ปีหนึ่งๆ ก็ผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน นี่ก็เริ่มปีใหม่มาเกินครึ่งเดือนแล้ว (กำลังละเมอว่าหยุดอยู่บ้านอยู่เลย) และอีกไม่กี่วันก็จะเข้าสู่วันเซ็ตสึบุงในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ หรือวันก่อนที่จะเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ ที่เราอาจจะเคยเห็นชาวญี่ปุ่นทำการปาถั่วหรือมาเมะมากิที่เชื่อว่าจะขับไล่สิ่งชั่วร้ายและต้อนรับสิ่งดีๆ ข้ามา ซึ่งวันนี้เราก็จะมาพูดถึงอาหารอร่อยๆ ที่อยู่คู่กับวันเซ็ตสึบุง นั่นก็คือเจ้าเอะโฮมากินั่นเองจ้า
เอะโฮมากิ (恵方巻) เป็นอาการประเภทมากิซูชิ ลักษณะก็จะคล้ายๆ กับฟุโตมากิ ซึ่งทานกันเพื่อเฉลิมฉลองในวันเซ็ตซึบุง เชื่อว่าโชคลาภจะเข้ามาสู่ผู้ที่ทาน แต่เดิมนั้นมีต้นกำเนิดจากทางจังหวัดโอซาก้า จากนั้นก็เริ่มเป็นที่แพร่หลายไปยังทั่วประเทศจากร้านสะดวกซื้อที่ทำออกมาจำหน่าย กลายเป็นอาหารที่อยู่คู่กับวันเซ็ตสึบุงไปแล้ว
จุดเด่นของเอะโฮมากิที่แตกต่างจากมากิซูชิอื่นๆ ก็คือไส้ภายในเอะโฮมากินั้นจะมีด้วยกันอยู่ 7 อย่าง เปรียบเสมือนกับโชคลาภทั้ง 7 ไม่ว่าจะเป็นโอโบโระ. คัมเปียว, ปลาไหล, เห็ดชิตาเกะ, แตงกวา, ไข่หวานและอื่นๆ บางที่บางตำราเขาก็จะม้วนด้วยไส้มากมายถึง 12 ไส้เลยทีเดียว
การทานเอะโฮมากินั้นเขาก็จะทานกันทั้งม้วนเลย เนื่องจากว่าถ้าเราตัดออกเป็นชั้น นั้นหมายความว่าเป็นการตัดโชคลาภที่จะเข้ามาสู่ชีวิตเราด้วย นอกจากนั้นตอนที่ทาน เราต้องหันหน้าไปยังทิศแห่งโชคซึ่งจะมีการเปลี่ยนทุกๆ ปี และทานอย่างเงียบๆ (เนื่องจากชิ้นใหญ่และต้องทานโดยห้ามตัด หน้าตาตอนทานจึงอาจจะดูลำบากลำบนเล็กน้อย)
หากใครได้ไปญี่ปุ่นในช่วงวันเซ็ตสึบุง ก็สามารถลองหาทานดูได้ ไม่จำเป็นต้องพิธีรีตองอะไรมากมายจ้า
ขอบคุณภาพจาก
http://www.ffortune.net/
style-knowledge.com
เอะโฮมากิ (恵方巻) เป็นอาการประเภทมากิซูชิ ลักษณะก็จะคล้ายๆ กับฟุโตมากิ ซึ่งทานกันเพื่อเฉลิมฉลองในวันเซ็ตซึบุง เชื่อว่าโชคลาภจะเข้ามาสู่ผู้ที่ทาน แต่เดิมนั้นมีต้นกำเนิดจากทางจังหวัดโอซาก้า จากนั้นก็เริ่มเป็นที่แพร่หลายไปยังทั่วประเทศจากร้านสะดวกซื้อที่ทำออกมาจำหน่าย กลายเป็นอาหารที่อยู่คู่กับวันเซ็ตสึบุงไปแล้ว
จุดเด่นของเอะโฮมากิที่แตกต่างจากมากิซูชิอื่นๆ ก็คือไส้ภายในเอะโฮมากินั้นจะมีด้วยกันอยู่ 7 อย่าง เปรียบเสมือนกับโชคลาภทั้ง 7 ไม่ว่าจะเป็นโอโบโระ. คัมเปียว, ปลาไหล, เห็ดชิตาเกะ, แตงกวา, ไข่หวานและอื่นๆ บางที่บางตำราเขาก็จะม้วนด้วยไส้มากมายถึง 12 ไส้เลยทีเดียว
การทานเอะโฮมากินั้นเขาก็จะทานกันทั้งม้วนเลย เนื่องจากว่าถ้าเราตัดออกเป็นชั้น นั้นหมายความว่าเป็นการตัดโชคลาภที่จะเข้ามาสู่ชีวิตเราด้วย นอกจากนั้นตอนที่ทาน เราต้องหันหน้าไปยังทิศแห่งโชคซึ่งจะมีการเปลี่ยนทุกๆ ปี และทานอย่างเงียบๆ (เนื่องจากชิ้นใหญ่และต้องทานโดยห้ามตัด หน้าตาตอนทานจึงอาจจะดูลำบากลำบนเล็กน้อย)
ในปี 2016 นี้ต้องหันหน้าไปทางทิศที่มีชื่อว่าฮิโนเอะ (丙) หรือตะวันออกเฉียงใต้
หากใครได้ไปญี่ปุ่นในช่วงวันเซ็ตสึบุง ก็สามารถลองหาทานดูได้ ไม่จำเป็นต้องพิธีรีตองอะไรมากมายจ้า
ขอบคุณภาพจาก
http://www.ffortune.net/
style-knowledge.com