แบคแพคเกอร์หลายๆ คนที่ไปญี่ปุ่นยุคแรกคงคุ้นเคยกับ “ข้าวสาร โตเกียว ออริจินัล” โฮสเทลในตำนาน (ว่าแต่ทำไมชื่อ “ข้าวสาร” ถึงไปเป็นชื่อโรงแรมที่ญี่ปุ่น เดี๋ยวจะเล่าในตอนท้ายนะคะ) สาขานี้เป็นสาขาแรกในเครือข้าวสารที่ดำเนินกิจการมายาวนานถึง 14 ปี และได้ปิดบริการไปเมื่อ 1 ตุลาคม 2017
แต่ถึงข้าวสารจะปิดตัวไป ก็มี “โฮสเทล แชปเตอร์ ทู” (Hostel Chapter Two) เข้ามารับช่วงต่อโดยคู่สามีภรรยา (ฮิโรอากิและเอริกะ) ที่ฝันอยากจะเป็นเจ้าของโฮสเทล เอริกะเคยทำงานเป็นผู้จัดการที่ข้าวสารเวิลด์ (เกสต์เฮาส์ในเครือข้าวสารอีกหนึ่งสาขาในย่านอาซากุสะ) ทราบข่าวว่าผู้บริหารจะปิดกิจการสาขานี้เพราะที่นี่คับแคบมากและทรุดโทรมมาก แต่ทั้งคู่ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือไป เอริกะเล่าให้ฟังถึงที่มาของชื่อโฮสเทลโดยเปรียบข้าวสารออริจินัลเป็นบทนำบทแรกในหนังสือน่าอ่านหนึ่งเล่มแล้วพวกเขาก็เข้ามาสานฝันต่อใน “บทที่สอง” (Chapter Two) ของตัวเอง
จากนักเดินทางตัวยงที่กลายเป็นเจ้าของโรงแรม พวกเขาตกลงว่าจะสลับกันไปเที่ยวเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อนำทั้งข้อดีและข้อเสียของที่พักในประเทศต่างๆ กลับมาปรับปรุงโฮสเทลของตัวเอง ไม่แปลกใจเลยว่าฉันประทับใจกับการพักที่นี่มากๆ ทั้งการออกแบบด้วยแนวคิดว่าทำยังไงให้คนที่มาพักได้รับความสะดวกสบายในพื้นที่จำกัดมากที่สุด อาคารหนึ่งคูหาที่สูงแค่ 3 ชั้นเลยถูกออกแบบให้มีการใช้สอยได้อย่างมีฟังก์ชั่นสูงสุด
การได้พูดคุยกับเอริกะทำให้ฉันประทับใจที่พวกเขาลงมือทำตามความฝันของตัวเอง เมื่อโอกาสมาถึงก็ไม่ลังเลที่จะคว้าไว้ และเมื่อได้มาแล้วก็ไม่หยุดพัฒนาต่อ
ห้องนอนรวมที่แม้ต้องใช้พื้นที่ร่วมกับคนแปลกหน้าอีก 14 คน แต่ยังมีความเป็นส่วนตัวคือสิ่งที่รู้สึกประทับใจในการดีไซน์มากๆ ห้องมีลักษณะเหมือนแคปซูลขนาดกะทัดรัด (หรือที่พวกเขาเรียกว่า smart pod) อาจจะเล็กแต่ไม่รู้สึกอึดอัดเลยเพราะกระจกที่มีแสงแดดส่องถึงและเห็นวิวแม่น้ำสุมิดะ
ขณะแปรงฟันก็ได้เห็นชีวิตอันเร่งรีบยามเช้าของคนญี่ปุ่น พนักงานหญิงเดินฉับๆ คุณตาร้านฝั่งตรงข้ามเปิดประตูร้านเพื่อเริ่มกิจการ คุณแม่บ้านขี่จักรยานที่ในตะกร้าเต็มไปด้วยผักผลไม้
ข้อดี : ห้องพักราคาไม่กี่ร้อย แต่ได้วิวหลักล้าน แถมเดินทางสะดวกสุดๆ เพราะใกล้สถานีรถไฟ 2 สาย ใกล้แหล่งท่องเที่ยว(แต่ไม่ได้ยินเสียงดังรบกวนเลย)
