?หากใครมาเที่ยวจังหวัดโทยาม่า อยากแนะนำในมานั่งรถไฟชมวิวที่ Kurobe Gorge Railway
ทางรถไฟสายนี้เป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมากในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี สองข้างทางเต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม เป็นคนละเส้นทางกับเส้นทางชมกำแพงหิมะ Tateyama Kurobe Alpine Route (ซึ่งนิยมเที่ยวช่วงหลังสงกรานต์)
จากจุดจำหน่ายตั๋ว ใช้เวลานั่งรถไฟไป-กลับรอบละประมาณ 80 นาที รถไฟจะวิ่งท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ของหุบเขาคุโรเบะ ถ้าใครโชคดี วางแผนมาได้ตรงกับช่วงพีค ของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีพอดี ก็จะสามารถเพลินเพลิน ไปกับวิวที่สวยงามมากกว่าเวลาอื่นๆ (แต่หนาวมากเลย)
รถไฟขบวนนี้ให้บริการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – พฤศจิกายน
?วิธีการเดินทาง
1. นั่งรถไฟ Shinkansen มาลงที่สถานี JR Kurobe-UnazukiOnsen แล้วออกจากสถานี เดิมข้ามถนนมาที่สถานี Shin-Kurobe ที่ตั้งอยู่ข้างๆ เพื่อขึ้นรถไฟสาย Toyama Chino Railway Main Line For Unazukionsen (ค่ารถไฟ 630 เยน) นั่งรถไฟต่อไปอีกครึ่งชั่วโมงลงสุดสายที่สถานี Unazukionsen
*หากใครไม่ได้ใช้ JR Pass แล้วพักอยู่ที่เมืองโทยาม่า สามารถนั่งรถไฟสาย Toyama Chino Railway Main Line For Unazukionsen มาจากสถานี Dentetsu-Toyama ได้เลย
2. เดินต่อไปที่สถานี Unazuki เพื่อซื้อตั๋วไปลงสุดทางที่สถานี Keyakidaira (ค่ารถไฟ ไป-กลับ 3,420 เยน) ราคานี้เป็นที่นั่งแบบ Open air สามารถอัพเกรดโดยจ่ายเพิ่มเพื่อนั่งโบกี้แบบที่เป็นกระจกได้หากกลัวหนาว
--------------------------------------------------
*ช่วงเวลาที่เราเดินทางไปคือ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2560
การเดินทางคือนั่งรถไฟ Shinkansen มาเริ่มต้นที่สถานี JR Kurobe-Unazukionsen เราใช้ JR Pass นั่ง Shinkansen มาจากโทยาม่า ใช้เวลาเพียง 12 นาที ก็มาถึงสถานีนี้แล้ว
วิวจากสถานี JR Kurobe-Unazukionsen มองไปจะเห็นหิมะเริ่มปกคลุมยอดเขา
ออกจากสถานีเพียงแค่ข้ามถนนมาก็ถึงสถานี Shin-Kurobe
วันที่เราไปเป็นวันอาทิตย์ ไม่มีเจ้าหน้าที่มาทำงาน สามารถเดินไปรอขึ้นรถไฟได้เลยแล้วชำระเงินกับนายสถานีที่ปลายทาง
ที่นั่งกว้างขวาง นั่งสบาย เก้าอี้เป็นแบบสามารถหันหน้าชนกันได้ เม้าท์มอยชมวิวไปได้ตลอดทาง
บนรถไฟจะมีหนึ่งโบกี้ ที่นั่งจะเป็นลักษณะเหมือนบาร์ มีโต๊ะริมกระจก นั่งหันหน้าชมวิว สามารถนั่งจิบชา กาแฟ เพลินๆได้เลย ใครอยากเห็นหน้าตาว่าเป็นยังไง ลองดูในคลิปได้เลยค่ะ https://youtu.be/Ffhg-EwQsnY แต่เราขึ้นช้า เต็ม อดดดดดด
