
สำหรับที่ญี่ปุ่นนั้น วันที่ 5 พฤษภาคมของทุกปีจะเป็น “วันเด็ก” ค่ะ ซึ่งก็เป็นวันหยุดอีกหนึ่งวันในวันหยุดยาว Golden Week ด้วยนะ และเนื่องจากเป็นวันที่ถูกกำหนดให้ป็นวันหยุดประจำชาติ ชาวญี่ปุ่นทุกคนจึงสามารถฉลองการเจริญเติบโตของพวกเด็กๆ ได้ค่ะ
ว่าแต่ทุกคนรู้เรื่องความเป็นมาของ "วันเด็ก" และความหมายของธรรมเนียมการแขวนธงปลาคาร์ฟที่ชาวญี่ปุ่นนิยมปฏิบัติหรือเปล่าคะ? ถ้าไม่รู้ วันนี้เราจะขอพาทุกๆ ท่านไปทำความรู้จักเรื่องราวเกี่ยวกับ "วันเด็ก" ให้มากขึ้นกันดีกว่านะคะ ^^
“วันเด็ก” และ “การเฉลิมฉลองในวันเด็กผู้ชาย”

วันที่ 5 พฤษภาคมของทุกปีตรงกับ "วันเด็ก" หรือ "โคโดโมะ โนะ ฮิ" (Kodomo no Hi : こどもの日) เป็นวันที่ได้ถูกบัญญัติให้เป็น "วันหยุดราชการ" เมื่อปี ค.ศ.1948 เพื่อให้เหล่าเด็กๆ ชาวญี่ปุ่นได้เฉลิมฉลองการเติบโตอย่างมีสุขภาพแข็งแรง
และวันเดียวกันนี้ก็เป็นวันขอพรให้เด็กผู้ชายเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรงด้วย เรียกว่า "ทันโกะ โนะ เซคคุ" (Tango no Sekku : 端午の節句) ถึงแม้ในปัจจุบันนี้ตัวธรรมเนียมการเฉลิมฉลองจะยังคงเน้นไปที่เด็กผู้ชายเป็นหลัก แต่สำหรับ "วันเด็ก" ในแง่ของทางกฎหมายญี่ปุ่นนั้นได้กำหนดไว้ว่าเป็นวันสำหรับเด็กทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงค่ะ
"ทันโกะ โนะ เซคคุ" (Tango no Sekku : 端午の節句) คืออะไร?
"ทันโกะ โนะ เซคคุ" (Tango no Sekku : 端午の節句) เป็นประเพณีดั้งเดิมที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยยุคนารา (ค.ศ. 710 – 794)
เดิมทีเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของจีนโดยการดื่มเหล้าที่ประดับด้วยใบของต้นไอริส เพื่อขอพรเรื่องสุขภาพและเพื่อเป็นการแก้ชง แต่สิ่งที่ได้สืบทอดต่อกันมาจนถึงญี่ปุ่นก็คือที่มาของ "ทันโกะ โนะ เซคคุ"
ธรรมเนียมที่รับมาจากจีนก็คือ การรับธรรมเนียมปฏิบัติของนักรบซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของญี่ปุ่น และว่ากันว่าได้กลายมาเป็นกิจกรรมเพื่อเด็กผู้ชายในเวลาต่อมา
เดิมทีธรรมเนียมดังกล่าวไม่ได้ปฏิบัติกันในวันที่ 5 พฤษภาคม แต่ว่ากันว่าเนื่องจากเดือนพฤษภาคมเป็นเดือนแห่งม้า (午) รวมไปถึงการอ่านออกเสียงของเลข 5 ที่อ่านว่า "โกะ" และปีมะเมียหรือปีม้าที่ออกเสียงว่า "โกะ" เช่นกัน ทำให้ "ทันโกะ โนะ เซคคุ" มีธรรมเนียมปฏิบัติในวันที่ 5 พฤษภาคม
คนญี่ปุ่นทำอะไรกันใน “วันเด็ก”
ตามปฏิบัติแล้ว ในวันเด็กของทุกๆ ปี คนญี่ปุ่นจะนิยมทำสิ่งต่างๆ ดังที่จะกล่าวต่อไปนี้ ได้แก่…
การประดับธงปลาคาร์ฟ

