ร้านนี้บอกเลยว่าเป็นที่ฮือฮาหนักๆ สำหรับคนที่ชื่นชอบราเม็ง หลังจากที่ต้นปีเขามีการประกาศร้านราเม็งระดับมิชลินสตาร์ร้านแรกของโลก ซึ่งร้านที่ได้รับรางวัลนี้ไปคือ Japanese Soba Noodles Tsuta ที่อยู่ในย่านสุกาโมะ ช่วงแรกๆ เมื่อต้นปีบอกเลยว่าพีคหนักมาก แห่ทะลักกันมาชิมทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติจนไม่กล้าไปต่อคิว ล่าสุดทาง JGB ก็ได้ไปบุกไปลิ้มรสราเม็งของที่นี่กันมาแล้ว ก็เลยมีเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังกันจ๊ะ ไปชมกันเลย

ตั้งแต่เกิดมาบนโลก นี่คือครั้งแรกที่ตื่นตี 5 เพื่อไปกินราเม็ง

เนื่อจากกิตติศัพท์อันมากหลายว่าไอ้เจ้าร้านนี้คนไปต่อคิวเยอะมากๆ บางคนไปแล้วอดกินก็มี ไอ้เราก็เลยต้องรีบบึ่งไปที่ร้านอย่างรวดเร็ว เพราะช่วงบ่ายไปทำธุระกันต่ออีก วันนี้ทางทีมงานอยู่ที่แถวอาซากุสะ นั่งรถไปสุกาโมะก็ไกลอยู่ ก็เลย.... ตื่นตั้งแต่ตีห้าเลยจ้า แบบว่ายังไงก็ต้องไม่พลาดแน่ๆ ไหนๆ ก็อุตส่าห์มาถึงโตเกียวแล้ว

ถึงร้าน 7 โมงเช้า อุ๊แม่เจ้า มีคนมาต่อคิวแล้วจ้า

แบกตุเลงๆ สังขารไปแต่เช้า ในที่สุดเราก็อยู่ที่ย่านสุกาโมะแล้ว ซึ่งเจ้าร้าน Japanese Soba Noodles Tsuta อยู่ใกล้สถานีสุกาโมะมากๆ เดินแป๊ปเดียวก็ถืง แล้วเราก็ได้เจอ........ แทมแถ่มแท้ม คนมาต่อคิวแล้วจ้า ลึกๆ ก็แอบดีใจว่าอย่างน้อยเราก็ไม่ได้บ้าหอบฟางมาคนเดียวแล้วล่ะ 55 เสร็จแล้วก็ไม่รีรอ รีบจัดการเข้าคิวพรึ่บพรั่บ อันนี้ตื่นเต้นปนกับใจเสียเล็กน้อยเพราะว่าไม่รู้ว่านี่คือคนเขาพึ่งมาต่อคิวกันหรือว่าตลาดวายไปแล้ว

หลังจากนั้นก็มีพนักงานมาทำการแจกบัตรคิว (เราเรียกพี่เขาว่าเฮียแป้ง เพราะขากางเกงนางเลอะแป้ง น่าจะกำลังนวดเส้นกันอยู่) แล้วก็ทำการเก็บค่ามัดจำเราเป็นจำนวน  1,000 เยน เฮียแป้งบอกว่าจะคืนค่ามัดจำตอนเรากลับมาอีกครั้ง เราก็ได้บัตรคิวสีขาวมาหนึ่งใบ ซึ่งดีใจมาก ถามว่าทำไมดีใจ เรามาดูรูปต่อไปกัน

ที่ร้าน Japanese Soba Noodles Tsuta นั้น เขาจะเริ่มทำการแจกบัตรคิวกันตั้งแต่เช้า เพราะอย่างที่บอกไปว่าคนแห่ไปทานเยอะมาก และร้านก็มีแค่ 9 ที่นั่งเท่านั้น ซึ่งบัตรคิวก็จะมีอยู่หลายสีตามรอบเวลาที่กำหนด ดังนั้นสีขาวที่ทางทีมงานได้มาก็คือรอบ 11 โมง หรือว่ารอบแรกนั่นเอง ซึ่งก็ยังเหลือเวลาอีก............. 4 ชั่วโมงแหนะ....... ก็เลยต้องไปนั่งทำงานที่ร้านกาแฟใกล้ๆ เพื่อรอร้านเปิด

 อันนี้ไม่เกี่ยวกับราเม็ง อิอิ เป็นมื้อเช้าจากร้านกาแฟ BECK'S COFFEE SHOP ที่อยู่ใกล้ๆ ใครไปต่อคิวเช้าก็ไปนั่งทานอะไรเล่นๆ รอคิวได้นะจ๊ะ 

และแล้วก็ถึงเวลา 11 โมง

หลังจากที่รอคอยมานาน ในที่สุดจะได้ทานแล้ว กลับมาร้านคราวนี้ก็เห็นคนต่อคิวกำลังเข้าร้านกันเพียบเลยจ้า ซึ่งก็มีทั้งชาวต่างชาติแล้วก็ชาวญี่ปุ่นต่อคิวกันรอเข้าร้าน และเฮียแป้งก็เอาเงินค่ามัดจำมาคืนให้กับเราพร้อมกับเก็บบัตรคิวไป

หลังจากนั้นเฮียแป้งของเราก็โบกมือหยอยๆ เข้าไปที่ร้าน สิ่งแรกที่เราพบก็คือตู้หยอดเหรียญนั่นเอง เมนูของที่นี่จะเริ่มต้นที่ราคา 850 เยน ซึ่งเมนูหลักๆ ของที่นี่ก็จะมี 4 อย่าง ได้แก่ โชยุราเม็ง, ชิโอะราเม็ง และก็ทสึเคเม็งอีกสองแบบ ส่วนนอกนั้นจะเป็นการเพิ่มท็อปปิ้งต่างๆ บนราเม็ง เราก็เลยทำการสั่งทีเด็ดของร้านนี้มาทาน ก็คือ โชยุราเม็ง และ ชิโอราเม็ง เพิ่มไข่ด้วยทั้งคู่ ก็ตกอยู่ที่ราคา 950 เยนจ้า อ้อ แล้วตอนนี้เขามีปุ่มที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษให้แล้วนะจ๊ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะจิ้มไม่ถูก

รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ จริงๆ อยากถ่ายรูปบรรยากาศร้านมาอีก แต่เขาห้ามเลย ไม่ได้เด็ดขาดโดยเฉพาะตรงครัวที่เขากำลังปรุง เข้มงวดมากจนน่ากลัวอย่างกับองค์กรลับ เราก็ได้แต่พูด ไฮ่! ไฮ่! ไม่กล้าไปหืออืออะไร เดี๋ยวจะโดนโยนออกจากร้านแล้วสิ่งที่เฝ้ารอจะเจ๊งซะก่อน 5555 แต่ให้จินตนาการว่าเป็นเคาเตอร์รูปตัว L นั่งได้ 9 คน ล้อมรอบครัว น่าจะนึกออกกันเนาะ

แต่นแต๊น มาถึงพระเอกชามแรกกันก่อนเลย กับโชยุราเม็ง คือได้ยินเสืองลือเสียงเล่าอ้างว่ามาที่นี่ต้องโดนโชยุราเม็งกันก่อน ถึงหน้าตาจะธรรมดาสามัญ แต่ประเด็นสำคัญคือรสชาติ ซุปโชยุของที่นี่มีกลิ่นหอมและรสชาติกลมกล่อมมาก ไม่เข้มข้นจัดจนเลี่ยน และก็ไม่ได้จืดจางจนหารสชาติไม่เจอ ถึงแม้จะเห็นว่ามีนํ้ามันอยู่เยอะ แต่ทานจริงๆ แล้วกลับไม่เลี่ยนเลย (จริงๆ หลายร้าน มีความมันมากกว่านี้อีกซะอีก) ส่วนตัวไม่เคยเจอซุปโชยุที่รสชาติดีเท่านี้ มันเหมือนกับผสานวัตถุดิบทุกอย่างได้ลงตัว แต่สำหรับบางท่านที่ทานรสจัดอาจจะรู้สึกว่ามันจืดไปหน่อย ซึ่งเคล็ดลับและความลับส่วนหนึ่งน่าจะอยู่ที่ไอ้เจ้านํ้ามันเห็ดทรัฟเฟิลดำที่อยู่บนหมูชาชูนี่แหละ รู้ตัวอีกทีก็ซดพรืดๆ จ๊วบๆ ระทวยลิ้นไปหลายช้อนละ เบรกไว้ก่อน เดี๋ยวเหลือแต่เส้นแล้วจะซวย

มาพูดถึงตัวเส้นบ้าง ตัวเส้นจะเป็นแบบสไตล์โตเกียวที่มีขนาดเล็ก ด้านการลวกถือว่าสอบผ่าน มีความแข็งสู้ฟันอยู่นิดๆ ซึ่งถือว่าดี (ราเม็งที่อร่อยเส้นต้องแข็งนิดๆ และที่นี่เลือกความแข็งของเส้นไม่ได้นะจ๊ะ) เมื่อผสมรวมกับนํ้าซุปอันกลมกล่อมแล้วฟินมาก ส่วนหมูชาชูนั้นคนที่ไม่ชอบมันถือว่าสวรรค์ทีเดียว เพราะว่ามีมันแทรกค่อนข้างน้อยและมีรสชาติ ไม่ใช่หมูที่ไปต้มกับนํ้าซุปจืดชืดแน่นอน ส่วนเรื่องความนุ่มนั้นยังอยู่ในระดับเฉยๆ ไม่ได้กัดปุ๊ปแตกโพล๊ะละลายในปาก แต่ก็ไม่ได้เหนียวจนเคี้ยวเมื่อยกราม

ต่อกันที่ชามที่สอง คราวนี้มาถึงคราวชิโอราเม็งที่เป็นซุปเกลือกันบ้าง อันนี้คนอาจจะไม่พูดถึงเท่ากับซุปโชยุ แต่ส่วนตัวคิดว่ามันอร่อยนะ รสชาติมีความเข้มกว่าโชยุนิดนึงแต่ก็ไม่ได้เค็มแบบโรคไตถามหา อันนี้ซดเพลินเหมือนกัน เป็นรสชาติของเกลือชั้นดีที่มีกลิ่นและรสชาติที่มากกว่าเกลือกระปุกแบบถูกๆ ได้ยินมาว่าทางร้านเขาใช้เกลือชั้นดีมากกว่า 1 ชนิดมาผสมกัน (อันนี้จะถามเขาก็ไม่ตอบแน่ๆ ร้านพี่แกความลับเยอะ) ส่วนเส้นและหมูชาชูก็เหมือนกับโยชุ ต่างกันก็ตรงอาวุธลับนํ้ามันทรัฟเฟิลอีกแล้ว จานนี้เป็นนํ้ามันทรัฟเฟิลขาวแทน

เล่าถึงบรรยากาศในร้านสักนิด คือระหว่างที่เราทานกันอยู่เนี่ย ทุกคนทานกันเงียบมากๆ ได้ยินแค่เสียงสูดเส้นเข้าปากเท่านั้นเอง คือมีสมาธิในการทานเพื่อซึมซับรสชาติกันสุดๆ อารมณ์เหมือนกับตอนทำข้อสอบมากๆ (จริงๆ น่าจะเรียกร้านนี้ว่าราเม็งข้อสอบมากกว่า 5555) และทุกคนก็รีบทานมากเพราะการทานราเม็งให้อร่อยที่สุดคือต้องทานตอนร้อนๆ และใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที ไม่เช่นนั้นเส้นจะเริ่มอืดและไม่อร่อย ซึ่งการสูดเส้นเสียงดังๆ นั้นมันคือการสูดลมผ่านเส้นเข้าปาก ช่วยลดความร้อนได้นั่นเอง เทคนิคเดียวกับเวลาซดชาจีนร้อนๆ เสียงดังๆ นั่นแหละ ใครชอบทานราเม็งลองไปฝึกกันได้ แต่ถ้าร้อนเกินไปก็อย่าฝืน เดี๋ยวลวกปากพองพาลจะทานไม่อร่อยนะจ๊ะ 555

จากความคิดเห็นทีมงาน โดยรวมแล้วถือว่าเป็นร้านราเม็งที่อร่อยมากๆ ยังไม่เคยทานโชยุราเม็งที่อร่อยเท่านี้มาก่อน (แต่จริงๆ ชิโอะดันอร่อยกว่า 555) แต่ถ้าถามว่าสมกับระดับมิชลินสตาร์ไหม ในตอนนี้ก็คงบอกว่าเหมาะสม แต่เชื่อว่าเหนือฟ้าก็ยังมีฟ้า อาจจะยังมีตัวเด็ดซุกซ่อนอยู่ในเกาะญี่ปุ่นที่กำลังรอการค้นพบอยู่ ยํ้าอีกครั้งว่านี่เป็นความเห็นจากทีมงาน มันไม่อร่อยถูกปากทุกคนแน่นอน ไม่งั้นคนคงต่อคิวจนร้านพังอ่ะ 5555 ส่วนหนึ่งก็คงขี้เกียจต่อคิวด้วยแหละ ถ้าใครเป็นนักทานราเม็งแล้วอยากหาราเม็งอร่อยๆ ทาน ก็แนะนำมาให้ทานกันดู ขนาดชาวญี่ปุ่นหลายคนยังถ่อมาจากต่างจังหวัดเพื่อนทานเลย (อันนี้ได้ยินคนญี่ปุ่นเขาซุบซิบกันตอนต่อคิว 5555)

เรื่องราวน่ารู้ที่ไม่อยู่ในร้าน

ผู้คนในละแวกนี้ไม่ชอบร้าน Japanese Soba Noodles Tsuta เป็นอย่างมากถึงมากที่สุด เนื่องจากช่วงแรกๆ ที่ร้านเขาพึ่งได้รางวัลมิชลินสตาร์ มีผู้คนต่อแถวกันเป็นจำนวนมาก ยาวเหยียดไปขวางบ้านใกล้เคียงและมีเสียงดังรบกวน เพราะบริเวณร้านเป็นเพียงซอยเล็กๆ และเป็นย่านพักอาศัย ถึงแม้ปัจจุบันคิวจะน้อยลงและทางร้านได้แก้ปัญหาโดยให้ต่อไปที่หน้าทางเข้าแมนชั่นที่อยู่ข้างๆ ร้านแล้วก็ตาม ขนาดทางทีมงานยืนถ่ายรูปหน้าร้าน ยังโดนบ้านตรงข้ามบอกว่าอย่ายืนขวางบ้านเขาเลย (เขาพูดด้วยความสุภาพ ในในใจลึกๆ บอกเลยว่ามีความไม่พอใจอยู่มากแน่นอน) ดังนั้นถ้าใครที่ได้ไปทาน ก็พยายามอย่าไปยืนขวางบ้านเขาก็แล้วกันเนาะ ทานเสร็จก็เดินออกไปจากบริเวณนั้นก็จะเป็นการดีจ๊ะ

ต้องแปะป้ายไว้เลยทีเดียว

Japanese Soba Noodles Tsuta

ที่อยู่ - 1-14-1 Sugamo, Toshima-ku, Tokyo

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.00 - 16.00 หยุดทุกวันพุธ

รับบัตรคิวได้เวลา 7.00 น. วันเสาร์ 6.30 น.

วิธีการเดินทาง

นั่ง JR สาย Yamanote ลงที่สถานี Sugamo และออกที่ทางออก South Exit (南口) และเดินต่ออีกเพียง 2 นาที