เมื่อรับกระเป๋าออกมาเรียบร้อยแล้ว เราจะเห็นป้ายบอกทาง เลี้ยวซ้าย ตามป้าย “Bus, Taxi”
จะเจอทางออกไปทางเชื่อมให้เราเดินเลี้ยวขวาออกไป
ตรงไปตามทางจนเจอลานกว้าง ๆ
เลี้ยวไปด้านขวามือ
จะเจอลิฟท์ ให้เราลงไปชั้น 1
จะเจอตู้ขายตั๋วอัตโนมัติบัสไปเกียวโต จะเป็นหมายเลข 2 นั่งยาวไม่แวะจอดที่อื่นนะคะ แต่จะมีแวะพักให้เข้าห้องน้ำระหว่างทาง 1 ครั้ง ตั๋วจากสนามบินไปเกียวโต มี 2 ราคา ผู้ใหญ่ 4000 เยน เด็ก 2000 เยน ต่อเที่ยวค่ะ
มีห้องสำหรับรอรถบัสให้ด้วยนะคะ เผื่อสำหรับคนที่มาก่อนเวลาบัสออกนาน ๆ
หลังจากซื้อตั๋วเสร็จเเล้วเราก็เดินไปต่อเเถวได้เลยค่ะ เราสามารถดูป้ายจุดหมายที่เราจะตามทางเดินได้เลยนะคะ มีทั้งภาษาอังกฤษเเละญี่ปุ่น แต่เนื่องจากเราได้ตั๋วฟรี ก็นั่งฟรี ๆ กันได้เลย
บัสจากสนามบินไปเกียวโต จะมีเเค่ 2 รอบต่อวันนะคะ โดยจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที ในการเดินทาง
ก่อนถึงเวลาบัสออกประมาณ 5 นาทีบัสจะมาจอด เราก็ส่งกระเป๋าให้เจ้าหน้าที่ไว้ใต้ท้องรถ
เเละยื่นตั๋วหรือเเจ้งหมายเลขการจองกับเจ้าหน้าที่ก่อนขึ้นรถบัสได้เลยค่ะ
รถบัสเป็นบัสคันใหญ่ นั่งสบาย ยืดขาได้ ปรับเบาะที่นั้งได้ ตามสะดวกค่ะ เเละสามารถ
นำสัมภาระไว้บนชั้นเหนือศีรษะได้ค่ะ
บนรถมีบริการวายฟายให้ใช้ฟรีด้วยค่ะ หรือจะนอนพักเก็บเเรงไว้เที่ยวก็เเล้วเเต่สะดวกเลยค่ะ
หลับไปตื่นก็ถึงเกียวโตแล้ว รถจะมาจอดหน้าโรงแรม Hotel Keihan ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟ เกียวโต
สถานีรถไฟ เกียวโต
ศาลเจ้าจิ้งจอกเเดง หรือ Inari Shrine เกียวโต
หนี่งในสัญลักษณ์ของเกียวโตเลยก็ว่าได้ ไม่เพียงนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่รวมไปถึงคนญี่ปุ่นเองถ้าได้มาเกียวโตจะต้องแวะมาสักการะศาลเจ้าแห่งนี้ ซี่งถือเป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าที่สำคัญในญี่ปุ่น ซึ่งจุดเด่นของศาลเจ้าแห่งนี้คือมีเสาแดง หรือ โทริอิทีเรียงเป็นทางยาวกว่า 1000 ต้น เสาแดงเหล่านี้ได้มาจากการบริจาคจากผู้ที่มีความศรัทธา ซึ่งจะมีการจารึกชื่อของผู้บริจากด้านหลังเสา โดยเสา 1 ต้นจะมีราคา 300,000-1,000,000 เยน
ป่าไผ่อาราชิยาม่า เกียวโต
ป่าไผ่ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยงที่สามารถมาได้ตลอดทั้งปี เพราะนอกจากจะได้ชื่นชมธรรมชาติแล้ว ในแต่ละฤดูกาลนั้นเราจะได้เห็นความสวยงามของดอกไม้ ไม่ว่าจะเป็นต้นซากุระ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และ ใบไม้แดง ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง สำหรับเพื่อนๆที่รักธรรมชาติก็อย่าลืมแวะมาที่นี่นะคะ
โดทงบุริ เเหล่งช้อปปิ้ง โอซาก้า
มาถึงโอซาก้าทั้งทีจะไม่ถ่ายป้ายกุลิโกะเดี๋ยวเค้าจะว่า ว่ามาไม่ถึง นอกจากถ่ายภาพแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งชื่อดัง มีตั้งแต่ร้านขายยาทั่วไป ไปจนถึงแบรนด์ชั้นนำ ห้างสรรพสินค้า เรียกว่าเราสามารถถังแตกกันจากที่นี่ได้เลยจ้า นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมร้านอาหารชื่อดังทั้งคาวและหวาน เรียกได้ว่า ได้ทั้งช้อปและชิมในเวลาเดียวกันเลยค่ะ
Todaiji หรือ วัดพระใหญ่ เมือง นารา
โทไดจิหรือที่คนไทยเรียกกันว่า วัดหลวงพ่อโต หนึ่งในมรดกโลกของญี่ปุ่น วัดนี้ถือเป็นวัดที่มีชื่อสียงและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานขององค์หลวงพ่อโต (ไดบุตสึ) ตัวอาคารทำจากไม้ ว่ากันว่าเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเที่ราเห็นกันในปัจุจบันนั้นมีขนาดเพียง2ใน3ของขนาดเดิมซึ่งถูกไฟไหม้จากภัยสงคราม
เเนะนำสถานที่ท่องเที่ยวพอเป็นน้ำจิ้ม ถ้าอยากรู้ว่ามีที่ไหนอีกบ้างต้องมาลุยกันต่อเลยจ้า เชื่อว่ามาครั้งเดียวก็ยังไม่พอ ต้องกลับมาซ้ำกันอีกเเน่นอนค่ะ จากที่พูดตอนต้นว่าบัสฟรีมีอยู่จริง เราจะมาบอกวิธีขึ้นบัสฟรีกันค่ะ
เงื่อนไขการขอรับตั๋วรถบัส จากสนามบินจูบุ (นาโกย่า) - เกียวโต
เพียงจองตั๋วเครื่องบิน สายการบินไทย กรุงเทพ-นาโกย่า ผ่านตัวเเทนขาย 6 บริษัทดังนี้
- GLOBAL UNION EXPRESS CO.,LTD.
- LIFE IS JOURNEY CO.,LTD.
- MAJESTI TRAVEL INTERNATIONAL CO.,LTD.
- QUALITY EXPRESS CO., LTD.
- MIRAMAR SERVICES (THAILAND) CO.,LTD.
- H.I.S. TOURS CO.,LTD.
ท่านสามารถเเจ้งทางตัวเเทนขายให้ออกตั๋วบัสให้ ก่อนเดินทาง 7 วัน โดยจะต้องปริ้นเอกสารการจองบัสโชว์สต๊าฟตอนขึ้นบัส ซึ่งตั๋วบัสนี้มีมูลค่า 4000 เยน ต่อ 1 เที่ยว (รถบัสให้บริการถึงวันที่ 17 มีนาคม 2563) เพียงเท่านี้เพื่อนๆก็สามารถเที่ยวได้ทั้งเเถบคันไซ เเละ นาโกย่า ได้เบบชิว ๆ เเล้วค่ะ