แจกแพลนเที่ยวเกียวโต! 5วัน 4 คืน เข้า-ออกสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ นาโกย่า ด้วยบัสฟรี

ถ้าพูดถึงเกียวโต (Kyoto) ใครหลายคนก็คงเฝ้าฟันว่าอยากจะขอไปเที่ยวสักครั้งในชีวิต และในช่วงฤดูใบไม้ผลิแบบนี้เกียวโตก็เป็นอีกหนึ่งเมืองที่สามารถชมดอกซากุระได้อย่างสวยงาม ซึ่งโดยปกติแล้วจะบานในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน หรือหากไม่ได้มาชมซากุระ เกียวโตในฐานะที่เป็นเมืองหลวงเก่ามาก่อน ก็ยังมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย และมีธรรมชาติที่สวยงามรอให้เราไปสัมผัส



บทความนี้เราอยากจะมาแนะนำทริป 5 วัน 4 คืน ให้สำหรับใครที่ยังไม่เคยมาเกียวโตมาก่อน และกำลังวางแผนเดินทางอยู่ เน้นๆ ที่เกียวโต 2 วัน แถมแนะนำการเดินทางไปเกียวโตด้วยรถบัสฟรีจากนาโกย่า นอกจากนี้ยังได้เที่ยวภูมิภาคใกล้ๆ ซึ่งก็คือชูบุ หรือภาคกลางของญี่ปุ่น จบครบ 2 ภูมิภาคภายในทริปเดียวกัน มาๆ เรามาชมรายละเอียดการเดินทางนี้กันคร่าวๆ ก่อน...

วันที่ 1

  • ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ (00.05 น.) – สนามบินนานาชาติชูบุเซ็นเเทรร์ นาโกย่า (8:00 น.) ด้วยเที่ยวบินการบินไทย TG644

  • โดยสาร Kyoto Bus ไปเกียวโต (10:00 – 12:40 น.) [Meihan Kintetsu Non-Stop Express Bus]

  • ถึงเกียวโต ฝากกระเป่าที่ที่พัก

  • ชมซากุระที่ถนนสายนักปราชญ์ (Philosopher's Path) [Kyoto Sightseeing Card 2 Day Pass]

  • วัดคิโยะมิซุ (Kiyomizu) หรือ วัดน้ำใส

  • พักที่เกียวโต (คืนที่ 1)


วันที่ 2

  • วัด Kinkaku-ji หรือ วัดทอง

  • ป่าไผ่อาราชิยาม่า (Arashiyama Bamboo Groves)

  • ไปศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine)

  • พักที่เกียวโต (คืนที่ 2)


วันที่ 3

  • นั่งรถไฟจากเกียวโต ไปคานาซาว่า  [JR]

  • หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (ฝากกระเป๋าที่สถานีหมู่บ้านชิราคาวาโกะ) [Nouhi Bus]

  • เดินทางไปทาคายาม่า [Nouhi Bus]

  • พักที่ทาคายาม่า


วันที่ 4

  • เมืองเก่าทาคายาม่า

  • นั่งรถไฟจากทาคายาม่า ลงมานาโกย่า [JR] – ฝากกระเป๋าที่พัก

  • ชมสวนดอกไม้และงานประดับไฟ Nabana No Sato  [Meitetsu Bus]

  • พักที่นาโกย่า


วันที่ 5

  • เที่ยวในเมืองนาโกย่า [Nagoya Subway]

  • ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle)

  • ชม Nagoya Tower และย่านซาคาเอะ

  • ไหว้พระที่วัด Osu Kannon และช้อปปิ้งต่อที่ Osu Shopping Street

  • 3 ทุ่ม เดินทางไปสนามบินชูบุเซ็นเเทรร์ นาโกย่า เช็คอินพร้อมเดินทางกลับ ด้วยเที่ยวบินการบินไทย TG647 ออกจากนาโกย่า (00.30 น.) – สนามบินสุวรรณภูมิ (4:30 น.) 


 

เลือกใหม่ในการไปเกียวโต! นั่งรถบัสฟรี จากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์นาโกย่า


หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า เกียวโตนั้นอยู่ใกล้นาโกย่ามาก และจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์นาโกย่า (Chubu Centrair International Airport) ก็สามารถเดินทางตรงมายังเกียวโตได้อย่างง่ายๆ ด้วยรถบัสของ Meihan Kintetsu Non-Stop Express Bus

ตอนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับผู้โดยสารของสายการบินไทย (Thai Airways) ที่มีบัตรโดยสารเส้นทางไป-กลับ กรุงเทพ-นาโกย่า  สามารถใช้บริการรถบัสฟรี! ระหว่างสนามบินชูบุเซ็นแทรร์นาโกย่าและสถานีเกียวโตได้เลย! ในมูลค่า 4000 เยน/คน/เที่ยว (เด็ก 2000 เยน/คน/เที่ยว) 

ทริปนี้เราจึงเริ่มต้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ นั่งเครื่องบินของสายการบินไทย เที่ยวบิน TG644 ฟูลเซอร์วิสสบายๆ ไปลงที่สนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ในตอนเช้า จากนั้นเราก็จะต่อรถบัสแบบ Non-Stop Express Bus ไปยังสถานีเกียวโต โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที เดินทางออกจากสนามบินในเวลา 10:00 น. ถึงเกียวโตเวลา 12:40 น.



หลายคนอาจจะคิดว่า หูยย..ใช้เวลานานจัง แต่อยากจะบอกว่า มันดีกว่าถ้าเทียบกับการเสียเวลาไปกับการต่อคิวที่ ตม. ตอนเช้าๆ ที่สนามบินคันไซ โอซาก้า การนั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินชูบุเซ็นแทรร์นาโกย่าในช่วงเช้าผู้คนจะไม่ค่อยคับคั่ง จึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย และไม่เหนื่อยล้าด้วย แถมที่สนามบินชูบุเซ็นแทรร์ก็มีร้านอาหารอร่อยๆ ให้บริการมากมาย อิ่มอร่อยพร้อมเดินทางต่อได้ไม่ยาก

ข้อดีอีกอย่างก็คือการเดินทางด้วยรถบัสนั้นทำให้เราสามารถหลีกเลี่ยงผู้คนอันมากมายที่จะต้องเผชิญหากเราเดินทางด้วยรถไฟที่ตัวเมือง เราไม่ต้องลากกระเป๋าสัมภาระหนักๆ เพราะสามารถฝากกระเป๋าไว้ใต้ท้องรถบัสได้เลย



ขั้นตอนง่ายๆ เพียงแค่ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ http://bit.ly/jgb-kyotobus-tg แล้วรอ Voucher ตอบกลับมาทางอีเมล แล้วก็จัดการพิมพ์ออกมาติดตัวไว้ตอนขึ้นรถบัส ซึ่งต้องแสดงพร้อม Boarding Pass ของการบินไทย หรือ E-Ticket ที่มีหมายเลข Booking Number และชื่อผู้โดยสารที่ตรงกับบน Voucher แก่พนักงานรถบัส (ไม่สามารถแสดงเอกสารผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือได้) ง่ายๆ เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้บริการรถบัสฟรีไปเกียวโตนี้ได้แล้ว!



ในส่วนของจุดขึ้นรถบัสนั้น เมื่อออกมาจากชั้นผู้โดยสารขาออกของสนามบิน ให้ลงลิฟท์มายังชั้น 1 จะพบกับป้ายรถบัสอยู่ที่ด้านนอกอาคาร  สำหรับรถบัสที่ไปเกียวโตจะจอดที่ป้ายรถบัสหมายเลข 2 หากมีสัมภาระ เจ้าหน้าที่จะช่วยเก็บไว้ใต้ท้องรถ (จำกัดที่ 2 ใบ/ท่าน)





