ฟุกุโอกะ (Fukuoka) เมืองใหญ่ทางใต้ของภูมิภาคคิวชู (Kyushu) ประเทศญี่ปุ่นที่มีขนาดกะทัดรัด แต่ก็มีจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยวครบถ้วน สามารถเดินทางจากสนามบินนานาชาติเข้าเมืองย่านการค้าเพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้น ฟุกุโอกะเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ ทำให้นักท่องเที่ยวหลายๆ คนต้องแวะมาเยือนซ้ำแล้วซ้ำอีก
หากใครมาเที่ยวฟุกุโอกะแบบขับรถเที่ยวเอง ขอแนะนำ 8 พิกัด ที่ไม่ควรพลาด เมื่อมาเที่ยวฟุกุโอกะ ให้ทั้งคนที่มาครั้งแรกและคนที่มาซ้ำได้ไปเช็คอินกันค่ะ
สวนพักผ่อนหย่อนใจขนาดใหญ่ ใจกลางเมืองฟุกุโอกะ มีถนนสำหรับผู้รักการออกกำลังล้อมรอบสวยขนาด 2 กม. และที่นี่ยังมีสวนแบบญี่ปุ่นซ่อนตัวอยู่ข้างในด้วย
ภายในสวนยังมีร้านคาเฟ่ให้ไปนั่งชิลได้อีกด้วย ชื่อร้าน Ohori Terrace เป็นคาเฟ่ที่สามารถลองชิมเมนูกาแฟที่คั่วโดยคนท้องถิ่น และมีชาเขียวชื่อดังของฟุกุโอกะ "Yame-cha" ที่มีชื่อเสียงด้านชาเคียวคุโระ ใครที่ชอบของหวานแนะนำเป็นไอศครีมเคียวคุโระ Yame-cha เลยค่ะ
ห้างสรรพสินค้า Canal city ที่ใช้ชื่อนี้เพราะสมกับที่เป็นห้างที่อยู่ติดแม่น้ำกลางเมือง ตอนกลางคืนจะถูกประดับด้วยไฟระยิบระยับตลอดทั้งปี รวมไปถึงมีการแสดงน้ำพลุเต้นระบำวันละหลายรอบ จึงทำให้ห้างนี้มีบรยากาศโรแมนติก มีทั้งร้านอาหารและสถานที่ช้อปปิ้ง
Mizutaki เป็นหม้อไฟญี่ปุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดฟุกุโอกะ เนื่องจากจะใช้ไก่เป็นส่วนผสมหลัก รวมทั้งหม้อไฟนี้ยังมีการเสริมคอลลาเจน จึงทำให้เป็นเมนูที่สาวๆ มักจะสั่งกินกัน ส่วนตัวแล้วรสชาติใกล้เคียงกับสุกี้บ้านเรา แต่ว่าวัตถุดิบที่ใส่ลงไปส่วนใหญ่นั้นบอกได้เลยว่าแทบจะเป็นอาหารคลีนทั้งหมด ตั้งแต่ในหม้อยันน้ำจิ้ม กินแก้หนาวได้แบบไม่ต้องกลัวอ้วนเลย
ที่นี่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของเมืองอิโตชิมะ หลายคนคงเคยเห็นเสาโทริอิที่ตั้งในทะเลส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นจะป็นสีแดง แต่ที่นี่เป็นสีขาว ในส่วนหินสองก้อนที่ตั้งกลางทะเลนั้นเรียกว่าหินสามีและหินภรรยา ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าหินสองก้อนนี้เป็นสถานที่แรกที่เทพเจ้าอิซานามิและเทพเจ้าอิซานากิลงมาบนพื้นโลกเป็นครั้งแรก
ใกล้ๆ ยังมีคาเฟ่ Sunset สามารถแวะไปเดินเที่ยวถ่ายรูปได้ด้วยค่ะ
ซุ้มปิ้งหอยนางรม หรือคากิโกยะ (カキ小屋) ที่จะเปิดเฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้น หอยนางรมของที่นี่สดมากจริงๆ ขนาดก็ใหญ่มากๆ ด้วย เดินไปหลังร้านจะเห็นเรือชาวประมงวิ่งเข้าวิ่งออก คัดขนาดหอยก่อนเอามาส่งที่ร้าน
มาถึงหน้าร้านก็วัดอุณหภูมิ ถ้าใครไม่เกิน 37.5 ก็เข้าร้านได้
