ปราสาทชูริ (Shuri Castle) ปราสาทสีแดงโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของเกาะโอกินาว่า(okinawa) สิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดของอาณาจักรริวกิวตั้งอยู่ที่นาฮะ จังหวัดโอกินาวา เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ปราสาทชูริแต่ก่อนเคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดิของอาณาจักรริวกิวมาก่อน
ปัจจุบันได้เปิดให้ผู้คนสามารถเข้าชมภายในตัวปราสาทได้และด้านนอกยังเป็นสวนสาธารณะที่ให้ผู้คนได้มาพักผ่อนหย่อนใจด้วย โดยสวนสาธารณะแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมทางวัฒนธรรมโดยรอบ เช่น ประตูชูเรมง ประตูหินโซโนะฮยัน-อุทะกิ วัดเอ็นคาคุจิ ซึ่งความพิเศษของสถาปัตยกรรมของปราสาทนี้ คือ กำแพงหินปูนที่ซ้อนเรียงรายที่เป็นเอกลักษณะเฉพาะของริวกิว
ถึงแม้ว่าจะไม่ทราบอายุของการก่อตั้ง แต่มีบันทึกว่าปราสาทแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นหลังจากการรวมตัวของ Sansan โดยราชวงศ์โชวที่ 1 จากนั้นได้รับการต่อเติมและดูแลรักษาในสมัยจักรพรรดิโชชินแห่งราชวงศ์โชวที่ 2
ด้านในมีอาคารที่เรียกว่า Momoura-so-don ส่วนด้านหน้าของทางซ้ายและขวาของทางทิศใต้ถูกสร้างขึ้นให้ตรงข้ามกับทางทิศเหนือ ซึ่งถูกเผาไหม้ในสงคราม "สมรภูมิเดือดโอกินาวา" แต่มีบางส่วนได้รับการบูรณะดูแล จนได้เปิดเป็น "Shuri Castle Park" ในปี 1992 จากนั้นได้ลงทะเบียนเป็นมรดกโลกในเดือนธันวาคม 2000 ในชื่อ "Gusuku Sites และกลุ่มมรดกที่เกี่ยวข้องของราชอาณาจักรริวกิว"
ด้านในมีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ทั้งเสื้อผ้าและเครื่องเรือน รวมไปถึงงานศิลปะที่มีลวดลายของสัตว์วิเศษแปลกตาตามความเชื่อของชาวริวกิวที่จะไม่เห็นที่ไหนอย่างแน่นอน ผลงานส่วนใหญ่จะคล้ายกับศิลปะแบบจีนเนื่องจากริวกิวเป็นรัฐบรรณาการให้กับจีนและมีอาณาเขตใกล้กัน แต่ก็อยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่นด้วย จึงทำให้วัฒนธรรมมีความหลากหลายและซับซ้อน ด้านในจะถูกแบ่งออกเป็นห้องต่างๆทั้งห้องบรรทม ห้องรับแขก ห้องชงชา เป็นต้น
หากใครมาเยี่ยมชมด้านในปราสาทโดยการเสียค่าเข้าชมก็จะได้รับแผนที่พร้อนแผ่นเล่นเกมกิจกรรมตามหารอยตราประทับไปด้วย เราจะต้องเดินไปตามจุดต่างๆของแผนที่ โดยแต่ละจุดเราจะต้องตอบคำถามตามแผ่นลงในกระดาษพร้อมทั้งลงตราประทับ หากเล่นกิจกรรมครบตามกติกาก็จะได้รับของขวัญเล็กๆน้อยตามคะแนนที่เราทำได้ ทำให้เราได้รับความรู้ไปพร้อมๆกับการเล่นเกมเลย ทุกๆจุดมีอธิบายเป็นภาษาอังกฤษเอาไว้ชัดเจน ตอนที่ไปเราเล่นได้คะแนนต่ำสุดเพราะมัวแต่ถ่ายรูปแต่ก็ได้สติ๊กเกอร์น่ารักๆกลับบ้านด้วย
หากใครที่มาโอกินาว่าแล้วแนะนำว่าต้องมาที่นี่ให้ได้เลย เพราะเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ที่จะทำให้รู้จักและเข้าใจวิถีชีวิตของคนโอกินาว่ามากยิ่งขึ้น แล้วทุกคนจะหลงรักโอกินาว่า
