ทำความรู้จัก “เกลือโอกินาว่า” สุดยอดเกลือแห่งแดนอาทิตย์อุทัย

“เกลือ” เป็นวัตถุดิบเก่าแก่อย่างหนึ่งที่ทุกครัวเรือนจะขาดไม่ได้ เพราะเกลือมีรสชาติเค็มอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือน

แต่รู้หรือไม่ว่า แท้ที่จริงแล้ว “เกลือ” บนโลกนี้มีอยู่หลายชนิด และมีรสชาติที่หลากหลายกว่าที่เราคิดด้วยนะ ซึ่งหนึ่งในเกลือที่เป็นที่รู้จักแพร่หลายในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ก็คือ เกลือที่ผลิตมาจากจังหวัดโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น หรือที่เราเรียกกันว่า “เกลือโอกินาว่า” นั่นเอง

เกลือโอกินาว่า จัดได้ว่าเป็นเกลือที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในญี่ปุ่น โดยจากบรรดาเกลือที่ผลิตในญี่ปุ่นทั้งหมดกว่า 650 ชนิด ก็เป็นเกลือที่ผลิตในโอกินาว่าอยู่กว่า 100 ชนิดแล้ว จากผู้ผลิตมากกว่า 30 เจ้า ทั่วโอกินาว่า

ความแตกต่างระหว่างเกลือไทย และ เกลือโอกินาว่า




เกลือไทยที่เรานิยมบริโภคกันในทุกวันนี้ จะมีอยู่ 3 ชนิดหลักๆ ได้แก่

เกลือบริโภค (Table Salt) หรือ เกลือบริสุทธิ์ ที่คนส่วนใหญ่นิยมบริโภคกันมากที่สุด มีสีขาวสะอาด เม็ดร่วนละเอียดสม่ำเสมอ มีกระบวนการการผลิตที่ทันสมัยและสะอาด มีความชื้นต่ำ สามารถผลิตได้ตลอดทั้งปี

เกลือทะเล (Sea Salt) ผลิตจากน้ำทะเลด้วยวิธีภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยการดึงน้ำเค็มมาตากบนนาเกลือและใช้ความร้อนจากแสงอาทิตย์เพื่อให้เกลือตกผลึกเป็นเม็ดเกลือ แต่ไม่มีกระบวนการที่ทำให้เกลือสะอาดก่อนจัดจำหน่าย มีความชื้นสูง และสามารถผลิตได้แค่ในช่วงเดือนมกราคม-เมษายนเท่านั้น

เกลือสินเธาว์ (Rock Salt) ผลิตจากน้ำเค็มใต้ดินด้วยวิธีภูมิปัญญาชาวบ้าน มีกระบวนการการผลิตแบบเดียวกับเกลือทะเล นิยมทำกันในทางแถบภาคอีสานตอนบน เป็นเกลือที่มีความชื้นสูง และสามารถผลิตได้แค่ในช่วงเดือนมกราคม-เมษายนเช่นกัน

เกลือทั้ง 3 ชนิด ที่กล่าวมาข้างต้นนี้จะมีส่วนประกอบหลักๆ คือ โซเดียมคลอไรด์ ซึ่งมีมากถึงร้อยละ 95.5-98.5 และมักจะเสริมด้วยไอโอดีนเพื่อป้องกันโรคคอพอก ส่วนแร่ธาตุต่างๆ นั้นมีเจือปนในปริมาณน้อย ซึ่งไม่แตกต่างจากเกลือบริโภคที่จำหน่ายทั่วไปในญี่ปุ่นเลย

ในขณะที่ เกลือโอกินาว่า จะมีลักษณะที่ต่างจากเกลือของไทยและเกลือบริโภคของญี่ปุ่น นั่นก็คือ ไม่มีการเสริมไอโอดีนลงไปในเกลือ มีปริมาณโซเดียมคลอไรด์น้อยกว่าเกลือของไทย และมีปริมาณแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าเกลือของไทย ได้แก่ แมกนีเซียม, แคลเซียม, โพแทสเซียม, เหล็ก, ทองแดง, แมงกานีส, โครเมียม, สังกะสี และแร่ธาตุอื่นๆ อีกมากมายที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต


ที่มา : http://www.jpn-okinawa.com/jp/products/salt/



กระบวนการกว่าจะมาเป็น “เกลือโอกินาว่า”


