สวยมั้ยหล่ะ สวยจริงๆเนอะ ที่นี่ก็คือ ปล่องภูเขาไฟโอคาม่า (Okama Crater , 御釜) หรือบ่อน้ำกะเทย ซึ่งอยู่ บนสุดของ Mt. ZAO ในจังหวัด ยามากาตะ นั่นเองค่ะ
ภูเขา Zaō เป็นหนึ่งใน 100 ภูเขาที่โด่งดังในญี่ปุ่น Mount Zaō (王山Zaō-zan) เป็นภูเขาไฟอยู่ระหว่างจังหวัดยามากาตะและจังหวัดมิยางิในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเสน่ห์ของที่นี่คือ มีทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่ชื่อว่า "Okama" (御釜) หรือที่เรียกว่า "Five Color Pond" (五色沼, goshiki numa) เพราะน้ำจะเปลี่ยนสีตามสภาพอากาศ อยู่ในปล่องภูเขาไฟที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในยุค 1720 ทะเลสาบมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 360 เมตร (1,200 ฟุต) และลึก 60 เมตร (200 ฟุต) และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดยามากาตะ
การเดินทางไปชมสถานที่แห่งนี้ก็สะดวกสบายมากค่ะ เพราะจะมีรถบัสจากสถานี ยามากาตะ ขับขึ้นมาจนเกือบสุด แล้วเดินเท้าต่อไปอีกไม่กี่สิบนาที เราก็จะพบภาพสวยๆแบบนี้แล้วค่ะ ในบริเวณนั้น ถ้าเดินต่อขึ้นไปอีกหน่อยก็จะมีศาลเจ้าเล็กๆ ดูมีพลัง ไหว้สักการะกันค่ะ ดูเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์มากเลยจ้า (เค้ามีเวลาให้ประมาณ 2 ชั่วโมงในการเดินบริเวณรอบๆนี้ เพราะเรามารถบัส)
นอกจากนั้น ในฤดูหนาว ยังมีอีกแหล่งท่องเที่ยว (อีกด้านนึง) ที่แปลกประหลาดและโดดเด่นของสกีรีสอร์ทชื่อดังของซาโอะคือปีศาจหิมะ (樹氷Juhyō) ที่จะเริ่มปรากฏขึ้นในกลางฤดูหนาว นั่นก็คือหิมะที่ตกลงมาทับถมบนต้นไม้ ทั้งภูเขา เกิดกลายเป็นร่างประหลาดของต้นไม้ ดูแล้วสวยงาม ประหลาดตาค่ะ
(รีบวางแพลนไปหน้าหนาวนี้กันเถอะ)
สรุปการเดินทางจากโตเกียวกันหน่อยค่ะ
การเดินทางจากโตเกียว เรานั่งรถบัสรอบดึก(แถวชินจูกุ เป็นรถนั่งนอนได้ มีที่ครอบหัวไม่รบกวนสายตา) เพื่อไปถึงสถานียามากาตะในตอนเช้า
(ถึงประมาณ 6 โมงเช้า) จากนั้นทานอาหารเช้า รีเฟรชตัวเอง รอรอบรถบัส ซึ่งจะออกประมาณ 9 โมงกว่า
Yamagata Station ⇔ Zao Onsen Bus Terminal ⇔ Okama (Timetable)
นั่งรถบัสประมาณ 40 นาที เพื่อขึ้นไป ที่ ภูเขาซาโอะ โดยรถบัสที่ว่านี้จะพาเราไปถึงตรง (Okama) บ่อน้ำกะเทย คือเดินไปอีกเพียง 10 นาทีเท่านั้นจากจุดลงรถบัส แล้วเดินเล่นบริเวณรอบๆ จากนั้นก็นั่งรถบัสคันเดิมลงมา จะมีบริการแค่วันละ 1 รอบ คือ จากสถานี Yamagata ออกเวลา 9.30 น. และถึง Okama เวลา 11:06 น. และกลับลงมาในเวลา 13:00 น. และมาถึงสถานี Yamagata เวลา 14:40 น.
(จากนั้นก็ไปเที่ยวที่อื่นต่อได้ค่ะ เมืองยามากาตะ(Yamagata) มีแหล่งท่องเที่ยวเยอะมากค่ะ นอกจากภูเขา ZAO เช่น Ginzan onsen, YamaDera, เป็นต้น)
รอบรถขึ้นไปถึงบ่อน้ำ Okama ประมาณ 11 โมง ใกล้เที่ยงแล้ว หิวใช่มั้ย ไม่ต้องกลัวค่ะ เพราะที่จอดรสมีอาคารบริการนักท่องเที่ยว มีอาหารขายค่ะ อร่อยด้วยนะคะ
จะทานก่อนแล้วเดินไปชมธรรมชาติ หรือรีบเดินแล้วกลับมานั่งทาน รอรถบัสมารับตอนบ่ายโมงก็ได้หมด
แต่สำหรับเรา เราจองที่พักเรียวกังใน Zao Onsen ไว้ ก็ให้นั่งรถบัสคันเดิม แต่ลงที่ป้าย Zao Onsen Bus Terminal แทน เพื่อรอรถโรงแรมมารับไป
เนื่องจากยังพอมีเวลา เราจึงต่อไปข้างบนของเทือกเขาอีกครั้งด้วย The Zaō Ropeway (蔵王ロープウェイ) ซึ่งเรานั่งกระเช้าทาง Chuo Ropeway ด้านบนมีจุดชมวิวในช่วงหน้าร้อน และสำหรับช่วงหน้าหนาว ให้ไปทาง Sanroku line แทน เพื่อเล่นสกี หรือ ดูกองทัพปีศาจหิมะ
ดูวิวด้านบนครบรอบๆแถวนั้น ก็นั่ง Ropeway กลับมาที่เดิม เพื่อรอรถโรงแรมจ้ะ
Zao Onsen เป็นหนึ่งในรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นที่มีตำนานที่ถูกค้นพบโดย Kibi Takaha เมื่อ ประมาณ 1,900 ปีก่อน เค้าใช้น้ำพุร้อน อาบน้ำเพื่อรักษาพิษของลูกศร ทำให้บาดแผลหายอย่างรวดเร็ว เราสามารถเพลิดเพลินกับน้ำพุร้อนได้ทุกที่พักใน Zao Onsen
Zao Onsen เป็นน้ำพุร้อนกำมะถันที่มีความเป็นกรดสูง นอกจากนี้ยังมีผลทำให้ผิวขาวและทำให้ผิวเรียบเนียน จึงเป็นน้ำพุร้อนยอดนิยมในชื่อ "Beautiful Bath"
รถโรงแรมมารับแล้ว ไปพักผ่อนกันดีกว่า
เราเลือกพัก ที่ Ōmiya Ryokan เลือกแบบมีเซ็ตอาหารเช้าและเย็นด้วยค่ะ ราคาประมาณ 10,000- 16,000 yen ต่อท่าน (คิดเป็นรายคนนะคะ)
พักที่ Oomiya Ryokan ดีอย่างไร
Zao Onsen เป็นหนึ่งในโรงแรมที่ได้รับการกล่าวขาน เป็นที่ยอมรับมานานกว่า 1,000 ปี อาคารปัจจุบันเป็นของเจ้าของรุ่นที่ 33 แล้วละค่ะ
คุณสามารถเพลิดเพลินกับการพักผ่อนไปกับน้ำพุร้อนจากแหล่งธรรมชาติจริง 100% รู้สึกผ่อนคลายในสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ
* ห้องพักมีสไตล์ย้อนยุคและ แบบทันสมัย ที่นี่ไม่มีลิฟต์ในโรงแรมเนื่องจากยังคงรักษาแบบดั้งเดิมไว้เพื่อสร้างความโรแมนติกแบบ Taisho มีบันไดที่ขึ้นและลง เดินทะลุกันจนงง
มีชุดยากาตะ ให้ใส่พร้อมถ่ายรูปกับห้องสไตล์ญี่ปุ่น ^^
เป็นโรงแรมที่เหมาะกับการมาพักผ่อนอย่างแท้จริง สัมผัสแรกตั้งแต่หน้าทางเข้า พื้นที่ส่วนใหญ่ของโรงแรมเป็นเสื่อทาทามิ ตามแบบฉบับญี่ปุ่นดั้งเดิมจริงๆค่ะ
และมื้ออาหารค่ำแสนอร่อย แบบ Zao-Sankaizen คือ อาหารค่ำแบบมาตรฐานและเป็นที่นิยมเสิรฟแบบฉบับเรียวกังญี่ปุ่น โดยวัตถุดิบอาหารของ Yamagata
อาหารเย็นและอาหารเช้า เป็นชุดอลังการ
เซ็ตอาหารเย็น
เซ็ตอาหารเช้า
พอถึงเช้าวันใหม่ มารับประมานอาหารเช้ากันที่ห้องเดิม จากนั้น ก็นั่งรถบัสที่สถานี Zao Onsen Bus Terminal เพื่อกลับเข้าเมือง Yamagata เพื่อไปเที่ยวที่อื่นต่อไปค่ะ
**แนะนำไปเที่ยวต่อที่ YamaDera หรือวัดบนเขา ที่ท้าทายแรงขาของคุณให้ขึ้นไปให้ได้ ^^
Girltravelstory
ภูเขา Zaō เป็นหนึ่งใน 100 ภูเขาที่โด่งดังในญี่ปุ่น Mount Zaō (王山Zaō-zan) เป็นภูเขาไฟอยู่ระหว่างจังหวัดยามากาตะและจังหวัดมิยางิในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเสน่ห์ของที่นี่คือ มีทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่ชื่อว่า "Okama" (御釜) หรือที่เรียกว่า "Five Color Pond" (五色沼, goshiki numa) เพราะน้ำจะเปลี่ยนสีตามสภาพอากาศ อยู่ในปล่องภูเขาไฟที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในยุค 1720 ทะเลสาบมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 360 เมตร (1,200 ฟุต) และลึก 60 เมตร (200 ฟุต) และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดยามากาตะ
การเดินทางไปชมสถานที่แห่งนี้ก็สะดวกสบายมากค่ะ เพราะจะมีรถบัสจากสถานี ยามากาตะ ขับขึ้นมาจนเกือบสุด แล้วเดินเท้าต่อไปอีกไม่กี่สิบนาที เราก็จะพบภาพสวยๆแบบนี้แล้วค่ะ ในบริเวณนั้น ถ้าเดินต่อขึ้นไปอีกหน่อยก็จะมีศาลเจ้าเล็กๆ ดูมีพลัง ไหว้สักการะกันค่ะ ดูเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์มากเลยจ้า (เค้ามีเวลาให้ประมาณ 2 ชั่วโมงในการเดินบริเวณรอบๆนี้ เพราะเรามารถบัส)
นอกจากนั้น ในฤดูหนาว ยังมีอีกแหล่งท่องเที่ยว (อีกด้านนึง) ที่แปลกประหลาดและโดดเด่นของสกีรีสอร์ทชื่อดังของซาโอะคือปีศาจหิมะ (樹氷Juhyō) ที่จะเริ่มปรากฏขึ้นในกลางฤดูหนาว นั่นก็คือหิมะที่ตกลงมาทับถมบนต้นไม้ ทั้งภูเขา เกิดกลายเป็นร่างประหลาดของต้นไม้ ดูแล้วสวยงาม ประหลาดตาค่ะ
(รีบวางแพลนไปหน้าหนาวนี้กันเถอะ)
สรุปการเดินทางจากโตเกียวกันหน่อยค่ะ
การเดินทางจากโตเกียว เรานั่งรถบัสรอบดึก(แถวชินจูกุ เป็นรถนั่งนอนได้ มีที่ครอบหัวไม่รบกวนสายตา) เพื่อไปถึงสถานียามากาตะในตอนเช้า
(ถึงประมาณ 6 โมงเช้า) จากนั้นทานอาหารเช้า รีเฟรชตัวเอง รอรอบรถบัส ซึ่งจะออกประมาณ 9 โมงกว่า
Yamagata Station ⇔ Zao Onsen Bus Terminal ⇔ Okama (Timetable)
Yamagata Station⇔Okama | Okama⇔Yamagata Station | ||||||
Yamagata Station | Zao Onsen bus terminal | Okama | Okama | Zao Onsen bus terminal | Yamagata Station | ||
9:30 | 10:10 | 11:06 | 13:00 | 14:00 | 14:40 |
นั่งรถบัสประมาณ 40 นาที เพื่อขึ้นไป ที่ ภูเขาซาโอะ โดยรถบัสที่ว่านี้จะพาเราไปถึงตรง (Okama) บ่อน้ำกะเทย คือเดินไปอีกเพียง 10 นาทีเท่านั้นจากจุดลงรถบัส แล้วเดินเล่นบริเวณรอบๆ จากนั้นก็นั่งรถบัสคันเดิมลงมา จะมีบริการแค่วันละ 1 รอบ คือ จากสถานี Yamagata ออกเวลา 9.30 น. และถึง Okama เวลา 11:06 น. และกลับลงมาในเวลา 13:00 น. และมาถึงสถานี Yamagata เวลา 14:40 น.
