อากิตะใต้สายสโลว์ไลฟ์ ตอนที่ 3 ออนเซน อะคิโนะมิยะ

หลังจากที่ผจญภัยกันมาทั้งวันทั้งชิมอาหาร วาดภาพ เดินชมพิพิธภัณฑ์กันที่ อากิตะ นี่แล้วก็คงจะเริ่มหมดแรงอุด้งมื้อกลางวันกันแล้วสินะคะ เราก็นั่งรถบัสฝ่าหิมะมากันจนถึงที่พักของเราในคืนนี้ค่ะ นั่นก็คือเรียวกังอะคิโนมิยะ ออนเซน ค่ะ ในเมืองที่มีหิมะแบบนี้แล้วจะขาด ออนเซน ไปได้ไงเนอะ~ ระหว่างทางก็เหมือนเดิมค่ะ นั่งดูหิมะมาเพลิน ๆ ตลอดทางค่ะ

อากิตะ

เมื่อมาถึงโรงแรมทางโรงแรมก็ให้แขกผู้หญิงได้เลือกยูกาตะของตัวเองค่ะ เพื่อใส่ในโรงแรมก่อนไปทานอาหารทางโรงแรมเขาก็จะมีไซส์ให้ตามความสูงและสามารถเลือกสียูกาตะและโอบิเองได้ด้วยค่ะ ส่วนของผู้ชายนั้นมีให้ในห้องอยู่แล้วค่ะ

ห้องพักในอากิตะ

เมื่อรับกุญแจและแน่ใจเรื่องเวลานัดแล้วเราก็ขึ้นไปนอน... ยังค่ะ! แหม่ก็ขึ้นไปเปลี่ยนสวมยูกาตะก่อนลงมาทานอาหารค่ะ ซึ่งถ้าใครเปลี่ยนไม่ได้ก็เปิดอากู๋ดูค่ะ เดี๋ยวอาจจะมีสักเอนทรี่ที่สอนสวมค่ะ(นี่~) ซึ่งห้องนอนก็ค่อนข้างกว้างมากเกินมาตรฐานโรงแรมญี่ปุ่นในเมืองค่ะ



ตอนนี้ต้องขอบอกว่าเรื่องกินเรื่องใหญ่ก่อนค่ะ อาหารที่ทางโรงแรมเตรียมให้นั้นเป็นฟูลคอร์สแบบสุดค่ะ มีทั้งซาซิมิ ซูชิ ซุป ปลา ติ่มซำ เนื้อย่างเรียกได้ว่าความหวานพร้อมไม่มีขาด และที่เด็ดเลยก็คือเนื้ออากิตะค่ะ ที่เมืองนี้วัวเขาดังมากนะคะ ไม่ทานเนื้อเสียดายแย่เลย และของหวานเขาก็อร่อยมาก ๆ ด้วย ส่วนตัวเราชอบโอโทโร่ค่ะ (คริคริ) 







เมื่อทานจนอิ่มแล้วก็แยกย้ายค่ะ เราเองก็ไปนอนกลิ้งรอให้อาหารย่อยก่อน และรอเวลาดึก ๆ ไม่มีคนแล้วค่อยออกไปออนเซนค่ะ ที่จริงที่นี่มีห้องอาบน้ำแยกนะคะ ถ้าใครไม่สะดวกใจจะอาบแยกก็ได้ค่ะ





และเมื่อถึงเวลาเราก็ย่องออกมาค่ะ~

ออนเซนเองก็มีบ่อแยกค่ะชายหญิงเข้าไปจะมีน้องหมา อากิตะ คอยอธิบายวิธีการลงบ่อค่ะและที่นี่มีภาษาไทยด้วย



คร่าว ๆ ก็คือเราควรอาบน้ำให้สะอาดก่อน ราดน้ำร้อนลงเท้าก่อนเพื่อไล่เลือดลม ก่อนจะลงแช่ไม่เกิน 20 นาทีค่ะ เราก็ไปเอาตัวจุ่ม ๆ มาค่ะ บ่อที่นี่ไอทึบมาก ๆ ค่ะ และไปตอนไม่มีคนด้วย ฟีลการแช่ตอนดึกนี่มันดีจริง บ่อนี้เป็นของข้า~ แต่ไม่แนะนำให้ไปกันดึกมานะคะเพราะถ้าเขาปิดบาอขึ้นมาแล้วล่ะก็จะแย่เอา วันนี้ขอจบตรงนี้ก่อนนะคะ ตอนหน้าจะพาไปเที่ยวโรงผลิตสาเกกันค่ะ ~ ฮั่นแหนะ ยิ้ม ๆ ฉ่ำ มากค่ะ (ฮ่า)