
ถ้าพูดถึงคิวชูที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น หลายคนอาจจะนึกถึงแค่คิวชูจริงๆ หรือว่าอาจจะนึกถึงฟุกุโอกะแค่จังหวัดเดียว แต่จริงๆ แล้วยังมีสิ่งที่น่าสนใจอยู่อีกมากมาย ทั้งศิลปะ วัฒนธรรม และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แถมยังสามารถเช่ารถขับเพื่อไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างง่ายดายเลยล่ะ หนึ่งในนั้นก็คือจังหวัด ซากะ (Saga) ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะคิวชูและอยู่ติดกับจังหวัดฟุกุโอกะทางตอนใต้ ในวันนี้ผมจะขอแนะนำวิธีการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงของกินถูกปากที่คุณไม่ควรพลาดหากได้มาเยือนจังหวัดซากะแห่งนี้ครับ
แหล่งที่มา : https://en.wikipedia.org/wiki/Saga_Prefecture
เมื่อท่านเดินทางมาถึงสนามบินฟุกุโอกะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านสามารถขึ้นรถไฟใต้ดินมายัง สถานีฮากาตะ (博多駅) ซึ่งถือว่าเป็นสถานีศูนย์กลางที่มีขนาดใหญ่ในจังหวัดฟุกุโอกะ หลังจากนั้นทำการเช่ารถและเราจะเริ่มทริปกันจากสถานีแห่งนี้
สถานีฮากาตะ
ประชาสัมพันธ์
หากท่านมีปัญหาหรือต้องการสอบถามข้อสงสัยท่านสามารถตรงไปที่เคาน์เตอร์สอบถามข้อมูลซึ่งมีอยู่หลายจุดภายในสถานี โดยพี่ๆ เจ้าหน้าที่ของสถานีสามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ซึ่งใจดีมากๆ ครับ ไม่ต้องกลัวหากมีปัญหาหรือข้อสงสัยอะไร
หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยก็ตรงไปที่รถของเราเลยครับเก็บสัมภาระให้เรียบร้อยเตรียมพร้อมลุยกันเลยครับ เรื่องใบขับขี่ที่สามารถใช้ได้ต้องใช้เป็นใบขับขี่สากลนะครับ ซึ่งหากท่านมีใบขับขี่รถยนต์ของประเทศไทยอยู่แล้วท่านสามารถไปทำเรื่องขอใบอนุญาตขับขี่สากลได้ที่กรมขนส่งทางบกหมอชิตโทร 1584 อ้อถ้าได้ใบขับขี่มาแล้วก็อย่าลืมพกใบขับขี่ติดตัวตลอดเวลาด้วยนะครับ โดยรถที่ให้เช่าก็มีหลากหลายแบบหลายราคาท่านสามารถเลือกได้ตามความสะดวกและความเหมาะสมเลยครับ และนี่คือรถที่เราจะใช้ในการเดินทางวันนี้
ก่อนอื่นหลังจากเก็บสัมภาระเรียบร้อย ก็มาตั้งค่า GPS ของรถกันเลย โดยที่รถเกือบทุกคนในประเทศญี่ปุ่นจะมีระบบนำทาง GPS ติดตั้งไว้ ไม่ว่ารถจะราคาแพงหรือถูก ไม่เหมือนบ้านเรานะครับ แหะๆ โดยท่านสามารถตั้งค่าหาสถานที่ได้จากเมนูซึ่งใช้งานง่ายมากเพราะมีรูปขนาดใหญ่ ท่านสามารถหาสถานที่ได้จาก ชื่อสถานที่ เบอร์โทรศัพท์ สถานที่ใกล้เคียง หรือจะเป็นการกำหนดจุดหมายปลายทางเอง โดยจุดหมายแรกที่เราจะไปคือ ตลาดเช้าโยบุโกะอาสะอิจิ (呼子朝市) ซึ่งเป็นตลาดที่ขายอาหารทะเลของเมือง โยบุโกะ จังหวัดซากะครับ โดนท่านสามารถพิมพ์ชื่อ “Yobukoasaichi” ไปใน GPS ได้เลย และกดเริ่มนำทางได้เลยครับ
วันนี้มีฝนตกพรำๆแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคของเราครับ ระบบนำทาง GPS ในรถของญี่ปุ่นนั้นจะละเอียดและสามารถนำทางให้ท่านไปถึงจุดหมายได้ง่ายดายด้วยการแจ้งเตือนทุกๆ การเลี้ยวและทุกๆ แยก ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะหลงทาง รวมถึงบอกระยะเวลาที่จะไปถึงจุดหมายและการจราจรอีกด้วย
ขับมาเรื่อยๆโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง นิดๆ ก็มาถึงกันที่เมืองโยบุโกะ เป็นเมืองติดทะเล อากาศดีมากครับ
โดยท่านสามารถหาที่จอดรถได้ภายในบริเวณนั้นโดยจะมีลานกว้างและมีเครื่องให้ท่านกดรับบัตรซึ่งเป็นใบกระดาษคล้ายตั๋วเพื่อที่จะคิดเงินตอนเราออกจากที่จอดรถครับ หลังจากจอดเสร็จตอนขาออกท่านก็นำกระดาษสอดและเครื่องจะคำนวณค่าใช้จ่ายและท่านจะต้องหยอดเงินตามจำนวนและแผงกั้นจะเปิดให้โดยอัตโนมัติครับ
ตลาดโยบุโกะอาสะอิจิแห่งนี้ นี้มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีอาหารทะเลที่สดและท่านสามารถรับประทานได้ทันที อันไหนน่าทานก็ซัดได้เลย ท่านที่โปรดปรานอาหารทะเลสดๆ อย่างเช่น ไข่หอยเม่น ปลาหมึก ปลาอาราคาบุ และของฝากต่างๆ ไม่ควรพลาดเลยทีเดียวเชียว
คุณลุงคุณป้าคนขายส่วนใหญ่ใจดีและเป็นกันเองมากๆ ครับ พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ไม่ใช่ปัญหา ไม่ซื้อไม่เป็นไรลองชิมดู ใช้ภาษามือคุยกันก็เป็นประสบการณ์อีกแบบ หลายคนอาจจะงงว่า อ่าว อาหารทะเลสดๆ แบบนี้จะทานกันยังไง ไม่ต้องห่วงจ้า เดินไปอีกนิดท่านจะเจอร้านให้บริการเช่า BBQ Set ซึ่งท่านสามารถซื้ออาหารทะเลและนำไปปิ้งเป็นบาร์บีคิวและทานกันแบบสดๆ ได้เวลานั้นด้วยนะครับ บอกเลย เพลิน
ทั้งอุนิ หอยซาซาเอะ เพียบ (หอยซาซาเอะนำไปเผาทาน อร่อยมากๆ)
เหล่าร้านค้าเรียงรายเป็นจำนวนมาก งานนี้ไม่ต้องกลัวไม่อิ่มล่ะ
สถานที่เช่า BBQ Set ซื้อของทะเลมาปุ๊ป นั่งปิ้งทานกันสดๆ ได้เลย
ตามข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านขายของฝากจำนวนมากซึ่งของยอดฮิตก็คือผลิตภัณฑ์จากปลาหมึก ที่เห็นคนซื้อกันเยอะก็คือ อิกะชูมาย (いかしゅうまい) ซึ่งมีลักษณะกลมๆ สีขาว ทำจากเนื้อปลาหมึกบด รสชาติเข้มข้น อร่อยมาก เดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอร้านขายไข่หอยเม่นหลายร้านเลยทีเดียว เลือกมาหนึ่งร้านลองชิมสดๆ กันไปเลยครับ โดยที่คุณลุงคุณป้าจะหยิบหอยขึ้นมาสดๆ และตักเนื้ออกมาให้เราทานกับมือเลยทีเดียว ทั้งสดทั้งอร่อยเลิศแบบไม่ต้องจิ้มอะไรทั้งนั้นเลยครับ