(จากนั้นก็ไปเที่ยวที่อื่นต่อได้ค่ะ เมืองยามากาตะ(Yamagata) มีแหล่งท่องเที่ยวเยอะมากค่ะ นอกจากภูเขา ZAO เช่น Ginzan onsen, YamaDera, เป็นต้น)
รอบรถขึ้นไปถึงบ่อน้ำ Okama ประมาณ 11 โมง ใกล้เที่ยงแล้ว หิวใช่มั้ย ไม่ต้องกลัวค่ะ เพราะที่จอดรสมีอาคารบริการนักท่องเที่ยว มีอาหารขายค่ะ อร่อยด้วยนะคะ
จะทานก่อนแล้วเดินไปชมธรรมชาติ หรือรีบเดินแล้วกลับมานั่งทาน รอรถบัสมารับตอนบ่ายโมงก็ได้หมด
แต่สำหรับเรา เราจองที่พักเรียวกังใน Zao Onsen ไว้ ก็ให้นั่งรถบัสคันเดิม แต่ลงที่ป้าย Zao Onsen Bus Terminal แทน เพื่อรอรถโรงแรมมารับไป
เนื่องจากยังพอมีเวลา เราจึงต่อไปข้างบนของเทือกเขาอีกครั้งด้วย The Zaō Ropeway (蔵王ロープウェイ) ซึ่งเรานั่งกระเช้าทาง Chuo Ropeway ด้านบนมีจุดชมวิวในช่วงหน้าร้อน และสำหรับช่วงหน้าหนาว ให้ไปทาง Sanroku line แทน เพื่อเล่นสกี หรือ ดูกองทัพปีศาจหิมะ
ดูวิวด้านบนครบรอบๆแถวนั้น ก็นั่ง Ropeway กลับมาที่เดิม เพื่อรอรถโรงแรมจ้ะ
ทำไมต้องมา Zao Onsen
Zao Onsen เป็นหนึ่งในรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นที่มีตำนานที่ถูกค้นพบโดย Kibi Takaha เมื่อ ประมาณ 1,900 ปีก่อน เค้าใช้น้ำพุร้อน อาบน้ำเพื่อรักษาพิษของลูกศร ทำให้บาดแผลหายอย่างรวดเร็ว เราสามารถเพลิดเพลินกับน้ำพุร้อนได้ทุกที่พักใน Zao Onsen
Zao Onsen เป็นน้ำพุร้อนกำมะถันที่มีความเป็นกรดสูง นอกจากนี้ยังมีผลทำให้ผิวขาวและทำให้ผิวเรียบเนียน จึงเป็นน้ำพุร้อนยอดนิยมในชื่อ "Beautiful Bath"
รถโรงแรมมารับแล้ว ไปพักผ่อนกันดีกว่า
เราเลือกพัก ที่ Ōmiya Ryokan เลือกแบบมีเซ็ตอาหารเช้าและเย็นด้วยค่ะ ราคาประมาณ 10,000- 16,000 yen ต่อท่าน (คิดเป็นรายคนนะคะ)
พักที่ Oomiya Ryokan ดีอย่างไร
Zao Onsen เป็นหนึ่งในโรงแรมที่ได้รับการกล่าวขาน เป็นที่ยอมรับมานานกว่า 1,000 ปี อาคารปัจจุบันเป็นของเจ้าของรุ่นที่ 33 แล้วละค่ะ
คุณสามารถเพลิดเพลินกับการพักผ่อนไปกับน้ำพุร้อนจากแหล่งธรรมชาติจริง 100% รู้สึกผ่อนคลายในสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ
* ห้องพักมีสไตล์ย้อนยุคและ แบบทันสมัย ที่นี่ไม่มีลิฟต์ในโรงแรมเนื่องจากยังคงรักษาแบบดั้งเดิมไว้เพื่อสร้างความโรแมนติกแบบ Taisho มีบันไดที่ขึ้นและลง เดินทะลุกันจนงง
มีชุดยากาตะ ให้ใส่พร้อมถ่ายรูปกับห้องสไตล์ญี่ปุ่น ^^
เป็นโรงแรมที่เหมาะกับการมาพักผ่อนอย่างแท้จริง สัมผัสแรกตั้งแต่หน้าทางเข้า พื้นที่ส่วนใหญ่ของโรงแรมเป็นเสื่อทาทามิ ตามแบบฉบับญี่ปุ่นดั้งเดิมจริงๆค่ะ
และมื้ออาหารค่ำแสนอร่อย แบบ Zao-Sankaizen คือ อาหารค่ำแบบมาตรฐานและเป็นที่นิยมเสิรฟแบบฉบับเรียวกังญี่ปุ่น โดยวัตถุดิบอาหารของ Yamagata
อาหารเย็นและอาหารเช้า เป็นชุดอลังการ
เซ็ตอาหารเย็น
เซ็ตอาหารเช้า
พอถึงเช้าวันใหม่ มารับประมานอาหารเช้ากันที่ห้องเดิม จากนั้น ก็นั่งรถบัสที่สถานี Zao Onsen Bus Terminal เพื่อกลับเข้าเมือง Yamagata เพื่อไปเที่ยวที่อื่นต่อไปค่ะ
**แนะนำไปเที่ยวต่อที่ YamaDera หรือวัดบนเขา ที่ท้าทายแรงขาของคุณให้ขึ้นไปให้ได้ ^^
Girltravelstory