คนญี่ปุ่นจะตั้งใจทำงานมากเมื่ออยู่ในที่ทำงานและมักจะคุยกันแต่เรื่องงาน ส่วนใหญ่ก็จะมีกฎหรือระบบเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องทำตาม หลายๆ อย่างอาจจะแตกต่างจากไทยไปบ้างหรือที่บ้านเราไม่ค่อยจะมีให้เห็นกัน วันนี้เราเลยยกตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ มาให้ได้ชมกันจ้า
(หมายเหตุ หัวข้อดังต่อไปนี้เป็นแค่บริษัทญี่ปุ่นส่วนหนึ่งเท่านั้น อาจมีการปฏิบัติที่ต่างกันออกไป ด้วยปัจจัยหลายอย่างในแต่ละองค์กรค่ะ ทั้งในเรื่องของขนาด, การจัดการและวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร)
ไม่ใช้โทรศัพท์มือถือส่วนตัวในที่ทำงาน
บริษัทจะมีโทรศัพท์แยกให้ ดังนั้นจึงแทบไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องยกโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาดู คนที่เคร่งๆ ถึงกับบอกว่าไม่ควรดูเวลาจากโทรศัพท์มือถือก็มี และโทรศัพท์มือถือของบริษัทก็สามารถบ่งบอกระดับของพนักงานได้ พนักงานเด็กๆจะเป็นโทรศัพท์มือถือแบบฝาพับ ส่วนระดับหัวหน้าผู้บริหารจะเป็นสมาร์ทโฟน (งานนี้ถ้ายกมาอัพเฟซ แชะเซลฟี่ในเวลางานอาจจะโดนเพ่งเล็งกันได้นะจ๊ะเออ)
มีเวรทิ้งขยะและทำความสะอาด
ทุกวันผู้ชายจะมีเวรทิ้งขยะ เมื่อถังขยะเต็มคนที่เป็นเวรพอดีก็จะต้องเข็นขยะไปแยกทิ้ง และทุกอาทิตย์ก็จะมีเวรดูดฝุ่นตอนเที่ยง (สำหรับบริษัทที่แม่บ้านอาจไม่ค่อยได้เห็นอะไรประมาณนี้ แต่คิดอีกแง่ก็ช่วยฝึกความมีวินัยได้เหมือนกันนะ) นอกจากนั้นทุกเดือนจะมีเวรบำเพ็ญประโยชน์เวียนไปแต่ละฝ่าย ต้องไปเก็บขยะบริเวณรอบๆ บริษัท เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อชุมชน
มีประชุมประจำวัน
คนที่ทำงานในโรงงานจะมีประชุมก่อนเริ่มงานในตอนเช้าพร้อมทำกายบริหาร จะมีการแจ้งเรื่องตารางงานต่างๆ และกล่าวคติของบริษัทปิดท้ายเสมอ ส่วนคนที่ทำงานในออฟฟิศจะมีประชุมในช่วงหลังพักกลางวันแทนเพราะมีระบบตอกบัตรเข้างานแบบยืดหยุ่นได้ โดยที่สามารถเลือกเข้างานได้ตั้งแต่ 7:00 - 10:00 เวลาตอกบัตรออกก็แค่นับให้ครบ 8 ชั่วโมงก็พอ ทำให้ตอนเช้าจะเข้างานไม่พร้อมกัน เวลาพักกลางวันคือ 12:15-13:00 แต่จะเริ่มกายบริหารตอน 12:50 ทำให้ต้องรีบขึ้นมาให้ทันเสมอ (ส่วนบริษัทที่เข้างานตรงเป๊ะทุกคนก็จะเป็นตอนเช้าแทน) ในการประชุมจะมีเวรให้แต่ละคนออกไปพูดต่อหน้าทุกคน ทุกวันจันทร์จะเป็นการประชุมทั้งออฟฟิศ โดยที่หัวหน้าระดับ Team manager ขึ้นไปจะสับเปลี่ยนกันมาพูดเรื่องต่างๆ ที่เตรียมไว้ วันพุธจะเป็นหัวข้อเรื่องความปลอดภัย ส่วนวันอื่นๆ ไม่ได้กำหนดหัวข้อเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่จะพูดเรื่องดินฟ้าอากาศและให้ระวังเรื่องสุขภาพกัน กิจกรรมแบบก็ถือว่าเป็นการฝึกพูดต่อหน้าคนเยอะๆ ไปในตัว เป็นการพัฒนาศักยภาพพนักงานในด้านการแสดงออกที่ดีอย่างหนึ่งเลยทีเดียว
