ฮิโรชิมา (Hiroshima) เมืองทางผ่านเล็กๆ ระหว่างเกาะคิวชู ไปยังเมืองท่องเที่ยวชื่อดัง โอซาก้า เกียวโต แต่ประวัติศาสตร์ของนางไม่เล็กตามเมืองเลย
ครั้งแรกที่มาเยือนเมืองนี้ ก็ติดใจกับบรรยากาศเมืองเรียกได้ว่าเป็นแถบชานเมืองก็ว่าได้ แม้ไม่ได้หวือหวาคึกคัก อย่างเช่นเมืองใหญ่ๆ แต่ก็ไม่ได้เงียบเหงาไปซะทีเดียว นางก็มีครบถ้วนทั้งแหล่งช็อปปิ้ง ธรรมชาติ และของกินที่ขึ้นชื่อ การเดินทางในเมืองก็สะดวกสบาย มีรถราง "ฮิโรเดน" ที่วิ่งไปยังจุดสำคัญต่างๆ ราคามิตรภาพอยู่ รถบัส แท็กซี่ก็มีให้บริการนะ และสำหรับสถานที่สำคัญๆ จุดเช็คอินยอดฮิตของฮิโรชิมาที่ต้องมา เมื่อมาเยือนเมืองนี้
ที่แรกคือ Peace Memorial Museum Park สวนสาธารณะที่สร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงสงครามโลกครั้งที่2 ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานจากเหตุการณ์ที่กองทัพสหรัฐได้ส่ง Little Boy ระเบิดปรมาณูมาทำลายล้างเมืองนี้
สิ่งที่สะดุดตาเลยก็คือ ซากปรักหักพังของอาคารที่หลงเหลืออยู่จากเหตุการณ์ครั้งนั้น ยิ่งตอนกลางคืนมีการประดับไฟก็จะยิ่งได้บรรยากาศไปอีกแบบ ตอนที่เราไปเป็นช่วงใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีพอดี ช่วงวันที่ 20 กว่าๆของเดือนตุลาคม ฉากหลังของซากตึกก็จะรับกับใบไม้สีต่างๆ ก็ดูสวยไปอีกแบบ
อีกมุมนึงของสวนก็จะมีอนุสาวรีย์เด็กหญิงซาดาโกะ เด็กน้อยที่รอดชีวิตมาจากเหตุการณ์ทิ้งระเบิดในครั้งนั้น สำหรับประวัติลองหาดูในกูเกิลนะคะ มีอย่างละเอียดเลย
ใบไม้เปลี่ยนสีที่สวนนี้ก็สวยไปอีกแบบ มีเส้นทางสำหรับสายวิ่งด้วย ตอนช่วงนั้นนะ อากาศดี๊ดี เส้นทางก็สวย วิ่งเพลินเลยทีเดียว
ตอนที่ไปมีการจัดนิทรรศกาลเพื่อระลึกเหตุการณ์ทิ้งระเบิดครั้งนั้นด้วย ก็มีการจัดตั้งโต๊ะจุดเทียนและมีการจัดแสดงนกกระดาษประดับไฟที่สวนด้วย สวยและมีมนตร์ขลังมาก
สังเกตให้ดีในภาพจะเห็นว่าเค้าตั้งใจ วางตำแหน่ง Atomic dome กับ ที่จุดเทียนอยู่ในแนวเดียวกันเลย ใส่ใจในทุกรายละเอียดจริงๆ สมกับความเป็นญี่ปุ่นที่แท้ทรู
ในแต่ละเมืองก็จะมีปราสาทต่างๆ กันอย่างที่เรารู้จักกันดี ที่ฮิโรชิมาก็มีเหมือนกันนะ และสถานที่ที่สองก็คือ ปราสาทฮิโรชิมา (Hiroshima Castle) ดูแล้วก็มีความขลังอยู่เหมือนกันนะ
นอกจากสถานที่สำคัญในเมืองแล้ว ยังมีเกาะมิยาจิม่า(Miyajima) ที่มาเมืองนี้แล้วห้ามพลาด ถ้าไม่ไปก็เหมือนมาไม่ถึงฮิโรชิมาเลยล่ะ
การเดินทางไปเกาะมิยาจิม่า(Miyajima) ก็ง่ายมาก นั่งรถไฟ JR ไปลงสถานีมิยาจิมาเลย จากนั้นนั่งเรือข้ามเกาะ ประมาณ 15 นาที เรือเค้าก็ไม่ได้กะโหลกกะลานะจ๊ะ สะดวกสบายเลยทีเดียว แต่ถ้าใครอยากนั่งก็ต้องแย่งชิงกันหน่อย ส่วนพื้นที่ยืน โอ๊ยย เต็มเรือ
