อีกหนึ่งจุดเช็คอินสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาโตเกียวที่พลาดไม่ได้นั่นก็คือ วัดอาซากุสะ (Asakusa Temple ) หรือ วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) นั่นเอง ซึ่งเป็นวัดดังของโตเกียวจึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมาก ถ้าไม่ได้มาถือว่ามาไม่ถึงโตเกียวนะจ๊ะ
วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) มีสัญลักษณ์สำคัญของวันนี้ คือโคมแดงขนาดใหญ่ที่โดดเด่นอยู่หน้าประตู ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายภาพนั่นเอง จึงมีนักท่องเที่ยวมากมายแวะมาสักการะและเที่ยวชมวัดแห่งนี้ทั้งในบริเวณภายนอกและภายใน ซึ่งเป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว สถานที่ดั้งเดิมถูกระเบิดเผาทำลายไปเกือบหมดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัววัดปัจจุบันถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด แรกเริ่มเคยเป็นวัดในสายเท็นได ต่อมาได้แยกเป็นอิสระหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 บริเวณติดกับวัดเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าอาซากุสะ ซึ่งเป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต
Address : 2 Chome-3-1 Asakusa, Taito City, Tokyo 111-0032, Japan
ค่าเข้าชม: ฟรี ไม่มีค่าเข้าชม
เวลาทำการ:
การเดินทาง :
ประตูคามินาริ (Kaminari-mon) หรือ "ประตูอสุนี" คือประตูขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าทางเข้าวัด บนคานประตูแขวนโคมกระดาษขนาดใหญ่มีความสูงกว่า 5.5 เมตร ที่มีรูปสายฟ้าและเมฆเขียนด้วยสีดำและแดง ในบริเวณวัดเป็นที่ตั้งของเจดีย์ 5 ชั้น และอาคารหลักที่เป็นที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์คันนง (Kannon Bosatsu) หรือพระโพธิสัตว์กวนอิมที่คนไทยรู้จัก
ปกติจุดนี้คนจะเยอะมากเพราะเป็นสัญลักษณ์ที่ทุกคนจะต้องแวะถ่ายรูป แต่ถ้าอยากได้รูปแบบคนน้อยไม่ติดคน มาตอนดึกๆเลยจ้า หรือก็ถ้ามาเจอฝน คนก็น้อยเช่นกันค่ะ
ถนนนากามิเสะ (Nakamise) เมื่อลอดผ่าน ประตูคามินาริมงมาแล้ว จะเจอกับถนนที่เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย ทั้งร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ซึ่งเป็นย่านร้านค้าที่เก่าแก่ของญี่ปุ่น สายช้อปต้องชอบมากแน่ๆ ตื่นเต้นมาก ละลานตาสุดๆ ครั้งก่อนเรามาเจอฝนตกร้านค้าปิดหมด รอบนี้มาแดดแรงกล้า ร้านค้าเปิดครบ เพลินจ้า
ฟินสุดก็เจอ ขวด Coke Sakura 2020 นี่แหละ สวยมาก สวยกว่าของปี 2019 อีก
ประตูโฮโซมง (Hozomon) เมื่อสิ้นสุดบริเวณถนนถนนนากามิเสะ ก็จะเจอกับประตูโฮโซมงหรือประตูคลังสมบัติ ที่ได้ชื่อนี้เพราะว่ามีอาคารคลังสมบัติของวัดตั้งอยู่ติดกัน บริเวณด้านหน้าประตูมีรูปปั้นคู่ขององค์วัชรปาณีหรือเทพผู้เป็นธรรมบาลประดิษฐานอยู่ ส่วนบริเวณด้านหลังมีรองเท้าฟางหรือวาระจิ เป็นรองเท้าสานขนาดใหญ่ติดอยู่ ซึ่งมีความเชื่อว่ารองเท้านี้จะคอยขับไล่และปัดเป่าความชั่วร้าย และถึงคอยคุ้มครองให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข
โจโคโระ หรือ กระถางธูป บริเวณหน้าอุโบสถจะมีกระถางธูปใบใหญ่ตั้งอยู่ มีความเชื่อเรื่องเล่าต่อๆกันมาว่าหากกวักควันธูปเข้าตัวจะช่วยทำให้สิ่งที่ไม่ดีออกจากร่างกาย แต่ฮานะไม่ไหวจ้า เป็นภูมิแพ้ ขอได้กลิ่นควันอยู่ไกลๆก็พอ
อย่าลืมแวะไปกินไอศครีมชาเขียวเจ้าอร่อย ร้าน Suzukien หลังวัดนะจ๊ะ สามารถดูรีวิวได้ที่ : https://www.www.jgbthai.com/suzukien-asakusa-ice-cream/
สำหรับใครที่กำลังมองหาที่โรงแรมย่ายอาซากุสะ สามารถดูรีวิวได้ที่
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ
วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) มีสัญลักษณ์สำคัญของวันนี้ คือโคมแดงขนาดใหญ่ที่โดดเด่นอยู่หน้าประตู ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายภาพนั่นเอง จึงมีนักท่องเที่ยวมากมายแวะมาสักการะและเที่ยวชมวัดแห่งนี้ทั้งในบริเวณภายนอกและภายใน ซึ่งเป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว สถานที่ดั้งเดิมถูกระเบิดเผาทำลายไปเกือบหมดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัววัดปัจจุบันถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด แรกเริ่มเคยเป็นวัดในสายเท็นได ต่อมาได้แยกเป็นอิสระหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 บริเวณติดกับวัดเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าอาซากุสะ ซึ่งเป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต
Address : 2 Chome-3-1 Asakusa, Taito City, Tokyo 111-0032, Japan
ค่าเข้าชม: ฟรี ไม่มีค่าเข้าชม
เวลาทำการ:
- อาคารหลักวัดอาซากุสะเปิด 06.00 น. – 17.00 น. (ช่วงตุลาคม–มีนาคม เปิด 6:30 น.)
