Day 1
มาถึงตั้งแต่ 2 ทุ่ม นั่งรอกินข้าวที่สุวรรณภูมิ
รอขึ้นพีชแอร์ สายการบินในตำนาน มาถึงก็ยังใจเต้นลุ้นกันทุกนาทีว่าจะเทไหม แต่โชคดีบุญนำพาเรารอด เย้ ออกตรงเวลา เครื่องเล็กแต่นั่งพอทนได้ เราได้นั่งหลังสุด เครื่องสั่นและเสียงดัง เบาะบางเฉียบไม่ซึมเปื้อนมาก 55
มาถึงแต่เช้า ล้างหน้าแปรงฟัน ออกเที่ยวตะลุย Okinawa World
นั่ง monorail มาลงป้าย
ลง asahibashi ต่อบัสสาย 83 สุดสาย Gyokusendo-mae ถ้าไม่มั่นใจสอบถาม informationได้ ข้อมูลเพียบ มีแผ่นพับเวลาให้ดู พอใกล้เวลาจะมีคนมีรอจำนวนนึง ต่อแถวตามได้เลย นั่งรถยาวๆ ไปสุดสาย ประมาณ ไม่เกิน 1 ชม ก็ถึง เดินตามเขาไปซื้อตั๋วเลย คนไม่เยอะมาก เดินเที่ยวสบายๆ อากาศร้อนแต่พอทนได้ เหงื่อไม่แตกเท่าไร
เดินทางตามรูท ลงถ้ำก่อน ถ้ำนี้คือถ้ำเกียวคุเซนโดะ (Gyokusendo Cave) ถ้ำสวยดี ยาวประมาณ 1 กม แต่ ยิ่งเข้าไปลึกๆ อึดอัดนิดหน่อย แต่สวยดี ทางเดินดีมาก
พอออกจากถ้ำก็มีสวนผลไม้เขตร้อน มะเฟือง เสาวรส มะม่วง สับปะรด ผลไม้แถวบ้านเราล้วนๆ เดินผ่านๆ เพื่อไปดูหมู่บ้านจำลองริวกิว เช่าชุดใส่ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ค่าเสียหาย 500 เยนต่อคน เขาใจดีถ่ายภาพให้ 2-3 ภาพในมือถือเป็นที่ระลึก มาแล้วรู้สึกว่าเขาเอาใจใส่มาก จัดท่าให้พร้อม
พอ 15.00 น. คนก็เริ่มเบาบางตาลง เราเลยเริ่มต่อแถวขึ้นรถบัสตามตาราง ต่อป้ายด้านหน้า Okinawa World เลยคะ ป้ายแถวๆ ทางเข้าที่จอดรถเลย
นั่งกลับมาอีก 1 ชม check in เข้าที่พักก่อน
พักที่ guest house umikaji ใกล้ monorail มองจากสถานีรถไฟมาเห็นหาง่าย ไม่หลง เดินลงข้ามคลอง ข้ามแยกก็ถึง ไม่เกิน 10 นาที
ที่พักสะอาด เข้ารหัสทุกชั้น นอนหอพักรวมหญิง 8 เตียง ห้องน้ำพอเพียง เตียงนุ่ม 300 บาท/คน/คืนเอง คุ้มมาก แนะนำสำหรับคนที่ต้องการ save money
เก็บของเสร็จ เราก็ไปเดินเล่นที่ถนน kokusai
ของฝากแบบ otop บ้านเขาเยอะดี ฝนตกนิดๆ แต่เดินได้คนไม่เยอะ เพราะส่วนใหญ่ร้านเปิดค่ำๆ เดินเล่นหาไรกิน สุ่มๆ เอา ดวงล้วนๆ
มาถึงโอกินาว่าต้องลองข้าวกับสาหร่ายพวงองุ่นหน่อย ผลคือ กินได้ 5 คำ พอ ไม่ใช่แนวเรา สาหร่ายเค็มๆ กะมายองเนส มันแปลกๆ อะ ขอบาย
20.00 น. กลับห้องอาบน้ำนอนหลับเป็นตาย
Day 2
ซื้อ hiphop tour ราคาจำไม่ได้ น่าจะประมาณ 1500-1800 บาทนี่แหละ แต่ซื้อผ่าน kk day กดซื้อ รับ email ไปยื่นได้เลย สะดวกดี มารอตรงสถานที่เขานัดไว้ ก่อนเวลาไม่มีพลาด แต่วันเดย์ทัวร์มีหลายบริษัทหน่อย อาจจะงงนิดๆ เรายื่นใบให้ไกด์ทุกคน กลัวพลาด
พอรถเรามาถึง ไกด์เรียกขึ้นรถเช็คชื่อ จับจองที่นั่ง
ที่แรกพาเราไปชมสวนสับปะรด Nago น่ารักตามสไตล์ญี่ปุ่น ชมเพลินๆ นั่งรถไฟฟ้าชมสวนสับปะรด ชมเสร็จ เข้าไปดูไดโนเสาร์ โซนใหม่ของที่นี่ ดูเพลินๆ
ชมเสร็จไปดูสะพานข้ามเกาะโคอุริ
แวะกินติมในตำนาน Blue Seal Ice Cream
และแล้วถึงเวลาที่เรารอคอยยย Okinawa Churaumi Aquarium ชมฉลามวาฬ
บริหารเวลาดีๆ ได้ชมโชว์โลมาครบ จบ ฟิน
ต่อมาเขาพาเราไปหน้าผา cape Manzani เคยดูซีรี่ส์เกาหลี เรื่อง It's OK that's love เขามาที่นี่ เลยอยากมาดูบ้าง
ลมเย็น ถ่ายรูปเบาๆ สวยดีนะ ถ้าฟ้าใสจะสวยกว่านี้
แวะร้านของฝากเล็กน้อย นอนยาวๆ กลับเข้าเมือง
กลับเข้ามาเดินถนนโคคุไซอีกครั้งหาข้าวกิน แวะเดินเล่นดองกี้ ของก็เยอะพอๆ กับเกาะหลัก ประมาณ 2 ทุ่มกลับเข้าที่พัก สลบเป็นตาย
Day 3
วันนี้เราตื่นสายหน่อยประมาณ 10.00 น. 555 รีบอาบน้ำและเช็คเอ้าท์ ก่อน 11.00 น. เราฝากกระเป๋าในล็อกเกอร์ที่สถานีรถไฟ
ที่เราไปที่แรกของวันนี้คือตลาดปลามาคิชิ
ตลาดมาคิชิตั้งอยู่บริเวณถนนโคคุไซโดริ (Kokusaidori Street) ที่ใจกลางเมืองนาฮะ เปิดกูเกิ้ลแมพมาก็ถึง เดินมาจากที่พักได้ไม่เหนื่อยมาก ปลาก็เยอะในระดับนึง เราเลยกินอาหารเข้า+กลางวันที่นี่เลย ความสดก็พอได้
13.00-14.00 น. ซื้อตั๋วรถไฟวันเดย์ เราไป shurijo castle ลงสถานี shuri เดิน 1 km ตามทางไปเรื่อยๆ มีป้ายบอกเป็นพักๆ ไม่หลง คนเดินมากันเรื่อยๆ ไปถึงซื้อตั๋วเข้า ใช้ตั๋วรถไฟวันเดย์พาส ช่วยลดค่าเข้าได้ด้วย
16.00-18.00 น. เราเดินเล่นห้างใกล้ที่พัก ห้าง palate อยู่ตรงข้ามที่พักเลย หาข้าวกินก่อนเข้าสนามบิน เดินซุปเปอร์มาร์เก็ตข้างล่าง ซื้อของเล็กน้อยเพลินๆ
18.00 น. เราก็ไปเอาของที่ฝากไว้และเข้าสนามบิน รอบินกลับไทยจ้า
ทริปโอกินาว่า 3 วัน 2 คืนของเราก็จบลงเท่านี้จ้า ใครสนใจก็ลองมาเที่ยวดูนะ เที่ยวง่าย ไม่จำเป็นต้องลางานก็ได้