เชื่อว่าทุกคนยังคงจำเรื่องราวสุดประทับใจของหนังสือนอกเวลาสมัยมัธยมเรื่อง “โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง” ของคุณเท็ตสึโกะ คุโรยานางิ และภาพประกอบลายเส้นอันอ่อนโยนของคุณจิฮิโระ อิวาซากิ ที่ยังคงให้ความรู้สึกอบอุ่นในใจแม้จะอ่านจบไปนานมากแล้วก็ตาม
คุณจิฮิโระ อิวาซากิ ศิลปินผู้มีผลงานโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์จากวาดภาพสีน้ำรูปเด็กและดอกไม้ เธอเสียชีวิตในปี 2517 ตอนอายุ 56 ปี หลังจากนั้นในปี 2519 พิพิธภัณฑ์ศิลปะจิฮิโระที่โตเกียว (Chihiro Art Museum ちひろ美術館・東京) ก็ได้รับการบูรณะจากบ้านพัก ซึ่งเป็นที่ทำงานของคุณจิฮิโระในโตเกียวให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เน้นเก็บรักษาและจัดแสดงผลงานหนังสือภาพของเธอ รวมถึงหนังสือภาพของศิลปินจากทั่วโลก
หลังจากนั้นในปี 2540 ก็มีการสร้างพิพิธภัณฑ์ศิลปะจิฮิโระขึ้นอีกแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนากาโน่ Chihiro Art Museum Azumino 安曇野ちひろ美術館 เพื่อรำลึกถึงการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ศิลปะจิฮิโระที่โตเกียวครบ 20 ปี และเนื่องจากนากาโน่เป็นจังหวัดบ้านเกิดของพ่อและแม่คุณจิฮิโระซึ่งภายหลังท่านทั้งสองก็ได้กลับไปใช้ชีวิตในบั้นปลายหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง
พิพิธภัณฑ์นี้ห่างจากชินจูกุซึ่งอยู่ใจกลางโตเกียวแค่ครึ่งชั่วโมง แต่พอเปลี่ยนไปใช้สาย Seibu-Shinjuku ก็รู้สึกฮีลลิ่งกับทัศนียภาพสองข้างทางมากๆ จากความวุ่นวายอึกทึก ตึกสูงเสียดฟ้าแออัด ทางด่วนที่ซ้อนทับเป็นเลเยอร์ ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นวิวบ้านเรือนแบบญี่ปุ่น ต้นไม้สีเขียวประปราย สลับอาคารพาณิชย์เตี้ยๆ เผยให้เห็นท้องฟ้าสีสด เมฆลอยเบาๆ เป็นอัตลักษณ์ความหลากหลายของมหานครโตเกียวที่เรารู้สึกว่ามีเสน่ห์มากๆ
พอออกจากสถานีคามิอิกุสะจะมีป้ายบอกทางไปพิพิธภัณฑ์อยู่เป็นระยะ เดินลัดเลาะในซอยย่านที่อยู่อาศัยอันเงียบสงบ ไม่นานนักก็มาหยุดยืนใต้ต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นหน้าพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์นี้นอกจากจัดแสดงผลงานของอาจารย์ยังมีนิทรรศการพิเศษที่หมุนเวียนมาจัดแสดงตลอด แต่สิ่งที่ทำให้ใจละลายที่สุด.... คือ มุมขายของที่ระลึก ลายเส้นสะอาดของภาพเด็กน้อยไร้เดียงสาแต่ทรงพลังกับดอกไม้สีน้ำกระจิริดสีสันสดใสสบายตาอันเป็นเอกลักษณ์ เมื่อไปปรากฎอยู่บนข้าวของชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่างโปสต์การ์ด ปฏิทิน แก้วน้ำ สติกเกอร์ ฯลฯ ก็แทบจะล้มละลายอยู่ตรงนั้นเลยทีเดียว
ขากลับก่อนจะเดินถึงสถานี ผ่านร้านขายขนมย้อนยุค (ที่เมื่อเช้าคงยังไม่เปิด) หรือเรียกอีกชื่อว่า “ร้านขนมหลอกเด็ก” (駄菓子屋 ดากาชิยะ) ลักษณะเหมือนร้านโชว์ห่วยที่ขายขนมยุค 80’s-90’s ปัจจุบันมีร้านคาเฟ่หรือร้านอิซากายะเอาไปตกแต่งเป็นธีมเลียนแบบบรรยากาศให้ดูเก่าๆ อยู่หลายร้าน
เจ้าของร้านชื่อคุณตาคุริฮาระ คุยเก่งมว้าก (ก็พ่อค้านี่เนอะ) ทำให้คนที่รู้ภาษาญี่ปุ่นแค่งูๆ ปลาๆ รู้สึกสนุกได้ ตอนนั้นคุณตาก็อายุ 90 ปีแล้ว (เราไปตอนปี 2014) แต่ยังดูแข็งแรงคล่องแคล่ว พูดเสียงดังฟังชัด คุณตาเดินไปหยิบนิตยสารออกมาโชว์บทความที่ลงรูปร้านให้ดู แล้วเล่าว่าตอนนี้ในโตเกียวเหลือร้านขายขนมเก่าแก่แบบนี้ไม่กี่ร้านแล้ว ต่างจังหวัดอาจจะยังพอมีให้เห็นอยู่บ้าง แกขายมายาวนานกว่า 60 ปีแล้วและยังยืนหยัดว่าจะขายต่อไป
ขนมที่ขายในร้านของคุณตาส่วนใหญ่เป็นขนมญี่ปุ่นย้อนยุค ใส่สีแต่งกลิ่นเพื่อหลอกเด็กตามชื่อ “ดากาชิ” นั่นแหละ บางอย่างที่เคยกินตอนเด็กรู้สึกว่าอร่อยมาก พอโตเป็นผู้ใหญ่อาจจะรับรู้รสชาติความอร่อยได้ไม่เหมือนเดิม แต่ที่แน่ๆ คือได้รสชาติแห่งความทรงจำในวัยเด็กกลับคืนมา
ขนมในร้านคุณตาก็คือเยอะมาก น่าจะมีหลายร้อยชนิด ที่พิเศษคือส่วนใหญ่ไม่มีขายในร้านขายของทั่วไปไม่ว่าจะในซุปเปอร์ฯ หรือร้านสะดวกซื้อ และที่สำคัญ..มันราคาถูกมาก
ไม่รู้ว่าปี 2020 คุณตาในวัย 96 ปี จะยังแข็งแรงพอที่จะเปิดร้านขายได้อยู่มั้ย แต่จากที่เช็คในเน็ตเหมือนว่าร้านจะยังเปิดอยู่ ก็ได้แต่ภาวนาว่าปีนี้จะสามารถเก็บเงินกลับไปญี่ปุ่น ด้วยความตั้งใจว่าจะไปเยี่ยมคุณตาอีกสักครั้ง เพราะไม่รู้ว่าคุณตามีทายาทสืบทอดหรือเปล่า หากว่าไม่มีคนสืบทอดก็น่าเสียดายที่ร้านแบบนี้อาจจะกลายเป็นตำนาน เหลือเพียงแค่ภาพและชื่อร้านในความทรงจำ
ตอนอยู่บนรถไฟนึกถึงเพลงโปรด “Tomorrow Never Knows” ของวงโปรดตลอดกาล Mr.Children (และยังเป็นเพลงประกอบซีรีส์ในตำนาน “สุดแต่ใจจะใฝ่หา” Stay Gold 若者のすべて ในปี 1994) tomorrow never knows…ไม่มีใครรู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไง แต่ในวันนี้ที่มีโอกาสได้ย้อนเวลากลับไปในโลกของเด็กหญิงข้างหน้าต่าง เป็นความรู้สึกราวกับได้กลับไปเจอกล่องสมบัติที่เคยซ่อนของเล่นแสนรักไว้สมัยเด็กที่เราลืมเลือนไปแล้ว และเมื่อเราเปิดกล่องนั้นออก ก็พบว่ามีถุงขนมที่มีของเล่นแถมมาในห่อด้วย จากความตั้งใจที่จะไปแค่พิพิธภัณฑ์แต่กลับได้ค้นพบร้านขนมของคุณตาคุริฮาระเป็นของแถมอันล้ำค่ากับความรู้สึก
เกร็ดเก็บตก
หากมีโอกาสมาเที่ยวย่านคามิอิกุสะยังมีอีกหนึ่งสถานที่ควรค่าน่าแวะไปก็คือ “สวนสาธารณะชะคุจิอิ” (Shakujii Koen 石神井公園) เป็นสวนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโตเกียวเป็นอันดับสองรองจากสวนอุเอโนะ ในสวนมีบึงน้ำขนาดใหญ่ยักษ์ มีต้นไม้ร่มรื่นหลากพันธุ์เป็นบ้านพักให้บรรดานกน้อยและเป็ดน้ำ ฯลฯ มีซากปราสาทชะคุจิอิ หลุมศพของโทชิมะ ยาสุซึเนะ (豊島泰経) ขุนนางผู้เป็นเจ้าของปราสาท (Tonozuka 殿塚) กับศาลเจ้าฮิเมะซึกะ (姫塚) ลูกสาวของโทชิมะ ความสวยงามของที่นี่ถูกใช้เป็นฉากหลังในมังงะและภาพยนตร์มาแล้วหลายเรื่อง
และที่เรารู้สึกพิเศษมากๆ เพราะเป็นข้อมูลที่เพิ่งค้นพบในภายหลังว่าที่มาของเนื้อเพลง “Tomorrow never knows” ซึ่งแต่งโดย Kazutoshi Sakurai (นักร้องนำของวง) ได้แรงบันดาลใจตอนที่มาวิ่งออกกำลังกายในสวนฯ แห่งนี้ด้วย
Chihiro Art Museum Tokyo
ที่อยู่: 4-7-2, Shimo-Shakujii, Nerima-ku, Tokyo 177-0042
เวลาทำการ 10:00-17:00 น. (ปิดวันจันทร์)
ร้านขนมคุริฮาระ (Okashi no Kurihara お菓子の栗原)
ที่อยู่: 5-19-7, Kami-igusa, Suginami-ku, Tokyo 167-0021
เวลาเปิด-ปิด: 10.00-20.00 น. เปิดทุกวัน
การเดินทาง: สาย Seibu-Shinjuku (SS) ลงสถานีคามิอิกุสะ Kami-Igusa (SS12) ทางออก Nouth Exit เลี้ยวซ้าย เดินต่อ 3 นาที ร้านอยู่ขวามือ
หรือหากสะดวกขึ้นรถไฟ Toei ก็มีสาย Oedo (สีชมพู) เปลี่ยนสายที่สถานีนาคาอิ (E32) ไปขึ้นรถไฟสาย Seibu-Shinjuku สถานีนาคาอิ (SS04) ที่อยู่ตึกใกล้ๆ กัน แล้วไปลงสถานีคามิอิกุสะ Kami-Igusa (SS12)
คุณจิฮิโระ อิวาซากิ ศิลปินผู้มีผลงานโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์จากวาดภาพสีน้ำรูปเด็กและดอกไม้ เธอเสียชีวิตในปี 2517 ตอนอายุ 56 ปี หลังจากนั้นในปี 2519 พิพิธภัณฑ์ศิลปะจิฮิโระที่โตเกียว (Chihiro Art Museum ちひろ美術館・東京) ก็ได้รับการบูรณะจากบ้านพัก ซึ่งเป็นที่ทำงานของคุณจิฮิโระในโตเกียวให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เน้นเก็บรักษาและจัดแสดงผลงานหนังสือภาพของเธอ รวมถึงหนังสือภาพของศิลปินจากทั่วโลก
หลังจากนั้นในปี 2540 ก็มีการสร้างพิพิธภัณฑ์ศิลปะจิฮิโระขึ้นอีกแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนากาโน่ Chihiro Art Museum Azumino 安曇野ちひろ美術館 เพื่อรำลึกถึงการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ศิลปะจิฮิโระที่โตเกียวครบ 20 ปี และเนื่องจากนากาโน่เป็นจังหวัดบ้านเกิดของพ่อและแม่คุณจิฮิโระซึ่งภายหลังท่านทั้งสองก็ได้กลับไปใช้ชีวิตในบั้นปลายหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง
พิพิธภัณฑ์นี้ห่างจากชินจูกุซึ่งอยู่ใจกลางโตเกียวแค่ครึ่งชั่วโมง แต่พอเปลี่ยนไปใช้สาย Seibu-Shinjuku ก็รู้สึกฮีลลิ่งกับทัศนียภาพสองข้างทางมากๆ จากความวุ่นวายอึกทึก ตึกสูงเสียดฟ้าแออัด ทางด่วนที่ซ้อนทับเป็นเลเยอร์ ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นวิวบ้านเรือนแบบญี่ปุ่น ต้นไม้สีเขียวประปราย สลับอาคารพาณิชย์เตี้ยๆ เผยให้เห็นท้องฟ้าสีสด เมฆลอยเบาๆ เป็นอัตลักษณ์ความหลากหลายของมหานครโตเกียวที่เรารู้สึกว่ามีเสน่ห์มากๆ
พอออกจากสถานีคามิอิกุสะจะมีป้ายบอกทางไปพิพิธภัณฑ์อยู่เป็นระยะ เดินลัดเลาะในซอยย่านที่อยู่อาศัยอันเงียบสงบ ไม่นานนักก็มาหยุดยืนใต้ต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นหน้าพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์นี้นอกจากจัดแสดงผลงานของอาจารย์ยังมีนิทรรศการพิเศษที่หมุนเวียนมาจัดแสดงตลอด แต่สิ่งที่ทำให้ใจละลายที่สุด.... คือ มุมขายของที่ระลึก ลายเส้นสะอาดของภาพเด็กน้อยไร้เดียงสาแต่ทรงพลังกับดอกไม้สีน้ำกระจิริดสีสันสดใสสบายตาอันเป็นเอกลักษณ์ เมื่อไปปรากฎอยู่บนข้าวของชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่างโปสต์การ์ด ปฏิทิน แก้วน้ำ สติกเกอร์ ฯลฯ ก็แทบจะล้มละลายอยู่ตรงนั้นเลยทีเดียว
ขากลับก่อนจะเดินถึงสถานี ผ่านร้านขายขนมย้อนยุค (ที่เมื่อเช้าคงยังไม่เปิด) หรือเรียกอีกชื่อว่า “ร้านขนมหลอกเด็ก” (駄菓子屋 ดากาชิยะ) ลักษณะเหมือนร้านโชว์ห่วยที่ขายขนมยุค 80’s-90’s ปัจจุบันมีร้านคาเฟ่หรือร้านอิซากายะเอาไปตกแต่งเป็นธีมเลียนแบบบรรยากาศให้ดูเก่าๆ อยู่หลายร้าน
เจ้าของร้านชื่อคุณตาคุริฮาระ คุยเก่งมว้าก (ก็พ่อค้านี่เนอะ) ทำให้คนที่รู้ภาษาญี่ปุ่นแค่งูๆ ปลาๆ รู้สึกสนุกได้ ตอนนั้นคุณตาก็อายุ 90 ปีแล้ว (เราไปตอนปี 2014) แต่ยังดูแข็งแรงคล่องแคล่ว พูดเสียงดังฟังชัด คุณตาเดินไปหยิบนิตยสารออกมาโชว์บทความที่ลงรูปร้านให้ดู แล้วเล่าว่าตอนนี้ในโตเกียวเหลือร้านขายขนมเก่าแก่แบบนี้ไม่กี่ร้านแล้ว ต่างจังหวัดอาจจะยังพอมีให้เห็นอยู่บ้าง แกขายมายาวนานกว่า 60 ปีแล้วและยังยืนหยัดว่าจะขายต่อไป
ขนมที่ขายในร้านของคุณตาส่วนใหญ่เป็นขนมญี่ปุ่นย้อนยุค ใส่สีแต่งกลิ่นเพื่อหลอกเด็กตามชื่อ “ดากาชิ” นั่นแหละ บางอย่างที่เคยกินตอนเด็กรู้สึกว่าอร่อยมาก พอโตเป็นผู้ใหญ่อาจจะรับรู้รสชาติความอร่อยได้ไม่เหมือนเดิม แต่ที่แน่ๆ คือได้รสชาติแห่งความทรงจำในวัยเด็กกลับคืนมา
ขนมในร้านคุณตาก็คือเยอะมาก น่าจะมีหลายร้อยชนิด ที่พิเศษคือส่วนใหญ่ไม่มีขายในร้านขายของทั่วไปไม่ว่าจะในซุปเปอร์ฯ หรือร้านสะดวกซื้อ และที่สำคัญ..มันราคาถูกมาก
ไม่รู้ว่าปี 2020 คุณตาในวัย 96 ปี จะยังแข็งแรงพอที่จะเปิดร้านขายได้อยู่มั้ย แต่จากที่เช็คในเน็ตเหมือนว่าร้านจะยังเปิดอยู่ ก็ได้แต่ภาวนาว่าปีนี้จะสามารถเก็บเงินกลับไปญี่ปุ่น ด้วยความตั้งใจว่าจะไปเยี่ยมคุณตาอีกสักครั้ง เพราะไม่รู้ว่าคุณตามีทายาทสืบทอดหรือเปล่า หากว่าไม่มีคนสืบทอดก็น่าเสียดายที่ร้านแบบนี้อาจจะกลายเป็นตำนาน เหลือเพียงแค่ภาพและชื่อร้านในความทรงจำ
ตอนอยู่บนรถไฟนึกถึงเพลงโปรด “Tomorrow Never Knows” ของวงโปรดตลอดกาล Mr.Children (และยังเป็นเพลงประกอบซีรีส์ในตำนาน “สุดแต่ใจจะใฝ่หา” Stay Gold 若者のすべて ในปี 1994) tomorrow never knows…ไม่มีใครรู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไง แต่ในวันนี้ที่มีโอกาสได้ย้อนเวลากลับไปในโลกของเด็กหญิงข้างหน้าต่าง เป็นความรู้สึกราวกับได้กลับไปเจอกล่องสมบัติที่เคยซ่อนของเล่นแสนรักไว้สมัยเด็กที่เราลืมเลือนไปแล้ว และเมื่อเราเปิดกล่องนั้นออก ก็พบว่ามีถุงขนมที่มีของเล่นแถมมาในห่อด้วย จากความตั้งใจที่จะไปแค่พิพิธภัณฑ์แต่กลับได้ค้นพบร้านขนมของคุณตาคุริฮาระเป็นของแถมอันล้ำค่ากับความรู้สึก
เกร็ดเก็บตก
หากมีโอกาสมาเที่ยวย่านคามิอิกุสะยังมีอีกหนึ่งสถานที่ควรค่าน่าแวะไปก็คือ “สวนสาธารณะชะคุจิอิ” (Shakujii Koen 石神井公園) เป็นสวนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโตเกียวเป็นอันดับสองรองจากสวนอุเอโนะ ในสวนมีบึงน้ำขนาดใหญ่ยักษ์ มีต้นไม้ร่มรื่นหลากพันธุ์เป็นบ้านพักให้บรรดานกน้อยและเป็ดน้ำ ฯลฯ มีซากปราสาทชะคุจิอิ หลุมศพของโทชิมะ ยาสุซึเนะ (豊島泰経) ขุนนางผู้เป็นเจ้าของปราสาท (Tonozuka 殿塚) กับศาลเจ้าฮิเมะซึกะ (姫塚) ลูกสาวของโทชิมะ ความสวยงามของที่นี่ถูกใช้เป็นฉากหลังในมังงะและภาพยนตร์มาแล้วหลายเรื่อง
และที่เรารู้สึกพิเศษมากๆ เพราะเป็นข้อมูลที่เพิ่งค้นพบในภายหลังว่าที่มาของเนื้อเพลง “Tomorrow never knows” ซึ่งแต่งโดย Kazutoshi Sakurai (นักร้องนำของวง) ได้แรงบันดาลใจตอนที่มาวิ่งออกกำลังกายในสวนฯ แห่งนี้ด้วย
Chihiro Art Museum Tokyo
ที่อยู่: 4-7-2, Shimo-Shakujii, Nerima-ku, Tokyo 177-0042
เวลาทำการ 10:00-17:00 น. (ปิดวันจันทร์)
ร้านขนมคุริฮาระ (Okashi no Kurihara お菓子の栗原)
ที่อยู่: 5-19-7, Kami-igusa, Suginami-ku, Tokyo 167-0021
เวลาเปิด-ปิด: 10.00-20.00 น. เปิดทุกวัน
การเดินทาง: สาย Seibu-Shinjuku (SS) ลงสถานีคามิอิกุสะ Kami-Igusa (SS12) ทางออก Nouth Exit เลี้ยวซ้าย เดินต่อ 3 นาที ร้านอยู่ขวามือ
หรือหากสะดวกขึ้นรถไฟ Toei ก็มีสาย Oedo (สีชมพู) เปลี่ยนสายที่สถานีนาคาอิ (E32) ไปขึ้นรถไฟสาย Seibu-Shinjuku สถานีนาคาอิ (SS04) ที่อยู่ตึกใกล้ๆ กัน แล้วไปลงสถานีคามิอิกุสะ Kami-Igusa (SS12)