Day1 : Daizafu nanzoin temple
Day2 : Yufuin
Day3 : Kumamoto
Day4 : Tenjin hakata canel
ทริปนี่ไปคนเดียว กลัวๆกล้าๆแต่ก็คิดว่าเอาวะสักครั้งหนึ่งในชีวิตลองไปคนเดียวดู พอลองไปแล้วก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดด้วยความที่บ้านเมืองเขาปลอดภัย เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก
สรุปค่าใช้จ่ายรวมคร่าวๆ ของทริปนี้
- ตั๋วเครื่องบินair asia 4,300 บาท บินไปกลับ คือที่นั่งว่างเยอะเลยได้เอนตัวนอนยาว 3 เก้าอี้ทั้งไปและกลับเลย หลับสบายมาก
- ค่าที่พัก 3500 /3 คืน พักที่ montan hakata เดินจากสถานีhakata ประมาณ 800 เมตร แถวนี้พอมีของกินกับมินิมาร์ท แต่ไม่ใกล้มากต้องเดินไปสัก200 เมตร
- ค่า jr pass ใช้เป็น north kyushu 3Day ราคาประมาณ 2,100 - 2,300 บาท
- ที่เหลือค่ากินค่าของฝาก
รวมๆแล้ว 13,000 บาท
Day1 : มาถึงสนามบินฟุกุโอกะตั้งแต่ 7 โมงเช้า คือว่างมากมาแล้วไม่รู้จะทำอะไรเพราะเช้ามากเลยเดินเข้าเมือง คือเดินออกจากสนามบินไปเดินๆไปเรื่อยๆตามgoogle map ไป เราจะไปเริ่มต้นกันที่นี่ ไปแลก jr kyushu pass ก่อน แลกเสร็จที่แรกที่เราไป คือ dazaifu
สำหรับการเดินทางไปยัง dazaifu ให้นั่งรถไฟใต้ดินจาก hakataมาTenjin แล้วนั่งรถไฟของ Nishitetsu ไปลงที่สถานีFutsukaichi เพื่อเปลี่ยนสายรถไฟ แล้วต่อไปยังสถานีdazaifu
พอลงมาก็เดินๆตามเขามาไปเรื่อยๆก็จะเป็นถนนที่เข้าสู่ศาลเจ้าดาไซฟุ(Dazaifu Tenmagu Shrine) ซึ่งทั้ง 2 ข้างทางมีร้านขายอาหารของกินเล่นของฝากเพียบ เลือกเอาตามศรัทธาจ้า
แวะมากินขนมโมจิย่างไส้ถั่วแดงอร่อย ร้อนๆ กินจนเพดานปากเกือบพัง เป่าก่อนนะ55
แล้วเราก็เข้าไปในศาลเจ้า ซึ่งศาลเจ้าที่นี้ขึ้นชื่อเรื่องการเรียนการศึกษา เขาไปลูบหัวรูปปั้นวัวกัน เราไปลูบด้วยหัวเหม่งมันแฟ๊บเลย ศักดิ์สิทธิ์แน่นอน55
สำหรับครึ่งวันเข้าเราพอแค่นี้สำหรับเมืองดาไซฟุ แต่ถ้าใครอยากเที่ยวที่นี้ต่อ มีวัดมีศาลเจ้าให้เที่ยวอีกเพียบ แต่เราพอแค่นี้แล้วนั่งรถไฟเส้นทางเดิมกลับมาตั้งต้นที่ Hakata
สำหรับช่วงครึ่งบ่ายที่เหลือเราจะไปวัดนันโซอิน (Nanzoin Temple) การเดินทางไปวัดนันโซอิน เราเริ่มจากสถานีhakata มาสถานี nanzoin temple ได้เลย ต่อเดียวถึง
วัดนี้เกี่ยวกับโชคลาภ ความร่ำรวยโชคดี อ่านผ่านๆมาว่าเจ้าอาวาสซื้อหวยแล้วถูกหวย คอหวยอย่างเราเลยเลือกมาที่นี้55 มาไหว้พระใหญ่ขอให้ถูกสักงวดเถอะ หลวงพ่อเราเดินขึ้นเขาน้อยๆมาชมพระใหญ่ก่อน ระหว่างทางมีสะพานข้ามแม่น้ำเล็กๆ แล้วเขาทำเป็นคล้ายๆนิ้งหน่อง เรียกงี้ปะ 55 ให้ตีเล่นระหว่างข้ามสะพานด้วย ใส่ใจสุดๆไปเลย