- ร้านค้าทางเข้าวัดเปิดประมาณ 09.00 น. - 19.00 น.
การเดินทาง :
- นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza มาลงที่สถานี Asakusa จากนั้น เดินประมาณ 1 นาที
- นั่งรถไฟใต้ดิน Toei สาย Asakusa มาลงที่สถานี Asakusa จากนั้น เดินประมาณ 1 นาที
- นั่งรถไฟสาย Tobu SKYTREE มาลงที่สถานี Tobu Asakusa จากนั้น เดินประมาณ 5 นาที
ประตูคามินาริ (Kaminari-mon) หรือ "ประตูอสุนี" คือประตูขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าทางเข้าวัด บนคานประตูแขวนโคมกระดาษขนาดใหญ่มีความสูงกว่า 5.5 เมตร ที่มีรูปสายฟ้าและเมฆเขียนด้วยสีดำและแดง ในบริเวณวัดเป็นที่ตั้งของเจดีย์ 5 ชั้น และอาคารหลักที่เป็นที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์คันนง (Kannon Bosatsu) หรือพระโพธิสัตว์กวนอิมที่คนไทยรู้จัก
ปกติจุดนี้คนจะเยอะมากเพราะเป็นสัญลักษณ์ที่ทุกคนจะต้องแวะถ่ายรูป แต่ถ้าอยากได้รูปแบบคนน้อยไม่ติดคน มาตอนดึกๆเลยจ้า หรือก็ถ้ามาเจอฝน คนก็น้อยเช่นกันค่ะ
ถนนนากามิเสะ (Nakamise) เมื่อลอดผ่าน ประตูคามินาริมงมาแล้ว จะเจอกับถนนที่เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย ทั้งร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ซึ่งเป็นย่านร้านค้าที่เก่าแก่ของญี่ปุ่น สายช้อปต้องชอบมากแน่ๆ ตื่นเต้นมาก ละลานตาสุดๆ ครั้งก่อนเรามาเจอฝนตกร้านค้าปิดหมด รอบนี้มาแดดแรงกล้า ร้านค้าเปิดครบ เพลินจ้า
ฟินสุดก็เจอ ขวด Coke Sakura 2020 นี่แหละ สวยมาก สวยกว่าของปี 2019 อีก
ประตูโฮโซมง (Hozomon) เมื่อสิ้นสุดบริเวณถนนถนนนากามิเสะ ก็จะเจอกับประตูโฮโซมงหรือประตูคลังสมบัติ ที่ได้ชื่อนี้เพราะว่ามีอาคารคลังสมบัติของวัดตั้งอยู่ติดกัน บริเวณด้านหน้าประตูมีรูปปั้นคู่ขององค์วัชรปาณีหรือเทพผู้เป็นธรรมบาลประดิษฐานอยู่ ส่วนบริเวณด้านหลังมีรองเท้าฟางหรือวาระจิ เป็นรองเท้าสานขนาดใหญ่ติดอยู่ ซึ่งมีความเชื่อว่ารองเท้านี้จะคอยขับไล่และปัดเป่าความชั่วร้าย และถึงคอยคุ้มครองให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข
โจโคโระ หรือ กระถางธูป บริเวณหน้าอุโบสถจะมีกระถางธูปใบใหญ่ตั้งอยู่ มีความเชื่อเรื่องเล่าต่อๆกันมาว่าหากกวักควันธูปเข้าตัวจะช่วยทำให้สิ่งที่ไม่ดีออกจากร่างกาย แต่ฮานะไม่ไหวจ้า เป็นภูมิแพ้ ขอได้กลิ่นควันอยู่ไกลๆก็พอ
คนเยอะมาก ต่อแถวเพื่อที่จะขึ้นไปสักการะด้านบน
เจดีย์ 5 ชั้น บริเวณด้านซ้ายของประตูโฮโซมงเป็นที่ตั้งของเจดีย์ห้าชั้นที่มีความสูงถึง 53 เมตร
อย่าลืมแวะไปกินไอศครีมชาเขียวเจ้าอร่อย ร้าน Suzukien หลังวัดนะจ๊ะ สามารถดูรีวิวได้ที่ : https://www.www.jgbthai.com/suzukien-asakusa-ice-cream/
สำหรับใครที่กำลังมองหาที่โรงแรมย่ายอาซากุสะ สามารถดูรีวิวได้ที่
- APA Hotel : https://www.www.jgbthai.com/review-apa-hotel-asakusa-ekimae/
- 9h - Nine Hours Asakusa : https://www.www.jgbthai.com/capsule-hotel-9h-nine-hours-asakusa-tokyo/
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ
