ไปเที่ยวโออิตะกับ Yufuin no Mori

หากใครได้มีโอกาสเดินทางมาเที่ยวภูมิภาคคิวชู (Kyushu) ก็คงไม่พลาดที่จะต้องนั่งรถไฟ Yufuin no Mori หนึ่งในรถไฟญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงในคิวชู ที่เค้าว่ากันว่าต้องลองนั่งสักครั้งนึงในชีวิตให้ได้ค่ะ

แต่ถ้าใครยังไม่รู้จัก วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังว่า หากมานั่งรถไฟ Yufuin no Mori แล้วจะเจออะไร และไปเที่ยวไหนกันได้บ้าง ตามไปชมกันเลยค่ะ...



รถไฟ Yufuin no Mori นั้นเป็นรถไฟท่องเที่ยวของบริษัท JR Kyushu ภายในรถไฟถูกตกแต่งด้วยพื้นไม้อ่อนอย่างสวยงาม ให้บรรยากาศอบอุ่น



ด้านในขบวนรถไฟยังมีบาร์ขายขนมและนํ้า คอยบริการลูกค้าทุกท่านที่เลือกเดินทางไปกับรถไฟสายนี้ และแน่นอนในช่วงโควิดแบบนี้ ในรถไฟก็มีมาตรการป้องกันด้วย



เส้นทางการวิ่งของรถไฟ Yufuin no Mori นั้นจะวิ่งทุกวัน วันละ 3 รอบ จากสถานี Hakata – Hita – Yufuin – (และจะวิ่งไปสถานี Beppu แค่วันละ 1 รอบเท่านั้น)

จากสถานี Hakata เราไปลงที่แรกกันที่สถานี Hita ในช่วงบ่ายแก่ๆ บริเวณสถานีมีการตกแต่งด้วยป้ายการ์ตูนจากอนิเมะเรื่อง Attack on Titans สาเหตุเพราะว่านักเขียนเรื่องนี้เป็นคนเมืองฮิตะนั่นเอง



จากสถานี Hita เราก็เดินเท้าต่อไปประมาณ 20 นาที เพื่อไปเที่ยวบริเวณMamedamachi” (ย่านเมืองมาเมดะ)



เราได้ไปดูร้านซอสโชยุ Hita Shoyu Hina-goten” แต่ว่าสิ่งที่น่าสนใจสําหรับที่นี่ไม่ได้มีแค่ซอสโชยุเท่านั้น แต่มีตุ๊กตาสไตล์ญี่ปุ่นหรือตุ๊กตาฮินะ ข้างในร้านกว่า 4,000 ชิ้น!



ไฮไลท์เป็นเซ็ตตุ๊กตาฮินะที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอยู่หลายชุด เช่น เซ็ตตุ๊กตาฮินะ 10 ชั้นสุดอลังการ, และมีตุ๊กตาฮินะที่ยืนสูงที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งหาดูได้ยากมาก รวมไปถึงมีตุ๊กตาฮินะแบบสมัยใหม่ที่เป็นตัวละครจาก Disney ด้วย



สาเหตุที่ร้านซอสโชยุแห่งนี้มีตุ๊กตามากมายถึงเพียงนี้ เป็นเพราะเจ้าของร้านชอบสะสมตุ๊กตาตุ๊กตาฮินะเป็นงานอดิเรก สะสมมาหลาย 10 ปีแล้ว พอรู้ตัวอีกที ก็มีคอลเลคชั่นมากมายอย่างที่เห็นกัน เดิมทีแล้วคุณเจ้าของไม่ได้ตั้งใจจะตั้งโชว์ของสะสมเหล่านี้ให้ลูกค้าชม แต่พนักงานที่ร้านอ้อนวอนและชักชวนให้นํามาตั้งโชว์เพื่อเรียกลูกค้า คุณเจ้าของเลยจัดเรียงและเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ลูกค้าเข้ามาชมกันแบบจุใจซะเลย ใครผ่านมาแถวย่านเมืองมาเมดะก็ลองมาแวะชมกันได้นะ

ตกเย็นเราไปแวะพักที่บริเวณ Hita Onsen ที่โรงแรม Caffel Hina no Sato ซึ่งในวันเสาร์-อาทิตย์ โรงแรมจะมีบริการล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดินด้วย บรรยากาศดีสุดๆ แบบในภาพนี้เลยค่ะ



บริเวณล็อบบี้ของโรงแรมมีบริการกาแฟ คุกกี้โฮมเมด น่ารักมากๆ

 

หลังจากพักผ่อนสบายๆ 1 คืนแล้ว วันถัดมา... เราก็นั่งรถไฟ Yufuin no Mori อีกครั้งจากสถานี Hita ถึงสถานี Yufuin ระหว่างทางรถไฟจะชะลอความเร็วผ่านนํ้าตก “Jion no Taki” ให้ชมกันด้วยและแล่นผ่านธรรมชาติพงไพรอันสวยงามสมกับชื่อรถไฟ เป็นประสบการณ์ที่ผ่อนคลายสบายตาตลอดการเดินทาง ไม่ทันไรเราก็มาถึงยูฟุอิน (Yufuin) แล้ว