ภายในรถบัสนั้นมีบริการ Wi-Fi ใช้ได้ฟรี มีที่เสียบสายชาร์จ USB ติดตั้งอยู่ทุกที่นั่ง มีห้องน้ำพร้อมให้บริการ รถบัสให้บริการแบบตรงต่อเวลาตามมาตรฐาน และที่นั่งกว้างขวางสะดวกสบาย หลับยาวๆ ไปเลยจ้า



เวลา 12:40 น. ตรงเวลาพอดิบพอดี รถบัสมาถึงสถานีเกียวโต ด้านทางออก Hachijoguchi ซึ่งจะอยู่คนละด้านกับ Kyoto Tower (บริเวณหน้าโรงแรม Keihan Kyoto Grande) จัดการซื้อ Kyoto Sightseeing Card 2 Day เพื่อใช้ในการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินและรถบัสในเกียวโตทั้ง 2 วันนี้ จากนั้นเราก็เที่ยวในเกียวโตกันให้เต็มอิ่มไปเลยค่ะ



 

เช็คอิน ไฮไลท์ 5 ที่เที่ยวในเกียวโต ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ


ถนนสายนักปราชญ์ (Philosopher's Path) ถือเป็นสถานที่ขึ้นชื่อในการชมซากุระในเกียวโต เพราะที่นี่จะเป็นทางเดินเล็กๆ เลียบคลองสายเล็กๆ และมีซากุระเรียงรายกว่า 500 ต้น ต้นทางจะอยู่ที่วัด Ginkaku-ji หรือวัดเงิน ไปจนสุดวัด Nanzenji เดิมเป็นเส้นทางทีนักปราชญ์นิชิดะ คิทาโร่ ใช้เดินทางไปกลับมหาวิทยาลัยเกียวโต เมื่อท่านกลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงจึงทำให้เส้นทางนี้ได้รับการเรียกชื่อตามท่าน ซากุระที่นี่ตามปกติจะบานเต็มที่ช่วงปลายมีนาคม-ต้นเมษายน



ต่อจากนั้นเราก็เดินทางต่อไปยังวัดคิโยะมิซุ (Kiyomizu) หรือวัดน้ำใส หนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเกียวโต ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ที่นี่ก็เป็นอีกจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงเช่นกัน จุดไฮไลท์คือวิหารหลักของวัดน้ำใส ที่ใช้ไม้ทั้งหลังโดยไม่มีการใช้ตะปูเลย (มีกำหนดบูรณะเสร็จช่วงมีนาคม 2020)



ส่วนการเดินทางในวันที่สองในเกียวโตนั้น ยังคงใช้โควต้าของ 2 Day Pass อยู่ แนะนำให้เริ่มต้นแต่เช้าที่ป่าไผ่อาราชิยาม่า (Arashiyama Bamboo Groves) เดินไปตามเส้นทางเล็กๆ ที่รายล้อมสองข้างด้วยต้นไผ่สูง  จากนั้นเดินทางไปยังวัด Kinkaku-ji หรือวัดทอง อีกสัญลักษณ์ที่สำคัญของเกียวโต ที่นี่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเช่นกัน มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นมากคือ อาคารปราสาทสีทองซึ่งเคยเป็นที่พักของท่านโชกุนในอดีตตั้งอร่ามอยู่กลางน้ำพร้อมสวนญี่ปุ่นสวยๆ





หากช่วงบ่ายพอจะมีเวลาก็อยากแนะนำให้ไปเที่ยวต่ออีกหนึ่งที่ คือศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine) บางคนก็เรียกว่าศาลเจ้าจิ้งจอกเเดง ซึ่งจุดเด่นของศาลเจ้าแห่งนี้คือเสาโทริอิเรียงเป็นทางยาวกว่า 1000 ต้น เสาแดงเหล่านี้ได้มาจากการบริจาคจากผู้ที่มีความศรัทธา ซึ่งจะมีการจารึกชื่อของผู้บริจาคไว้ด้านหลังเสา



 

คานาซาว่า - หมู่บ้านชิราคาวาโกะ - ทาคายาม่า ที่เที่ยวห้ามพลาดในชูบุ (Chubu)


