคลายไปพร้อมกับชมวิวทะเลสวยๆ
ที่นี่มีหินศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อกันว่าเป็นร่องรอยของมังกรที่มาฟักไข่เมื่อประมาณ 5,000 ปีก่อน ถ้าได้จับหินบริเวณนี้พร้อมกับอธิษฐานขอพรไปด้วย คำขอก็จะเป็นจริง
ใกล้ๆ กันมีทางเดินไปยังถ้ำเล็กๆ ซึ่งเป็นจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากของเมืองฮิวกะ
ปากถ้ำเป็นช่องแคบๆ ถ้ามองจากด้านในออกมาจะเห็นไรแสงอาทิตย์สะท้อนกับทะเลสีครามพอดี
Hamaguri Goishi no Sato
สถานที่ถัดมามีกิจกรรมที่ทำให้เราได้โยกย้ายส่ายสะโพกกัน 5555
ที่นี่มีให้ทดลองเรียนการแสดงที่เรียกว่า Hyottoko หรือ ระบำฮิยตโตโกะ เป็นศิลปะการแสดงพื้นเมืองที่มักจะปรากฏให้เห็นตามงานเทศกาลต่างๆ ของญี่ปุ่นค่ะ เชื่อกันว่าเป็นการร่ายรำเพื่อขอพรให้ผลผลิตอุดมสมบูรณ์ การค้ารุ่งเรือง และมีทายาทสืบสกุล
ไม่ใช่แค่ระบำได้อย่างเดียวเท่านั้นนะคะ ยังได้ลองใส่ชุดและสวมหน้ากากตัวตลกแบบเต็มรูปแบบด้วย เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สนุกมากๆ เลยล่ะค่ะ
Mimitsu Area
ก่อนอำลาแสงอาทิตย์ของวันนี้ เรามาเดินเล่นกันที่ย่าน Mimitsu เมืองเก่าแก่สมัยเอโดะ เสน่ห์ของที่นี่ก็คือบ้านเรือนสมัยเก่าค่ะ
มีเรื่องเล่าว่า เมื่อประมาณ 200 ปีก่อน จักรพรรดิองค์แรกของญี่ปุ่นใช้ที่นี่เป็นเมืองท่าในการเดินทางเข้าสู่โตเกียว ก็เลยเป็นเหตุให้บ้านทุกหลังใช้ตู้ไปรษณีย์เป็นรูปเรือเหมือนๆ กันเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์นั้น
---------------------------------
คืนนี้เราพักในตัวเมืองมิยาซากิค่ะ เป็นคืนสุดท้ายแล้ว ยังรู้สึกไม่อยากกลับเลย T_T
แต่ The show must go on ค่ะ! มาสนุกให้เต็มที่กับทริปตะลุยมิยาซากิตอนสุดท้ายของเรากันที่ >> http://www.jgbthai.com/miyazaki-fam-trip-3/
คำสั่งที่เหมือนดั่งคำประกาศิตจากนายหนนี้ ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง หรือสอบถามสรรพคุณใดๆ ให้มากความ เลิกงานกลับบ้านไปเตรียมตัวเก็บกระเป๋า แล้วก็ Let's go to มิยาซากิ สวรรค์น้อยๆ แห่งเกาะคิวชูกันเลยยย!!
ตอนที่ 1 : DAY 1 & 2 จาก Takachiho สู่ Nobeoka
ตอนที่ 2 : DAY 3 ชวนนั่งสมาธิ ล่องเรือ แล้วลุยต่อที่ Hyuga
ตอนที่ 3 : DAY 4 บ๊ายบาย...มิยาซากิ
---------------------------------
DAY 3 ชวนนั่งสมาธิ ล่องเรือ แล้วลุยต่อที่เมือง Hyuga
Fumonji Temple
วันนี้มาฝึกสมาธิกันแต่เช้าเลยค่ะที่ Fumonji Temple เป็นวัดที่เน้นเรื่องการฝึกสมาธิแบบเซน เรียกว่า ‘Zazen’ เป็นการฝึกสมาธิที่ทำเพื่อผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ รู้สึกสงบ และไม่หงุดหงิดง่าย
วิธีการก็คือเขาจะให้เรานั่งขัดสมาธิบนเบาะกลมเล็กๆ มือซ้ายทับมือขวา นิ้วโป้งทั้งสองข้างแตะกัน ผ่อนคลาย ไม่หลับตา แต่ก็ไม่ใช้สายตาเพ่งไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง ปล่อยวางความคิด ทำจิตใจให้ว่าง แล้วก็นั่งนิ่งๆ ประมาณ 20 นาที
เรียบร้อยแล้วก็ปิดท้ายด้วยวากาชิกับชาเขียวร้อนๆ ค่ะ หน้าตาสวยงามและอร่อยมาก
Kitaura Rinkai Park Cruising
สงบจิตสงบใจแล้วก็มาล่องเรือชื่นชมธรรมชาติกันต่อที่ Kitaura Rinkai Park Cruising มีหลายโปรแกรมให้เลือกตามอัธยาศัย ตั้งแต่ 30 นาที ไปจนถึง 1 ชั่วโมงเลย