ข้อห้าม: เฉพาะห้องพักรวม ไม่รับแขกอายุต่ำกว่า 6 ขวบ
*** ถ้ามีโอกาสจะกลับไปพักอีกแน่นอน ราคาดี วิวดี เดินทางสะดวกมากๆ
การเดินทาง: สถานีอาซากุสะ
เว็บไซต์ : http://hostel-chaptertwo.com/en/hostel/
Facebook : chaptertwotokyo >> https://www.facebook.com/chaptertwotokyo/
***เกร็ดที่อยากเล่าสู่กันฟัง***
ทำไมชื่อ “ข้าวสาร” ถึงไปเป็นชื่อโฮสเทลในญี่ปุ่น
เคยอ่านบทสัมภาษณ์ผู้บริหารเครือข้าวสารเกสต์เฮ้าส์จากนิตยสารญี่ปุ่นเมื่อนานมาแล้ว สมัยวัยรุ่นเขาเดินทางท่องเที่ยวมายังแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แล้วก็ตกหลุมรักประเทศไทยโดยเฉพาะถนนข้าวสาร พอกลับไปประเทศญี่ปุ่นเลยเกิดไอเดีย ซึ่งในตอนนั้นโตเกียวยังไม่ค่อยมีเกสต์เฮ้าส์ราคาประหยัดแบบถนนข้าวสาร ทำให้เกิดเป็น “ข้าวสาร โตเกียว ออริจินัล” ขึ้นในปี 2003 โฮสเทลแห่งแรกในเครือข้าวสาร ที่มาจากการตั้งชื่อตามถนนข้าวสาร เพราะเป็นชื่อที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จักดีและยังสื่อถึงความเป็นเกสต์เฮ้าส์โดยที่ไม่ต้องอธิบายหรือทำการตลาดอีกด้วย
ปัจจุบันโฮสเทลแบรนด์ “ข้าวสาร” สามารถขยายสาขาไปทั่วประเทศ กลายเป็นโฮสเทลที่มีสาขามากที่สุดในญี่ปุ่น
แต่ถึงข้าวสารจะปิดตัวไป ก็มี “โฮสเทล แชปเตอร์ ทู” (Hostel Chapter Two) เข้ามารับช่วงต่อโดยคู่สามีภรรยา (ฮิโรอากิและเอริกะ) ที่ฝันอยากจะเป็นเจ้าของโฮสเทล เอริกะเคยทำงานเป็นผู้จัดการที่ข้าวสารเวิลด์ (เกสต์เฮาส์ในเครือข้าวสารอีกหนึ่งสาขาในย่านอาซากุสะ) ทราบข่าวว่าผู้บริหารจะปิดกิจการสาขานี้เพราะที่นี่คับแคบมากและทรุดโทรมมาก แต่ทั้งคู่ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือไป เอริกะเล่าให้ฟังถึงที่มาของชื่อโฮสเทลโดยเปรียบข้าวสารออริจินัลเป็นบทนำบทแรกในหนังสือน่าอ่านหนึ่งเล่มแล้วพวกเขาก็เข้ามาสานฝันต่อใน “บทที่สอง” (Chapter Two) ของตัวเอง
จากนักเดินทางตัวยงที่กลายเป็นเจ้าของโรงแรม พวกเขาตกลงว่าจะสลับกันไปเที่ยวเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อนำทั้งข้อดีและข้อเสียของที่พักในประเทศต่างๆ กลับมาปรับปรุงโฮสเทลของตัวเอง ไม่แปลกใจเลยว่าฉันประทับใจกับการพักที่นี่มากๆ ทั้งการออกแบบด้วยแนวคิดว่าทำยังไงให้คนที่มาพักได้รับความสะดวกสบายในพื้นที่จำกัดมากที่สุด อาคารหนึ่งคูหาที่สูงแค่ 3 ชั้นเลยถูกออกแบบให้มีการใช้สอยได้อย่างมีฟังก์ชั่นสูงสุด
การได้พูดคุยกับเอริกะทำให้ฉันประทับใจที่พวกเขาลงมือทำตามความฝันของตัวเอง เมื่อโอกาสมาถึงก็ไม่ลังเลที่จะคว้าไว้ และเมื่อได้มาแล้วก็ไม่หยุดพัฒนาต่อ
ห้องนอนรวมที่แม้ต้องใช้พื้นที่ร่วมกับคนแปลกหน้าอีก 14 คน แต่ยังมีความเป็นส่วนตัวคือสิ่งที่รู้สึกประทับใจในการดีไซน์มากๆ ห้องมีลักษณะเหมือนแคปซูลขนาดกะทัดรัด (หรือที่พวกเขาเรียกว่า smart pod) อาจจะเล็กแต่ไม่รู้สึกอึดอัดเลยเพราะกระจกที่มีแสงแดดส่องถึงและเห็นวิวแม่น้ำสุมิดะ
ขณะแปรงฟันก็ได้เห็นชีวิตอันเร่งรีบยามเช้าของคนญี่ปุ่น พนักงานหญิงเดินฉับๆ คุณตาร้านฝั่งตรงข้ามเปิดประตูร้านเพื่อเริ่มกิจการ คุณแม่บ้านขี่จักรยานที่ในตะกร้าเต็มไปด้วยผักผลไม้
ข้อดี : ห้องพักราคาไม่กี่ร้อย แต่ได้วิวหลักล้าน แถมเดินทางสะดวกสุดๆ เพราะใกล้สถานีรถไฟ 2 สาย ใกล้แหล่งท่องเที่ยว(แต่ไม่ได้ยินเสียงดังรบกวนเลย)
ข้อห้าม: เฉพาะห้องพักรวม ไม่รับแขกอายุต่ำกว่า 6 ขวบ
*** ถ้ามีโอกาสจะกลับไปพักอีกแน่นอน ราคาดี วิวดี เดินทางสะดวกมากๆ
การเดินทาง: สถานีอาซากุสะ
- รถไฟ Toei สายอาซากุสะ [A20] ทางออก A3 กับ A2b (A3 ใกล้กว่า แต่ A2b จะมีลิฟต์ สะดวกสำหรับวันที่ต้องขนกระเป๋าเดินทาง)
- รถไฟ Tokyo Metro สายกินซ่า [G19] ทางออก Exit 4 เดินต่อแค่ 3 นาที
เว็บไซต์ : http://hostel-chaptertwo.com/en/hostel/
Facebook : chaptertwotokyo >> https://www.facebook.com/chaptertwotokyo/
+++++++++++++++++++
***เกร็ดที่อยากเล่าสู่กันฟัง***
ทำไมชื่อ “ข้าวสาร” ถึงไปเป็นชื่อโฮสเทลในญี่ปุ่น
เคยอ่านบทสัมภาษณ์ผู้บริหารเครือข้าวสารเกสต์เฮ้าส์จากนิตยสารญี่ปุ่นเมื่อนานมาแล้ว สมัยวัยรุ่นเขาเดินทางท่องเที่ยวมายังแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แล้วก็ตกหลุมรักประเทศไทยโดยเฉพาะถนนข้าวสาร พอกลับไปประเทศญี่ปุ่นเลยเกิดไอเดีย ซึ่งในตอนนั้นโตเกียวยังไม่ค่อยมีเกสต์เฮ้าส์ราคาประหยัดแบบถนนข้าวสาร ทำให้เกิดเป็น “ข้าวสาร โตเกียว ออริจินัล” ขึ้นในปี 2003 โฮสเทลแห่งแรกในเครือข้าวสาร ที่มาจากการตั้งชื่อตามถนนข้าวสาร เพราะเป็นชื่อที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จักดีและยังสื่อถึงความเป็นเกสต์เฮ้าส์โดยที่ไม่ต้องอธิบายหรือทำการตลาดอีกด้วย
ปัจจุบันโฮสเทลแบรนด์ “ข้าวสาร” สามารถขยายสาขาไปทั่วประเทศ กลายเป็นโฮสเทลที่มีสาขามากที่สุดในญี่ปุ่น