สวัสดีค่ะทุกคน กลับมาพบกันอีกครั้งกับการท่องเที่ยวที่แสนสนุกกับครอบครัวเรานะคะ วันนี้จะพาทุกคนไปตามหาหัวใจซามูไรในปราสาทโอดาวาระ จ.คานากาว่า ใกล้ๆโตเกียวนี่เองค่ะ เราใช้เวลาเดินทางด้วยรถไฟสายโอดะคิว จากสถานีชินจูกุ ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงครึ่งเท่านั้นค่ะ ไปเช้าเย็นกลับได้สบายๆจากโตเกียว
ถ้าเพื่อนๆกลัวว่าจะหาทางขึ้นรถไฟไม่ถูกเพราะสถานีชินจูกุกว้างใหญ่มาก ขอบอกเลยว่าไม่ต้องเป็นห่วงเลยค่ะ เพราะเขามีป้ายบอกตลอดว่าสายโอดะคิวไปทางไหน หรือจะไปสาย JR ก็ได้เช่นกันค่ะ นั่งต่อเดียวยาวถึงสถานีโอดาวาระเลย ไม่ต้องเปลี่ยนขบวนให้ยุ่งยาก ระหว่างทางถ้าท้องฟ้าเป็นใจเราจะได้เห็นภูเขาไฟฟูจิออกมายิ้มทักทายเราด้วย พร้อมกับภูเขาสวยๆ ลูกอื่นๆ ด้วยค่ะ เป็นเส้นทางที่สวยงามและธรรมชาติมากๆ พอใกล้ๆ ถึง เราจะเห็นควันไอน้ำลอยอยู่ไกลๆตรงนู้นบ้างตรงนี้บ้าง เพราะแถวๆโอดาวาระและฮาโกเนะขึ้นชื่อเรื่องน้ำพุร้อนธรรมชาติค่ะ แต่วันนี้ขอแนะนำการท่องเที่ยวปราสาทก่อนนะคะ วันหลังจะมาแนะนำฮาโกเนะอีกทีค่ะ
ปราสาทโอดาวาระ (Odawara Castle Tower) ถือเป็นปราสาทเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณ 400 กว่าปีก่อน มีความสูงเป็นอันดับที่ 7 จากสิบอันดับปราสาทที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น อันดับที่ 1 เป็นของปราสาทโอซาก้าค่ะ
เราเดินเท้าจากสถานีรถไฟไม่นานมากก็มาถึงทางเข้าปราสาท ด้านหน้าทางเข้าโอบล้อมไปด้วยคูน้ำมีฝูงปลามากมาย พอเดินข้ามสะพานเข้าไปด้านในเราตะลึงกับความใหญ่โตอลังการของประตูทางเข้ามาก เป็นประตูไม้โบราณขนาดใหญ่โตมาก มีกลอนประตูไม้ขนาดใหญ่แบบสมัยโบราณ พาลให้คิดไปถึงอดีตว่าเวลาจะปิดประตูลงกลอน คงต้องใช้แรงงานคนมากมายเพราะท่าจะหนักมาก เราลองขยับดู ไม่เขยือนแม้แต่น้อย
พอเดินเข้าประตูนี้ไปยังไม่ถึงตัวปราสาท ต้องเดินผ่านอีกหลายประตู และผ่านสวนกว้างๆ เข้าไปด้านในอีกสักพัก และแล้วก็ถึงตัวปราสาทโอดาวาระที่สวยงาม ใหญ่โต ดูมีมนต์ขลัง ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าเรา เห็นแล้วขนลุกมาก เพราะยิ่งใหญ่และสวยงามกว่าที่เห็นในรูปมากมาย
ทางขึ้นปราสาทเป็นบันไดหินสูงพอประมาณ จุดขายตั๋วอยู่ด้านบน ปกติถ้าเข้าชมปราสาทอย่างเดียวราคา 510 เยน เด็ก 210 เยน แต่เราซื้อเป็นตั๋วรวมเข้าไปดู Spirits of Samurai ด้วย เพิ่มอีกแค่ 100 เยนเท่านั้น
ในตัวปราสาทมี 5 ชั้น แต่ละชั้นจะเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาต่างๆ และวัตถุโบราณที่ขุดพบในสมัยนั้น ส่วนชั้นบนสุดเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นตัวเมืองได้โดยรอบจากปราสาท และสามารถมองเห็นทะเลสีฟ้าครามอันกว้างใหญ่ได้สุดลูกหูเลยตาเลยทีเดียว