เลือกแล้วแคะกันสดๆ ไปเลย ตัวเดียวเขาก็ขายนะ
ทานกันแบบนี้เลยครับ อร่อยแบบง่ายๆ
หลังจากลองทานซื้อขนมของฝากกันพอหอมปากหอมคอแล้ว เราก็จะเดินทางไปขึ้นเรือนำเที่ยวซึ่งจะพาไปที่ นานัทสึกามะ (ななつがま) ซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็กซึ่งมีลักษณะ รูปร่างแตกต่างจากเกาะทั่วไปและมีความสวยงาม โดยก่อนอื่นท่านต้องไปซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์ครับโดยมีใบปลิวเป็นภาษาอังกฤษอีกด้วยสามารถหยิบมาอ่านได้ฟรีครับ
หลังจากซื้อตั๋วเรียบร้อย อ่าวยังไม่ถึงเวลาเรือออกเลย ทำอะไรดีน้า ระหว่างรอเวลาท่านสามารถไปให้อาหารปลาได้ที่บริเวณหลังอาคารเทียบเรือครับ โดยมีค่าซื้อกุ้งสำหรับเป็นอาหารปลา 100 เยน
พอได้เวลาก็เตรียมตัวขึ้นเรือได้เลยครับ สำหรับท่านที่เมาเรืออย่าลืมเตรียมยาดม ยาลม ยาหม่องไปด้วยนะครับ แต่ภายในเรือมีบริการถุงดำไว้ให้เรียบร้อยครับไม่ต้องเป็นกังวล และนี่คือเรือที่เราจะใช้บริการวันนี้ครับ
หลังจากขึ้นเรือเรียบร้อย ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ระหว่างทางก็ได้ชมวิวทะเลและเกาะเล็กใหญ่ระหว่างทางครับ
วันที่เดินทางคลื่นลมค่อนข้างแรง แต่ไม่ต้องกังวลเพราะพี่คนขับชำนาญเส้นทาง ใจดี แถมพูดเก่งอีกด้วย ระหว่างทางได้รับความรู้จากพี่คนขับ ชมวิวเกาะมากมาย และเราก็ได้เดินทางมาถึงจุดหมายกันแล้วนะครับ
ถ้ำที่ท่านเห็นแห่งนี้เป็นจากธรรมชาติที่เกิดจากหินบะซอลต์ มีทั้งหมด 8 ช่อง เป็นเกาะถ้ำที่เกิดมากว่า 100 ปี โดยเริ่มจากการมีรูทะลุเพียงแค่ 4 รู แต่จากการกัดเซาะของน้ำทะเลทำให้เกิดรูโหว่เพิ่มเป็น 8 รู การเดินทางครั้งนี้ใช้บริการด้วยเรือค่อนข้างใหญ่ทำให้ไม่สามารถลอดไปดูภายในถ้ำได้แต่หากเป็นเรือพายเล็กจะสามารถลอดช่องเข้าไปดูความสวยงามภายในได้ครับ
ท่านสามารถเดินออกมาด้านหน้าเรือและชมกับความสวยงามได้โดยพี่คนขับเรือจะอธิบายและให้เวลาค่อนข้างมากเพื่อเก็บภาพความประทับใจครับ พอถ่ายภาพกันพอสมควรแล้วพี่คนขับเรือจะพาขับวนรอบเกาะและกลับฝั่งครับใช้เวลาทั้งสิ้นประมานหนึ่งชั่วโมงครับ
พอถึงฝั่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลายๆ ท่านคงเริ่มหิวท้องร้องกันแล้ว จุดหมายต่อไปเราจะไปทานมื้อกลางวันกันครับ โดยร้านที่เราจะไปเป็นร้านดัง ตั้งอยู่ติดทะเลโดยมีชื่อร้านว่า “ไซโคเต” (さいこうてい) ครับ ท่านสามารถพิมพ์ลงไปใน GPS ได้เลย และเริ่มเดินทางใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีครับ
และเราก็เดินทางมาถึงร้านไซโคเตเรียบร้อยแล้วครับ โดยตัวร้านยื่นเข้าไปในทะเลเล็กน้อย ทานอาการพร้อมกับชมวิวเป็นบรรยากาศดีมากครับ
