ปลาปักเป้าที่ปลาที่หลายคนยังรู้สึกกลัวที่จะทานกันอยู่ เพราะมันเป็นปลาที่มีพิษร้ายแรง ทำเอาชาวไทยบางคนถึงกับเสียชีวิตมาแล้วอันเนื่องมาจากการขาดความรู้ความเข้าใจ แต่ประเทศญี่ปุ่นเขาก็ทานกันเป็นเรื่องปกติ เพราะว่าเขามีวิธีในการปรุง และคนที่จะปรุงจะต้องมีใบอนุญาติอย่างที่หลายๆ คนรู้กัน (แต่ก็เข้าใจนะ ว่าบางคนก็ยังรู้สึกไม่ปลอดภัยถึงแม้ว่าจะทานที่ญี่ปุ่น) แต่ทว่าก็มีหลายคนที่ติดใจในรสชาติของเจ้าปลาชนิดนี้ วันนี้เราก็จะมาพูดถึงแหล่งปลาปักเป้าที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น ทั้งอร่อยและราคาถูก เผื่อมิตรรักแฟนเพลงจะได้ตามรอยไปทาน ได้แก่ที่ชิโมโนะเซกินั่นเอง ชะเองเอยยย
ชิโมโนะเซกิ เป็นเมืองติดทะเลที่อยู่ทางใต้ของจังหวัดยามะงุจิและอยู่ใต้สุดของเกาะฮอนชู ซึ่งจับปลาปักเป้าได้มากที่สุดในญี่ปุ่นจนเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ไปแล้วและได้รับสมญานามว่าเป็นศูนย์กลางแห่งปลาปักเป้าของโลก มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากหลากหลายจังหวัดในญี่ปุ่นรวมถึงชาวต่างชาติเดินทางมาเพื่อทานปลาปักเป้าของที่นี่ โดยเฉพาะที่ตลาดปลาคาราโตะ ที่อยู่ใต้สุดติดกับช่องแคบคันมง (ซึ่งถ้านั่งเรือข้ามไปก็เป็นเมืองคิตะคิวชูแล้ว) ที่มีปลาปักเป้าสดๆ ที่จับได้มาวางจำหน่าย และก็มีร้านขายเมนูปลาปักเป้าอยู่มากมาย ต้องใช้คำว่าหลายสิบร้านเลย
การที่จะนำปลาปักเป้ามาปรุงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเชฟต้องมีใบอนุญาตในการปรุงปลาปักเป้า โดยก่อนที่จะคว้าใบอนุญาตมาครอบครองได้ เชฟเหล่านี้ต้องฝึกฝนอยากหนักเป็นเวลานับปีและมีการสอบใบอนุญาติที่เข้มงวดมากๆ ในแต่ละครั้งจะมีผู้ที่สอบผ่านเฉลี่ยอยู่เพียงแค่ 30% ของผู้เข้าสอบทั้งหมด เพราะชีวิตคนไม่ในเรื่องที่จะมาล้อเล้น และถ้าเกิดมีคนเสียชีวิตจากการทานอาหารที่ร้าน อันนี้บอกเลยว่าเรื่องใหญ่มากๆ
สำหนับเมนูปลาปักเป้านั้นก็มีอยู่หลากหลาย แต่ที่ยอดนิยมที่สุดเลยก็คือซาชิมิปลาปักเป้านี่แหละ โดยเชฟจะนำมาแล่บางๆ ต่างจากซาชิมิอื่นๆ เพราะว่าเนื้อปลาปักเป้ามีเส้นไยและมีความเหนียวมากกว่าอื่นๆ ในเมื่อทำเป็นซาชิมิได้แล้วก็สามารถนำมาทำเป็นซูชิได้เช่นเดียวกัน
ต่อมาก็เป็นปลาปักเป้าทอดที่ทอดในนํ้ามันร้อนๆ จนผิวด้านนอกกรอบแต่ยังมีความชุ่มฉ่ำอยู่
อีกอย่างหนึ่งก็คือหม้อไฟ Fugu Chirinabe ที่จะนำเนื้อปลาปักเป้าไปต้มกับผักต่างๆ
นอกจากนี้ ก็ยังมีเมนูอีกมากมายให้ได้ลิ้มลองกันอีกเพียบ เรียกว่าไม่ว่าร้านไหนๆ ในเมืองชิโมโนะเซกิ ก็มักจะมีปลาปักเป้าให้ทานกันซะส่วนใหญ่ ใครที่อยากมาลองทานดูสักครั้งในชีวิต ถ้าได้มาเที่ยวญี่ปุ่นก็ลองแวะเวียนมาที่ชิโมโนะเซกิได้ ซึ่งอันนี้ผู้เขียนก็ขอยํ้าอีกครั้งว่า ไม่ปลอดภัย 100% ใครที่อยากไปทานก็ต้องยอมรับในความเสี่ยงด้วย
การเดินทางมายังชิโมโนะเซกิ
นั่งรถไฟสาย San'yo Main Line หรือ San'yō Shinkansen ลงที่สถานี Shin-Shimonoseki
นั่งเรือข้ามฟากจากสถานี Moji ที่คิตะคิวชู สะดวกสำหรับคนที่ไปเที่ยวแถบคิวชู
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
www.taichisika.com
www.fugusashi.com