วันพุธรณรงค์ไม่ทำ OT
เนื่องจากคนญี่ปุ่นทำงานกันจริงจังมาก (ส่วนมากที่เห็นกลับกันดึกๆ จริงๆ แล้วเขาก็ไม่ได้อยากกลับดึกกันหรอกนะ อิอิ) บริษัทจึงอยากให้ได้ผ่อนคลายกันบ้าง ฝ่ายขายช่วงที่ยุ่ง จะอยู่ทำ OT กันเยอะมากๆ รุ่นพี่คนหนึ่งกลับบ้านเที่ยงคืนก็มี จึงมีการรณรงค์ให้ไม่ทำ OT ในวันพุธ เพราะว่าวันพุธอยู่ตรงกลางสัปดาห์พอดี หากได้พักผ่อนบ้าง ก็จะทำให้มีแรงสู้ในอีก 2 วันที่เหลือก่อนหมดสัปดาห์ (พูดอีกแง่หนึ่งก็คือจะได้มีแรงทำ OT ในอีกสองวันที่เหลือ ฮ่าๆ)
ไม่แต่งกายสีสันฉูดฉาดมาทำงาน ฝ่ายขายต้องแต่งตัวให้ดูดีมีมารยาทเสมอ
พนักงานบริษัทญี่ปุ่นนิยมเสื้อผ้าสีทึมๆ หรืออ่อนๆ เพราะดูสุภาพ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสีขาว ดำ น้ำเงิน ผู้ชายต้องตัดผมให้เปิดเห็นหูเสมอ ไม่ควรย้อมผมสีสว่าง หากย้อมผมแล้วผมใหม่งอกออกมาก็ต้องไปเติมตรงโคนให้เป็นสีเดียวกัน ต่างหูเครื่องประดับต้องไม่ดูสะดุดตาเกินไป ที่บริษัทพวกวิศวกรจะใส่เครื่องแบบของโรงงานเพราะต้องเข้าโรงงานบ่อย ฝ่ายอื่นๆ ผู้หญิงจะใส่เครื่องแบบของออฟฟิศ ส่วนฝ่ายขายจะเป็นฝ่ายเดียวที่ผู้หญิงแต่งตัวได้อิสระเพราะว่าต้องออกไปพบลูกค้า จึงต้องใส่เสื้อผ้าให้ดูดี เสื้อผ้าสีแดงถือว่าเป็นของไม่เหมาะสมเพราะว่าเป็นสีเดียวกับเลขเวลาหุ้นตก เขาถือว่าเป็นลางไม่ดี (จริงๆ แล้วมารยาทในการแต่งกายในโลกของการทำงานนั้นจะบอกว่าเรื่องเยอะมากๆ ตั้งแต่การวัดแขนเสื้อว่าควรห่างจากข้อมือกี่เซ็นติเมตร ฯลฯ อันนี้ถ้ามีโอกาส จะมาเล่าให้ฟังนะ)
ระบบในที่ทำงานนั้นก็เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมโดยตรง ทำตามระบบระเบียบก็เหมือนการซึมซับวัฒนธรรมเหล่านั้นเข้าไปทีละนิด มันจะค่อยๆเข้าไปอยู่ในจิตใต้สำนึก อย่างเช่น ตัวเราเองตั้งแต่รู้ว่าควรใส่เสื้อสีทึมๆ ไปบริษัท ก็กลายเป็นว่าซื้อเสื้อผ้าทีไร จะเลือกสีเข้มๆ ไปโดยอัตโนมัติทุกที ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนชอบสีสดใส ค่านิยมของที่ทำงานกลายมาเป็นนิสัยของตัวเองได้โดยไม่รู้ตัว และนี่ก็เป็นลักษณะวัฒนธรรมในที่ทำงานของคนญี่ปุ่นที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้จักหรือสัมผัสจ้า
บทความโดย ละมุนชมพู