ธงปลาคาร์ฟที่แหวกว่ายอยู่กลางท้องฟ้าในเดือนพฤษภาคมช่างเป็นอะไรที่สุดยอดมากนะคะ
ธงปลาคาร์ฟมีความหมายที่แฝงอยู่โดยนัยว่าเป็นการขอพรอธิษฐานให้เด็กผู้ชายเป็นที่เชิดหน้าชูตาในสังคม มาจากตำนานของจีนที่เล่ากันมาว่า "ปลาที่สามารถว่ายทวนขึ้นไปยังน้ำตกที่ไหลแรงมากได้มีแค่ปลาคาร์ฟเท่านั้น และปลาคาร์ฟตัวนั้นก็จะกลายเป็นมังกร"
นอกจากนี้ ปลาคาร์ฟยังเป็นปลาที่มีพลังชีวิตอย่างแรงกล้า จึงมีความหมายอีกอย่างว่าไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหน เด็กคนนั้นก็จะเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งนั่นเองค่ะ
การประดับตุ๊กตาสวมเกราะและหมวกคาบุโตะ

คนญี่ปุ่นจะเรียกเทศกาลฉลองวันเด็กแรกหลังเกิดว่า "ฮัตสึเซคคุ" (Hatsuzekku : 初節句) โดยถ้าหากเป็นเด็กผู้หญิงจะต้องเข้าร่วม "โมโม โนะ เซคคุ" (Momo no Sekku : 桃の節句) ในวันที่ 3 มีนาคม ส่วนถ้าหากเป็นเด็กผู้ชายจะต้องเข้าร่วม "ทันโกะ โนะ เซคคุ" ในวันที่ 5 พฤษภาคม
ที่ญี่ปุ่นจะมีธรรมเนียมการมอบตุ๊กตาสวมเกราะและหมวกคาบุโตะให้แก่เด็กผู้ชายเพื่อต้อนรับเทศกาลฉลองวันเด็กแรกหลังเกิดในวันที่ 5 พฤษภาคม ซึ่งเชื่อกันว่าเกราะและหมวกคาบุโตะจะเป็นสิ่งที่ช่วยปกป้องคุ้มครองเด็กเอาไว้ ด้วยเหตุนี้ เกราะและหมวกคาบุโตะที่ประดับในช่วง "ทันโกะ โนะ เซคคุ" ก็มีไว้เพื่อขอพรให้เด็กเติบโตอย่างปลอดภัย ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บและภัยอันตรายทั้งปวง
นอกจากนี้ ตุ๊กตาที่นำมาประดับก็เป็นตุ๊กตาเด็กที่สวมใส่ชุดเกราะและหมวกคาบุโตะโดยมีโมโมทาโร่และคินทาโร่เป็นแรงจูงใจ โดยจะมีการมอบให้เด็กเพื่อเป็นการขอพรให้เด็กเจริญเติบโตอย่างแข็งแรงดังเช่นตุ๊กตานี้

การลงไปแช่ในอ่างน้ำร้อนที่ใส่ใบของต้นไอริสลงไป

ใบโชบุ หรือใบของต้นไอริส ว่ากันว่าเป็นสิ่งที่ช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย โดยถูกนำมาใช้ในการแก้ชงในจีนสมัยยุคโบราณ ซึ่งธรรมเนียมการดื่มเหล้าที่ใส่ใบโชบุของจีนก็ได้กลายมาเป็นต้นกำเนิดของ "ทันโกะ โนะ เซคคุ" ด้วย
ดังนั้น "วันเด็ก" ในยุคปัจจุบันจึงได้มีการสืบทอดธรรมเนียมดังกล่าว โดยจะเป็นการลงไปแช่น้ำร้อนที่ใส่ใบโชบุลงไปในอ่างอาบน้ำ เพื่อขอพรให้เด็กเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรง ปราศจากสิ่งชั่วร้าย
ของกินในเทศกาล “วันเด็ก”
สำหรับอาหารที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลวันเด็กก็คือ…
คาชิวะโมจิ

