โทคุชิมะ ชื่อนี้มีแต่ที่น่าเที่ยว

โทคุชิมะ ชื่อนี้มีแต่ที่น่าเที่ยว

ดินแดนแห่งน้ำ ป่าเขา และความงดงามทางธรรมชาติที่จะทำให้ทุกคนตกหลุมรัก ณ โทคุชิมะ ทุกท่านจะได้ชมการแสดงระบำอะวะที่ดึงดูดผู้คนให้มาเยือน และดื่มด่ำกับความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและอาหารการกิน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปสำรวจจังหวัดโทคุชิมะกันเลยค่ะ

จังหวัดโทคุชิมะตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของภูมิภาคชิโกะคุ โดยมีภูเขาจำนวนมากที่มีความสูงกว่า 1,000 เมตรรายล้อมอยู่ จึงทำให้ที่แห่งนี้เปี่ยมไปด้วยธรรมชาติที่หลากหลายและยังคงอุดมสมบูรณ์เอาไว้ได้ โดยเราเห็นได้จากจุดท่องเที่ยวไฮไลท์ อย่างเช่น พื้นที่นารุโตะ ที่เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติทะเลเซะโตะ นอกจากนี้ยังมีลมหมุนนารุโตะที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 20 เมตร ให้ได้ชมกันอย่างตื่นตาตื่นใจกันด้วยค่ะ

โทคุชิมะ คลื่นนารูโตะ

หรือหากท่านใดอยากเดินเล่นท่ามกลางบรรยากาศบ้านเมืองที่ยังคงอนุรักษ์และรักษากันมาตั้งแต่สมัยเก่าก่อนแล้วละก็ ต้องไปเดินเที่ยวกันที่ย่านตัวเมืองโทคุชิมะ ซึ่งมักจะมีการจัดงานอีเวนท์ขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดอย่างงานเต้นระบำอะวะ (Awaodori)  ซึ่งระบำอะวะโดรินี้จะจัดในวันที่ 12-15 สิงหาคมของทุกปี และดึงดูดผู้คนให้มาเยือนได้กว่าหลายล้านคนในแต่ละปีอีกด้วย

โทคุชิมะ ระบำอะวะ

หากยังไม่เหนื่อยกัน เราไปต่อกันที่การเที่ยวชมธรรมชาติที่แสนจะอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดโทคุชิมะกันค่ะ เริ่มจากภูเขาที่สูงที่สุดก็คือ ภูเขาสึรุงิ (Tsurugi) ซึ่งสูงถึงระดับ 2,000 เมตรเหนือน้ำทะเล และเมื่อเข้าสู่เดือนเมษายน ตอนเช้าจะมีปรากฏการณ์ทะเลหมอกที่ปกคลุมภูเขาเอาไว้ให้วิวสวยที่แปลกตาไปอีกแบบค่ะ และต่อด้วยหุบเขาเขียวขจีสวยงาม สวรรค์บนดินอย่างหุบเขาอิยะ(Iya) พื้นที่เร้นลับแห่งประเทศญี่ปุ่น ที่เรียกกันแบบนี้มีที่มานะคะ ด้วยเพราะความสวยงามทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้หุบเขาอิยะถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสามพื้นที่เร้นลับของประเทศญี่ปุ่น โดยมีแม่น้ำไหลเซาะผ่านเป็นช่องแคบจนเกิดเป็นรูปตัวอักษรวี (V) โดยหากมองขึ้นไปด้านบนของผาจะเห็น รูปปั้นเด็ก Shobenkozo รูปปั้นเด็กที่ไม่สวมเสื้อผ้าและกำลังทำท่ายืนฉี่อยู่ ซึ่งนี่นับเป็นเอกลักษณ์ที่นักท่องเที่ยวที่ได้มาจะแวะมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก แต่ก็อันตรายและต้องใช้ความระมัดระวังเพราะรูปปั้นนั้นตั้งอยู่บริเวณหน้าผานั่นเองค่ะ

 Shobenkozo

ซึ่งแม่น้ำที่ตัดผ่านเป็นรูปตัววีแห่งนี้มีน้ำสีเขียวเหมือนมรกตที่ชื่อว่า แม่น้ำอิยะคาวะ (Iyakawa)ไหลผ่าน หากเรามองลงไปยังข้างล่าง อาจจะทำให้เราตาลายกันได้เลยทีเดียวค่ะ แต่หากเรามองลงไปข้างล่างในมุมเดิมแต่เป็นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงแล้วละก็ เราจะเห็นภูเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้ที่เปลี่ยนสีสวยงามตามฤดูกาลรอทุกคนอยู่ค่ะ

จากนั้นเราไปต่อกันที่ สะพานคาซุระบาชิ (Kazura-bashi Bridge) สะพานแขวนที่ในอดีตเคยเป็นเส้นทางคมนาคมเพียงทางเดียวในแถบอิยะ ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมสู่หุบเขาอิยะ โดยสร้างจากเถาวัลย์ขนาดใหญ่ มีความยาว 45 เมตร กว้าง 2 เมตร หนักราว 5 ตัน โดยขณะเดินข้ามสะพานเราจะมองเห็นแม่น้ำอิยะไหลเอื้อยอยู่เบื้องล่าง สร้างประสบการณ์สุดตื่นเต้นหวาดเสียวได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

สะพานคาซุระบาชิ

และมาแวะพักขา ชมวิวสวยกับการล่องเรือเที่ยวหุบเขา โอโบเคะ โกโบเอะ (Oboke Koboke) ซึ่งใช้เวลากว่า 200 ล้านปี ผ่านกระบวนการทางธรรมชาติโดยการกัดเซาะของแม่น้ำโยชิโนะ จนเกิดเป็นล่องน้ำและกลายเป็นทางน้ำไหล โดยสองข้างทางจะเห็นเป็นผาหินและต้นไม้ ดอกไม้ ที่ออกดอกสวยตามฤดูกาลจนเกิดเป็นเส้นทางล่องเรือชมธรรมชาติที่สวยงามของหุบเขาโอโบเอะ โกโบเอะ ก่อนจะแวะพักผ่อนแช่ออนเซนกันที่ Hotel Kazurabashi



ออนเซนกลางขุนเขา เพราะการแช่ออนเซนที่นี่เราต้องเดินทางโดยเคเบิ้ลคาร์ของทางโรงแรม โดยที่เราๆ ท่านๆ จะมองเห็นวิวสวยงามจากมุมสูง บ่อน้ำออนเซนถูกจัดแต่งด้วยหินตามธรรมชาติ แนะนำว่าต้องไปก่อนที่ฟ้าจะมืดนะคะ เพราะจะไปทันได้เห็นยามเมื่อแสงแดดตกกระทบบ่อน้ำออนเซนนั้นมันสวยมากเลยค่ะ เซลฟี่ให้เพื่อนอิจฉากันเล่นๆ ได้ที่นี่เลย เพราะต้องบอกว่าวิวสวยมากแบบ กอ ไก่ ล้านตัวค่ะ

เราเห็นจังหวัดโทคุชิมะที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติขนาดนี้ ก็คงไม่แปลกเลยค่ะที่แม้กระทั้งมาสคอตประจำเมืองยังเป็นผลผลิตที่ขึ้นชื่อของเมืองแห่งนี้ นั้นก็คือ สุดะจิคุง มาสคอตประจำจังหวัดโทคุชิมะ

สุดะจิ

และเหตุที่นำสุดะจิ (Sudachi) ผลไม้ในตระกูลส้มและมะนาวมาเป็นมาสคอต เพราะมีต้นกำหนดที่จังหวัดโทคุชิมะ โดยผลของสุดะจินั้นอุดมไปด้วยวิตามินซีที่มากกว่าในเลม่อน นอกจากจะใช้สุดะจิปรุงรสในอุด้งและโซเมนแล้ว หากบีบสุดะจิลงบนปลาย่างซันมะกับเห็ดมัตสึตะเกะก็จะเป็นการเพิ่มทั้งกลิ่นหอมและรสชาติที่อร่อยให้กับอาหารมื้อนั้นๆ มากขึ้นไปด้วยค่ะ และอีกเหตุผลก็เพราะว่ากว่า 98 เปอร์เซ็นต์ของสุดะจิที่ใช้กันอยู่ในประเทศญี่ปุ่นนั้นมาจากผลผลิตที่โทคุชิมะแห่งนี้นั่นเองค่ะ ด้วยความสำคัญเหล่านี้จึงทำให้สุดะจิได้กลายมาเป็นสุดะจิคุงมาสคอตประจำจังหวัดโทคุชิมะค่ะ

และไหนๆ เราก็พูดถึงมะนาวคุงที่ได้เป็นมาสคอตประจำจังหวัดกันไปแล้ว เที่ยวแล้วพร้อมกับได้ความรู้กันไปพลางแล้ว เรามาหาอาหาร อร่อยๆ รับประทานกันเลยดีกว่าค่ะ เริ่มกันที่ อาหารท้องถิ่นของโทคุชิมะ อย่าง ฮิราระยากิ เป็นเมนูที่นำเนื้อปลา ผัก หรือเต้าหู้ไปย่างบนแผ่นหินฮิราระ โดยจะก่อที่กั้นขึ้นด้วยมิโซะบนแผ่นหิน จากนั้นให้นำเนื้อปลา ผัก หรือเต้าหู้วางใส่ไว้ข้างใน แล้วจึงเติมน้ำลงไปเล็กน้อย แล้วย่างให้ได้ที่

ฮิราระยากิ

เราก็จะเห็นมิโซะที่กำลังเดือด เนื้อปลา ผัก เต้าหู้ที่สุกได้ที่ และกลิ่นหอมที่โชยมา ช่างยั่วยวนชวนกินเป็นที่สุดค่ะ เมนูย่างกันไปแล้ว เมนูต่อไปขอนำเสนอ ปลาคัทสึค่ะ เมนูนี้จัดเป็นอีกหนึ่งเมนูที่มีเฉพาะที่โทคุชิมะเท่านั้นค่ะ โดยจะนำเนื้อปลาที่เลี้ยงและคัดสรรมาอย่างดีจากท้องทะเลในพื้นที่ แล้วนำมาทอดกับแป้งที่มีผงแกงกะหรี่ พริก และเครื่องปรุงอื่นๆ เป็นส่วนผสม จากนั้นนำไปทอดจนกรอบ นิยมรับประทานแกล้มกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือจะรับประทานกับข้าวร้อนๆ ก็อร่อยมากเช่นกันค่ะ จากนั้นไปต่อกันที่เมนูอาหารเส้นกันบ้างดีกว่าค่ะ โดยเริ่มกันที่โทคุชิมะราเมน ราเมนน้ำซุปกระดูกหมูโชยุ ที่มีเส้นนุ่มและเนื้อหมูสามชั้นรสชาติหวานชวนกินและตบท้ายด้วยไข่แดงดิบหนึ่งฟอง โรยต้นหอมเพิ่มรสชาติและสีสันของอาหาร

โทคุชิมะราเมน

ซึ่งเมนูนี้จะพบมากที่โทคุชิมะ และด้วยความมีหลายร้านนั่นเองค่ะ แต่ละร้านจึงมีรสชาติและความแตกต่างกันออกไปเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ท่านๆ ให้ไปลิ้มลองกันค่ะ นอกจากโทคุชิมะราเมนแล้ว ก็ยังมีอิยะโซบะ

อิยะโซบะ

โซบะขึ้นชื่อของอิยะที่เป็นเอกลักษณ์ และต่อด้วยทาราอิอุด้ง

ทาราอิอุด้ง

โดยเส้นอุด้งในน้ำซุปจะถูกเสิร์ฟมาในชามอ่างใบใหญ่ พร้อมกับเครื่องเคียงที่รับประทานกับทาราอิอุด้งมากมายให้เลือกรับประทานกันค่ะ และปิดท้ายเมนูด้วยของกินเล่นเบาๆ อย่างทาเคะจิคุวะ ที่นำเนื้อปลาสดไปบด แล้วเอาไปพันรอบไม้ไผ่ เมื่อเสร็จแล้วก็ให้นำไปย่างให้สุก จะทำให้มีกลิ่นหอมจากไม้ไผ่ ก่อนรับประทานก็ให้บีบสุดะจิลงไปเล็กน้อยและรับประทานโดยที่ไม่ต้องเอาทาเคะจิคุวะออกจากไม้ไผ่นะคะ รับรองว่าอร่อยมาก เพราะนั่นคือสไตล์การกินแบบโทคุชิมะเลยค่ะ

ทะเคจิคุวะ

และก่อนกลับค่ะ ของขวัญของฝากจากโทคุชิมะที่อยากแนะนำให้ซื้อกลับบ้านกันค่ะ มาเริ่มกันที่อย่างแรกคือ วาซังบอน ขนมน้ำตาลที่ทำมือ อัดแข็งเป็นก้อน มีเอกลักษณ์อยู่ที่รูปร่างหน้าตาน่ารัก เช่น รูปร่างของหนู ปลา กบ ดอกซากุระ ร่ม ใบบัว ใบไม้ ดอกไม้ ตุ๊กตาไล่ฝน และอื่นๆ  เสริมด้วยรสสัมผัสละลายในปาก ที่มีรสชาติหวานนุ่มลึกชวนกิน

วาซังบอน

ไปต่อกันที่อย่างที่สองก็คือ นารุโตะ คินโตคิ หรือสวีทโปเตโต้ ขนมมันเทศขึ้นชื่อที่นำมันเทศมาทำเป็นสวีทโปเตโต้ได้เนื้อเนียนราวกับเนื้อเกาลัด และมีรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมที่หารับประทานได้เฉพาะจากแบรนด์นารุโตะ คินโตคิเท่านั้นค่ะ

นารูโตะคินโตคิ

และของฝากอย่างที่สามค่ะ อันนี้เป็นของขึ้นชื่อที่ต้องรับประทานในปริมาณที่พอดี เพื่อความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินค่ะ นั่นคือ อาวะ จูวาริ สาเกของดีของโทคุชิมะที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสาเกชั้นดีของประเทศญี่ปุ่น

อาวะ จูวาริ

โดยสาเกจะทำจากข้าวที่ปลูกบนพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์และก็ผลิตในจังหวัดโทคุชิมะเช่นเดียวกันค่ะ จึงทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและยังเป็นหน้าเป็นตาให้กับจังหวัดอีกด้วยค่ะ

สำหรับใครที่มีจิตวิญญาณของนักสำรวจอยู่ในตัว ชอบการผจญภัย และรักการค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวและผู้คนใหม่ๆ แล้วละก็ จังหวัดโทคุชิมะเป็นอีกหนึ่งจุดที่เราอยากแนะนำให้ไปปักมุดสำรวจกันค่ะ เพราะดินเร้นลับแห่งนี้กำลังรอให้เราไปสัมผัสธรรมชาติที่สวยงามอยู่นะคะ

 

ข้อมูลจาก
https://anngle.org/th/j-journer/tokushima-ken/top10intokushima.html

https://www.marumura.com/10-things-do-not-miss-in-tokushima/?fbclid=IwAR2Y2PhoY4o3lrFCnym1FqtyNgGL_GAO2oeKbDCboA5gCKROebhdNXIoxHc