วัตถุดิบที่นำมาผลิตเกลือในโอกินาว่าจะต้องเป็นน้ำทะเลที่ใสสะอาด ปราศจากการปนเปื้อน



ที่โอกินาว่ามีแนวปะการังที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ซึ่งแนวปะการังที่มีอยู่ไม่เพียงแค่ช่วยปรับปรุงทัศนียภาพเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยให้น้ำทะเลสะอาดบริสุทธิ์ด้วยการสังเคราะห์แสงและการปล่อยแร่ธาตุที่มีประโยชน์ออกมา

นอกจากนี้ กระแสน้ำทะเลที่ไหลผ่านโอกินาว่าเป็นกระแสน้ำอุ่นที่เรียกว่า "คุโรชิโอะ" ซึ่งมีส่วนช่วยในการย่อยสลายแพลงก์ตอนและจุลินทรีย์ ทำให้น้ำทะเลใส ไม่ขุ่น ประกอบกับในจังหวัดโอกินาว่าไม่มีพื้นที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เลยทำให้มีมลพิษจากน้ำเสียน้อย อีกทั้งที่โอกินาว่าไม่ได้มีแม่น้ำขนาดใหญ่และยาวเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นๆ ในญี่ปุ่น ทำให้แทบจะไม่เกิดปัญหาการไหลของดินและทรายจากภูเขาในเวลาฝนตกหนักเลย น้ำทะเลในโอกินาว่าจึงใสมากจนติดระดับโลก



ในสมัยก่อน การทำเกลือในโอกินาว่าไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก แต่หลังจากที่มีการถ่ายทอดวิธีการทำนาเกลือแบบอิริฮามะ การทำนาเกลือก็เริ่มมีบทบาทในโอกินาว่ามากขึ้น ซึ่งตามปกติแล้วการทำนาเกลือจะใช้ก้อนกรวด แต่สำหรับที่โอกินาว่าจะใช้หาดโคลนปะการังแล้วปูด้วยทรายไว้ด้านบนอีกที ซึ่งแคลเซียมที่อยู่ในปะการัง ทำให้ได้เกลือที่อุดมไปด้วยแคลเซียมและทำให้เกลือมีรสหวานในท้ายที่สุด แต่อย่างไรก็ดี การผลิตเกลือในลักษณะดั้งเดิมนี้ในปัจจุบันจะมีแค่เฉพาะบนเกาะยากาจิเท่านั้น ส่วนวิธีการทำเกลือส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะใช้วิธีการหลักๆ คือ ดึงน้ำทะเลขึ้นมาต้มในห้องต้มเกลือ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของโรงงานผลิตเกลือ



ในแต่ละวันทางโรงงานจะทำการต้มเกลือตั้งแต่เช้า ซึ่งกว่าจะได้เกล็ดเกลือก็เข้าล่วงเวลาบ่ายแล้ว โดยน้ำทะเลที่นำมาผลิตก็เอามาจากน้ำทะเลที่อยู่ห่างไกลจากชายฝั่งออกไปและใช้ฟืนในการต้มเพื่อให้ได้เกลือที่มีรสชาติดี

                                               ©Okinawa Convention&Visitors Bureau

 



 



พอได้เกล็ดเกลือแล้ว ก็จะนำไปตากให้แห้งอีกที เพื่อให้ได้เกลือที่มีรสชาติกลมกล่อม ซึ่งในโรงงานบางแห่งก็จะใส่แท่งแคลเซียม รวมถึงวัตถุดิบต่างๆ ในท้องถิ่นลงไปด้วย เพื่อให้ได้เกลือที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น



โรงงานผลิตเกลือมักจะตั้งอยู่ห่างไกลจากพื้นที่การเกษตรและพื้นที่อุตสาหกรรม นั่นจึงเป็นเหตุผลที่โรงงานผลิตเกลือตั้งอยู่ในที่ห่างไกลและไม่สะดวกต่อการเดินทาง ทำให้การผลิตเกลือบนเกาะห่างไกลได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ประโยชน์ของเกลือโอกินาว่า