ขณะเรือแล่นเข้าหาเกาะภาพแรกที่เห็นเลยเป็นสถานที่ที่สาม นั่นก็คือ เสาโทริอิ (Torii) ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเล แสดงว่าเราเข้าใกล้เกาะแล้ว
บนเกาะจะมีบริการให้นั่งเรือ มาชมเสาโทริอินี้ใกล้ๆด้วย มีค่าบริการแน่นอน แต่เท่าไรไม่รู้เราไม่เคยนั่ง เราไม่อิน เราอินแค่ถ่ายรูปไกลๆ แค่นี้แหละ อ้อๆๆๆ ต้องลุ้นน้ำขึ้นน้ำลงด้วยนะ ถ้าน้ำลงก็อดจ้าาา แต่ๆๆๆ มันสามารถเดินเท้าลงมายังที่เสาโทริอินี้ได้ด้วย
เมื่อมาถึงมิยาจิมา สิ่งนึงที่ห้ามพลาดเลยก็คือ.... การกินหอยนางรมย่างสดๆบนเกาะ เอาจริงแค่ย่างเท้าเข้าเกาะ ก็จะได้กลิ่นย่างหอมตลบอบอวลไปทั้งเกาะเลยจริงๆ ส่วนรสชาติน่ะหรอ หึหึ อร่อยสิ ทั้งหอม หวาน โอ๊ยยย อยากกินอีกแล้วววว ส่วนราคาหรอ ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงนะ 2 ตัว 500 เยนเอง
สำหรับบรรยากาศรอบเกาะก็สวยงามสงบเต็มไปด้วยกวาง ซึ่งเป็นอีกจุดเช็คอินที่ห้า ที่คนส่วนใหญ่จะมาถ่ายรูปเจ้ากวางได้ อ้อ..บนเกาะมีศาลเจ้าเก่าแก่อยู่ด้วยนะ ถ้าวันน้ำขึ้นก็จะเหมือนศาลเจ้านั้นลอยน้ำอยู่ วันที่ไปมีการประกอบพิธีงานแต่งงานแบบญี่ปุ่นโบราณด้วย ดูเพลินเลย
เรือรับส่งมีเป็นรอบนะจ๊ะ ถ้าไม่ได้ค้างบนเกาะก็เช็คเวลากันนิดนึง บนเกาะมีโรงแรมด้วยนะ ตั้งแต่ธรรมดาจนถึงเรียวกังเลย
กลับขึ้นฝั่งมาก็เย็นแล้ว ท้องเริ่มร้อง อาหารขึ้นชื่ออีกอย่างของฮิโรชิมาก็คือ "โอโคโนมิยากิ" ฮิโรชิมาสตาววว์ ร้านแนะนำหรอ อืมม มีร้านดังนะ ชื่อ Micchan แต่ร้านดังก็คือร้านดังอ่ะนะ รอคิวนานมากกกกกก ถ้าไม่ยึดติดนะ มีตึกๆนึงแถวๆฮอนโดริ ทั้งตึกมีแต่ร้านโอโคโนมิยากิ เข้าไปเลือกกินเลย รสชาติไม่ต่างกันนะ แนะนำหน้าหอยนางรม(อีกแล้ว)
ถ้าไปช่วงที่มีแข่งเบสบอลของทีมประจำเมืองอย่าง Hiroshima Toyo Carp นะ ลองนั่งร้านที่มีสัญลักษณ์ทีมนี้ดู แล้วไปกินวันที่ทีมนี้แข่งนะ อื้มหืมมมม ถ้าไม่เข็ดก็จะอินกับพี่ท่านไปเลย ส่วนตัวแล้วอิน พี่ท่านเชียร์กันมันส์มาก จนอยากจะเข้าไปดูใน Hiroshima stadium จริงๆเลย
อิ่มท้องเสร็จ ก็มาเดินย่อยที่ถนนชอปปิ้ง "ฮอนโดริ" ต่อ ก็เป็นตรอกถนนชอปปิ้งเหมือนเมืองท่องเที่ยวต่างๆแหละ มีร้านขายเครื่องสำอางค์ เสือผ้า รองเท้า ส่วนตัวนะ เคยไปซื้อเสื้อโค้ทกันหนาวมาจากที่นี่ ราคาถูกมาก แถมกันหนาวได้ดีด้วย
เอาล่ะ!! ครบถ้วนกระบวนความ ตามที่ฮิโรชิมามีแล้ว อย่างที่บอกนางเป็นเมืองแถบชานเมือง ถ้าไม่ติดแสงสี ที่นี่ก็เหมาะกับการมาเดินชิล มาพักผ่อนนะ เราเคยมาแล้วทั้งช่วงซากุระและใบไม้เปลี่ยนสี มันมีเสน่ห์ต่างกันอ่ะ บอกไม่ถูก เอาเป็นว่า มาเถอะ ลองแวะมาสักครั้ง แล้วจะหลงเสน่ห์เมืองประวัติศาสตร์เมืองนี้ ^____^
