เขาว่ากันว่า เข้าป่าอย่าถามหาเสือ ตกกลางคืนอย่าถามหา...ผี! เรื่องราวของเหล่าผีๆ นั้นเป็นที่เล่าขานกันมาในทุกยุค ทุกสมัย และทุกชนชาติ รวมทั้งเรื่องราวลี้ลับของวิญญาณ
และเทพของประเทศญี่ปุ่น ที่โด่งดังไปไกลไม่แพ้ชาติใดในโลกเช่นเดียวกันค่ะ วันนี้เราเลยจะมาทำความรู้จักกับวิญญาณน้อยๆ สักหนึ่งรูปแบบกันค่ะ รับรองว่าไม่น่ากลัวมาก แต่ออกจะน่ารักมากหน่อยค่ะ นั่นก็คือยักษ์ตัวเล็กแห่งขุนเขาและต้นไม้อย่าง โคดามะ (木霊)
โคดามะ (木霊) จัดเป็นดวงวิญญาณประเภทหนึ่ง โดยตามความเชื่อเรื่องภูตผี ปีศาจ และวิญญาณของประเทศญี่ปุ่นนั้นได้รับอิทธิพลมาจากลัทธิชินโตค่ะ โดยชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าโคดามะนั้นจะสิงอยู่กับต้นไม้ที่มีอายุตั้งแต่ 100 ปีขึ้นไป ก็จะคล้ายๆ กับนางไม้หรือเทพารักษ์ค่ะ แต่ก็ไม่ใช้ต้นไม้ที่มีอายุมากทุกต้นที่จะมีโคดามะสิงอยู่นะคะ อาจจะเป็นดวงวิญญาณประเภทอื่นสิงอยู่ก็ได้ค่ะ ซึ่งบ้างก็เชื่อกันว่าหากต้นไม้ต้นใดที่มีอายุมากถึง 300 ปี โคดามะจะมีอิทธิฤทธิ์สูงมาก หรือบางความเชื่อก็ว่า หากใครได้เข้าไปในป่าตัดไม้ทำฟืน หรือทำการดูถูก ไม่เคารพพื้นป่าและต้นไม้แล้วละก็ คนคนนั้นจะถูกโคดามะรบกวนให้กลัว หรืออาจนำความโชคร้ายไปสู่คนที่ตัดไม้ หรือบ้างเรื่องเล่าบอกว่าคนที่ตัดไม้ไปนั้นอาจโดนโคดามะสาปให้คนกลายเป็นต้นไม้ไปเลยก็มีค่ะ
สำหรับการสังเกตว่าต้นไม้ต้นใดที่อาจจะมีโคดามะสิงอยู่นั้น ให้สังเกตที่เชือกศักดิ์สิทธิ์อย่างเชือกชิเมะนาวะ (Shimenawa) เชือกที่ชาวบ้านในพื้นที่นั้นๆ นำไปแขวนรอบๆ โคนต้นไม้ เพื่อขอให้โคดามะคอยปกปักษ์รักษาและคุ้มครองชาวบ้านให้พ้นจากภัยอันตรายต่างๆ นั่นเองค่ะ ในส่วนของรูปลักษณ์ของโคดามะนั้น อาจอยู่ในรูปลักษณ์ที่เป็นมนุษย์ หรือไม่ใช่มนุษย์ หรืออาจเป็นวิญญาณพฤกษา หรือก็คือนางไม้หรือเทพารักษ์ก็ได้เช่นกันค่ะ
โดยมนุษย์เราไม่สามารถมองเห็นโคดามะได้ แต่เขาว่ากันว่าเราอาจจะรับรู้ถึงโคดามะได้ทางการได้ยิน ที่เป็นอย่างนั้น เพราะโคดามะมีนิสัยซุกซน ขี้เล่น และชอบเล่นเลียนเสียงผู้คนที่ผ่านไปมา อย่างการที่บางคนเดินขึ้นไปเที่ยวบนภูเขาที่ในบริเวณนั้นมีต้นไม้ที่โคดามะสิงอยู่แล้วละก็ หากไปยืนตะโกนอยู่ในบริเวณนั้นด้วยแล้ว จะทำให้ได้ยินเสียงนั้นตะโกนย้อนกลับมาค่ะ ซึ่งชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าเป็นเสียงสะท้อนกลับมาจากโคดามะค่ะ แต่ถ้าหากมองในทางวิทยาศาตร์นั้น นั่นก็คือการเกิดเสียงสะท้อนกลับ หรือเสียงเอคโค่นั่นเองค่ะ