ลดความเสี่ยงการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ
อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าเกลือทั่วไปจะประกอบด้วยโซเดียมคลอไรด์มากถึงร้อยละ 95.5-98.5 ซึ่งถ้าหากบริโภคในปริมาณที่กำลังดีก็อาจจะไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายมาก แต่ถ้าหากบริโภคโซเดียมมากจนเกินไปก็อาจจะส่งผลให้เลือดเสียสมดุล และอาจทำให้เกิดโรคเรื้อรังตามมาอีกหลายโรค เช่น โรคความดันโลหิตสูง ไตวายเรื้อรัง หัวใจขาดเลือด อัมพฤกษ์-อัมพาต โรคกระดูกพรุน โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร ฯลฯ แต่ถ้าหากเลือกบริโภคเกลือด้วยเกลือโอกินาว่า ก็จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ตามที่กล่าวมาได้ เพราะเกลือโอกินาว่ามีปริมาณโซเดียมคลอไรด์น้อยกว่าเกลือชนิดอื่นๆ และด้วยความที่เกลือโอกินาว่าอุดมด้วยแร่ธาตุชนิดต่างๆ มากมาย จึงทำให้ได้รสชาติที่อร่อยและกลมกล่อมมากๆ ทั้งโซเดียม ที่ให้รสเค็ม, แมกนีเซียม ที่ให้รสขมอร่อย, แคลเซียม ให้รสหวานเล็กน้อย และโพแทสเซียม ที่ให้ความเป็นกรด

ช่วยในการเผาผลาญในร่างกาย
เนื่องจากเกลือโอกินาว่าอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยในการผ่อนคลายแล้ว ก็ยังมีส่วนช่วยในเรื่องการเผาผลาญด้วย  ผู้คนจึงนิยมนำเกลือโอกินาว่าไปใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยกระชับ และเพิ่มการเผาผลาญ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการควบคุมน้ำหนักด้วย เนื่องจากช่วยในการเผาผลาญและช่วยในการขับของเสียที่สะสมออกมา

ช่วยในการไหลเวียนของโลหิต
ด้วยความที่เกลือโอกินาว่ามีแร่ธาตุมากมาย ชาวยุโรปจึงนิยมนำเกลือโอกินาว่ามาใช้ในการบำบัดเพื่อให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ส่งผลให้ร่างกายอุ่นขึ้น ไม่หนาวง่าย อาการไหล่ตึงและอาการปวดหลังลดลง

ช่วยให้ผิวหนังอ่อนนุ่ม
เกลือโอกินาว่าก็มีส่วนช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าและของเสียส่วนเกินออกไปจากร่างกายด้วย จึงนิยมนำเกลือมาใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางหลายตัวเลยทีเดียว แต่ในขณะเดียวกัน การบริโภคเกลือโอกินาว่าอย่างต่อเนื่องก็พอจะช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้นจากภายในได้เช่นกัน โดยหลังจากที่ทานเกลือโอกินาว่าไปได้สักระยะหนึ่ง (ประมาณ 1 เดือนขึ้นไป) จะสังเกตได้ว่าผิวมีความลื่นและนุ่มขึ้น เมื่อเทียบกับการทานเกลือแบบธรรมดาที่มีส่วนผสมของโซเดียมคลอไรด์เป็นหลัก ทั้งนี้ก็เพราะเกลือโอกินาว่ามีส่วนผสมของแร่ธาตุชนิดต่างๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตนั่นเอง



และสำหรับใครที่ยังไม่มีโอกาสไปญี่ปุ่น แต่อยากได้ลองสัมผัสและลิ้มรสเกลือจากโอกินาว่าแบบแท้ๆ ตอนนี้ที่เมืองไทยก็ได้มีการนำเข้าเกลือโอกินาว่ามาจำหน่ายให้ผู้รักสุขภาพที่ชื่นชอบรสชาติอาหารญี่ปุ่นได้ซื้อเพื่อนำไปปรุงรสกันแล้วนะ

ตอนนี้ทาง JGB ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายเกลือจากโอกินาว่า ดังนี้
[smartslider3 slider=11]

สำหรับผู้ที่สนใจสั่งซื้อเกลือโอกินาว่า สามารถสอบถามและสั่งซื้อเพิ่มเติมได้ที่ JGB SHOP เลยจ้า

 

ที่มาข้อมูล

jpn-okinawa.com
รายการ "ดูให้รู้" ตอน โอกินาวา ที่สุดของเกลือญี่ปุ่น
okinawatimes.co.jp
ishigakinoshio.com
okibluesky.com
trs.co.th
foodnetworksolution.com
thaihealth.or.th