ธรรมเนียมการทานคาชิวะโมจิไม่ได้เป็นสิ่งที่สืบทอดต่อมาจากจีน แต่เป็นสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของญี่ปุ่น
ใบคาชิวะ หรือ ใบต้นโอ๊ค เป็นสิ่งที่ถูกทำให้เชื่อมโยงไปถึงการเจริญรุ่งเรืองของลูกหลานของครอบครัวที่ไม่มีวันจบสิ้น เนื่องจากใบเก่าจะไม่ร่วงจนกว่าใบใหม่จะงอกขึ้นมา
ด้วยเหตุนี้ การทานคาชิวะโมจิจึงเป็นการขอพรให้เด็กปกป้องดูแลครอบครัว
จิมากิ

ที่มาของการทานจิมากิมีอยู่หลายทฤษฎีด้วยกันค่ะ
หนึ่งในนั้นคือ เรื่องราวของ "คุทสึเก็น" หรือ "ชฺวี ยฺเหวียน" วีรบุรุษชาวจีนโบราณผู้สูญเสียตำแหน่งหน้าที่การงานจนเป็นเหตุให้โดดลงแม่น้ำฆ่าตัวตายในวันที่ 5 พฤษภาคม ชาวบ้านจึงได้ทำการนำด้าย 5 สี ไปผูกกับขนมโมจิที่ห่อด้วยใบเซนดัน ซึ่งทฤษฎีนี้มีความเป็นไปได้ว่าจะเชื่อมโยงกับจิมากิในปัจจุบัน
แนะนำอาหารแบบต้นตำรับ

วันเด็ก เป็นอีกหนึ่งวันที่อยู่ในช่วง Golden Week ทุกคนในครอบครัวจึงได้มีการจัดเตรียมอาหารเพื่อเลี้ยงฉลองกันค่ะ
ซึ่งเมนูยอดนิยมในวันเด็กก็จะมีทั้งเค้กและจิราชิซูชิที่ทำออกมาเป้นรูปธงปลาคาร์ฟ อันเป็นสิ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับวันเด็กนั่นเอง

ถึงแม้ว่ากิจกรรมส่วนใหญ่ในวันที่ 5 พฤษภาคม จะถูกจัดขึ้นเพื่อเด็กผู้ชาย แต่ที่จริงแล้วก็เป็นวันสำหรับอธิษฐานขอพรให้เด็กๆ ทุกคนทั้งหญิงและชายมีชีวิตที่ยืนยาวเลยนะคะ ^^
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://tokubai.co.jp/
ว่าแต่ทุกคนรู้เรื่องความเป็นมาของ "วันเด็ก" และความหมายของธรรมเนียมการแขวนธงปลาคาร์ฟที่ชาวญี่ปุ่นนิยมปฏิบัติหรือเปล่าคะ? ถ้าไม่รู้ วันนี้เราจะขอพาทุกๆ ท่านไปทำความรู้จักเรื่องราวเกี่ยวกับ "วันเด็ก" ให้มากขึ้นกันดีกว่านะคะ ^^
“วันเด็ก” และ “การเฉลิมฉลองในวันเด็กผู้ชาย”

