การเดินทางในครั้งนี้ เราจะมุ่งหน้าขึ้นไปยังภูมิภาคทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่นอย่างเกาะฮอกไกโด ซึ่งถือเป็นภูมิภาคและเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่หนึ่งของประเทศและเต็มไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้เกาะฮอกไกโดยังเป็นจุดมุ่งหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบหิมะ เพราะที่นี่มีเทศกาลแกะสลักหิมะที่โด่งดังระดับโลกเลยทีเดียว
จุดหมายของเราในทริปนี้คือการนั่งรถไฟชินคันเซ็นไปยังเมืองฮาโกดาเตะ ปราการด่านสำคัญของเกาะฮอกไกโดและยังเป็นสถานีสุดท้ายของรถไฟชินคันเซ็นที่เดินทางไปยังสายเหนืออีกด้วย
การเดินทางจากโตเกียวเมืองหลวงไปยังฮาโกดาเตะนั่น เราจะต้องไปขึ้นรถไฟที่สถานีโตเกียวซึ่งถือเป็นสถานีต้นสายของรถไฟชินคันเซ็นขบวน Hayabusa โดยรถไฟขบวนนี้นี่เองที่จะพาเราไปเที่ยว
สุดสายปลายทางของของขบวน Hayabusa จะพาเรามาส่งที่สถานีชินฮาโกดาเตะโฮกุโตะบนเกาะฮอกไกโดโดยใช้เวลาประมาณ 4.30 ชม. ด้วยระยะทางเกือบ 900 กิโลเมตรเลยทีเดียว
หลังจากนั้นเราจะต้องนั่งรถไฟท้องถิ่นจากสถานีชินฮาโกดาเตะโฮคุโตะ ไปยังสถานีฮาโกดาเตะใจกลางเมืองอีก 15 นาทีด้วยกัน
ที่เที่ยวแรกที่เราจะไปกันคือ Kanemori Red Brick Warehouse โกดังเก็บของที่ถูกดัดแปลงมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเมืองนี้ ภายในบริเวณเต็มไปด้วยร้านค้าหลากหลายประเภททั้งของกิน ของใช้ ของที่ระลึก ที่นี่ถือเป็นจุดยอดฮิตสำหรับคนชอบถ่ายรูปเพราะไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนก็สีของตึกอาคารโกดังสีแดงอิฐก็ชวนให้ชักถ่ายภาพหรือหยิบมือถือออกมาเซลฟี่
จุดต่อมาพลาดไม่ได้ ใครเคยดูหนังเรื่อง “แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว” ต้องมาตามรอยที่เนินแห่งนี้
จุดต่อไปถือเป็นจุดสำคัญและไฮไลต์ของฮาโกดาเตะเลย นั่นก็คือ Mount. Hakodate การขึ้นไปชมวิวที่เขาลูกนี้จะทำให้เห็นวิวของเมืองฮาโกดาเตะที่โอบล้อมไปด้วยทะเลแบบเต็มตาและสวยงาม ที่นี่ถือเป็นจุดวิวชมวิวติด 1ใน 3 จุดชมวิวยามค่ำคืนที่สวยที่สุดในโลกเลย
หลังจากเดินเที่ยวจุดสำคัญๆแล้วของฮาโกดาเตะแล้ว เราได้ตัดสินใจพักค้างคืนที่เมืองนี้หนึ่งคืนก่อนที่ตอนเช้าไปจะเดินเล่นที่ตลาดปลา ที่นี่มีของสด ของทะเล และผลไม้น่าทานหลายอย่าง ถือเป็นตลาดที่ไม่ควรพลาด
และนี่คือทริปท่องเที่ยวเมืองฮาโกดาเตะโดยใช้เวลาเพียงหนึ่งวันหนึ่งคืนกับตอนเช้าอีกเล็กน้อย เราสามารถไปยังจุดท่องเที่ยวสำคัญๆ ได้หลายที่ แถมยังฝากท้องที่ตลาดปลายามเช้าได้อีกด้วย
