โตเกียว (Tokyo) เที่ยวกี่ทีก็ไม่เบื่อ ใครเห็นด้วยกับประโยคนี้บ้างงง ไม่ว่าจะเป็นสายแฟชั่น ช้อปปิ้ง คาเฟ่ หรือแม้กระทั่งพิพิธภัณท์ นิทรรศการต่างๆ โตเกียวก็มีอะไรใหม่ๆ มานำเสนอทุกครั้งที่เราไป แต่เดี๋ยว ก่อนที่จะไปเยือนที่เปิดใหม่ ทุกคนคิดว่าตัวเองเก็บที่เก่าครบทุกที่รึยัง?
พิพิธภัณฑ์ในโตเกียวไม่ได้มีแค่ Teamlab พิพิธภัณฑ์เอโดะ (Edo-Tokyo Museum) พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ (Tokyo National Museum) ที่อูเอโนะ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ (Miraikan) ที่โอไดบะ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ (Mori Art Museum) ที่รปปงงิ
วันนี้เราจะพาทุกคนไปชม 3 พิพิธภัณฑ์ลับๆ ในโตเกียว ที่แม้แต่คนญี่ปุ่นเองยังไม่ค่อยรู้จัก และที่สำคัญ เข้าชมฟรีด้วยนะ รับรองไม่ซ้ำใครแน่นอน
พิพิธภัณฑ์ที่เข้าชมฟรี นอกจากจะดีที่เราไม่ต้องเสียตังค์แล้ว มันมีความพิเศษยังไงกันนะ? ก็แปลว่าเรื่องราวที่ถูกจัดแสดง เป็นเรื่องราวที่ผู้จัดอยากสื่อออกมามาก อยากให้ทุกคนที่ไม่ว่าจะเป็นคนญี่ปุ่นหรือไม่ อยู่ในช่วงวัยไหน มีฐานะยังไง ได้รับรู้ และถ้าผู้จัดอยากบอกเราขนาดนี้ ลองคิดดูสิว่าเค้าจะตั้งใจจัดนิทรรศการขนาดไหน ไปชมกันเลยย
1.พิพิธภัณฑ์แผ่นดินไหวคันโต (Great Kanto Earthquake Memorial Museum)
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ในสวนสาธารณะที่ชื่อ Yokosmicho วิธีเดินทางคือนั่งรถไฟสาย Seibu หรือ Oedo มาลงที่สถานี Ryogoku ทางออก A1 หรือถ้าใครแวะไปที่พิพิธภัณฑ์เอโดะก่อนล่ะก็ สามารถเดินมาจากพิพิธภัณฑ์ได้เลย ไม่เกิน 5 นาทีจ้า
พิพิธภัณฑ์นี้รำลึกเหตุการณ์สำคัญของโตเกียวไว้สองเหตุการณ์ด้วยกัน ชั้นที่หนึ่งคือแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ของแถบคันโตในปี 1923 ซึ่งบริเวณนี้ถูกจัดเป็นที่อพยพให้กับผู้ประสบภัย แต่หลังจากผู้คนอพยพกันมาได้ไม่นานก็เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ขึ้น (ใหญ่ถึงขั้นที่เรียกได้ว่า “ทะเลเพลิง” กันเลย) จึงมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก นิทรรศการจัดแสดงถึงความแรงของแรงสั่นสะเทือนที่มากจนเครื่องตรวจจับในสมัยนั้นเสียไปเลย ความเสียหายที่ทำเอาย่านท่องเที่ยวหลักๆที่เราเห็นในปัจจุบันราบเป็นหน้ากลอง แต่ที่น่าสนใจคือการฟื้นตัวและวางผังเมืองใหม่ของโตเกียวที่ทำออกมาได้อย่างน่าทึ่งมากๆ ทั้งระบบป้องกัน การจัดการท่อใต้ดินที่มีทั้งน้ำ แก๊ส รถไฟใต้ดิน เขาภูมิใจกับการฟื้นตัวที่ก้าวกระโดดของเค้ามาก และกำลังจะฉลองครบรอบ 100 ปีในปี 2023 ที่จะถึงค่ะ
ส่วนชั้นที่สองเกี่ยวกับช่วงสงครามโลกครั้งที่สองค่ะ ที่เมืองโตเกียวถูกโจมตีทางอากาศ และก็มีผู้เสียชีวิตอีกมากเช่นกัน ถ้าใครอยากรู้ประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่สองจากปลายปากกาของฝั่งญี่ปุ่นล่ะก็ พลาดไม่ได้เลยค่ะ แต่ขั้นสองจะต่างจากขั้นแรกอย่างหนึ่งตรงที่ว่า นิทรรศการชั้นแรกจะมีภาษาอังกฤษอธิบายละเอียดมากๆ แต่ที่ชั้นสองภาษาอังกฤษน้อยมากค่า
นอกจากนั้นภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ยังมีหอรำลึกต่อวิญญาณที่ล่วงลับในสองเหตุการณ์นี้ด้วยค่ะ โดยผนังรอบๆอาคารจะมีภาพวาดเหตุการณ์ คล้ายๆกับฝาผนังวัดบ้านเรา แล้วก็มีวีดิโอสารคดีเปิดฉายด้วย
2.พิพิธภัณฑ์การแพร่ภาพกระจายเสียง NHK (NHK Museum of Broadcasting)
ถ้าอันที่แล้วซ่อนตัวอยู่ในสวนสาธารณะ ที่นี่คือซ่อนตัวอยู่บนเนินเขาที่สูงที่สุดในโตเกียว ที่ตั้งของศาลเจ้าชื่อดังอย่าง Atago shrine ที่เคยปรากฏในภาพยนตร์ฮอลลีวูด Lost in translation
วิธีเดินทางคือนั่งรถไฟสาย Hibiya ลงสถานี kamiyacho ทางออก
ใครสนใจเกี่ยวกับสื่อและการแพร่ภาพคือพลาดไม่ได้จริงๆเพราะที่นี่มีทั้งหมด 4 ชั้น ชมกันจุกๆไปเลย นิทรรศการจะจัดแสดงประวัติศาสตร์ของการแพร่ภาพกระจายเสียงในญี่ปุ่นเริ่มตั้งแต่วิทยุ โทรทัศน์ จนมาถึงดิจิทัลในปัจจุบัน
ของส่วนใหญ่จะห้ามถ่ายรูป ยกเว้นจุดที่มีป้ายอนุญาตถ่ายรูป อันนี้เป็นบทที่สมเด็จพระจักรพรรดิพูดประกาศยอมแพ้สงครามโลกครั้งที่สอง มีเสียงจริงๆให้เราได้ฟังด้วย
ถ้าใครเป็นแฟนคลับช่อง NHK อย่างเช่น รายการเพลง งานขาวแดงตอนสิ้นปี (Kouhaku Uta Gassen) ละครชื่อดังต่างๆของ NHK ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน จัดไปเลยหนึ่งชั้นเต็มๆ
จริงๆมีกิจกรรมให้เราลองออกกล้องรายการทีวีของ NHK อีกด้วย แต่ต้องดูรอบเวลาดีๆด้วยนะ นอกจากนั้น ทุกคนรู้รึเปล่าว่า NHK เป็นช่องแรกของโลกที่ออกอากาศภาพด้วยความคมชัด 8k และที่พิพิธภัณฑ์นี้ก็มีจอให้เราลองดูด้วยนะ
เสร็จจากพิพิธภัณฑ์นี้เดินต่อไปยังศาลเจ้าได้เลย เดินไม่ถึงนาทีก็ถึง
3. พิพิธภัณฑ์ดินแดนและอธิปไตยแห่งชาติ (National Museum of Territory and Sovereignty)
พิพิธภัณฑ์นี้รวมข้อพิพาททางดินแดนทั้งหมดของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะกับเกาหลี อเมริกา หรือจีน รวมถึงการเรียกชื่อทะเลญี่ปุ่นกันด้วย
วิธีเดินทาง รถไฟสาย Ginza ลงสถานี Toranomon ทางออก 3
ถ้าใครสนใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ข้อพิพาท ข้อกฎหมายต่างๆคือห้ามพลาดเลยจ้า แต่ขอวงเล็บไว้นิดนึงนะว่ามันคือข้อมูลจาก “ฝ่ายญี่ปุ่น” ที่ญี่ปุ่น “อยากบอก” ให้โลกรู้ ระหว่างรับชมก็ใช้วิจารณญาณกันเอาเองนะจ้ะ
พิพิธภัณฑ์นี้มีศูนย์เรียนรู้ครบวงจรเลยนะ ทั้งห้องสมุด สารานุกรม สื่อดิจิทัล เกม สำหรับเด็กก็มีฐานต่างๆ ให้ตอบคำถาม(คล้ายๆตอนเราไปทัศนศึกษา) คำอธิบายภาษาอังกฤษมีเกือบจะครบเลย (ที่นี่ไม่ได้ห้ามถ่ายรูปนะ แต่ส่วนใหญ่เป็นวีดิโอแล้วก็เอกสารข้อตกลง กฎหมาย แผนที่ เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาจ้า)
ครั้งหน้าใครมีโอกาสไปโตเกียวอย่าลืมลองไปดูน้า รับรองไม่ผิดหวัง ค่าเข้าก็ไม่เสีย นิทรรศการคุณภาพขนาดนี้ ไม่ไปไม่ได้แล้วล่ะ