ไปถึงที่ร้านแล้ว ทางร้านจะมีเมนูแนะนำให้ดู ซึ่งเมนูยอดฮิตของร้านนี้ก็คือเมนูปลาหมึกซาซิมิหรือปลาหมึกอิคิสึคุริและไข่หอยเม่น ก็เลยจัดมาเลยครับ
สดจริงๆ แบบตัวยังใสๆ เลย น่าทานไหมครับ แหะๆ ตอนสั่งปลาหมึกซาชิมิ ทางพนักงานจะถามว่าเราต้องการแบ่งเป็นกี่คน ท่านก็สามารถบอกได้ว่าต้องการให้แบ่งเป็นกี่ส่วนครับ โดยที่ปลาหมึกที่นำมาทำซาชิมิจะเป็นปลาหมึกที่สดจากจังหวัดซากะ และที่สำคัญหนวดยังขยับกระดึ้บๆ อยู่เลยครับ สดขนาดนี้ทำให้มีรสชาติที่หวานอร่อยมาก โดยสามารถทานคู่กับโชยุและวาซาบิครับ นอกจากนี้ในเซตอาหารยังมีซุปมิโสะ ปลาหมึกก้อน เกี๊ยวซ่า ขนมหวาน เครื่องเคียง เต็มโต๊ะเลยละครับ หลังจากท่านทานจนอิ่ม แต่ดันบังเอิญทานไม่หมดเพราะว่าได้ในปริมาณที่เยอะมาก ท่านสามารถเรียกพนักงานให้นำปลาหมึกซาชิมิที่เหลือไปทำเป็นเทมปุระทอดได้อีกด้วย
เทมปุระที่ได้จิ้มกับน้ำจิ้มรสออกหวาน อร่อย กรอบนอกนุ่มในมากเลยครับ ทานกันแทบไม่หมดเลยทีเดียว
ตบท้ายด้วยพุดดิ้งครับ สมบูรณ์แบบ อิ่มท้อง พร้อมกับบรรยากาศชายทะเล
หลังจากอิ่มหนำสำราญกันแล้วเราจะเดินทางไปสถานที่ต่อไปเลยครับ นั่นก็คือสวนสาลี่อันดับหนึ่งในจังหวัดซากะ ซึ่งมีชื่อเสียงอย่างมากในญี่ปุ่นเลยล่ะ เพราะสวนที่นี่ทำการส่งออกและขายต่างประเทศรวมถึงภายในประเทศไปยังจังหวัดต่างๆ ครับ โดยสวนแห่งนี้มีชื่อว่า อิมาริชินโควโนเอ็น 伊万里新幸農園) การเดินทางใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงแล้วละครับ เนื่องจากอยู่บนเขา จึงทำให้สถานที่นี้มีอากาศดีมากเลยครับ
โดยสาลี่ภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่า นาชิ (なし) ครับ ซึ่งจะออกผลตลอดปี แต่จะออกมาในช่วงเดือน กรกฎาคม, สิงหาคมและกันยายน ครับ ตอนผมเดินทางคือช่วงเดือนตุลาคมก็ยังมีผลอยู่เต็มต้นเลยทีเดียวครับ โดยที่ไฮไลต์ของสวนแห่งนี้เลยคือท่านสามารถเลือกสาลี่ได้ด้วยตนเองกันถึงต้นเลย โดยที่ทางสวนจะทำการแบ่งว่าแปลงไหนสามารถเด็ดได้แล้วครับ ท่านก็สามารถเด็ดสาลีออกจากขั้วด้วยตัวเองเลย ชอบลูกไหนก็สอยลูกนั้น โดยทางสวนจะมีบริการรถพาท่านไปยังสวนครับ
จะมีคุณลุงใจดีสอนวิธีการเลือกสาลี่และเด็ดสาลี่ด้วยตนเองด้วยนะครับ สนุกสนานได้ความรู้แถมได้สาลี่กลับไปกิน อร่อยหวานหอมชุ่มฉ่ำมากครับ
อวบโตขนาดนี้บอกเลย ลูกเดียวอิ่ม
รถที่นั่งมายังสวนครับ
และนี่คือสาลี่ที่เก็บได้วันนี้ครับ
หลังจากนั้นก็นำสาลี่ที่เก็บมาชั่งน้ำหนักและคิดเงินครับ อันนี้ผมลองชั่งหนึ่งลูกครับ ราคา 399 เยน สำหรับท่านที่ไม่อยากลงไปเก็บเอง ทางสวนก็มีสาลี่มาวางขายเป็นถุงไว้ให้แต่ความสดใหม่ไม่ต่างกันเลยครับ เพราะทางสวนจะเก็บรายวัน ดังนั้นท่านไม่ต้องกังวลว่าจะได้สาลี่เก่าเลยครับ