การเดินทางก็สะดวกสะบายจากโตเกียว ใช้เวลาเพียงสี่ชั่วโมงกว่าเท่านั้น เราสามารถมาพักค้างคืนที่ฮาโกดาเตะก่อนจะเดินทางไปจุดอื่นๆ ของภูมิภาคฮออกไกโดต่อไป
ครั้งหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหน ต้องติดตามนะครับ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
จุดหมายของเราในทริปนี้คือการนั่งรถไฟชินคันเซ็นไปยังเมืองฮาโกดาเตะ ปราการด่านสำคัญของเกาะฮอกไกโดและยังเป็นสถานีสุดท้ายของรถไฟชินคันเซ็นที่เดินทางไปยังสายเหนืออีกด้วย
การเดินทางจากโตเกียวเมืองหลวงไปยังฮาโกดาเตะนั่น เราจะต้องไปขึ้นรถไฟที่สถานีโตเกียวซึ่งถือเป็นสถานีต้นสายของรถไฟชินคันเซ็นขบวน Hayabusa โดยรถไฟขบวนนี้นี่เองที่จะพาเราไปเที่ยว
สุดสายปลายทางของของขบวน Hayabusa จะพาเรามาส่งที่สถานีชินฮาโกดาเตะโฮกุโตะบนเกาะฮอกไกโดโดยใช้เวลาประมาณ 4.30 ชม. ด้วยระยะทางเกือบ 900 กิโลเมตรเลยทีเดียว
หลังจากนั้นเราจะต้องนั่งรถไฟท้องถิ่นจากสถานีชินฮาโกดาเตะโฮคุโตะ ไปยังสถานีฮาโกดาเตะใจกลางเมืองอีก 15 นาทีด้วยกัน
ที่เที่ยวแรกที่เราจะไปกันคือ Kanemori Red Brick Warehouse โกดังเก็บของที่ถูกดัดแปลงมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเมืองนี้ ภายในบริเวณเต็มไปด้วยร้านค้าหลากหลายประเภททั้งของกิน ของใช้ ของที่ระลึก ที่นี่ถือเป็นจุดยอดฮิตสำหรับคนชอบถ่ายรูปเพราะไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนก็สีของตึกอาคารโกดังสีแดงอิฐก็ชวนให้ชักถ่ายภาพหรือหยิบมือถือออกมาเซลฟี่
จุดต่อมาพลาดไม่ได้ ใครเคยดูหนังเรื่อง “แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว” ต้องมาตามรอยที่เนินแห่งนี้
จุดต่อไปถือเป็นจุดสำคัญและไฮไลต์ของฮาโกดาเตะเลย นั่นก็คือ Mount. Hakodate การขึ้นไปชมวิวที่เขาลูกนี้จะทำให้เห็นวิวของเมืองฮาโกดาเตะที่โอบล้อมไปด้วยทะเลแบบเต็มตาและสวยงาม ที่นี่ถือเป็นจุดวิวชมวิวติด 1ใน 3 จุดชมวิวยามค่ำคืนที่สวยที่สุดในโลกเลย
หลังจากเดินเที่ยวจุดสำคัญๆแล้วของฮาโกดาเตะแล้ว เราได้ตัดสินใจพักค้างคืนที่เมืองนี้หนึ่งคืนก่อนที่ตอนเช้าไปจะเดินเล่นที่ตลาดปลา ที่นี่มีของสด ของทะเล และผลไม้น่าทานหลายอย่าง ถือเป็นตลาดที่ไม่ควรพลาด
และนี่คือทริปท่องเที่ยวเมืองฮาโกดาเตะโดยใช้เวลาเพียงหนึ่งวันหนึ่งคืนกับตอนเช้าอีกเล็กน้อย เราสามารถไปยังจุดท่องเที่ยวสำคัญๆ ได้หลายที่ แถมยังฝากท้องที่ตลาดปลายามเช้าได้อีกด้วย
การเดินทางก็สะดวกสะบายจากโตเกียว ใช้เวลาเพียงสี่ชั่วโมงกว่าเท่านั้น เราสามารถมาพักค้างคืนที่ฮาโกดาเตะก่อนจะเดินทางไปจุดอื่นๆ ของภูมิภาคฮออกไกโดต่อไป
ครั้งหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหน ต้องติดตามนะครับ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน