อีกหนึ่งเมนูอาหารญี่ปุ่นสุดแจ่มก็ต้องราเม็งนี่ล่ะน้า ถึงว่าต้นกำเนิดจะไม่ใช่ญี่ปุ่นก็ตาม เส้นเหนียวนุ่มกับนํ้าซุปกลมกล่อม เป็นเมนูที่ทานได้เรื่อยๆ ประเทศไทยตอนนี้ก็เลยมีร้านราเม็งเยอะแยะตาแป๊ะไก่ ร้านดังจากญี่ปุ่นก็มีมาเปิดให้ได้ไปลิ้มรสกันเพียบ ซึ่งเมนูที่น่าจะถูกปากถูกใจชาวไทยเป็นที่สุดเลยก็คือ ทงคตสึราเม็ง หรือว่าราเม็งซุปกระดูกหมู เพราะว่ามันมีรสชาติที่เข้มข้นถูกปากคนไทยที่ทานอาหารกันรสจัดนี่แหละ ซึ่งเป็นราเม็งขึ้นชื่อของทางฝั่งคิวชูเขาเลยล่ะ ล่าสุดก็ผู้เขียนก็ไปทำภาระกิจตะลุยร้านราเม็งแสนอร่อยที่เมืองคิตะคิวชู จังหวัดฟุกุโอกะจ้า
สุดยอดร้านโคตรฮิตติดอันดับที่ชาวไทยหลั่งไหลไปทานกันเป็นจำนวนมาก สำหรับร้านอิจิรันหรือที่เรียกกันติดปากว่าราเม็งข้อสอบ ซึ่งในเมืองคิตะคิวชูนี้ก็มีสาขาของอิจิรันมาเปิดให้ได้ลิ้มรสความอร่อยกันด้วย แน่นอนว่าทีเด็ดของร้านอิจิรันก็คือทงคตสึราเม็งนี่แหละ แต่ลงลึกถึงแก่แท้จริงๆ แล้วจะไม่ใช่ราเม็งทงคตสึแบบต้นตำรับ แต่เป็นทงคตสึราเม็งที่มีการวิวัฒนาการเป็นราเม็งสมัยใหม่ มีรสชาติที่ต่างจากตำรับดั้งเดิมและเข้มข้น ติดลิ้นติดปากคนได่ง่ายกว่านั่นเอง
ด้วยความที่เป็นราเม็งสมัยใหม่ มันก็มีจุดดีงามตรงที่คุณลูกค้าสามารถปรับแต่งราเม็งตามที่ชอบได้ในหลายๆ อย่างราวกับว่าเซ็ตรถก่อนออกแข่งเลยทีเดียว นั่นก็คือความเข้มข้นของซุป, ความมัน, เลือกปริมาณกระเทียมหรือต้นหอมได้ รวมไปถึงซอสแดงและความแข็งของเส้นได้อีกต่างหาก ต่างจากร้านปกติที่ทำมายังไงคุณก็ต้องกินแบบนั้น ปรับได้อย่างมากก็ความมันแล้วก็ความแข็งของเส้น อันนี้ก็สูตรใครสูตรมันละจ้า
การทานทงคตสึราเม็งให้อร่อยนั้น ควรจะให้ลวกเส้นแข็งหน่อย เพราะเส้นราเม็งของทงคตสึราเม็งมีเส้นผอมบางอยู่แล้ว จะทำให้อร่อยขึ้นมากเลยทีเดียว รวมถึงกระเทียมนั้นเป็นสิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลย เพราะมันจะเติมความกลมกล่อมให้กับซุปมากยิ่งขึ้น
จากร้านอิจิรัน เราก็มาสู่ร้านที่เป็นคงคตสึตำรับออริจินอลกันบ้าง กับร้านที่มีชื่อว่า อิปเป ตกแต่งแลดูไม่หวือหวาไฮโซเหมือนร้านอื่น ออกแนวแบบบ้านๆ แต่ภายในร้านก็สะอาดสะอ้านและที่สำคัญก็คือทงคตสึราเม็งของที่นี่อร่อยมากๆ เลยล่ะ
ตอนที่สั่งเขาก็จะถามเราแค่เรื่องความแข็งของเส้นเท่านั้นเอง ว่าจะเอานิ่มหรือแข็ง ไม่ได้มีมิกซ์แอนด์แมตช์เหมือนกับทงคตสึราเม็งสมัยใหม่เพราะว่ามันจะไม่ได้รสชาติต้นตำรับ ก็เลยสั่งเส้นแข็งไปเพราะว่ามันอร่อยกว่า (อันนี้ย้ำอีกครั้งว่าแล้วแต่คนชอบ) ใช้เวลาแปปเดียวก็มาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ
แต่นเแต้น เห็นภาพแรกก็รู้สึกน่าทานขึ้นมาทันที นํ้าซุปสีครีมสวยงามและไม่ค่อยมันเมื่อเทียบกับร้านอื่น ไม่รีรือช้า จัดแจงโบกกระเทียมลงชาม ข้อดีของที่นี่ก็คือกระเทียมบดนั้นใส่ได้ไม่อั้น อันนี้ถูกใจจริงๆ เพราะอย่างที่บอกไปว่ากระเทียมนั้นเป็นตัวเสริมให้ทงคตสึราเม็งอร่อยยิ่งขั้น จากนั้นก็บรรจงทาน เริ่มจากซุปก่อน ซุปของที่นี่มีรสอ่อนกว่าของอิจิรันอยู่ระดับหนึ่ง แต่รสที่อ่อนของมันก็แฝงด้วยรสชาติอื่นๆ อีกมายมาย ซดง่ายคล่องคอกำลังดีเลย ส่วนเส้นนั้นก็ออกมาแข็งดีใช้ได้เลย สรุปแล้วส่วนตัวผมชอบร้านนี้มากกว่าอิจิรันอยู่ประมาณหนึ่งเลย
มาต่อกันด้วยร้านราเม็งที่หน้าร้านดูโก้เก๋สวยดีกันต่อ กับร้านที่มีชื่อว่า Rokunoya ซึ่งร้านนี้ก็เป็นร้านทงคตสึราเม็งชื่อดังของที่คิตะคิวชูเหมือนกัน ไม่รีรอช้า เปิดประตูบุกเข้าไปเลยดีกว่า
กางเมนูออกมาดูก็เป็นทงคตสึเด่นหราออกมาเลยทีเดียวที่หน้าซ้าย ทั้งสามอย่างนั้นเป็นทงคตสึเหมือนกัน ต่างกันที่ความเข้มข้น และมีเมนูนึงมีผักใส่เหมือนกับจัมปงนั่นเอง (ที่นี่มีจัมปงขายด้วย ที่เมนูด้านขวา) ก็เลยสั่งแบบไทยสไตล์ เอาที่มันรสเข้มสุด และเลือกลวกเส้นแบบเข็ง ยังคงปรับนํ้าซุปไม่ได้อยู่ดี เพราะทางร้านเขาก็ภาคภูมิใจในการนำเสนอนํ้าซุปของเขาอย่างเต็มที่
แต่แต๊นนนน อันนี้ออกมาหน้าตาสีสันดูดีกว่าใครเพื่อนเลย ตัวซุปมีความมันพอควรและมีนํ้ามันกระเทียมใส่มาด้วย ตัวนํ้าซุปมีรสชาติที่อ่อนกว่าอิจิรันเล็กน้อย และก็ได้นํ้ามันกระเทียมมาเสริมให้มีรสชาติมาความแปลกใหม่กว่าซุปกระดูกหมูปกติแถมมีงาให้ใส่เพิ่มด้วย ส่วนเส้นก็ลวกได้แข็งกำลังดี โดยรวมแล้วชอบมากกว่าอิจิรัน แต่ก็ยังเป็นรองอิปเปอยู่บ้าน
ความคลาสสิคของการที่มาเที่ยวญี่ปุ่นอย่างหนึ่งก็คือการมาทานอาหารที่ร้านข้างทางหรือว่า ยะไต นี่แหละ ซึ่งร้านประเภทนี้มีขายหลายๆ อย่างแตกต่างกันออกไป แต่ที่ยอดฮิตเลยก็คือโอเด้งและราเม็งนี่แหละจ้า ที่เมืองคิตะคิวชูยามคํ่าคืนที่หน้าตลาดทังกะ เราก็ได้พบกับร้านราเม็งข้างทางแล้วก็พบว่ามันเป็นทงคตสึราเม็ง ของดีเด่นแห่งคิวชูก็เลยไม่พลาดที่จะลุยเข้าไป
ถึงว่าจะเป็นร้านข้างทางไม่ได้มีโต๊ะเก้าอี้ดูดีหรูหรา แต่เรื่องรสชาตินั้นตัดสินจากภายนอกไม่ได้ (ราคาด้วย 5555) ก็เลยจัดแจงบรรจงสั่งมาซะหน่อย หน้าตาก็อย่างที่เห็นนี่ล่ะจ้า เป็นทงคตสึราเม็งรสชาติแท้ๆ ของคิวชู แต่ว่านํ้าซุปออกแนวมันย่องไปหน่อยตามสไตล์ล่ะจ๊ะ รสชาติไม่จัดไม่เค็มจนเกินไปจนไม่รู้สึกถึงรสชาติที่ซ่อนลึกอยู่ เผลอแปปเดียวก็หมดชามซะแล้ว แต่จะให้เบิ้ลก็คงไม่ไหวกลัวจะเลี่ยนเอาซะก่อน รสชาติโดยรวมถือว่าดีงามมากๆ ให้เทียบเท่าร้านอิปเปเลยล่ะ
ไม่ใช่ว่าการแสวงหาร้านราเม็งอร่อยนี้จะราบรื่นตั้งแต่ต้นยังจบ แต่เรายังพบกับความแป็กเหมือนกันกับร้านราเม็งร้านนี้ เห็นเปิดดึกมีคนทานพอสมควร ก็เลยแทงหวยไปว่าทงคตสึราเม็งจะต้องเด็ดดวงแน่ๆ
แท่มแท้ม พอเปิดปั๊กกะตูนั่งเก้าอี้เสร็จสรรพ ก็ต้องมาพบกับความจริงอันน่าเศร้าว่า ที่นี่ไม่มีทงคตสึราเม็ง ของดีแดนคิวชูนะจ๊ะ มีแต่มิโสะและโชยุเท่านั้นเอง ก็พอจะเข้าใจว่าคงมีบางคนที่เบื่อทงคตสึจะแย่แล้ว ประมาณว่าทานมาตั้งแต่เด็กแถมร้านก็มีมากมาย ก็เลยเปลี่ยนบรรยากาศซะหน่อย แหม่ จะออกจากร้านไปก็ใช่ที เกรงใจนิดนึง ก็เลยสั่งมิโสะราเม็งมาทานสักหน่อย ถ้าพูดในแง่ของมิโสะราเม็งแล้วร้านนี้ก็ถือว่าอร่อยเลยนะ ซุปกลมกล่อมและหอมมากๆ หาทานในไทยได้ยากอยู่ แต่ว่ามันไม่ใช่ทงคตสึราเม็ง ก็เลยเป็นอันต้องฟาล์วกันไปนะจ๊ะ
หากใครได้ไปเที่ยวที่คิตะคิวชู ก็อย่าลืมไปแวะเวียนล่ะ ไม่ต้องที่คิตะคิวชูที่เดียวก็ได้ เพราะว่าที่เกาะคิวชูก็ยังมีร้านทงคตสึราเม็งแสนอร่อยอีกมากมายให้ทุกท่านได้ไปลิ้มรสชาติของเกาะทางใต้กันได้เลย
1. อิจิรัน ราเม็ง Ichiran Ramen
สุดยอดร้านโคตรฮิตติดอันดับที่ชาวไทยหลั่งไหลไปทานกันเป็นจำนวนมาก สำหรับร้านอิจิรันหรือที่เรียกกันติดปากว่าราเม็งข้อสอบ ซึ่งในเมืองคิตะคิวชูนี้ก็มีสาขาของอิจิรันมาเปิดให้ได้ลิ้มรสความอร่อยกันด้วย แน่นอนว่าทีเด็ดของร้านอิจิรันก็คือทงคตสึราเม็งนี่แหละ แต่ลงลึกถึงแก่แท้จริงๆ แล้วจะไม่ใช่ราเม็งทงคตสึแบบต้นตำรับ แต่เป็นทงคตสึราเม็งที่มีการวิวัฒนาการเป็นราเม็งสมัยใหม่ มีรสชาติที่ต่างจากตำรับดั้งเดิมและเข้มข้น ติดลิ้นติดปากคนได่ง่ายกว่านั่นเอง
ด้วยความที่เป็นราเม็งสมัยใหม่ มันก็มีจุดดีงามตรงที่คุณลูกค้าสามารถปรับแต่งราเม็งตามที่ชอบได้ในหลายๆ อย่างราวกับว่าเซ็ตรถก่อนออกแข่งเลยทีเดียว นั่นก็คือความเข้มข้นของซุป, ความมัน, เลือกปริมาณกระเทียมหรือต้นหอมได้ รวมไปถึงซอสแดงและความแข็งของเส้นได้อีกต่างหาก ต่างจากร้านปกติที่ทำมายังไงคุณก็ต้องกินแบบนั้น ปรับได้อย่างมากก็ความมันแล้วก็ความแข็งของเส้น อันนี้ก็สูตรใครสูตรมันละจ้า
การทานทงคตสึราเม็งให้อร่อยนั้น ควรจะให้ลวกเส้นแข็งหน่อย เพราะเส้นราเม็งของทงคตสึราเม็งมีเส้นผอมบางอยู่แล้ว จะทำให้อร่อยขึ้นมากเลยทีเดียว รวมถึงกระเทียมนั้นเป็นสิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลย เพราะมันจะเติมความกลมกล่อมให้กับซุปมากยิ่งขึ้น
2. อิปเป Ippei
จากร้านอิจิรัน เราก็มาสู่ร้านที่เป็นคงคตสึตำรับออริจินอลกันบ้าง กับร้านที่มีชื่อว่า อิปเป ตกแต่งแลดูไม่หวือหวาไฮโซเหมือนร้านอื่น ออกแนวแบบบ้านๆ แต่ภายในร้านก็สะอาดสะอ้านและที่สำคัญก็คือทงคตสึราเม็งของที่นี่อร่อยมากๆ เลยล่ะ
ตอนที่สั่งเขาก็จะถามเราแค่เรื่องความแข็งของเส้นเท่านั้นเอง ว่าจะเอานิ่มหรือแข็ง ไม่ได้มีมิกซ์แอนด์แมตช์เหมือนกับทงคตสึราเม็งสมัยใหม่เพราะว่ามันจะไม่ได้รสชาติต้นตำรับ ก็เลยสั่งเส้นแข็งไปเพราะว่ามันอร่อยกว่า (อันนี้ย้ำอีกครั้งว่าแล้วแต่คนชอบ) ใช้เวลาแปปเดียวก็มาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ
แต่นเแต้น เห็นภาพแรกก็รู้สึกน่าทานขึ้นมาทันที นํ้าซุปสีครีมสวยงามและไม่ค่อยมันเมื่อเทียบกับร้านอื่น ไม่รีรือช้า จัดแจงโบกกระเทียมลงชาม ข้อดีของที่นี่ก็คือกระเทียมบดนั้นใส่ได้ไม่อั้น อันนี้ถูกใจจริงๆ เพราะอย่างที่บอกไปว่ากระเทียมนั้นเป็นตัวเสริมให้ทงคตสึราเม็งอร่อยยิ่งขั้น จากนั้นก็บรรจงทาน เริ่มจากซุปก่อน ซุปของที่นี่มีรสอ่อนกว่าของอิจิรันอยู่ระดับหนึ่ง แต่รสที่อ่อนของมันก็แฝงด้วยรสชาติอื่นๆ อีกมายมาย ซดง่ายคล่องคอกำลังดีเลย ส่วนเส้นนั้นก็ออกมาแข็งดีใช้ได้เลย สรุปแล้วส่วนตัวผมชอบร้านนี้มากกว่าอิจิรันอยู่ประมาณหนึ่งเลย
3. โรคุโนะยะ Rokunoya
มาต่อกันด้วยร้านราเม็งที่หน้าร้านดูโก้เก๋สวยดีกันต่อ กับร้านที่มีชื่อว่า Rokunoya ซึ่งร้านนี้ก็เป็นร้านทงคตสึราเม็งชื่อดังของที่คิตะคิวชูเหมือนกัน ไม่รีรอช้า เปิดประตูบุกเข้าไปเลยดีกว่า
กางเมนูออกมาดูก็เป็นทงคตสึเด่นหราออกมาเลยทีเดียวที่หน้าซ้าย ทั้งสามอย่างนั้นเป็นทงคตสึเหมือนกัน ต่างกันที่ความเข้มข้น และมีเมนูนึงมีผักใส่เหมือนกับจัมปงนั่นเอง (ที่นี่มีจัมปงขายด้วย ที่เมนูด้านขวา) ก็เลยสั่งแบบไทยสไตล์ เอาที่มันรสเข้มสุด และเลือกลวกเส้นแบบเข็ง ยังคงปรับนํ้าซุปไม่ได้อยู่ดี เพราะทางร้านเขาก็ภาคภูมิใจในการนำเสนอนํ้าซุปของเขาอย่างเต็มที่