การเดินทาง
Okinawa Monorail : ลงสถานีชูริเดินไปตามยังปราสาทชูริประมาณ 15-20 นาที
รถส่วนตัว : มีที่จอดบริเวณศูนย์อาหาร
ค่าเข้าชม
รอบนอก:ฟรี
ด้านในปราสาท:820 เยน
ปัจจุบันได้เปิดให้ผู้คนสามารถเข้าชมภายในตัวปราสาทได้และด้านนอกยังเป็นสวนสาธารณะที่ให้ผู้คนได้มาพักผ่อนหย่อนใจด้วย โดยสวนสาธารณะแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมทางวัฒนธรรมโดยรอบ เช่น ประตูชูเรมง ประตูหินโซโนะฮยัน-อุทะกิ วัดเอ็นคาคุจิ ซึ่งความพิเศษของสถาปัตยกรรมของปราสาทนี้ คือ กำแพงหินปูนที่ซ้อนเรียงรายที่เป็นเอกลักษณะเฉพาะของริวกิว
ถึงแม้ว่าจะไม่ทราบอายุของการก่อตั้ง แต่มีบันทึกว่าปราสาทแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นหลังจากการรวมตัวของ Sansan โดยราชวงศ์โชวที่ 1 จากนั้นได้รับการต่อเติมและดูแลรักษาในสมัยจักรพรรดิโชชินแห่งราชวงศ์โชวที่ 2
ด้านในมีอาคารที่เรียกว่า Momoura-so-don ส่วนด้านหน้าของทางซ้ายและขวาของทางทิศใต้ถูกสร้างขึ้นให้ตรงข้ามกับทางทิศเหนือ ซึ่งถูกเผาไหม้ในสงคราม "สมรภูมิเดือดโอกินาวา" แต่มีบางส่วนได้รับการบูรณะดูแล จนได้เปิดเป็น "Shuri Castle Park" ในปี 1992 จากนั้นได้ลงทะเบียนเป็นมรดกโลกในเดือนธันวาคม 2000 ในชื่อ "Gusuku Sites และกลุ่มมรดกที่เกี่ยวข้องของราชอาณาจักรริวกิว"
ด้านในมีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ทั้งเสื้อผ้าและเครื่องเรือน รวมไปถึงงานศิลปะที่มีลวดลายของสัตว์วิเศษแปลกตาตามความเชื่อของชาวริวกิวที่จะไม่เห็นที่ไหนอย่างแน่นอน ผลงานส่วนใหญ่จะคล้ายกับศิลปะแบบจีนเนื่องจากริวกิวเป็นรัฐบรรณาการให้กับจีนและมีอาณาเขตใกล้กัน แต่ก็อยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่นด้วย จึงทำให้วัฒนธรรมมีความหลากหลายและซับซ้อน ด้านในจะถูกแบ่งออกเป็นห้องต่างๆทั้งห้องบรรทม ห้องรับแขก ห้องชงชา เป็นต้น
หากใครมาเยี่ยมชมด้านในปราสาทโดยการเสียค่าเข้าชมก็จะได้รับแผนที่พร้อนแผ่นเล่นเกมกิจกรรมตามหารอยตราประทับไปด้วย เราจะต้องเดินไปตามจุดต่างๆของแผนที่ โดยแต่ละจุดเราจะต้องตอบคำถามตามแผ่นลงในกระดาษพร้อมทั้งลงตราประทับ หากเล่นกิจกรรมครบตามกติกาก็จะได้รับของขวัญเล็กๆน้อยตามคะแนนที่เราทำได้ ทำให้เราได้รับความรู้ไปพร้อมๆกับการเล่นเกมเลย ทุกๆจุดมีอธิบายเป็นภาษาอังกฤษเอาไว้ชัดเจน ตอนที่ไปเราเล่นได้คะแนนต่ำสุดเพราะมัวแต่ถ่ายรูปแต่ก็ได้สติ๊กเกอร์น่ารักๆกลับบ้านด้วย
หากใครที่มาโอกินาว่าแล้วแนะนำว่าต้องมาที่นี่ให้ได้เลย เพราะเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ที่จะทำให้รู้จักและเข้าใจวิถีชีวิตของคนโอกินาว่ามากยิ่งขึ้น แล้วทุกคนจะหลงรักโอกินาว่า
การเดินทาง
Okinawa Monorail : ลงสถานีชูริเดินไปตามยังปราสาทชูริประมาณ 15-20 นาที
รถส่วนตัว : มีที่จอดบริเวณศูนย์อาหาร
ค่าเข้าชม
รอบนอก:ฟรี
ด้านในปราสาท:820 เยน