เมืองยูฟูอิน (Yufuin) นั้นเป็นต้นแบบแนวคิด OTOP ของบ้านเรา จากสถานีรถไฟ เดินตรงไปเข้าถนนยูโนะสึโบะ (Yunotsubo Street) ซึ่งเป็นโซนถนนคนเดินยอดฮิตของนักท่องเที่ยว มีร้านขายของฝากและร้านขนมละลานตามากมาย



คราวนี้เราได้ลองร้านชีสเค้ก “Milch” ที่โด่งดังถึงเมืองไทย จริงๆ แล้วร้านมีต้นกําเนิดมาจากที่นี่นั่นเอง สามารถเลือกทานชีสเค้กได้ 2 แบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบอุ่นซึ่งเหมาะสําหรับช่วงหน้าหนาว หรือแบบเย็นสําหรับช่วงหน้าร้อน ทำให้เราได้ทานชีสเค้กอร่อยๆ ได้ทั้งปีกันไปเลย!!



เดินไปเรื่อยๆ ก็มาเจอร้านขายโคโรเกะเนื้อร้านดัง "湯布院金賞コロッケ (Yufuin Kinsho Croquette)" ที่ชนะรางวัล The Gold Award โคโรเกะอุ่นๆ กรอบนอกนุ่มใน



เดินไปจนสุดทางจะพบกับทะเลสาบคินริน (Kinrin Lake) เป็นวิวธรรมชาติที่สวยงาม มีจุดเด่นเป็นเสาโทริอิตั้งอยู่ในนํ้า ซึ่งคราวนี้เราโชคดีมากที่ได้มาเจอบรรยากาศในวันที่หมอกหนา ได้ภาพบรรยากาศอีกแบบที่ยากจะพบเห็น



จากยูฟูอิน เราก็จะนั่งรถไฟ Yufuin no Mori ต่อไปเที่ยวเบปปุ (Beppu) สำหรับการเดินทางภายใน Beppu เราสามารถนั่งรถบัสไปเที่ยวได้รอบเมือง



จุดแรกที่จะแวะก็คือ เมียวบังออนเซ็น (Myoban Onsen) เรียกได้ว่าเป็น 1 ใน 8 นํ้าพุร้อนที่มีชื่อเสี่ยงมากที่สุดในจังหวัดโออิตะ มีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี 1666 เพราะมีบันทึกเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยวแร่ธาตุจากออนเซ็น (Yunohana) มาใช้ในการรักษาและบำรุงผิวเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่น-



ที่นี่คุณสามารถมาเดินดูกระท่อมที่ใช้ดักเก็บ Yunohana ซึ่งเรียกว่า Yunohana-goya และยังสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จาก Yunohana มาละลายใส่อ่างอาบนํ้าเสมือนว่าได้แช่ออนเซ็นเมียวบังที่บ้านของคุณเอง!

บริเวณใกล้ๆ กันยังมีร้าน Okamotoya Baiten ซึ่งขายพุดดิ้งนึ่งด้วยความร้อนของออนเซ็น รสชาติอร่อยกลมกล่อม บางวันถึงกับต้องต่อคิวซื้อกันเลยทีเดียว



ต่อมาเราก็ได้ไปทัวร์บ่อนรกนํ้าพุร้อน (Beppu Hell Tour) ซึ่งจริงๆแล้วมีทั้งหมด 7 บ่อแต่คราวนี้เราแวะดูแค่ 2 บ่อ

บ่อแรก Umi Jigoku” หรือแปลเป็นไทยว่า “ทะเลนรก” จะเป็นบ่อนํ้าพุร้อนขนาดใหญ่ นํ้าเป็นสีฟ้าอ่อนสวยงามเนื่องจากมีสารเคมี Iron sulfate (ไอรอนซัลเฟต) อยู่มากในบ่อนํ้า สามารถซื้อใข่ไก่ที่ต้มจากบ่อนํ้าพุร้อนมาลองทานกันได้นะคะ



และ Kamado Jigoku” หรือคามาโดะจิโกกุ เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวบ่อนํ้าพุร้อนที่น่าสนใจ เพราะมีบ่อนํ้าพุร้อนหลายชนิด หลากสีให้ได้ชมกันในที่เดียว แถมยังมีความเชื่อมโยงกับหนังอนิเมะชื่อดัง “ดาบพิฆาตอสูร” (Kimetsu no Yaiba) อีกด้วย ทำให้ช่วงนี้บ่อ Kamado Jigoku มีแฟนๆ ของอนิเมะเรื่องนี้มาเยี่ยมเยือนกันมากเป็นพิเศษ



หวังว่าบทความรีวิวนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังแพลนเที่ยวอยู่นะคะ หลังหมดโควิดแล้ว หวังว่าเพื่อนๆ จะได้มาท่องเที่ยวในคิวชูและนั่งรถไฟ Yufuin no Mori เที่ยวจังหวัดโออิตะกันเยอะๆ นะคะ

 

ติดตามข้อมูลการท่องเที่ยวคิวชูเพิ่มเติมได้ที่

เว็บไซต์การท่องเที่ยวคิวชู

Facebook Onsen Island Kyushu - ท่องเที่ยว คิวชู