ฉะนั้นสำหรับโคดามะแล้วจัดเป็นดวงวิญญาณที่คอยดูแลรักษาพื้นป่า แม้ว่าบางเรื่องเล่าในบางพื้นที่ที่อาจมีโคดามะสายโหด ที่สั่งสอนผู้คนที่คิดจะทำลายภูเขาและป่าไม้อยู่บ้าง แต่โคดามะส่วนมากรักสงบ และชอบแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้ใดก็ตามที่สื่อสารกับโคดามะได้ เพราะมีความเชื่อกันว่าวิญญาณที่ยิ่งอยู่นาน พลังและอิทธิฤทธิ์ก็จะยิ่งแข็งแกร่ง และโคดามะเองก็เป็นวิญญาณที่สิงอยู่กับต้นไม้ที่มีอายุยืนนานมากกว่าหลายร้อยปี จึงทำให้มีพลังที่แข็งแกร่งซึ่งตรงกันข้ามกับท่าทีที่รักสงบ ไม่เป็นอันตรายต่อใคร
ดังนั้นหากใครมีเหตุให้ต้องขึ้นเขา เดินป่า ด้วยเจตนาที่เป็นประโยชน์ ไม่ได้ขึ้นเขา เดินป่าด้วยมีจุดประสงค์ไม่ดี ก็ไม่ต้องกลัวโคดามะจะสาปนะคะ แต่ถ้าหากไม่ใช่แล้วละก็โคดามะอาจจะปรากฏตัวให้เห็นก็ได้นะคะ
ข้อมูลจาก
http://www.tpapress.com/knowledge_detail.php?k=69
https://www.jatschool.com/index.php?route=module/pageview&path=531&catagory=8
https://nest905.wordpress.com/2018/01/04/7ผีญี่ปุ่นมารู้จักกับผี/
และเทพของประเทศญี่ปุ่น ที่โด่งดังไปไกลไม่แพ้ชาติใดในโลกเช่นเดียวกันค่ะ วันนี้เราเลยจะมาทำความรู้จักกับวิญญาณน้อยๆ สักหนึ่งรูปแบบกันค่ะ รับรองว่าไม่น่ากลัวมาก แต่ออกจะน่ารักมากหน่อยค่ะ นั่นก็คือยักษ์ตัวเล็กแห่งขุนเขาและต้นไม้อย่าง โคดามะ (木霊)
โคดามะ (木霊) จัดเป็นดวงวิญญาณประเภทหนึ่ง โดยตามความเชื่อเรื่องภูตผี ปีศาจ และวิญญาณของประเทศญี่ปุ่นนั้นได้รับอิทธิพลมาจากลัทธิชินโตค่ะ โดยชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าโคดามะนั้นจะสิงอยู่กับต้นไม้ที่มีอายุตั้งแต่ 100 ปีขึ้นไป ก็จะคล้ายๆ กับนางไม้หรือเทพารักษ์ค่ะ แต่ก็ไม่ใช้ต้นไม้ที่มีอายุมากทุกต้นที่จะมีโคดามะสิงอยู่นะคะ อาจจะเป็นดวงวิญญาณประเภทอื่นสิงอยู่ก็ได้ค่ะ ซึ่งบ้างก็เชื่อกันว่าหากต้นไม้ต้นใดที่มีอายุมากถึง 300 ปี โคดามะจะมีอิทธิฤทธิ์สูงมาก หรือบางความเชื่อก็ว่า หากใครได้เข้าไปในป่าตัดไม้ทำฟืน หรือทำการดูถูก ไม่เคารพพื้นป่าและต้นไม้แล้วละก็ คนคนนั้นจะถูกโคดามะรบกวนให้กลัว หรืออาจนำความโชคร้ายไปสู่คนที่ตัดไม้ หรือบ้างเรื่องเล่าบอกว่าคนที่ตัดไม้ไปนั้นอาจโดนโคดามะสาปให้คนกลายเป็นต้นไม้ไปเลยก็มีค่ะ
