กินโครงปลาทูน่าพร้อมไขสันหลังและปลาหมึกเป็นๆ!! มาลองอาหารญี่ปุ่นทางเลือกที่ร้าน Kensaku พหลโยธิน 4

เชื่อว่าหลายๆคนที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นและมีโอกาสทานอาหารญี่ปุ่นบ่อยๆ คงจะเริ่มเบื่อๆกับอาหารญี่ปุ่นอย่าง ซูชิโอโทโร่ แคลิฟอร์เนียมากิ ชิราชิ อะไรเทือกๆนี้ เชื่อว่าหลายๆคนคงจะมีความคิดแบบผมว่า มันจะมีร้านไหนมั้ยที่จะมีอาหารญี่ปุ่นทางเลือกแปลกๆแบบที่หากินไม่ได้ทั่วๆไปในเมืองไทยบ้าง

อยู่ๆผมก็จับพลัดจับผลูไปดูรายการของ youtuber ดังเจ้านึงที่จับมือทำรายการร่วมกับวงไอดอลชื่อดังวงหนึ่ง (น่าจะพอเดาได้) ซึ่งมี ep นึงที่พากันไปกินอาหารญี่ปุ่นที่ร้านๆนึง แม่เจ้า!! นั่นคือสิ่งที่ผมใฝ่ฝันมานาน กับร้านอาหารญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบแปลกๆ หากินไม่ค่อยได้ในไทย แต่ตอนนี้มันมาอยู่แค่แถวๆพหลโยธิน 4 เท่านั้นเอง

ร้าน Kensaku (เคนซากุ) เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นทางเลือกที่โด่งดังในเรื่องข้าวหน้าปลาไหล นอกจากนี้ก็มีอาหารญี่ปุ่นมาตรฐานทั่วไป แต่ทีเด็ดของร้านอยู่ที่วัตุดิบทางเลือกที่ไม่ได้มีในเมนู และไม่ได้มีให้สั่งได้ทุกวัน ซึ่งขึ้นอยู่กับทางเจ้าของร้านจะได้วัตถุดิบแปลกๆอะไรมาบ้างในแต่ละรอบ ซึ่งการที่จะรู้ข่าวสารของวัตุดิบลับพวกนี้ ต้องแอดไลน์พิเศษของทางร้าน ซึ่งทางเจ้าของร้านจะอัพเดทข่าวสารในเรื่องของวัตถุดิบให้ตลอดเวลา ซึ่งมีตั้งแต่ปลาแปลกๆจากติมอเลสเต้ หอยสังข์ญี่ปุ่น ตับปลากระเบน หัวใจปลาฉลาม ปลาปักเป้า เพรียงทะเลนานาชนิด หอยเม่นมุราซากิยกตัว ปลาไท่ที่ขุนด้วยส้มจนเนื้อมีกลิ่นส้ม ปลาหมึกกล้วยเป็นๆ



และสิ่งที่เป็นเหมือน signature ของที่นี่ก็คือ นากาโอจิ หรือโครงปลาทูน่า พอดีวันนี้ได้รับข้อความจากไลน์ของทางร้านด้วยว่ามีปลาหมึกเป็นๆเข้ามา 20 ตัว ไม่รอช้าเลยรีบขับบึ่งไปที่ร้านทันที

ร้าน Kensaku อยุ่ในซอยพหลโยธิน 4 บริเวณร้านเหมือนเป็นบ้าน ให้ความรู้สึกสบายๆ มีที่จอดรถได้หลายคัน ภายในร้านมีโซนที่เป็นเคาท์เตอร์และโต๊ะนั่ง รวมถึงห้อง VIP ด้วย



ผมเริ่มจาก odori ika หรือปลาหมึกเต้นรำ ซึ่งก็คือปลาหมึกเป็นๆนี่เอง ซึ่งร้านเหลือแต่ไซส์เล็ก 450 บาทแล้ว ซึ่งถ้าตัวใหญ่จะอยู่ที่ 550 บาท



ปลาหมึกกล้วยใสแจ๋วดูเผินๆเหมือนตายแล้ว แต่จ้องดูดีๆจะเห็นผิวหลาหมึกที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ และเมื่อราดซอสโชยุลงไป มันก็จะเคลื่อนไหวทันทีเหมือนเต้นรำ เสียดายที่ลงเป็นคลิปวีดีโอไม่ได้



รสชาติของ odori ika มีความหวาน สด เนื้อมีความกรอบ ใส ต่างจากซาชิมิปลาหมึกทั่วๆไป จิ้มกับโชยุให้รสชาติที่สุดยอด ถืิอว่าเป็นจานเรียกน้ำย่อยอย่างดีทีเดียว และมาถึงจานหลักของวันนี้กับนากาโอจิ โครงปลาทูน่าไซส์เล็ก สับมาครึ่งตัว ถ้าเป็นไซส์ใหญ่จะมาทั้งตัวเลยทีเดียว





วิธีทานให้เอาช้อนเล็กขูดเนื้อปลาทูน่าตามซี่โครง แล้วเอามาโปะบนสาหน่ายแผ่น พร้อมราดวาซาบิดองสูตรพิเศษ โรยด้วยขิงดอง ต้นหอมซอย แล้วม้วนทานได้เลย ขอบอกว่ารสชาติขิงวาซาบิดองเด็ดมาก มีความเผ็ดและเปรี้ยว เข้ากับเนื้อปลาทูน่าและสาหร่ายเป็นอย่างดีจนไม่ต้องจุ่มโชยุเลยก็ได้ โครงปลาทูน่าทานได้ทั้ง 2 ด้าน ซึ่งถือว่าเยอะและอิ่มมากๆสำหรับมากินคนเดียว



แต่ทีเด็ดที่ผมถือว่าอะไรที่เซอร์ไพรซ์สำหรับวันนี้ คือ ไขกระดูกสันหลังปลาทูน่า โดยหลังจากเราทานนากาโอจิเสร็จ ทางเชฟจะเอาโครงไปสับเอาเฉพาะกระดูกสันหลังปลาทูน่าออกมาซึ่งข้างในมีไขสันหลังที่เป็นคอลลาเจนล้วนๆ โดยทางร้านจะท็อปด้วยไชเท้าขูด ต้นหอมซอย และเยลลี่ซอสพอนสึ ขอบอกว่าทีเด็ดจริงๆ รสชาติเปรี่ยวของเยลลี่ซอสพอนสึเข้ากับไขสันหลังเป็นอย่างมาก ส่วนไชเท้าขูดก็ช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นอีก



ทานนากาโอจิหมด ยอมรับว่าอิ่มมากๆสำหรับการทานคนเดียว รายการอื่นที่คิดเอาไว้ว่าจะลองคงต้องขอเลื่อนไปคราวหน้า ซึ่งยังมีเมนูเด็ดๆที่อยากลองอย่างหัวใจปลาฉลาม เพรียงทะเล หรือปลาไท่กลิ่นส้มที่อยากจะมาลองอีก คงต้องรอโอกาสหน้าที่วัตถุดิบเข้ามา คงได้มีโอกาสเข้าไปลองอีกที

ใครที่สนใจอาหารญี่ปุ่นทางเลือก ขอเชิญที่ร้าน Kensaku พหลโยธิน 4 ค้นหาเบอร์ติดต่อใน facebook ได้เลยครับ

ร้านเปิด 11:00-14:00 และ 17:00-22:00