เรือจะล่องไปรอบๆ ผ่านกระชังเลี้ยงปลากลางทะเล เกาะเล็กเกาะน้อย รวมถึงชิมะโนะอุระ เกาะเล็กๆ ที่มีชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่ประมาณ 900 คน โปรแกรมปกติจะไม่จอดที่เกาะนี้ค่ะ ถ้าอยากแวะขึ้นไปเที่ยวชมต้องจองล่วงหน้า
เราสามารถขอคนขับลองขับเรือได้ด้วยนะ แล้วก็ในโปรแกรมจะมีจอดให้อาหารปลาซาบะเลี้ยงในกระชังกลางทะเลด้วย
ระหว่างทางก็จะเห็นชาวญี่ปุ่นนั่งตกปลากันตามโขดหินกลางทะเลแบบนี้
เจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นกิจกรรมยอดนิยมอย่างหนึ่งของคนที่นี่ค่ะ ตอนเช้าๆ ก็จะมีเรื่องขับมาส่ง แล้วก็จะมารับกลับอีกทีตอนเย็น ส่วนเรื่องอาหารการกินเขาก็จะพกเบนโตะมากัน
ถึงเวลาขึ้นฝั่งท้องก็ร้องพอดี เที่ยงนี้เราทานข้าวกันที่ร้าน Takahiraya ค่ะ ไม่ไกลจากท่าเรือมาก ตัวร้านอยู่บนเขา บรรยากาศดีมากสามารถมองเห็นวิวได้รอบ
เมนูแนะนำคือ Tendon หรือ ข้าวหน้าเทมปุระ รวมมิตรของทอด ได้แก่ ปลาเส้น ปลาตัวเล็กๆ กุ้ง ไข่ออนเซ็น แล้วก็ผักต่างๆ
Cruz of the sea
หลังจากนั้นก็ถึงเวลาเข้าสู่เมือง Hyuga
ที่แรกที่เราจะไปเป็นจุดชมวิวบนเกาะโฮโซชิมะ เรียกว่า Cruz of the sea
ที่นี่ถ้ามองจากด้านบนลงมาจะเห็นวิวชายฝั่งมีลักษณะเว้าแหว่งเป็นรูปตัวอักษร 叶 (คานาอุ) ซึ่งมีความหมายว่า สมหวัง คนญี่ปุ่นก็เลยมีความเชื่อว่าถ้าได้มาขอพรที่นี่ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามก็จะสมหวัง
Omi Shrine
ศาลเจ้า Omi เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์
ภายในรายล้อมด้วยบรรยากาศเงียบสงบ มีลานกว้างๆ และที่นั่งไว้ให้ผู้ที่มาเยี่ยมเยือนได้ผ่อนคลายไปพร้อมกับชมวิวทะเลสวยๆ
ที่นี่มีหินศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อกันว่าเป็นร่องรอยของมังกรที่มาฟักไข่เมื่อประมาณ 5,000 ปีก่อน ถ้าได้จับหินบริเวณนี้พร้อมกับอธิษฐานขอพรไปด้วย คำขอก็จะเป็นจริง
ใกล้ๆ กันมีทางเดินไปยังถ้ำเล็กๆ ซึ่งเป็นจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากของเมืองฮิวกะ
ปากถ้ำเป็นช่องแคบๆ ถ้ามองจากด้านในออกมาจะเห็นไรแสงอาทิตย์สะท้อนกับทะเลสีครามพอดี
Hamaguri Goishi no Sato
สถานที่ถัดมามีกิจกรรมที่ทำให้เราได้โยกย้ายส่ายสะโพกกัน 5555
ที่นี่มีให้ทดลองเรียนการแสดงที่เรียกว่า Hyottoko หรือ ระบำฮิยตโตโกะ เป็นศิลปะการแสดงพื้นเมืองที่มักจะปรากฏให้เห็นตามงานเทศกาลต่างๆ ของญี่ปุ่นค่ะ เชื่อกันว่าเป็นการร่ายรำเพื่อขอพรให้ผลผลิตอุดมสมบูรณ์ การค้ารุ่งเรือง และมีทายาทสืบสกุล
ไม่ใช่แค่ระบำได้อย่างเดียวเท่านั้นนะคะ ยังได้ลองใส่ชุดและสวมหน้ากากตัวตลกแบบเต็มรูปแบบด้วย เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สนุกมากๆ เลยล่ะค่ะ
Mimitsu Area
ก่อนอำลาแสงอาทิตย์ของวันนี้ เรามาเดินเล่นกันที่ย่าน Mimitsu เมืองเก่าแก่สมัยเอโดะ เสน่ห์ของที่นี่ก็คือบ้านเรือนสมัยเก่าค่ะ
มีเรื่องเล่าว่า เมื่อประมาณ 200 ปีก่อน จักรพรรดิองค์แรกของญี่ปุ่นใช้ที่นี่เป็นเมืองท่าในการเดินทางเข้าสู่โตเกียว ก็เลยเป็นเหตุให้บ้านทุกหลังใช้ตู้ไปรษณีย์เป็นรูปเรือเหมือนๆ กันเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์นั้น
---------------------------------
คืนนี้เราพักในตัวเมืองมิยาซากิค่ะ เป็นคืนสุดท้ายแล้ว ยังรู้สึกไม่อยากกลับเลย T_T
แต่ The show must go on ค่ะ! มาสนุกให้เต็มที่กับทริปตะลุยมิยาซากิตอนสุดท้ายของเรากันที่ >> http://www.jgbthai.com/miyazaki-fam-trip-3/