แต่แต๊นนนน อันนี้ออกมาหน้าตาสีสันดูดีกว่าใครเพื่อนเลย ตัวซุปมีความมันพอควรและมีนํ้ามันกระเทียมใส่มาด้วย ตัวนํ้าซุปมีรสชาติที่อ่อนกว่าอิจิรันเล็กน้อย และก็ได้นํ้ามันกระเทียมมาเสริมให้มีรสชาติมาความแปลกใหม่กว่าซุปกระดูกหมูปกติแถมมีงาให้ใส่เพิ่มด้วย ส่วนเส้นก็ลวกได้แข็งกำลังดี โดยรวมแล้วชอบมากกว่าอิจิรัน แต่ก็ยังเป็นรองอิปเปอยู่บ้าน
4. ร้านข้างทาง (ยะไต) หน้าตลาดทังกะ
ความคลาสสิคของการที่มาเที่ยวญี่ปุ่นอย่างหนึ่งก็คือการมาทานอาหารที่ร้านข้างทางหรือว่า ยะไต นี่แหละ ซึ่งร้านประเภทนี้มีขายหลายๆ อย่างแตกต่างกันออกไป แต่ที่ยอดฮิตเลยก็คือโอเด้งและราเม็งนี่แหละจ้า ที่เมืองคิตะคิวชูยามคํ่าคืนที่หน้าตลาดทังกะ เราก็ได้พบกับร้านราเม็งข้างทางแล้วก็พบว่ามันเป็นทงคตสึราเม็ง ของดีเด่นแห่งคิวชูก็เลยไม่พลาดที่จะลุยเข้าไป
ถึงว่าจะเป็นร้านข้างทางไม่ได้มีโต๊ะเก้าอี้ดูดีหรูหรา แต่เรื่องรสชาตินั้นตัดสินจากภายนอกไม่ได้ (ราคาด้วย 5555) ก็เลยจัดแจงบรรจงสั่งมาซะหน่อย หน้าตาก็อย่างที่เห็นนี่ล่ะจ้า เป็นทงคตสึราเม็งรสชาติแท้ๆ ของคิวชู แต่ว่านํ้าซุปออกแนวมันย่องไปหน่อยตามสไตล์ล่ะจ๊ะ รสชาติไม่จัดไม่เค็มจนเกินไปจนไม่รู้สึกถึงรสชาติที่ซ่อนลึกอยู่ เผลอแปปเดียวก็หมดชามซะแล้ว แต่จะให้เบิ้ลก็คงไม่ไหวกลัวจะเลี่ยนเอาซะก่อน รสชาติโดยรวมถือว่าดีงามมากๆ ให้เทียบเท่าร้านอิปเปเลยล่ะ
แป๊กหนึ่งที่กับร้านที่ไม่มีทงคตสึราเม็ง
ไม่ใช่ว่าการแสวงหาร้านราเม็งอร่อยนี้จะราบรื่นตั้งแต่ต้นยังจบ แต่เรายังพบกับความแป็กเหมือนกันกับร้านราเม็งร้านนี้ เห็นเปิดดึกมีคนทานพอสมควร ก็เลยแทงหวยไปว่าทงคตสึราเม็งจะต้องเด็ดดวงแน่ๆ
แท่มแท้ม พอเปิดปั๊กกะตูนั่งเก้าอี้เสร็จสรรพ ก็ต้องมาพบกับความจริงอันน่าเศร้าว่า ที่นี่ไม่มีทงคตสึราเม็ง ของดีแดนคิวชูนะจ๊ะ มีแต่มิโสะและโชยุเท่านั้นเอง ก็พอจะเข้าใจว่าคงมีบางคนที่เบื่อทงคตสึจะแย่แล้ว ประมาณว่าทานมาตั้งแต่เด็กแถมร้านก็มีมากมาย ก็เลยเปลี่ยนบรรยากาศซะหน่อย แหม่ จะออกจากร้านไปก็ใช่ที เกรงใจนิดนึง ก็เลยสั่งมิโสะราเม็งมาทานสักหน่อย ถ้าพูดในแง่ของมิโสะราเม็งแล้วร้านนี้ก็ถือว่าอร่อยเลยนะ ซุปกลมกล่อมและหอมมากๆ หาทานในไทยได้ยากอยู่ แต่ว่ามันไม่ใช่ทงคตสึราเม็ง ก็เลยเป็นอันต้องฟาล์วกันไปนะจ๊ะ
หากใครได้ไปเที่ยวที่คิตะคิวชู ก็อย่าลืมไปแวะเวียนล่ะ ไม่ต้องที่คิตะคิวชูที่เดียวก็ได้ เพราะว่าที่เกาะคิวชูก็ยังมีร้านทงคตสึราเม็งแสนอร่อยอีกมากมายให้ทุกท่านได้ไปลิ้มรสชาติของเกาะทางใต้กันได้เลย