วันที่ 5 พฤษภาคมของทุกปีตรงกับ "วันเด็ก" หรือ "โคโดโมะ โนะ ฮิ" (Kodomo no Hi : こどもの日) เป็นวันที่ได้ถูกบัญญัติให้เป็น "วันหยุดราชการ" เมื่อปี ค.ศ.1948 เพื่อให้เหล่าเด็กๆ ชาวญี่ปุ่นได้เฉลิมฉลองการเติบโตอย่างมีสุขภาพแข็งแรง
และวันเดียวกันนี้ก็เป็นวันขอพรให้เด็กผู้ชายเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรงด้วย เรียกว่า "ทันโกะ โนะ เซคคุ" (Tango no Sekku : 端午の節句) ถึงแม้ในปัจจุบันนี้ตัวธรรมเนียมการเฉลิมฉลองจะยังคงเน้นไปที่เด็กผู้ชายเป็นหลัก แต่สำหรับ "วันเด็ก" ในแง่ของทางกฎหมายญี่ปุ่นนั้นได้กำหนดไว้ว่าเป็นวันสำหรับเด็กทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงค่ะ
"ทันโกะ โนะ เซคคุ" (Tango no Sekku : 端午の節句) คืออะไร?
"ทันโกะ โนะ เซคคุ" (Tango no Sekku : 端午の節句) เป็นประเพณีดั้งเดิมที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยยุคนารา (ค.ศ. 710 – 794)
เดิมทีเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของจีนโดยการดื่มเหล้าที่ประดับด้วยใบของต้นไอริส เพื่อขอพรเรื่องสุขภาพและเพื่อเป็นการแก้ชง แต่สิ่งที่ได้สืบทอดต่อกันมาจนถึงญี่ปุ่นก็คือที่มาของ "ทันโกะ โนะ เซคคุ"
ธรรมเนียมที่รับมาจากจีนก็คือ การรับธรรมเนียมปฏิบัติของนักรบซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของญี่ปุ่น และว่ากันว่าได้กลายมาเป็นกิจกรรมเพื่อเด็กผู้ชายในเวลาต่อมา
เดิมทีธรรมเนียมดังกล่าวไม่ได้ปฏิบัติกันในวันที่ 5 พฤษภาคม แต่ว่ากันว่าเนื่องจากเดือนพฤษภาคมเป็นเดือนแห่งม้า (午) รวมไปถึงการอ่านออกเสียงของเลข 5 ที่อ่านว่า "โกะ" และปีมะเมียหรือปีม้าที่ออกเสียงว่า "โกะ" เช่นกัน ทำให้ "ทันโกะ โนะ เซคคุ" มีธรรมเนียมปฏิบัติในวันที่ 5 พฤษภาคม
คนญี่ปุ่นทำอะไรกันใน “วันเด็ก”
ตามปฏิบัติแล้ว ในวันเด็กของทุกๆ ปี คนญี่ปุ่นจะนิยมทำสิ่งต่างๆ ดังที่จะกล่าวต่อไปนี้ ได้แก่…
การประดับธงปลาคาร์ฟ

ธงปลาคาร์ฟที่แหวกว่ายอยู่กลางท้องฟ้าในเดือนพฤษภาคมช่างเป็นอะไรที่สุดยอดมากนะคะ
ธงปลาคาร์ฟมีความหมายที่แฝงอยู่โดยนัยว่าเป็นการขอพรอธิษฐานให้เด็กผู้ชายเป็นที่เชิดหน้าชูตาในสังคม มาจากตำนานของจีนที่เล่ากันมาว่า "ปลาที่สามารถว่ายทวนขึ้นไปยังน้ำตกที่ไหลแรงมากได้มีแค่ปลาคาร์ฟเท่านั้น และปลาคาร์ฟตัวนั้นก็จะกลายเป็นมังกร"
นอกจากนี้ ปลาคาร์ฟยังเป็นปลาที่มีพลังชีวิตอย่างแรงกล้า จึงมีความหมายอีกอย่างว่าไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหน เด็กคนนั้นก็จะเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งนั่นเองค่ะ
การประดับตุ๊กตาสวมเกราะและหมวกคาบุโตะ

คนญี่ปุ่นจะเรียกเทศกาลฉลองวันเด็กแรกหลังเกิดว่า "ฮัตสึเซคคุ" (Hatsuzekku : 初節句) โดยถ้าหากเป็นเด็กผู้หญิงจะต้องเข้าร่วม "โมโม โนะ เซคคุ" (Momo no Sekku : 桃の節句) ในวันที่ 3 มีนาคม ส่วนถ้าหากเป็นเด็กผู้ชายจะต้องเข้าร่วม "ทันโกะ โนะ เซคคุ" ในวันที่ 5 พฤษภาคม
ที่ญี่ปุ่นจะมีธรรมเนียมการมอบตุ๊กตาสวมเกราะและหมวกคาบุโตะให้แก่เด็กผู้ชายเพื่อต้อนรับเทศกาลฉลองวันเด็กแรกหลังเกิดในวันที่ 5 พฤษภาคม ซึ่งเชื่อกันว่าเกราะและหมวกคาบุโตะจะเป็นสิ่งที่ช่วยปกป้องคุ้มครองเด็กเอาไว้ ด้วยเหตุนี้ เกราะและหมวกคาบุโตะที่ประดับในช่วง "ทันโกะ โนะ เซคคุ" ก็มีไว้เพื่อขอพรให้เด็กเติบโตอย่างปลอดภัย ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บและภัยอันตรายทั้งปวง
นอกจากนี้ ตุ๊กตาที่นำมาประดับก็เป็นตุ๊กตาเด็กที่สวมใส่ชุดเกราะและหมวกคาบุโตะโดยมีโมโมทาโร่และคินทาโร่เป็นแรงจูงใจ โดยจะมีการมอบให้เด็กเพื่อเป็นการขอพรให้เด็กเจริญเติบโตอย่างแข็งแรงดังเช่นตุ๊กตานี้