ครั้งแรกที่มาเยือนเมืองนี้ ก็ติดใจกับบรรยากาศเมืองเรียกได้ว่าเป็นแถบชานเมืองก็ว่าได้ แม้ไม่ได้หวือหวาคึกคัก อย่างเช่นเมืองใหญ่ๆ แต่ก็ไม่ได้เงียบเหงาไปซะทีเดียว นางก็มีครบถ้วนทั้งแหล่งช็อปปิ้ง ธรรมชาติ และของกินที่ขึ้นชื่อ การเดินทางในเมืองก็สะดวกสบาย มีรถราง "ฮิโรเดน" ที่วิ่งไปยังจุดสำคัญต่างๆ ราคามิตรภาพอยู่ รถบัส แท็กซี่ก็มีให้บริการนะ และสำหรับสถานที่สำคัญๆ จุดเช็คอินยอดฮิตของฮิโรชิมาที่ต้องมา เมื่อมาเยือนเมืองนี้
ที่แรกคือ Peace Memorial Museum Park สวนสาธารณะที่สร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงสงครามโลกครั้งที่2 ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานจากเหตุการณ์ที่กองทัพสหรัฐได้ส่ง Little Boy ระเบิดปรมาณูมาทำลายล้างเมืองนี้
สิ่งที่สะดุดตาเลยก็คือ ซากปรักหักพังของอาคารที่หลงเหลืออยู่จากเหตุการณ์ครั้งนั้น ยิ่งตอนกลางคืนมีการประดับไฟก็จะยิ่งได้บรรยากาศไปอีกแบบ ตอนที่เราไปเป็นช่วงใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีพอดี ช่วงวันที่ 20 กว่าๆของเดือนตุลาคม ฉากหลังของซากตึกก็จะรับกับใบไม้สีต่างๆ ก็ดูสวยไปอีกแบบ
อีกมุมนึงของสวนก็จะมีอนุสาวรีย์เด็กหญิงซาดาโกะ เด็กน้อยที่รอดชีวิตมาจากเหตุการณ์ทิ้งระเบิดในครั้งนั้น สำหรับประวัติลองหาดูในกูเกิลนะคะ มีอย่างละเอียดเลย
ใบไม้เปลี่ยนสีที่สวนนี้ก็สวยไปอีกแบบ มีเส้นทางสำหรับสายวิ่งด้วย ตอนช่วงนั้นนะ อากาศดี๊ดี เส้นทางก็สวย วิ่งเพลินเลยทีเดียว
ตอนที่ไปมีการจัดนิทรรศกาลเพื่อระลึกเหตุการณ์ทิ้งระเบิดครั้งนั้นด้วย ก็มีการจัดตั้งโต๊ะจุดเทียนและมีการจัดแสดงนกกระดาษประดับไฟที่สวนด้วย สวยและมีมนตร์ขลังมาก
สังเกตให้ดีในภาพจะเห็นว่าเค้าตั้งใจ วางตำแหน่ง Atomic dome กับ ที่จุดเทียนอยู่ในแนวเดียวกันเลย ใส่ใจในทุกรายละเอียดจริงๆ สมกับความเป็นญี่ปุ่นที่แท้ทรู
ในแต่ละเมืองก็จะมีปราสาทต่างๆ กันอย่างที่เรารู้จักกันดี ที่ฮิโรชิมาก็มีเหมือนกันนะ และสถานที่ที่สองก็คือ ปราสาทฮิโรชิมา (Hiroshima Castle) ดูแล้วก็มีความขลังอยู่เหมือนกันนะ
นอกจากสถานที่สำคัญในเมืองแล้ว ยังมีเกาะมิยาจิม่า(Miyajima) ที่มาเมืองนี้แล้วห้ามพลาด ถ้าไม่ไปก็เหมือนมาไม่ถึงฮิโรชิมาเลยล่ะ
การเดินทางไปเกาะมิยาจิม่า(Miyajima) ก็ง่ายมาก นั่งรถไฟ JR ไปลงสถานีมิยาจิมาเลย จากนั้นนั่งเรือข้ามเกาะ ประมาณ 15 นาที เรือเค้าก็ไม่ได้กะโหลกกะลานะจ๊ะ สะดวกสบายเลยทีเดียว แต่ถ้าใครอยากนั่งก็ต้องแย่งชิงกันหน่อย ส่วนพื้นที่ยืน โอ๊ยย เต็มเรือ