ถัดจากเที่ยวชมปราสาทหลัก เราเข้ามาชม Spirits of Samurai กันต่อ ที่ส่วนจัดแสดงแห่งนี้ ตั้งอยู่ห่างจากปราสาทเล็กน้อย ที่นี่เราสามารถชมชุดเกราะซามูไรของจริง ซึ่งมีให้ชมหลายชุด รวมทั้งเครื่องใช้ต่างๆของซามูไร แต่ที่เราชอบมากคือมีวีดีทัศน์จอใหญ่เกี่ยวกับซามูไรให้ชม ตามคอนเซ็ปส์หัวใจซามูไร (Spirits of Samurai) ดูแล้วรู้สึกขนลุกในความเป็นซามูไรและความเป็นญี่ปุ่นมาก
จบจากการชมปราสาท เรายังมีที่เที่ยวแถมให้อีกด้วยค่ะ คือเราจะพาไปเที่ยวทะเลที่ชายหาดมิยูกิกันต่ออีกนิดค่ะ เนื่องจากเป็นเวลาเย็นมากแล้วเราจึงได้แค่เอาเท้าไปจุ่มๆน้ำทะเลเล่นเท่านั้น
จากปราสาทเดินตรงไปอีกไม่นานก็จะถึงชายหาดมิยูกิ จะมีป้ายบอกเป็นระยะ ชายหาดที่นี่เป็นสีดำค่ะ เป็นเม็ดกรวดเล็กๆสีดำสนิท ดูสวยแปลกตาดี เพราะเคยเห็นแต่หาดทรายสีขาว แต่สามารถเหยียบได้ไม่เจ็บเท้าค่ะ วันที่เราไปคลื่นแรงมาก แต่ก็มีคนมาเล่นน้ำกันเยอะพอสมควร(ช่วงปลายกค.) แต่ที่นี่ไม่มีห้องอาบน้ำนะคะ มีแต่ก๊อกน้ำเตี้ยๆพอให้เด็กๆล้างตัวได้เท่านั้น ถ้าจะเล่นจริงๆจังๆ ขอแนะนำว่าควรเอาถังน้ำไปด้วยค่ะ
ปล.ต้องการชมวีดีโอ Spirits of Samurai เชิญเข้าไปชมที่เพจเราได้นะคะ ชื่อเพจ..เกษียณแล้วเที่ยวได้..แล้วพบกันใหม่ค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
ถ้าเพื่อนๆกลัวว่าจะหาทางขึ้นรถไฟไม่ถูกเพราะสถานีชินจูกุกว้างใหญ่มาก ขอบอกเลยว่าไม่ต้องเป็นห่วงเลยค่ะ เพราะเขามีป้ายบอกตลอดว่าสายโอดะคิวไปทางไหน หรือจะไปสาย JR ก็ได้เช่นกันค่ะ นั่งต่อเดียวยาวถึงสถานีโอดาวาระเลย ไม่ต้องเปลี่ยนขบวนให้ยุ่งยาก ระหว่างทางถ้าท้องฟ้าเป็นใจเราจะได้เห็นภูเขาไฟฟูจิออกมายิ้มทักทายเราด้วย พร้อมกับภูเขาสวยๆ ลูกอื่นๆ ด้วยค่ะ เป็นเส้นทางที่สวยงามและธรรมชาติมากๆ พอใกล้ๆ ถึง เราจะเห็นควันไอน้ำลอยอยู่ไกลๆตรงนู้นบ้างตรงนี้บ้าง เพราะแถวๆโอดาวาระและฮาโกเนะขึ้นชื่อเรื่องน้ำพุร้อนธรรมชาติค่ะ แต่วันนี้ขอแนะนำการท่องเที่ยวปราสาทก่อนนะคะ วันหลังจะมาแนะนำฮาโกเนะอีกทีค่ะ
ปราสาทโอดาวาระ (Odawara Castle Tower) ถือเป็นปราสาทเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณ 400 กว่าปีก่อน มีความสูงเป็นอันดับที่ 7 จากสิบอันดับปราสาทที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น อันดับที่ 1 เป็นของปราสาทโอซาก้าค่ะ