การลงไปแช่ในอ่างน้ำร้อนที่ใส่ใบของต้นไอริสลงไป

ใบโชบุ หรือใบของต้นไอริส ว่ากันว่าเป็นสิ่งที่ช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย โดยถูกนำมาใช้ในการแก้ชงในจีนสมัยยุคโบราณ ซึ่งธรรมเนียมการดื่มเหล้าที่ใส่ใบโชบุของจีนก็ได้กลายมาเป็นต้นกำเนิดของ "ทันโกะ โนะ เซคคุ" ด้วย
ดังนั้น "วันเด็ก" ในยุคปัจจุบันจึงได้มีการสืบทอดธรรมเนียมดังกล่าว โดยจะเป็นการลงไปแช่น้ำร้อนที่ใส่ใบโชบุลงไปในอ่างอาบน้ำ เพื่อขอพรให้เด็กเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรง ปราศจากสิ่งชั่วร้าย
ของกินในเทศกาล “วันเด็ก”
สำหรับอาหารที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลวันเด็กก็คือ…
คาชิวะโมจิ

ธรรมเนียมการทานคาชิวะโมจิไม่ได้เป็นสิ่งที่สืบทอดต่อมาจากจีน แต่เป็นสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของญี่ปุ่น
ใบคาชิวะ หรือ ใบต้นโอ๊ค เป็นสิ่งที่ถูกทำให้เชื่อมโยงไปถึงการเจริญรุ่งเรืองของลูกหลานของครอบครัวที่ไม่มีวันจบสิ้น เนื่องจากใบเก่าจะไม่ร่วงจนกว่าใบใหม่จะงอกขึ้นมา
ด้วยเหตุนี้ การทานคาชิวะโมจิจึงเป็นการขอพรให้เด็กปกป้องดูแลครอบครัว
จิมากิ

ที่มาของการทานจิมากิมีอยู่หลายทฤษฎีด้วยกันค่ะ
หนึ่งในนั้นคือ เรื่องราวของ "คุทสึเก็น" หรือ "ชฺวี ยฺเหวียน" วีรบุรุษชาวจีนโบราณผู้สูญเสียตำแหน่งหน้าที่การงานจนเป็นเหตุให้โดดลงแม่น้ำฆ่าตัวตายในวันที่ 5 พฤษภาคม ชาวบ้านจึงได้ทำการนำด้าย 5 สี ไปผูกกับขนมโมจิที่ห่อด้วยใบเซนดัน ซึ่งทฤษฎีนี้มีความเป็นไปได้ว่าจะเชื่อมโยงกับจิมากิในปัจจุบัน
แนะนำอาหารแบบต้นตำรับ

วันเด็ก เป็นอีกหนึ่งวันที่อยู่ในช่วง Golden Week ทุกคนในครอบครัวจึงได้มีการจัดเตรียมอาหารเพื่อเลี้ยงฉลองกันค่ะ
ซึ่งเมนูยอดนิยมในวันเด็กก็จะมีทั้งเค้กและจิราชิซูชิที่ทำออกมาเป้นรูปธงปลาคาร์ฟ อันเป็นสิ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับวันเด็กนั่นเอง

ถึงแม้ว่ากิจกรรมส่วนใหญ่ในวันที่ 5 พฤษภาคม จะถูกจัดขึ้นเพื่อเด็กผู้ชาย แต่ที่จริงแล้วก็เป็นวันสำหรับอธิษฐานขอพรให้เด็กๆ ทุกคนทั้งหญิงและชายมีชีวิตที่ยืนยาวเลยนะคะ ^^
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://tokubai.co.jp/