www.mita-yamadaya.co.jp
www.uotetsu.co.jp
http://www.fukushihoken.metro.tokyo.jp/shokuhin/hugu/
ชิโมโนะเซกิ เป็นเมืองติดทะเลที่อยู่ทางใต้ของจังหวัดยามะงุจิและอยู่ใต้สุดของเกาะฮอนชู ซึ่งจับปลาปักเป้าได้มากที่สุดในญี่ปุ่นจนเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ไปแล้วและได้รับสมญานามว่าเป็นศูนย์กลางแห่งปลาปักเป้าของโลก มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากหลากหลายจังหวัดในญี่ปุ่นรวมถึงชาวต่างชาติเดินทางมาเพื่อทานปลาปักเป้าของที่นี่ โดยเฉพาะที่ตลาดปลาคาราโตะ ที่อยู่ใต้สุดติดกับช่องแคบคันมง (ซึ่งถ้านั่งเรือข้ามไปก็เป็นเมืองคิตะคิวชูแล้ว) ที่มีปลาปักเป้าสดๆ ที่จับได้มาวางจำหน่าย และก็มีร้านขายเมนูปลาปักเป้าอยู่มากมาย ต้องใช้คำว่าหลายสิบร้านเลย
ที่แถวตลาดคาราโตะ ร้านที่ขายเมนูปลาปักเป้าแบบว่าหลับตาเดินยังเจอ แถมตกแต่งด้วยโคมกระดาษน่ารักๆ
ในตลาดมีซาชิมิปลาปักเป้าเพียบ
การที่จะนำปลาปักเป้ามาปรุงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเชฟต้องมีใบอนุญาตในการปรุงปลาปักเป้า โดยก่อนที่จะคว้าใบอนุญาตมาครอบครองได้ เชฟเหล่านี้ต้องฝึกฝนอยากหนักเป็นเวลานับปีและมีการสอบใบอนุญาติที่เข้มงวดมากๆ ในแต่ละครั้งจะมีผู้ที่สอบผ่านเฉลี่ยอยู่เพียงแค่ 30% ของผู้เข้าสอบทั้งหมด เพราะชีวิตคนไม่ในเรื่องที่จะมาล้อเล้น และถ้าเกิดมีคนเสียชีวิตจากการทานอาหารที่ร้าน อันนี้บอกเลยว่าเรื่องใหญ่มากๆ
แต่ถึงขณะนั้นที่ญี่ปุ่นก็ยังมีผู้ป่วยและเสียชีวิตจากการทานปลาปักเป้าอยู่ ดังนั้นจึงบอกได้เต็มปากว่า ไม่ปลอดภัย 100% ใครที่อยากไปทานก็ต้องยอมรับในความเสี่ยงด้วย
ข้อมูลย้อนหลัง 10 ปีตั้งแต่ 2004 - 2014 ทั่วประเทศมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 11 ราย และอาหารเป็นพิษอีกนับร้อย
สำหนับเมนูปลาปักเป้านั้นก็มีอยู่หลากหลาย แต่ที่ยอดนิยมที่สุดเลยก็คือซาชิมิปลาปักเป้านี่แหละ โดยเชฟจะนำมาแล่บางๆ ต่างจากซาชิมิอื่นๆ เพราะว่าเนื้อปลาปักเป้ามีเส้นไยและมีความเหนียวมากกว่าอื่นๆ ในเมื่อทำเป็นซาชิมิได้แล้วก็สามารถนำมาทำเป็นซูชิได้เช่นเดียวกัน
ต่อมาก็เป็นปลาปักเป้าทอดที่ทอดในนํ้ามันร้อนๆ จนผิวด้านนอกกรอบแต่ยังมีความชุ่มฉ่ำอยู่
อีกอย่างหนึ่งก็คือหม้อไฟ Fugu Chirinabe ที่จะนำเนื้อปลาปักเป้าไปต้มกับผักต่างๆ
นอกจากนี้ ก็ยังมีเมนูอีกมากมายให้ได้ลิ้มลองกันอีกเพียบ เรียกว่าไม่ว่าร้านไหนๆ ในเมืองชิโมโนะเซกิ ก็มักจะมีปลาปักเป้าให้ทานกันซะส่วนใหญ่ ใครที่อยากมาลองทานดูสักครั้งในชีวิต ถ้าได้มาเที่ยวญี่ปุ่นก็ลองแวะเวียนมาที่ชิโมโนะเซกิได้ ซึ่งอันนี้ผู้เขียนก็ขอยํ้าอีกครั้งว่า ไม่ปลอดภัย 100% ใครที่อยากไปทานก็ต้องยอมรับในความเสี่ยงด้วย
การเดินทางมายังชิโมโนะเซกิ
นั่งรถไฟสาย San'yo Main Line หรือ San'yō Shinkansen ลงที่สถานี Shin-Shimonoseki
นั่งเรือข้ามฟากจากสถานี Moji ที่คิตะคิวชู สะดวกสำหรับคนที่ไปเที่ยวแถบคิวชู
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
www.taichisika.com
www.fugusashi.com
www.mita-yamadaya.co.jp
www.uotetsu.co.jp
http://www.fukushihoken.metro.tokyo.jp/shokuhin/hugu/