หากไปเที่ยวโอกินาว่าแล้วหนึ่งในของฝากที่ต้องซื้อกลับมาให้ได้นั้นแน่นอนว่าก็ต้องเป็น "ทาร์ตมันม่วง" เนื้อมันม่วงสีแดงอมม่วงอันเป็นเอกลักษณ์ของโอกินาว่าภายในทาร์ตทานง่าย ๆ เข้ากันได้เป็นอย่างดี อร่อยหอมมาก ๆ รับรองเลยว่าถ้าได้ทานแล้วต้องติดใจ



สีของมันม่วงโอกินาว่าที่จริงนั้นแล้วเป็นเสีออกแดงแกมม่วงมีชื่อภาษาญี่ปุ่นที่ว่า เบนิอิโม (紅芋) เบนิ ที่แปลว่า สีแดง (สีแดงชาด สีแดงสดใส)เป็นคำที่ใช้บอกสีในสมัยโบราณนั่นเอง ในวันนี้เรามารู้จักมันม่วงโอกินาว่ากันมากกว่าเดิมดีกว่า

มันม่วงโอกินาว่านั้นแต่เริ่มเดิมที่แล้วไม่ได้มีมาแต่เริ่ม แต่ว่าถูกนำเข้ามาในช่วงปี 1605 โดย โนกุนิ โซคัง กลับมาจากมณฑลฝูเจี้ยนประเทศจีน จากนั้น กิมะ ชินโจ ก็ได้พยายามนำไปเพาะปลูกจนแพร่หลายและนิยมไปทั่วโอกินาว่าในที่สุดนั่นเอง



เพราะดินของโอกินาว่ามีลักษณะเป็นดินเหนียวที่ระบายน้ำได้เป็นอย่างดีนั่นเอง จึงเป็นสถานที่ ๆ เหมาะแก่การเพาะปลูกเป็นอย่างมาก ผลมันม่วงสามารถนำมานึ่งหรือย่างทาน จะนำมาหั่นเป็นแผ่นบาง ๆ ทอดกรอบ หรือจะนำไปทอดเทมปุระทานก็อร่อย นอกจากนี้ยังสามารถนำไปทำเติมสีสันในขนมต่าง ๆ ได้อีกด้วย

ประโยชน์ของมันม่วงโอกินาว่า

นอกจากจะทานได้ทั้งอาหารสดและคาวที่สุดอร่อยพร้อมสีสันที่สามารถนำไปแต่งเติมสีสันให้กับเมนูต่าง ๆ แล้วแล้วมันม่วงโอกินาว่ายังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย เพราะมันม่วงโอกินาว่ามีส่วนพสมของโพแทนเซียม วิตามิน A วิตามิน C และ แอนโทไซยานินที่มากับผักผลไม้สีเข้มที่เรียกได้ว่ายิ่งทานยิ่งสุขภาพดี

โพแทสเซียม
ในผลมันม่วงมีโพแทสเซียมอยู่ ซึ่งมีหน้าที่ช่วยในการยิดหดตัวของกล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหัวใจ ช่วยรักษาความสมดุลของน้ำ กรดและด่างในร่างกาย อีกทั้งยังช่วยควบคุมความดันโลหิตอีกด้วย

วิตามิน A
ช่วยเสริมสุขภาพให้ดวงตา เสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจและระบบปัสสาวะ และช่วยบรรเท่าโรคที่เกี่ยวข้องกับไทรอยด์ นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องความสวยความงาม ให้ผมและผิวมีความแข็งแรง ซึ่งในวิตามิน A มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่ ช่วยลดอาการอักเสบของผิว ช่วยลดจุดด่างดำ และสามารถลดสิวได้อีกด้วย โดยเฉพาะสิวอักเสบ

วิตามิน C
ในมันม่วงนั้นยังมิวิตามินซีที่ช่วยเสริมภูมิคคุ้มกันให้ร่างกายซึ่งส่งผลให้ร่างกายไม่เป็นหวัดง่าน เพิ่มความต้านทานต่อโรคหัวใจ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมระดับคลอเลสเตอรอลในร่างกาย ยังไม่พอยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีสุขภาพ ซึ่งวิตามินซีจะไปกระตุ้นให่ระบบไหลเวียนโลหิตของผิวพรรณ ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ต่อต้านอนุมูลอิสระ ให้ผิวเต่งตึงไร้ริ้วรอยและแข็งแรง

แอนโทไซยานิน
สานแอนโทไซยานินมักพบในดอกไม้หรือผลไม้ที่มีสีเข้ม ซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นต้นเหตุของริ้วรอยก่อนวัยได้มากกว่าวิตามินซีถึงพันเท่า ลดโอกาสการเกิดมะเร็ง เสริมภูมิต้านทางโรค ช่วยสมานแผล และช่วยกระตุ้นสารพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมและสะสมปริมาณเม็ดสีในร่างกายให้สูงขึ้น ช่วยเสริมสร้างการทำงานของเม็ดเลือดแดง

อ้างอิงข้อมูลจาก

kuwachii-okinawa.com
www.supremeilasik.com
www.laservisionthai.com
www.paolohospital.com
qsds.go.th