ลงจากรถไฟแล้วเดินต่อมาอีกนิด ก็จะเจอสถานี Unazuki เข้าไปซื้อตั๋วในนี้ได้เลย แต่วันที่เราไปคนเยอะมาก มีทัวร์คนญี่ปุ่นมาลงหลายรถบัส ใช้เวลาต่อแถวซื้อตั๋วกันเกือบครึ่งชั่วโมงเลย
เราจะนั่งไปที่สถานี Keyakidaira ราคาค่ารถไฟคือ ไป-กลับ 3,420 เยน จากในรูปนี้ที่เราไปจะเป็นสถานีที่ 4 หากจะแวะเที่ยวสถานีอื่นก่อนก็จ่ายตามราคาที่นั่งจริง
เวลาซื้อตั๋วจะต้องจองเวลาตั๋วขากลับไว้ด้วย ดังนั้นจึงต้องคำนวณเวลากิน-เที่ยวที่ปลายทางให้ดีๆ ไม่งั้นจะมาไม่ทันเวลารถไฟขากลับ ส่วนตัวเราเลือกให้มีเวลาเที่ยวที่สถานีปลายทางไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงก็น่าจะเที่ยวได้เพียงพอ
**เวลามาต่อคิวซื้อตั๋ว ให้เข้าคิวที่ช่อง Tickets for today
ระหว่างรอรถไฟออก เดินมาจุดชมวิวรอดูรถไฟขบวนอื่นวิ่งผ่านกันได้
สะพาน Shin Yamabiko จุดที่นักท่องเที่ยวมารอชมรถไฟวิ่งผ่าน
มาสคอตที่นี่คือเจ้าลิง มีทั้งตัวที่เรียบร้อยเดินไม่ค่อยจะไหวและตัวที่ซน ดีดสุดๆ
หน้าตาของขบวนรถไฟเวลาสวนกันระหว่างทาง ถ้าคนน้อยก็นั่งสบายหน่อย แต่ส่วนมากแล้วคนจะแน่นทุกขบวน
รถไฟจะวิ่งผ่านหุบเขาสลับกับลอดอุโมงค์ไปตลอดทางเป็นเวลาประมาณ 80 นาที
ตอนลอดอุโมงค์คือที่สุดของความหนาว
*อย่าลืมเตรียมถุงมือ ผ้าพันคอและอุปกรณ์กันหนาวทุกอย่างที่มีมาด้วยนะคะ เพราะหนาวสุดยอด เล่นเอาหน้าชากันเลยทีเดียว
คนนั่งแถวริมจะได้เห็นวิวสวยกว่า เต็มตากว่า
1แถวนั่งได้ 4 คน ขาไปให้นั่งทางขวา ขากลับให้นั่งทางซ้าย
สถานีปลายทาง Keyakidaira
สะพานโอคุคาเนะ จากจุดนี้คนญี่ปุ่นจะข้ามไปแล้วเดินป่ากันไปต่อ แต่เรามีเวลาไม่มากพอจึงได้แค่เที่ยวเล่นกันอยู่บริเวณนี้เท่านั้น
มุมนี้คือคนเยอะมาก สามารถจับจองหามุมถ่ายรูปกันได้เลยค่ะ
ข้ามสะพานมาจะเจอกับ กำแพงหินฮิโตะคุอิอิวะ (หินกินคน) ส่วนมากนักท่องเที่ยวก็จะเดินมาสิ้นสุดกันที่จุดนี้ แล้วเดินกลับ แต่ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยังเดินต่อไปอีก ใครมีเวลามากๆก็ลองเดินชมธรรมชาติกันได้ค่ะ
ที่นั่งพักไว้หลบหนาว จากบริเวณนี้มีทางลงไปบ่อออนเซ็นแช่เท้ากันได้ ส่วนเรานั่งแอบๆคุยโทรศัพท์คุยงานอยู่ ใช้ Free wifi ของที่นี่ เพราะpocket wifi ที่เอาไปด้วย งอแง
ภายในสถานี Keyakidaira มีอาหาร + เครื่องดื่มขาย ส่วนแถวที่เห็นนี้คือแถวสำหรับขึ้นรถไฟกลับ
ราคาของกินต่างๆ ไม่ได้แพงกว่าด้านล่างมาก
2 อย่างนี้อร่อยมาก ไส้กรอกเค้าไม่มีความแป้งเลย เนื้อๆเน้นๆ อีกอย่างคือ ข้าวเหนียวพันเบคอน ราดซอสเค็มๆแล้วเอาไปย่าง กิน2อย่างนี้ อิ่มเลยทีเดียว
ชานชาลารถไฟสำหรับกลับไปที่ต้นทาง ขากลับส่วนมากจะไม่ค่อยมีใครฮือฮากับวิวแล้ว เพราะเห็นกันหมดแล้วตั้งแต่ขาไป ดังนั้นขากลับจึงเป็นเวลาทดสอบความอดทนกับอากาศหนาวไปโดยปริยาย