ตอนนี้เรากำลังเดินทางข้ามภูมิภาคอีกครั้งเพื่อกลับไปยังชูบุ แนะนำให้ออกจากเกียวโตแต่เช้าตรู่ แล้วต่อรถไฟตรงขึ้นมายังเมืองคานาซาว่า (Kanazawa) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ที่สถานีคานาซาวะ (Kanazawa Station) มีสถาปัตยกรรมที่ใครมาก็มักจะมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เพราะเปรียบเสมือนประตูเมืองคานาซาวะเลย นั่นก็คือ ประตู Tsuzumi-mon Gate ซึ่งได้แนวคิดมาจากกลอง Tsuzumi 



จากนั้นก็ออกเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านมรดกโลกชื่อดัง “ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)” ซึ่งจะโดยสารรถบัสของ Nouhi Bus ต่อไปยังหมู่บ้านแห่งนี้ ในราคาประมาณ 2000 เยน (One way) เมื่อไปถึงเราสามารถฝากกระเป๋าสัมภาระที่ห้องรับฝากสัมภาระด้านหลังสถานีได้ คิดราคา 1,000 เยน/ครั้ง

หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go Village) เป็นหมู่บ้านชาวนาที่มีชื่อเสียงระดับโลก ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO ในปี ค.ศ. 1995 ด้วยวิถีวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นคือลักษณะบ้านโบราณมีหลังคาทรงสูงเหมือนการพนมมือที่เรียกว่า “Gassho-Zukuri”  แต่ละหลังมีอายุเก่าแก่นับร้อยปี ห้ามพลาดจุดชมวิวหมู่บ้านบนภูเขา คุณจะสามารถมองเห็นวิวทั้งหมู่บ้านได้อย่างสวยงามมากๆ 



เพลิดเพลินเดินเที่ยวเล่นในหมู่บ้านประมาณ 2 ชั่วโมง ในส่วนการเดินทางกลับนั้นก็ใช้บริการของ Nouhi Bus เช่นกัน แต่จะกลับไปทางเมืองทาคายาม่า (Takayama) ค่าโดยสาร 2600 เยน ดื่มด่ำบรรยากาศของเมืองเก่าทาคายาม่าด้วยการพักค้างแรม 1 คืน และห้ามพลาดทานเนื้อฮิดะ สุดยอดเนื้อวากิวของทาคายาม่า  ส่วนในตอนเช้าก็อย่าพลาดที่ไปเที่ยวชมตลาดเช้าริมแม่น้ำ Miyagawa และเดินต่อมายังเมืองเก่าทาคายาม่า หาซื้อของฝากน่ารักๆ ก่อนออกเดินทางต่อไปพบกับแสงสี ความเจริญที่นาโกย่าในช่วงบ่าย



เที่ยว - ช้อปปิ้ง ที่นาโกย่าแบบจัดเต็มไปเลย


อำลาเมืองทาคายาม่า จังหวัดกิฟุแล้วก็ต่อรถไฟ JR เพื่อลงมาเมืองนาโกย่า (Nagoya) กัน สามารถฝากกระเป๋าที่พักได้แล้วไปเที่ยวต่อกับอีกครึ่งวันที่เหลืออยู่ แนะนำให้นั่งรถบัสต่อสักหน่อย จากสถานีรถบัส Nagoya Meitetsu Bus Center ใช้เวลา 35 นาที ราคา 1900 เยน/รอบไป-กลับ เพื่อไปชมสวนดอกไม้นาบานา โนะ ซาโตะ (Nabana No Sato) เพราะในช่วงนี้กำลังจัดงานประดับไฟ “Nabana No Sato Winter Illumination 2019-2020” พอดี ตั้งแต่ 19 ตุลาคม 2019 สิ้นสุดวันที่ 6 พฤษภาคม 2020 ภายในงานจะมีอุโมงค์ไฟและการแสดงไฟที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก

จัดงาน Nabana No Sato winter illumination 2019 ที่เมืองนาโกย่า (Nagoya)