ถ้าจะไปกินแนะนำให้หยิบน้ำจิ้มซีฟู้ดติดมือไปด้วย น่าจะถูกปากคนไทยมากกว่าค่ะ ^^
ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงขุนนางนักปราชญ์ผู้หนึ่ง ที่ซึ่งถูกขับไล่มาจากเกียวโต ผู้คนจำนวนมากมาไหว้ขอพรเรื่องการสอบเข้าสถานศึกษาต่างๆ นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาอีกว่าต้นบ๊วยที่อยู่หน้าศาลเจ้านั้นคิดถึงนักปราชญ์ผู้นี้ จึงบินมาหาจากเกียวโต
เมื่อเดินออกมาจากศาลเจ้าจะพบกับร้านค้ามากมาย และในบรรดาร้านเหล่านั้นจะมีร้านขายโมจิปิ้ง ที่เรียกว่า Umegaemochi เรียงรายกันหลายร้าน มีเรื่องเล่ากันว่าโมจิปิ้งเหล่านี้มีต้นกำเนิดมาจากหญิงคนหนึ่ง เธอปิ้งโมจิและเสียบบนกิ่งบ๊วยเพื่อส่งให้นักปราชญ์ผู้เศร้าสร้อยได้ทาน หลังจากที่ถูกขับไล่มาจากเมืองหลวง
ที่ศาลเจ้านี้เมื่อถึงต้นฤดูใบไม้ผลิ ดอกบ๊วยจะบานเต็มพื้นที่ ถ้าใครชอบชมดอกไม้ บอกเลยว่าที่นี่สวยงามไม่แพ้ซากุระเลยทีเดียว
ในจังหวัดฟุกุโอกะนั้นมีสตรอว์เบอร์รี่สายพันธุ์ขึ้นชื่อคือ Amaou โดยมีชื่อนี้ที่มาจากอักษรแรกของคำว่า Amai (甘い], Marui (丸い], Akai (赤い], Ookii (大きい], Umai (うまい) มารวมกัน ความหมายแปลเรียงตามลำดับได้ว่า "หวาน กลม แดง ใหญ่ อร่อย" ซึ่งรสชาติที่กินก็จะเป็นไปตามนั้นเลยค่ะ
ในส่วนของฟาร์มที่เรามาและอยากแนะนำนั้นเป็นฟาร์มที่มีสตรอว์เบอร์รี่หลากหลายสายพันธุ์ปลูกอยู่ และรสชาติของสตรอว์เบอร์รี่แต่ละสายพันธุ์ก็จะไม่เหมือนกันด้วย เลยมีการจัดลำดับการกินแปะไว้หน้าฟาร์มเพื่อความอร่อยที่ดีที่สุด
ฟาร์มส่วนใหญ่แล้วจะมีเวลาในการกิน 50-60 นาทีขึ้นอยู่กับสวน โดยที่ลูกค้าจะต้องจับเวลาเอง และเวลาเก็บจะต้องใช้กรรไกรที่ทางสวนให้มาด้วย ไม่เช่นนั้นต้นสตรอว์เบอร์รี่อาจเสียหายได้ หากใครยังกินไม่จุใจ สามารถเก็บกลับบ้านได้ด้วย คิดราคาเป็นขีดค่ะ
Yanagawa เรียกได้ว่าเป็น "เวนิสของญี่ปุ่น" อีกแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะที่นี่เป็นเมืองที่มีคลองขุดเพื่อการค้าเยอะมาก พอๆ กับจำนวนถนน เราสามารถนั่งเรือชมบ้านเมืองได้ คุณลุงคนพายเรือก็จะอธิบายสถานที่ต่างๆ ที่เราจะล่องเรือผ่านในคลองให้เราฟังด้วย รวมไปถึงร้องเพลงเด็กเล่นหลายๆ เพลงให้เราฟัง ถ้าอยากฟังสามารถรีเควสลุงได้เลยค่ะ เหตุผลที่ต้องร้องเพลงเด็กเล่นนั้นเพราะเมืองนี้เป็นเมืองบ้านเกิดของนักแต่งเพลงเด็กชื่อดัง ซึ่งแต่งเพลงประเภทนี้ไว้หลายร้อยเพลงเลยทีเดียว
คุณลุงใส่เฟซชิลด์ด้วยทันสมัยมาก
ติดตามข้อมูลการท่องเที่ยวคิวชูเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์การท่องเที่ยวคิวชู
Facebook Onsen Island Kyushu - ท่องเที่ยว คิวชู
หากใครมาเที่ยวฟุกุโอกะแบบขับรถเที่ยวเอง ขอแนะนำ 8 พิกัด ที่ไม่ควรพลาด เมื่อมาเที่ยวฟุกุโอกะ ให้ทั้งคนที่มาครั้งแรกและคนที่มาซ้ำได้ไปเช็คอินกันค่ะ