หลังจากสนุกสนานกับการเก็บสาลี่กันแล้ว เราก็ไปพักผ่อนนั่งสบายชิวๆ แบบวิถีสโลว์ไลฟ์กันที่ร้านกาแฟดีกว่าครับ ซึ่งร้านที่ว่านี้ อยู่ที่เมืองอริตะ ของจังหวัดซากะครับ มีชื่อว่า แกลอเรีย อริตะ (ギャラリー有田) ซึ่งลักษณะเด่นของทางร้านคือมีรถมินิซึ่งตกแต่งลวดลายคล้ายเซรามิคครับ จุดเด่นของที่นี่คือเมื่อท่านเดินเข้าไปภายในร้านจะพบกับถ้วยกาแฟที่ทำมาจากเซรามิคกว่า 2000 ใบเลยทีเดียว ซึ่งเซรามิคทุกใบในร้านจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำด้วยมือจากฝีมือชาวอริตะครับ ประณีต สวยงามจริงๆ
หลังจากเดินเข้ามาในร้านท่านจะตะลึงกับแก้ว ถ้วยนับพัน และที่สำคัญท่านสามารถเลือกแก้วใบโปรดภายในร้านเพื่อนำไปใส่กาแฟหรือชา และทางร้านจะนำมาเสริฟให้ท่านถึงมือ ฟินมากครับ ชอบใบไหนเลือกกันได้เต็มที่ (แต่เอากลับบ้านไม่ได้นะ ฮาๆ)
หลังจากเลือกชุดถ้วยกาแฟได้แล้วก็เลือกระหว่างชาหรือกาแฟแล้วก็นำบัตรหย่อนไปข้างในและนำไปวางที่เคาน์เตอร์ และมานั่งรอได้เลยครับ สำหรับเมนูอื่นๆ ก็มีอีกมากเลยละครับทั้งน้ำผลไม้ต่างๆ ชุดอาหาร ขนมหวาน ฯลฯ
ป้ายซ้ายคือกาแฟ และป้ายขวาคือชาครับ
และนี่คือชุดที่ผมเลือกครับ สวยใช่ไหมครับ
มาแล้วครับชาญี่ปุ่น รสชาติญี่ปุ่นดั้งเดิมมากครับ หอมหวาน ไม่ใส่น้ำตาล ดีต่อสุขภาพด้วยครับ สำหรับท่านที่ชื่นชอบกาแฟ ก็จะบริการใส่กาแฟพร้อมขนมช็อคโกแลตครับ
สำหรับขนมหวานขึ้นชื่อของทางร้านคือ ขนมเต้าหู้น้ำตาลสด ซึ่งจะมีโรยน้ำตาลอ้อยบนเต้าหู้คล้ายเต้าฮวยครับ รสชาติไม่หวานจนเกินไป อร่อยมากครับ
หลังจากลองลิ้มชิมรส ชา กาแฟ และขนมหวานพอหอมปากหอมคอแล้ว ทางด้านหน้าร้านจะมีร้านขายถ้วยชามกาแฟต่างๆ หลากหลายแบบให้เลือกมากมาย ซึ่งสามารถเลือกซื้อกลับไปเป็นของฝากให้คนทางบ้านได้อย่างไร้กังวลเลย บริการห่อหุ้มอย่างดีครับ
มีเซตลายคิตตี้ด้วยนะครับ สำหรับแฟนพันธ์แท้คิตตี้ต้องไม่พลาด
หลังจากพอตึงๆ ท้องแต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่ได้อิ่มอะไรเพราะเป็นแค่ของว่างเบาๆ เราจะไปกินกันอีกแล้วครับ (ชาวกระเพาะเหล็กบอกเลยว่าเปรม อิอิ) โดยร้านต่อไปและจะเป็นที่สุดท้ายสำหรับวันนี้คือ ร้าน “คิระ” (きら) ซึ่งเป็นร้านเนื้อย่าง สเต็ก อาหารขึ้นชื่อของจังหวัดซากะเขาเลย เวลาเดินทางจากร้านแกลอเรีย อริตะประมาณ 1 ขั่วโมงครึ่งครับ โดยร้านนี้มีการดำเนินการควบคู่กับสหกรณ์การเกษตรของญี่ปุ่นทำให้ได้เนื้อที่สะอาด สด และที่สำคัญ อร่อยจริงๆครับ สำหรับท่านที่อยากทานเนื้อวากิว เนื้อซากะ ไม่ควรพลาดจริงๆ ละลายในปากเลยละครับ