นอกจากนี้ในสวนยังมีการประดับไฟ Light Up สวนดอกบ๊วยพันธุ์ย้อย (Weeping Plum) และซากุระ (เวลาอาจแตกต่างไปตามฤดูกาล) ให้ได้ตื่นตาตื่นใจไปกับธรรมชาติอีกด้วย จัดช่วงปลายกุมภาพันธ์ – ปลายมีนาคม ในช่วงเมษายนจะมีสวนดอกทิวลิปที่สวยงามมากๆ





ในวันสุดท้ายของการเดินทางกับการท่องเที่ยวภายในเมืองนาโกย่านั้น จะใช้รถไฟใต้ดินเป็นหลัก จะซื้อบัตร Pass One Day ก็ได้ หรือจะจ่ายเป็นรายเที่ยวไป หากแนะนำที่เที่ยวในเมืองนาโกย่าสำหรับ 1 วันเต็มๆ ก็จะต้องห้ามพลาดปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของนาโกย่าเลยก็ว่าได้  มีจุดเด่นอยู่ที่ยอดปราสาท เรียกว่า คินชะจิ (Kinshachi) หรือสัญลักษณ์ปลาคราฟหัวสิงห์ ซึ่งถือเป็นเครื่องรางในการป้องกันอัคคีภัยของเมือง ที่ปราสาทนาโกย่าก็เป็นอีกจุดชมซากุระที่สวยงามเช่นกัน



ต่อด้วยการไปชม Nagoya TV Tower แบบใกล้ๆ ที่ย่านซาคาเอะ (Sakae) ย่านนี้ถือเป็นย่านช้อปปิ้งที่เด่นที่สุดของนาโกย่า จะมีร้านค้าแบรนด์เนมมากมาย เทียบเท่าย่านชินจูกุของโตเกียว หรือชินไซบาชิของโอซาก้า หากใครยังช้อปปิ้งไม่จุใจ ขอแนะนำอีกหนึ่งที่คือ Osu Shopping Street แหล่งรวมร้านค้า เสื้อผ้า ของใช้ต่างๆ รวมถึงร้านอาหารนานาชนิด กว่า 200 ร้านค้า ถนนเส้นนี้จะอยู่ด้านหน้าวัดโอสุคันนอน (Osu Kannon Temple) ไปไหว้พระกันก่อนกลับบ้านได้





หลังจากเที่ยวเพลินแล้วก็ได้เวลากลับที่พักหรือที่สถานีนาโกย่าที่ฝากกระเป๋าเอาไว้ ก่อนจะเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นเเทรร์ (Chubu Centrair International Airport) เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG647 เวลา 00:30 น. ถ้าตลอดทั้งทริปยังไม่ค่อยมีเวลาช้อปปิ้งมากนัก ก่อนที่เราจะโหลดกระเป๋าขึ้นเครื่อง เราจะใช้เวลาช้อปปิ้งที่สนามบินก่อนก็ได้ เพราะที่นี่รวมร้านค้าปลอดภาษีและร้านค้าดังๆ ไว้ครบ ไม่ว่าจะเป็น BIC CAMERA, ยูนิโค, ร้านโปเกม่อน เป็นต้น 



แพลนทริป 2 ภูมิภาค เกียวโต-ชูบุ ที่แนะนำนี้เต็มไปด้วยที่เที่ยวที่น่าสนใจและนับเป็นไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเลย เพื่อนๆ สามารถนำไปลองปรับใช้ได้ตามความเหมาะสม และสำหรับผู้โดยสายการบินไทยที่กำลังแพลนทริปไปเที่ยวเกียวโต ก็อยากจะฝากทางเลือกใหม่สำหรับการเดินทางไปเกียวโต ด้วยสิทธิพิเศษในการโดยสารรถบัส Meihan Kintetsu Non-Stop Express Bus ระหว่างสนามบินชูบุเซ็นแทรร์และเกียวโตแบบฟรีๆ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม หากสนใจก็สามารถชมรายละเอียดและการจองรถเกียวโตบัสฟรี ได้ที่นี่  http://bit.ly/jgb-kyotobus-tg สามารถโดยสารรถบัสได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 17 มีนาคม 2563