ทางรถไฟสายนี้เป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมากในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี สองข้างทางเต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม เป็นคนละเส้นทางกับเส้นทางชมกำแพงหิมะ Tateyama Kurobe Alpine Route (ซึ่งนิยมเที่ยวช่วงหลังสงกรานต์)
จากจุดจำหน่ายตั๋ว ใช้เวลานั่งรถไฟไป-กลับรอบละประมาณ 80 นาที รถไฟจะวิ่งท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ของหุบเขาคุโรเบะ ถ้าใครโชคดี วางแผนมาได้ตรงกับช่วงพีค ของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีพอดี ก็จะสามารถเพลินเพลิน ไปกับวิวที่สวยงามมากกว่าเวลาอื่นๆ (แต่หนาวมากเลย)
รถไฟขบวนนี้ให้บริการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – พฤศจิกายน
?วิธีการเดินทาง
1. นั่งรถไฟ Shinkansen มาลงที่สถานี JR Kurobe-UnazukiOnsen แล้วออกจากสถานี เดิมข้ามถนนมาที่สถานี Shin-Kurobe ที่ตั้งอยู่ข้างๆ เพื่อขึ้นรถไฟสาย Toyama Chino Railway Main Line For Unazukionsen (ค่ารถไฟ 630 เยน) นั่งรถไฟต่อไปอีกครึ่งชั่วโมงลงสุดสายที่สถานี Unazukionsen
*หากใครไม่ได้ใช้ JR Pass แล้วพักอยู่ที่เมืองโทยาม่า สามารถนั่งรถไฟสาย Toyama Chino Railway Main Line For Unazukionsen มาจากสถานี Dentetsu-Toyama ได้เลย
2. เดินต่อไปที่สถานี Unazuki เพื่อซื้อตั๋วไปลงสุดทางที่สถานี Keyakidaira (ค่ารถไฟ ไป-กลับ 3,420 เยน) ราคานี้เป็นที่นั่งแบบ Open air สามารถอัพเกรดโดยจ่ายเพิ่มเพื่อนั่งโบกี้แบบที่เป็นกระจกได้หากกลัวหนาว
--------------------------------------------------
*ช่วงเวลาที่เราเดินทางไปคือ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2560
การเดินทางคือนั่งรถไฟ Shinkansen มาเริ่มต้นที่สถานี JR Kurobe-Unazukionsen เราใช้ JR Pass นั่ง Shinkansen มาจากโทยาม่า ใช้เวลาเพียง 12 นาที ก็มาถึงสถานีนี้แล้ว
วิวจากสถานี JR Kurobe-Unazukionsen มองไปจะเห็นหิมะเริ่มปกคลุมยอดเขา
ออกจากสถานีเพียงแค่ข้ามถนนมาก็ถึงสถานี Shin-Kurobe
วันที่เราไปเป็นวันอาทิตย์ ไม่มีเจ้าหน้าที่มาทำงาน สามารถเดินไปรอขึ้นรถไฟได้เลยแล้วชำระเงินกับนายสถานีที่ปลายทาง
ที่นั่งกว้างขวาง นั่งสบาย เก้าอี้เป็นแบบสามารถหันหน้าชนกันได้ เม้าท์มอยชมวิวไปได้ตลอดทาง
บนรถไฟจะมีหนึ่งโบกี้ ที่นั่งจะเป็นลักษณะเหมือนบาร์ มีโต๊ะริมกระจก นั่งหันหน้าชมวิว สามารถนั่งจิบชา กาแฟ เพลินๆได้เลย ใครอยากเห็นหน้าตาว่าเป็นยังไง ลองดูในคลิปได้เลยค่ะ https://youtu.be/Ffhg-EwQsnY แต่เราขึ้นช้า เต็ม อดดดดดด
ลงจากรถไฟแล้วเดินต่อมาอีกนิด ก็จะเจอสถานี Unazuki เข้าไปซื้อตั๋วในนี้ได้เลย แต่วันที่เราไปคนเยอะมาก มีทัวร์คนญี่ปุ่นมาลงหลายรถบัส ใช้เวลาต่อแถวซื้อตั๋วกันเกือบครึ่งชั่วโมงเลย