พอเริ่มดูเมนูก็น้ำลายไหลแล้วละครับ แต่ละเมนูเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว จากคำแนะนำของพี่พนักงาน เนื้อยอดฮิตคือเนื้อซากะครับ เนื้อซากะเป็นเนื้อที่มีคุณภาพดีและอร่อยมากๆ จนเป็นที่ที่ขึ้นชื่อลือชาเลย (มีนักท่องเที่ยวหลายคนเลยที่มาเยี่ยมเยียนจังหวัดซากะเพื่อที่จะมาทานเนื้อซากะโดยเฉพาะ) รองลงมาคือเนื้อวากิว ซึ่งผมก็ลองสั่งทั้งสองเนื้อมาเพื่อทำการเปรียบเทียบให้ทุกท่านได้เห็นแต่ใช้ผมเป็นเกณฑ์ครับ ฮ่าๆ
มาแล้วคับเนื้อซากะพร้อมกับชุดผักและเครื่องเคียงอีกเต็มโต๊ะอีกแล้ว เสริฟพร้อมเตาปิ้งครับ โอย มาซะขนาดนี้แล้ว อดใจไม่ไหวเลยจริงๆ อิอิ
สำหรับเครื่องเคียงก็จะมี ปลาหมึก เนื้อวัว และปลาซาบะครับ คราวนี้เรามาปิ้งกันเลย ตอนปิ้งจะใช้ตะเกียบคนละคู่กับที่เราใช้ทานนะครับ
สำหรับท่านที่ชอบสุกๆดิบๆ จะมีเดียมหรือมีเดียมแรร์ ก็แล้วแต่ท่านชอบเลยครับ ซึ่งตัวเนื้อเนี้ยะ บอกเลยว่านุ่มแบบชนิดที่ว่าแทบไม่ต้องเคี้ยวจริงๆ
และเมนูอีกหนึ่งเมนูก็เดินทางมาถึงครับ กิวนิกิริ ครับ เป็นซูชิเนื้อวัวลนไฟนั่นเอง ข้าวซูชิผสมกับเนื้อวัวรสเลิศแสนนุ่ม สร้างความเพลิดเพลินลิ้นได้อย่างสุดๆ
ฟินอีกแล้วครับ
สำหรับวิธีการทานเนื้อปิ้ง ทางร้านแนะนำให้ทานแบบไม่จิ้มอะไรเลย แต่ให้จิ้มเฉพาะเกลือเท่านั้นเพราะเนื้อวัวชั้นเลิศนั้น รสชาติของตัวเนื้อจะอร่อยมากๆ แต่สำหรับท่านที่กลัวเลี่ยนจะมีน้ำจิ้มให้อยู่แล้วครับ แต่ทางที่ดีลองชิมรสชาติเนื้อกันเลย แล้วท่านจะไม่เรียกร้องหานํ้าจิ้ม ฮาๆ
จากการทดลองชิมเนื้อซากะและเนื้อวากิว บอกได้เลยว่าแตกต่างกันเลยละครับ เนื้อซากะนุ่ม แต่มีความหยุ่นๆ ได้ความหนืดๆ ของเนื้อพร้อมทั้งกลิ่นและรสชาติเฉพาะที่หอมอร่อยมากจริงๆ ครับ ซึ่ง เนื้อวากิวก็อร่อยแต่วันนี้ก็ต้องยอมให้เนื้อซากะจริงๆ ครับ สมกับเป็นเนื้อที่ทางจังหวัดภาคภูมิใจจริงๆ
ตบท้ายที่ไอศกรีมพร้อมผลไม้ครับ ไอศกรีมเนื้อเนียนมาก ผลไม้ก็สดมากครับ มื้อนี้ทำให้ผมไม่อยากกลับเลยจริงๆ
เป็นอย่างไรบ้างครับ กับจังหวัดซากะ บอกเลยว่านี่ยังเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะ ยังมีสิ่งน่าสนใจอื่นๆ อยู่อีกด้วย หากท่านได้มาเยี่ยมเยียนคิวชูก็อย่าลืมแวะมากันได้นะครับ เตรียมใบขับขี่สากลมาให้พร้อมเลยเพราะการเช่ารถขับเที่ยวในคิวชูนั้นเป็นอะไรที่ง่าย, สะดวกสบาย และก็ยังสนุกสนานอีกด้วยนะครับ (จริงๆ ไปเพื่อทานเนื้อซากะอย่างเดียวก็คุ้มแล้วล่ะ จริงๆ นะ อิอิ) สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.pref.saga.lg.jp อ้อ สำหรับสิ่งที่น่าสนใจในจังหวักซากะยังไม่หมดเพียงเท่านี้แน่นอน ยังมีสถานที่ท่องเทียวน่าสนใจอีก สามารถติดตามกันได้เร็วๆ นี้จ้า