เราเดินเท้าจากสถานีรถไฟไม่นานมากก็มาถึงทางเข้าปราสาท ด้านหน้าทางเข้าโอบล้อมไปด้วยคูน้ำมีฝูงปลามากมาย พอเดินข้ามสะพานเข้าไปด้านในเราตะลึงกับความใหญ่โตอลังการของประตูทางเข้ามาก เป็นประตูไม้โบราณขนาดใหญ่โตมาก มีกลอนประตูไม้ขนาดใหญ่แบบสมัยโบราณ พาลให้คิดไปถึงอดีตว่าเวลาจะปิดประตูลงกลอน คงต้องใช้แรงงานคนมากมายเพราะท่าจะหนักมาก เราลองขยับดู ไม่เขยือนแม้แต่น้อย
พอเดินเข้าประตูนี้ไปยังไม่ถึงตัวปราสาท ต้องเดินผ่านอีกหลายประตู และผ่านสวนกว้างๆ เข้าไปด้านในอีกสักพัก และแล้วก็ถึงตัวปราสาทโอดาวาระที่สวยงาม ใหญ่โต ดูมีมนต์ขลัง ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าเรา เห็นแล้วขนลุกมาก เพราะยิ่งใหญ่และสวยงามกว่าที่เห็นในรูปมากมาย
ทางขึ้นปราสาทเป็นบันไดหินสูงพอประมาณ จุดขายตั๋วอยู่ด้านบน ปกติถ้าเข้าชมปราสาทอย่างเดียวราคา 510 เยน เด็ก 210 เยน แต่เราซื้อเป็นตั๋วรวมเข้าไปดู Spirits of Samurai ด้วย เพิ่มอีกแค่ 100 เยนเท่านั้น
ในตัวปราสาทมี 5 ชั้น แต่ละชั้นจะเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาต่างๆ และวัตถุโบราณที่ขุดพบในสมัยนั้น ส่วนชั้นบนสุดเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นตัวเมืองได้โดยรอบจากปราสาท และสามารถมองเห็นทะเลสีฟ้าครามอันกว้างใหญ่ได้สุดลูกหูเลยตาเลยทีเดียว
ถัดจากเที่ยวชมปราสาทหลัก เราเข้ามาชม Spirits of Samurai กันต่อ ที่ส่วนจัดแสดงแห่งนี้ ตั้งอยู่ห่างจากปราสาทเล็กน้อย ที่นี่เราสามารถชมชุดเกราะซามูไรของจริง ซึ่งมีให้ชมหลายชุด รวมทั้งเครื่องใช้ต่างๆของซามูไร แต่ที่เราชอบมากคือมีวีดีทัศน์จอใหญ่เกี่ยวกับซามูไรให้ชม ตามคอนเซ็ปส์หัวใจซามูไร (Spirits of Samurai) ดูแล้วรู้สึกขนลุกในความเป็นซามูไรและความเป็นญี่ปุ่นมาก
จบจากการชมปราสาท เรายังมีที่เที่ยวแถมให้อีกด้วยค่ะ คือเราจะพาไปเที่ยวทะเลที่ชายหาดมิยูกิกันต่ออีกนิดค่ะ เนื่องจากเป็นเวลาเย็นมากแล้วเราจึงได้แค่เอาเท้าไปจุ่มๆน้ำทะเลเล่นเท่านั้น
จากปราสาทเดินตรงไปอีกไม่นานก็จะถึงชายหาดมิยูกิ จะมีป้ายบอกเป็นระยะ ชายหาดที่นี่เป็นสีดำค่ะ เป็นเม็ดกรวดเล็กๆสีดำสนิท ดูสวยแปลกตาดี เพราะเคยเห็นแต่หาดทรายสีขาว แต่สามารถเหยียบได้ไม่เจ็บเท้าค่ะ วันที่เราไปคลื่นแรงมาก แต่ก็มีคนมาเล่นน้ำกันเยอะพอสมควร(ช่วงปลายกค.) แต่ที่นี่ไม่มีห้องอาบน้ำนะคะ มีแต่ก๊อกน้ำเตี้ยๆพอให้เด็กๆล้างตัวได้เท่านั้น ถ้าจะเล่นจริงๆจังๆ ขอแนะนำว่าควรเอาถังน้ำไปด้วยค่ะ
ปล.ต้องการชมวีดีโอ Spirits of Samurai เชิญเข้าไปชมที่เพจเราได้นะคะ ชื่อเพจ..เกษียณแล้วเที่ยวได้..แล้วพบกันใหม่ค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