ขณะเรือแล่นเข้าหาเกาะภาพแรกที่เห็นเลยเป็นสถานที่ที่สาม นั่นก็คือ เสาโทริอิ (Torii) ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเล แสดงว่าเราเข้าใกล้เกาะแล้ว
บนเกาะจะมีบริการให้นั่งเรือ มาชมเสาโทริอินี้ใกล้ๆด้วย มีค่าบริการแน่นอน แต่เท่าไรไม่รู้เราไม่เคยนั่ง เราไม่อิน เราอินแค่ถ่ายรูปไกลๆ แค่นี้แหละ อ้อๆๆๆ ต้องลุ้นน้ำขึ้นน้ำลงด้วยนะ ถ้าน้ำลงก็อดจ้าาา แต่ๆๆๆ มันสามารถเดินเท้าลงมายังที่เสาโทริอินี้ได้ด้วย
เมื่อมาถึงมิยาจิมา สิ่งนึงที่ห้ามพลาดเลยก็คือ.... การกินหอยนางรมย่างสดๆบนเกาะ เอาจริงแค่ย่างเท้าเข้าเกาะ ก็จะได้กลิ่นย่างหอมตลบอบอวลไปทั้งเกาะเลยจริงๆ ส่วนรสชาติน่ะหรอ หึหึ อร่อยสิ ทั้งหอม หวาน โอ๊ยยย อยากกินอีกแล้วววว ส่วนราคาหรอ ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงนะ 2 ตัว 500 เยนเอง
สำหรับบรรยากาศรอบเกาะก็สวยงามสงบเต็มไปด้วยกวาง ซึ่งเป็นอีกจุดเช็คอินที่ห้า ที่คนส่วนใหญ่จะมาถ่ายรูปเจ้ากวางได้ อ้อ..บนเกาะมีศาลเจ้าเก่าแก่อยู่ด้วยนะ ถ้าวันน้ำขึ้นก็จะเหมือนศาลเจ้านั้นลอยน้ำอยู่ วันที่ไปมีการประกอบพิธีงานแต่งงานแบบญี่ปุ่นโบราณด้วย ดูเพลินเลย
เรือรับส่งมีเป็นรอบนะจ๊ะ ถ้าไม่ได้ค้างบนเกาะก็เช็คเวลากันนิดนึง บนเกาะมีโรงแรมด้วยนะ ตั้งแต่ธรรมดาจนถึงเรียวกังเลย
กลับขึ้นฝั่งมาก็เย็นแล้ว ท้องเริ่มร้อง อาหารขึ้นชื่ออีกอย่างของฮิโรชิมาก็คือ "โอโคโนมิยากิ" ฮิโรชิมาสตาววว์ ร้านแนะนำหรอ อืมม มีร้านดังนะ ชื่อ Micchan แต่ร้านดังก็คือร้านดังอ่ะนะ รอคิวนานมากกกกกก ถ้าไม่ยึดติดนะ มีตึกๆนึงแถวๆฮอนโดริ ทั้งตึกมีแต่ร้านโอโคโนมิยากิ เข้าไปเลือกกินเลย รสชาติไม่ต่างกันนะ แนะนำหน้าหอยนางรม(อีกแล้ว)
ถ้าไปช่วงที่มีแข่งเบสบอลของทีมประจำเมืองอย่าง Hiroshima Toyo Carp นะ ลองนั่งร้านที่มีสัญลักษณ์ทีมนี้ดู แล้วไปกินวันที่ทีมนี้แข่งนะ อื้มหืมมมม ถ้าไม่เข็ดก็จะอินกับพี่ท่านไปเลย ส่วนตัวแล้วอิน พี่ท่านเชียร์กันมันส์มาก จนอยากจะเข้าไปดูใน Hiroshima stadium จริงๆเลย
อิ่มท้องเสร็จ ก็มาเดินย่อยที่ถนนชอปปิ้ง "ฮอนโดริ" ต่อ ก็เป็นตรอกถนนชอปปิ้งเหมือนเมืองท่องเที่ยวต่างๆแหละ มีร้านขายเครื่องสำอางค์ เสือผ้า รองเท้า ส่วนตัวนะ เคยไปซื้อเสื้อโค้ทกันหนาวมาจากที่นี่ ราคาถูกมาก แถมกันหนาวได้ดีด้วย
เอาล่ะ!! ครบถ้วนกระบวนความ ตามที่ฮิโรชิมามีแล้ว อย่างที่บอกนางเป็นเมืองแถบชานเมือง ถ้าไม่ติดแสงสี ที่นี่ก็เหมาะกับการมาเดินชิล มาพักผ่อนนะ เราเคยมาแล้วทั้งช่วงซากุระและใบไม้เปลี่ยนสี มันมีเสน่ห์ต่างกันอ่ะ บอกไม่ถูก เอาเป็นว่า มาเถอะ ลองแวะมาสักครั้ง แล้วจะหลงเสน่ห์เมืองประวัติศาสตร์เมืองนี้ ^____^