เราจะนั่งไปที่สถานี Keyakidaira ราคาค่ารถไฟคือ ไป-กลับ 3,420 เยน จากในรูปนี้ที่เราไปจะเป็นสถานีที่ 4 หากจะแวะเที่ยวสถานีอื่นก่อนก็จ่ายตามราคาที่นั่งจริง
เวลาซื้อตั๋วจะต้องจองเวลาตั๋วขากลับไว้ด้วย ดังนั้นจึงต้องคำนวณเวลากิน-เที่ยวที่ปลายทางให้ดีๆ ไม่งั้นจะมาไม่ทันเวลารถไฟขากลับ ส่วนตัวเราเลือกให้มีเวลาเที่ยวที่สถานีปลายทางไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงก็น่าจะเที่ยวได้เพียงพอ
**เวลามาต่อคิวซื้อตั๋ว ให้เข้าคิวที่ช่อง Tickets for today
ระหว่างรอรถไฟออก เดินมาจุดชมวิวรอดูรถไฟขบวนอื่นวิ่งผ่านกันได้
สะพาน Shin Yamabiko จุดที่นักท่องเที่ยวมารอชมรถไฟวิ่งผ่าน
มาสคอตที่นี่คือเจ้าลิง มีทั้งตัวที่เรียบร้อยเดินไม่ค่อยจะไหวและตัวที่ซน ดีดสุดๆ
หน้าตาของขบวนรถไฟเวลาสวนกันระหว่างทาง ถ้าคนน้อยก็นั่งสบายหน่อย แต่ส่วนมากแล้วคนจะแน่นทุกขบวน
รถไฟจะวิ่งผ่านหุบเขาสลับกับลอดอุโมงค์ไปตลอดทางเป็นเวลาประมาณ 80 นาที
ตอนลอดอุโมงค์คือที่สุดของความหนาว
*อย่าลืมเตรียมถุงมือ ผ้าพันคอและอุปกรณ์กันหนาวทุกอย่างที่มีมาด้วยนะคะ เพราะหนาวสุดยอด เล่นเอาหน้าชากันเลยทีเดียว
คนนั่งแถวริมจะได้เห็นวิวสวยกว่า เต็มตากว่า
1แถวนั่งได้ 4 คน ขาไปให้นั่งทางขวา ขากลับให้นั่งทางซ้าย
สถานีปลายทาง Keyakidaira
สะพานโอคุคาเนะ จากจุดนี้คนญี่ปุ่นจะข้ามไปแล้วเดินป่ากันไปต่อ แต่เรามีเวลาไม่มากพอจึงได้แค่เที่ยวเล่นกันอยู่บริเวณนี้เท่านั้น
มุมนี้คือคนเยอะมาก สามารถจับจองหามุมถ่ายรูปกันได้เลยค่ะ
ข้ามสะพานมาจะเจอกับ กำแพงหินฮิโตะคุอิอิวะ (หินกินคน) ส่วนมากนักท่องเที่ยวก็จะเดินมาสิ้นสุดกันที่จุดนี้ แล้วเดินกลับ แต่ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยังเดินต่อไปอีก ใครมีเวลามากๆก็ลองเดินชมธรรมชาติกันได้ค่ะ
ที่นั่งพักไว้หลบหนาว จากบริเวณนี้มีทางลงไปบ่อออนเซ็นแช่เท้ากันได้ ส่วนเรานั่งแอบๆคุยโทรศัพท์คุยงานอยู่ ใช้ Free wifi ของที่นี่ เพราะpocket wifi ที่เอาไปด้วย งอแง
ภายในสถานี Keyakidaira มีอาหาร + เครื่องดื่มขาย ส่วนแถวที่เห็นนี้คือแถวสำหรับขึ้นรถไฟกลับ
ราคาของกินต่างๆ ไม่ได้แพงกว่าด้านล่างมาก
2 อย่างนี้อร่อยมาก ไส้กรอกเค้าไม่มีความแป้งเลย เนื้อๆเน้นๆ อีกอย่างคือ ข้าวเหนียวพันเบคอน ราดซอสเค็มๆแล้วเอาไปย่าง กิน2อย่างนี้ อิ่มเลยทีเดียว
ชานชาลารถไฟสำหรับกลับไปที่ต้นทาง ขากลับส่วนมากจะไม่ค่อยมีใครฮือฮากับวิวแล้ว เพราะเห็นกันหมดแล้วตั้งแต่ขาไป ดังนั้นขากลับจึงเป็นเวลาทดสอบความอดทนกับอากาศหนาวไปโดยปริยาย
--------------------------------------
สามารถดูแบบวีดีโอได้ทางYoutube ค่ะ