1.สวนโอโฮริโคเอน (Ohori Koen)
สวนพักผ่อนหย่อนใจขนาดใหญ่ ใจกลางเมืองฟุกุโอกะ มีถนนสำหรับผู้รักการออกกำลังล้อมรอบสวยขนาด 2 กม. และที่นี่ยังมีสวนแบบญี่ปุ่นซ่อนตัวอยู่ข้างในด้วย
ภายในสวนยังมีร้านคาเฟ่ให้ไปนั่งชิลได้อีกด้วย ชื่อร้าน Ohori Terrace เป็นคาเฟ่ที่สามารถลองชิมเมนูกาแฟที่คั่วโดยคนท้องถิ่น และมีชาเขียวชื่อดังของฟุกุโอกะ "Yame-cha" ที่มีชื่อเสียงด้านชาเคียวคุโระ ใครที่ชอบของหวานแนะนำเป็นไอศครีมเคียวคุโระ Yame-cha เลยค่ะ
2. เดินชมวิวกลางคืนยามค่ำคืนที่ Canal City และ สถานี Hakata
ห้างสรรพสินค้า Canal city ที่ใช้ชื่อนี้เพราะสมกับที่เป็นห้างที่อยู่ติดแม่น้ำกลางเมือง ตอนกลางคืนจะถูกประดับด้วยไฟระยิบระยับตลอดทั้งปี รวมไปถึงมีการแสดงน้ำพลุเต้นระบำวันละหลายรอบ จึงทำให้ห้างนี้มีบรยากาศโรแมนติก มีทั้งร้านอาหารและสถานที่ช้อปปิ้ง
3. หม้อไฟไก่ Mizutaki ร้าน Hanamidori
Mizutaki เป็นหม้อไฟญี่ปุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดฟุกุโอกะ เนื่องจากจะใช้ไก่เป็นส่วนผสมหลัก รวมทั้งหม้อไฟนี้ยังมีการเสริมคอลลาเจน จึงทำให้เป็นเมนูที่สาวๆ มักจะสั่งกินกัน ส่วนตัวแล้วรสชาติใกล้เคียงกับสุกี้บ้านเรา แต่ว่าวัตถุดิบที่ใส่ลงไปส่วนใหญ่นั้นบอกได้เลยว่าแทบจะเป็นอาหารคลีนทั้งหมด ตั้งแต่ในหม้อยันน้ำจิ้ม กินแก้หนาวได้แบบไม่ต้องกลัวอ้วนเลย
4. หินคู่รักกลางทะเล Futamigaura (二見ヶ浦) เมือง Itoshima
ที่นี่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของเมืองอิโตชิมะ หลายคนคงเคยเห็นเสาโทริอิที่ตั้งในทะเลส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นจะป็นสีแดง แต่ที่นี่เป็นสีขาว ในส่วนหินสองก้อนที่ตั้งกลางทะเลนั้นเรียกว่าหินสามีและหินภรรยา ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าหินสองก้อนนี้เป็นสถานที่แรกที่เทพเจ้าอิซานามิและเทพเจ้าอิซานากิลงมาบนพื้นโลกเป็นครั้งแรก
ใกล้ๆ ยังมีคาเฟ่ Sunset สามารถแวะไปเดินเที่ยวถ่ายรูปได้ด้วยค่ะ
5. หน้าหนาวต้องมาปิ้งหอยนางรม ที่ Itoshima
ซุ้มปิ้งหอยนางรม หรือคากิโกยะ (カキ小屋) ที่จะเปิดเฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้น หอยนางรมของที่นี่สดมากจริงๆ ขนาดก็ใหญ่มากๆ ด้วย เดินไปหลังร้านจะเห็นเรือชาวประมงวิ่งเข้าวิ่งออก คัดขนาดหอยก่อนเอามาส่งที่ร้าน
มาถึงหน้าร้านก็วัดอุณหภูมิ ถ้าใครไม่เกิน 37.5 ก็เข้าร้านได้
ถ้าจะไปกินแนะนำให้หยิบน้ำจิ้มซีฟู้ดติดมือไปด้วย น่าจะถูกปากคนไทยมากกว่าค่ะ ^^
6. ศาลเจ้า Dazaifu Tenmangu
ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงขุนนางนักปราชญ์ผู้หนึ่ง ที่ซึ่งถูกขับไล่มาจากเกียวโต ผู้คนจำนวนมากมาไหว้ขอพรเรื่องการสอบเข้าสถานศึกษาต่างๆ นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาอีกว่าต้นบ๊วยที่อยู่หน้าศาลเจ้านั้นคิดถึงนักปราชญ์ผู้นี้ จึงบินมาหาจากเกียวโต
เมื่อเดินออกมาจากศาลเจ้าจะพบกับร้านค้ามากมาย และในบรรดาร้านเหล่านั้นจะมีร้านขายโมจิปิ้ง ที่เรียกว่า Umegaemochi เรียงรายกันหลายร้าน มีเรื่องเล่ากันว่าโมจิปิ้งเหล่านี้มีต้นกำเนิดมาจากหญิงคนหนึ่ง เธอปิ้งโมจิและเสียบบนกิ่งบ๊วยเพื่อส่งให้นักปราชญ์ผู้เศร้าสร้อยได้ทาน หลังจากที่ถูกขับไล่มาจากเมืองหลวง
ที่ศาลเจ้านี้เมื่อถึงต้นฤดูใบไม้ผลิ ดอกบ๊วยจะบานเต็มพื้นที่ ถ้าใครชอบชมดอกไม้ บอกเลยว่าที่นี่สวยงามไม่แพ้ซากุระเลยทีเดียว
7. สวนสตรอว์เบอร์รี่ Lion Kajitsuen
ในจังหวัดฟุกุโอกะนั้นมีสตรอว์เบอร์รี่สายพันธุ์ขึ้นชื่อคือ Amaou โดยมีชื่อนี้ที่มาจากอักษรแรกของคำว่า Amai (甘い], Marui (丸い], Akai (赤い], Ookii (大きい], Umai (うまい) มารวมกัน ความหมายแปลเรียงตามลำดับได้ว่า "หวาน กลม แดง ใหญ่ อร่อย" ซึ่งรสชาติที่กินก็จะเป็นไปตามนั้นเลยค่ะ
ในส่วนของฟาร์มที่เรามาและอยากแนะนำนั้นเป็นฟาร์มที่มีสตรอว์เบอร์รี่หลากหลายสายพันธุ์ปลูกอยู่ และรสชาติของสตรอว์เบอร์รี่แต่ละสายพันธุ์ก็จะไม่เหมือนกันด้วย เลยมีการจัดลำดับการกินแปะไว้หน้าฟาร์มเพื่อความอร่อยที่ดีที่สุด
ฟาร์มส่วนใหญ่แล้วจะมีเวลาในการกิน 50-60 นาทีขึ้นอยู่กับสวน โดยที่ลูกค้าจะต้องจับเวลาเอง และเวลาเก็บจะต้องใช้กรรไกรที่ทางสวนให้มาด้วย ไม่เช่นนั้นต้นสตรอว์เบอร์รี่อาจเสียหายได้ หากใครยังกินไม่จุใจ สามารถเก็บกลับบ้านได้ด้วย คิดราคาเป็นขีดค่ะ
8. ล่องเรือเมือง Yanagawa
Yanagawa เรียกได้ว่าเป็น "เวนิสของญี่ปุ่น" อีกแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะที่นี่เป็นเมืองที่มีคลองขุดเพื่อการค้าเยอะมาก พอๆ กับจำนวนถนน เราสามารถนั่งเรือชมบ้านเมืองได้ คุณลุงคนพายเรือก็จะอธิบายสถานที่ต่างๆ ที่เราจะล่องเรือผ่านในคลองให้เราฟังด้วย รวมไปถึงร้องเพลงเด็กเล่นหลายๆ เพลงให้เราฟัง ถ้าอยากฟังสามารถรีเควสลุงได้เลยค่ะ เหตุผลที่ต้องร้องเพลงเด็กเล่นนั้นเพราะเมืองนี้เป็นเมืองบ้านเกิดของนักแต่งเพลงเด็กชื่อดัง ซึ่งแต่งเพลงประเภทนี้ไว้หลายร้อยเพลงเลยทีเดียว
คุณลุงใส่เฟซชิลด์ด้วยทันสมัยมาก
หวังว่าคราวหน้าทุกคนจะไม่พลาด 8 พิกัดนี้เมื่อมาเยือนฟุกุโอกะ ระหว่างนี้ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพ หมั่นล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างกับคนรอบข้างกันด้วย แล้วหากหมดโควิดและญี่ปุ่นเปิดประเทศเมื่อไหร่ อย่าลืมไปเที่ยวฟุกุโอกะให้ได้นะคะ
ติดตามข้อมูลการท่องเที่ยวคิวชูเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์การท่องเที่ยวคิวชู
Facebook Onsen Island Kyushu - ท่องเที่ยว คิวชู