สำหรับการสังเกตว่าต้นไม้ต้นใดที่อาจจะมีโคดามะสิงอยู่นั้น ให้สังเกตที่เชือกศักดิ์สิทธิ์อย่างเชือกชิเมะนาวะ (Shimenawa) เชือกที่ชาวบ้านในพื้นที่นั้นๆ นำไปแขวนรอบๆ โคนต้นไม้ เพื่อขอให้โคดามะคอยปกปักษ์รักษาและคุ้มครองชาวบ้านให้พ้นจากภัยอันตรายต่างๆ นั่นเองค่ะ ในส่วนของรูปลักษณ์ของโคดามะนั้น อาจอยู่ในรูปลักษณ์ที่เป็นมนุษย์ หรือไม่ใช่มนุษย์ หรืออาจเป็นวิญญาณพฤกษา หรือก็คือนางไม้หรือเทพารักษ์ก็ได้เช่นกันค่ะ
โดยมนุษย์เราไม่สามารถมองเห็นโคดามะได้ แต่เขาว่ากันว่าเราอาจจะรับรู้ถึงโคดามะได้ทางการได้ยิน ที่เป็นอย่างนั้น เพราะโคดามะมีนิสัยซุกซน ขี้เล่น และชอบเล่นเลียนเสียงผู้คนที่ผ่านไปมา อย่างการที่บางคนเดินขึ้นไปเที่ยวบนภูเขาที่ในบริเวณนั้นมีต้นไม้ที่โคดามะสิงอยู่แล้วละก็ หากไปยืนตะโกนอยู่ในบริเวณนั้นด้วยแล้ว จะทำให้ได้ยินเสียงนั้นตะโกนย้อนกลับมาค่ะ ซึ่งชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าเป็นเสียงสะท้อนกลับมาจากโคดามะค่ะ แต่ถ้าหากมองในทางวิทยาศาตร์นั้น นั่นก็คือการเกิดเสียงสะท้อนกลับ หรือเสียงเอคโค่นั่นเองค่ะ
ฉะนั้นสำหรับโคดามะแล้วจัดเป็นดวงวิญญาณที่คอยดูแลรักษาพื้นป่า แม้ว่าบางเรื่องเล่าในบางพื้นที่ที่อาจมีโคดามะสายโหด ที่สั่งสอนผู้คนที่คิดจะทำลายภูเขาและป่าไม้อยู่บ้าง แต่โคดามะส่วนมากรักสงบ และชอบแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้ใดก็ตามที่สื่อสารกับโคดามะได้ เพราะมีความเชื่อกันว่าวิญญาณที่ยิ่งอยู่นาน พลังและอิทธิฤทธิ์ก็จะยิ่งแข็งแกร่ง และโคดามะเองก็เป็นวิญญาณที่สิงอยู่กับต้นไม้ที่มีอายุยืนนานมากกว่าหลายร้อยปี จึงทำให้มีพลังที่แข็งแกร่งซึ่งตรงกันข้ามกับท่าทีที่รักสงบ ไม่เป็นอันตรายต่อใคร
ดังนั้นหากใครมีเหตุให้ต้องขึ้นเขา เดินป่า ด้วยเจตนาที่เป็นประโยชน์ ไม่ได้ขึ้นเขา เดินป่าด้วยมีจุดประสงค์ไม่ดี ก็ไม่ต้องกลัวโคดามะจะสาปนะคะ แต่ถ้าหากไม่ใช่แล้วละก็โคดามะอาจจะปรากฏตัวให้เห็นก็ได้นะคะ
ข้อมูลจาก
http://www.tpapress.com/knowledge_detail.php?k=69
https://www.jatschool.com/index.php?route=module/pageview&path=531&catagory=8
https://nest905.wordpress.com/2018/01/04/7ผีญี่ปุ่นมารู้จักกับผี/