โดนส่วนตัวชอบวัดนี้เงียบสงบมาก ร่มรื่นมาก คนน้อย ส่วนพระใหญ่ก็สวยงาม นั่งพักที่นี้นานมากชมนกชมไม้ไปเรื่อย แล้วเราก็เดินลงเขาชมวัดไปเรื่อย สวยจริงๆ
เสร็จเราก็นั่งกลับเข้าhakata ที่เดิมจ้า
หาอะไรกินแล้วแวะไปเดินห้าง yodobayashi hakata ของเพียบเปิดกูเกิ้ลเดินตามเลยจากสถานีไม่ไกล เข้าไปหมุนกาชาปองเพลินๆ
ตอนเย็นๆ ช่วง 17:00 น. เราก็เช็คอินเข้าที่พักdorm หญิง ส่วนตัวดี ตอนเราเข้าพักไม่มีสักคน พวกผ้าขนหนูเอาไปเองแต่เจามีให้เช่าอยู่ ของใช้อื่นๆมีให้อยู่ในห้องน้ำครบ วันนี้เหนื่อยมากเพราะเดินทางด้วยเลยหลับไปตั้งแต่เย็นไม่ได้กระดิกไปไหนเลย
Day2 : Yufuin
ตื่นมาอีกที 8-9 โมงแล้ว ได้ยินเสียงคนค่อนข้างเยอะ แต่เขาเริ่มออกไปแล้ว เราพอหายงัวเงียก็ออกไปอาบน้ำ ออกหาข้าวกินแล้วเดินทางไป yufuin
yufuin ลืมบอกไปว่าเราต้องจองก่อน ถ้าจะขึ้น yufuin no mori สีเขียวมะกอกสุดคลาสสิค ขาไป 3 รอบ ขากลับ 3 รอบ ตามตารางที่เขาให้มาเลยคะ แต่ก็มีรถไฟธรรมดานะเผื่อใครจองไม่ทันมาได้
ซึ่งเราได้รอบที่มาถึงประมาณ 12.30 น เพราะกว่าจะออกก็นั่งมาเกือบ2 ชม ระหว่างทางสวยดี แล้วเขาก็มีกิจกรรมบนรถไฟให้ถ่ายรูปคู่กับป้ายเป็นที่ระลึก หรือให้น้องๆหนูๆใส่ชุดเป็นคนขับรถไฟ เพลินๆดีแป๊บเดียวก็ถึงละ
ลงมาจากรถไฟก็เป็นภาพถนนตรงไปสู่ภูเขา สวยดี มาถึงหาร้านข้าว ร้านติมกิน เดินเล่น slow life สุดๆ
แวะร้านนั้นร้านนี้ไปเรื่อย เดินชิม เค้กโรล b speak ก็ดีตามราคา55
เดินชมเมิงไปเรื่อยๆไม่รีบเพราะเรากลับเกือบ 4โมงเย็น แล้วแวะไปใน หมู่บ้านยูฟุอินฟลอร์รัล(Yufuin Floral Village) น่ารักอย่างกับหลุดเข้าไปในโลกนิยาย ปนยุโรปๆหน่อย แต่เป็นหมู่บ้านเล็กๆเดินแป๊บเดียวหมด 5 นาทีหมดจริงๆ เราเลยเดินสัก2 รอบ เอาให้คุ้ม
เดินเลยไปอีกนิดก็ทะเลสาบคิริน (kinrin lake) คนมามุมนี้เยอะสุด สวยดี แต่บรรยาการคล้ายๆคลองน้ำแถวบ้านเรานิดๆ แต่ก็สงบดี เห็นเขาบอกว่าถ้าช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะสวยมาก
เราเดินรอบๆทะเลสาบ มีศาลเจ้าเล็กๆ เงียบสงบ คนน้อย นั่งชมบรรยากาศทะเลสาบได้
พอใกล้เวลา เราก็ไปรอรถไฟ คนมุงเยอะมากแย่งกันถ่าย
เราเดินทางอีกเกือบ2 ชม มาถึงฮากาตะ ราวๆ 18 น เดินเที่ยวรอบๆห้างแถวสถานีซึ่วห้างเยอะมากกกก เดินหลายห้างจนเมื่อยขา 2 ทุ่ม จึงกลับไปที่พัก สลบ มาต่อ PART2