“เดี๋ยวเดือนนี้ต้องไปมิยาซากินะ”
คำสั่งที่เหมือนดั่งคำประกาศิตจากนายหนนี้ ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง หรือสอบถามสรรพคุณใดๆ ให้มากความ เลิกงานกลับบ้านไปเตรียมตัวเก็บกระเป๋า แล้วก็ Let's go to มิยาซากิ สวรรค์น้อยๆ แห่งเกาะคิวชูกันเลยยย!!
ตอนที่ 1 : DAY 1 & 2 จาก Takachiho สู่ Nobeoka
ตอนที่ 2 : DAY 3 ชวนนั่งสมาธิ ล่องเรือ แล้วลุยต่อที่ Hyuga
ตอนที่ 3 : DAY 4 บ๊ายบาย...มิยาซากิ
---------------------------------
DAY 4 บ๊ายบาย...มิยาซากิ
Aoshima
วันสุดท้ายแล้วแต่เราก็ยังเที่ยวกันอยู่ 5555
เช้านี้เราออกเดินทางไปยัง Aoshima ค่ะ เป็นเกาะเล็กๆ ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 1.5 กิโลเมตร แต่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติสีเขียวและทะเลสีคราม
ที่นี่เป็นที่ตั้งของ Aoshima Shrine ศาลเจ้าแห่งความรักด้วยค่ะ มีคู่รักชาวญี่ปุ่นหลายคู่นิยมใช้ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นสถานที่นัดเดทและจัดงานแต่งงาน
ถ้าสังเกตดีๆ โขดหินริมชายฝั่งบริเวณนี้จะมีลักษณะเป็นคลื่นๆ ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น จะเรียกที่ๆ มีลักษณะแบบนี้ว่าเป็นที่ซักผ้าของปีศาจค่ะ
นั่งรถเบื่อแล้ว ลองเปลี่ยนบรรยากาศกันหน่อย สำหรับจุดหมายต่อไปนี้ เราจะโดยสารรถไฟกัน โดยขึ้นที่สถานีใกล้ที่สุด นั่นก็คือสถานี Aoshima Station ที่นี่ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการนะคะ ถ้าจะมาขึ้นที่สถานีนี้ต้องซื้อตั๋วล่วงหน้าที่สถานีอื่นมาก่อน
ระหว่างทางมีไฮไลท์เป็นวิวสวยๆ ของ “ที่ซักผ้าของปีศาจ” ให้ชมด้วย นั่งเพลินๆ ไปประมาณ 30 นาทีก็ถึงสถานี Kitago จุดหมายปลายทางของเรา
Obi Castle
Obi Castle เป็นโบราณสถานเก่าแก่ในยุคสมัยเอโดะค่ะ ในอดีตเคยเป็นปราสาทอันยิ่งใหญ่ของเจ้าเมือง มีอายุกว่าหลายร้อยปี แต่ปัจจุบันคงเหลือไว้แต่ประตูทางเข้าและกำแพงหินรอบๆ เท่านั้น
บริเวณหมู่บ้านรอบๆ ปราสาทถูกขนานนามว่าเป็นเกียวโตขนาดเล็ก มีบ้านสมัยเก่าที่เคยเป็นบ้านจริงๆ ของทั้งนักรบซามูไรและพ่อค้า
นอกจากจะได้เดินชมเมืองชิลๆ แล้ว ยังได้สนุกกับกิจกรรมแลกขนมหวานด้วย หลังจากซื้อตั๋วเข้าชมปราสาท เขาก็จะมีคูปอง 5 ใบกับแผนที่ร้านรอบๆ มาให้ เราก็จิ้มร้านขนมที่เราสนใจแล้วก็ตามแผนที่ไปได้เลย
เสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลามื้อเที่ยง วันนี้มาทาน Katsuo Meshi หรือ ข้าวต้มปลาคัทสึโอะ ที่ร้าน Obiten Kura ในเซ็ตมีของขึ้นชื่ออย่าง Obiten มาให้ด้วยค่ะ เป็นเนื้อปลาผสมกับเต้าหู้ทอด รสชาติออกหวานๆ เค็มๆ อาหย่อย~
Udo Shrine
ประมาณ 30 นาทีต่อมา เราก็มาถึง ศาลเจ้าชินโตอุโดะ ศาลเจ้าที่สร้างอยู่ในถ้ำบนหน้าผาสูงริมชายฝั่งมหาสมุทร
ที่นี่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมแน่นตลอดทั้งปีเลยค่ะ เพราะว่าเป็นทั้งจุดชมวิวและสถานที่ขอพรที่มีชื่อเสียง
โดยเฉพาะเรื่องการขอพรพร้อมกับหินนำโชค มาถึงแล้วต้องลองดูสักครั้งนะคะ สำหรับผู้ชายให้ใช้มือซ้าย ส่วนผู้หญิงให้ใช้มือขวา เชื่อกันว่าถ้าโยนเข้าหลุมหินได้ พรที่ขอก็จะสมหวัง
Sunmesse Nichinan
จากศาลเจ้าอุโดะเราเดินทางมาต่อกันที่สวน Sunmesse Nichinan สวนแห่งนี้มีไฮไลท์อยู่ที่รูปปั้นหินโมอายที่สร้างขึ้นตามแบบเกาะอีสเตอร์และได้รับการจดทะเบียนรับรองจากประเทศชิลีเรียบร้อย
มีทั้งหมด 7 ตัวค่ะ เชื่อกันว่าถ้าอยากประสบความสำเร็จทางด้านไหนก็ให้ไปกอด ไปสัมผัส หรือถ่ายรูปคู่กับตัวนั้นได้เลย
Horikiri-toge Pass
ในอดีต เมืองมิยาซากิเป็นสถานที่เดทและฮันนีมูนยอดนิยมอันดับต้นๆ ของชาวญี่ปุ่น และหนึ่งในสถานที่ๆ คู่รักนิยมมาเดินเล่นกันมากที่สุดก็คือที่ Horikiri-toge Pass ค่ะ
ถนนเลียบชายฝั่งแห่งนี้อยู่ที่ความสูงระดับ 60 เมตร ด้านหนึ่งเป็นภูเขา ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นมหาสมุทร สามารถมองเห็นวิวสวยๆ ได้ไกลสุดลูกหูลูกตาเลย
มีร้านซอฟท์ไอศกรีมจำหน่ายด้วย แต่ระวังนิดนึงนะ นกแถวนี้ชอบไอศกรีมมาก ทานๆ อยู่อาจจะมีบินลงมาโฉบขอแจมด้วยก็ได้ ด้วยความปรารถนาดีจากเจ้าหน้าที่ค่ะ มีป้ายบอกด้วย 5555
ยืนรับลมชมวิวกันจนเต็มอิ่มก็ถึงเวลาโบกมือบ๊ายบายมิยาซากิกันแล้ว
---------------------------------
เที่ยวบินขากลับคราวนี้ไฟล์ท 17.50 น. ค่ะ ภาพสุดท้ายเป็นช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์กำลังจะอำลาขอบฟ้าพอดี ใจหายเหมือนกัน แต่ความประทับใจตลอด 4 วัน 3 คืนนี้ ทำให้เราสัญญากับตัวเองว่าจะกลับมาอีกแน่นอน
...เพราะว่า “มิยาซากิ” ยังมีอะไรให้น่าค้นหาอีกเยอะยังไงล่ะ ♡^▽^♡
คำสั่งที่เหมือนดั่งคำประกาศิตจากนายหนนี้ ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง หรือสอบถามสรรพคุณใดๆ ให้มากความ เลิกงานกลับบ้านไปเตรียมตัวเก็บกระเป๋า แล้วก็ Let's go to มิยาซากิ สวรรค์น้อยๆ แห่งเกาะคิวชูกันเลยยย!!
ตอนที่ 1 : DAY 1 & 2 จาก Takachiho สู่ Nobeoka
ตอนที่ 2 : DAY 3 ชวนนั่งสมาธิ ล่องเรือ แล้วลุยต่อที่ Hyuga
ตอนที่ 3 : DAY 4 บ๊ายบาย...มิยาซากิ
---------------------------------
DAY 4 บ๊ายบาย...มิยาซากิ
Aoshima
วันสุดท้ายแล้วแต่เราก็ยังเที่ยวกันอยู่ 5555
เช้านี้เราออกเดินทางไปยัง Aoshima ค่ะ เป็นเกาะเล็กๆ ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 1.5 กิโลเมตร แต่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติสีเขียวและทะเลสีคราม
ที่นี่เป็นที่ตั้งของ Aoshima Shrine ศาลเจ้าแห่งความรักด้วยค่ะ มีคู่รักชาวญี่ปุ่นหลายคู่นิยมใช้ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นสถานที่นัดเดทและจัดงานแต่งงาน
ถ้าสังเกตดีๆ โขดหินริมชายฝั่งบริเวณนี้จะมีลักษณะเป็นคลื่นๆ ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น จะเรียกที่ๆ มีลักษณะแบบนี้ว่าเป็นที่ซักผ้าของปีศาจค่ะ
นั่งรถเบื่อแล้ว ลองเปลี่ยนบรรยากาศกันหน่อย สำหรับจุดหมายต่อไปนี้ เราจะโดยสารรถไฟกัน โดยขึ้นที่สถานีใกล้ที่สุด นั่นก็คือสถานี Aoshima Station ที่นี่ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการนะคะ ถ้าจะมาขึ้นที่สถานีนี้ต้องซื้อตั๋วล่วงหน้าที่สถานีอื่นมาก่อน
ระหว่างทางมีไฮไลท์เป็นวิวสวยๆ ของ “ที่ซักผ้าของปีศาจ” ให้ชมด้วย นั่งเพลินๆ ไปประมาณ 30 นาทีก็ถึงสถานี Kitago จุดหมายปลายทางของเรา
Obi Castle
Obi Castle เป็นโบราณสถานเก่าแก่ในยุคสมัยเอโดะค่ะ ในอดีตเคยเป็นปราสาทอันยิ่งใหญ่ของเจ้าเมือง มีอายุกว่าหลายร้อยปี แต่ปัจจุบันคงเหลือไว้แต่ประตูทางเข้าและกำแพงหินรอบๆ เท่านั้น
บริเวณหมู่บ้านรอบๆ ปราสาทถูกขนานนามว่าเป็นเกียวโตขนาดเล็ก มีบ้านสมัยเก่าที่เคยเป็นบ้านจริงๆ ของทั้งนักรบซามูไรและพ่อค้า
นอกจากจะได้เดินชมเมืองชิลๆ แล้ว ยังได้สนุกกับกิจกรรมแลกขนมหวานด้วย หลังจากซื้อตั๋วเข้าชมปราสาท เขาก็จะมีคูปอง 5 ใบกับแผนที่ร้านรอบๆ มาให้ เราก็จิ้มร้านขนมที่เราสนใจแล้วก็ตามแผนที่ไปได้เลย
เสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลามื้อเที่ยง วันนี้มาทาน Katsuo Meshi หรือ ข้าวต้มปลาคัทสึโอะ ที่ร้าน Obiten Kura ในเซ็ตมีของขึ้นชื่ออย่าง Obiten มาให้ด้วยค่ะ เป็นเนื้อปลาผสมกับเต้าหู้ทอด รสชาติออกหวานๆ เค็มๆ อาหย่อย~
Udo Shrine
ประมาณ 30 นาทีต่อมา เราก็มาถึง ศาลเจ้าชินโตอุโดะ ศาลเจ้าที่สร้างอยู่ในถ้ำบนหน้าผาสูงริมชายฝั่งมหาสมุทร
ที่นี่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมแน่นตลอดทั้งปีเลยค่ะ เพราะว่าเป็นทั้งจุดชมวิวและสถานที่ขอพรที่มีชื่อเสียง
โดยเฉพาะเรื่องการขอพรพร้อมกับหินนำโชค มาถึงแล้วต้องลองดูสักครั้งนะคะ สำหรับผู้ชายให้ใช้มือซ้าย ส่วนผู้หญิงให้ใช้มือขวา เชื่อกันว่าถ้าโยนเข้าหลุมหินได้ พรที่ขอก็จะสมหวัง
Sunmesse Nichinan
จากศาลเจ้าอุโดะเราเดินทางมาต่อกันที่สวน Sunmesse Nichinan สวนแห่งนี้มีไฮไลท์อยู่ที่รูปปั้นหินโมอายที่สร้างขึ้นตามแบบเกาะอีสเตอร์และได้รับการจดทะเบียนรับรองจากประเทศชิลีเรียบร้อย
มีทั้งหมด 7 ตัวค่ะ เชื่อกันว่าถ้าอยากประสบความสำเร็จทางด้านไหนก็ให้ไปกอด ไปสัมผัส หรือถ่ายรูปคู่กับตัวนั้นได้เลย
Horikiri-toge Pass
ในอดีต เมืองมิยาซากิเป็นสถานที่เดทและฮันนีมูนยอดนิยมอันดับต้นๆ ของชาวญี่ปุ่น และหนึ่งในสถานที่ๆ คู่รักนิยมมาเดินเล่นกันมากที่สุดก็คือที่ Horikiri-toge Pass ค่ะ
ถนนเลียบชายฝั่งแห่งนี้อยู่ที่ความสูงระดับ 60 เมตร ด้านหนึ่งเป็นภูเขา ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นมหาสมุทร สามารถมองเห็นวิวสวยๆ ได้ไกลสุดลูกหูลูกตาเลย
มีร้านซอฟท์ไอศกรีมจำหน่ายด้วย แต่ระวังนิดนึงนะ นกแถวนี้ชอบไอศกรีมมาก ทานๆ อยู่อาจจะมีบินลงมาโฉบขอแจมด้วยก็ได้ ด้วยความปรารถนาดีจากเจ้าหน้าที่ค่ะ มีป้ายบอกด้วย 5555
ยืนรับลมชมวิวกันจนเต็มอิ่มก็ถึงเวลาโบกมือบ๊ายบายมิยาซากิกันแล้ว
---------------------------------
เที่ยวบินขากลับคราวนี้ไฟล์ท 17.50 น. ค่ะ ภาพสุดท้ายเป็นช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์กำลังจะอำลาขอบฟ้าพอดี ใจหายเหมือนกัน แต่ความประทับใจตลอด 4 วัน 3 คืนนี้ ทำให้เราสัญญากับตัวเองว่าจะกลับมาอีกแน่นอน
...เพราะว่า “มิยาซากิ” ยังมีอะไรให้น่าค้นหาอีกเยอะยังไงล่ะ ♡^▽^♡