กำเนิดชานมไข่มุก
ไหน ๆ ปีนี้ก็ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นปีแห่งชานมไข่มุกบูม เราก็เลยไปหาเส้นทางการต่อสู้และฝ่าฟันกว่าเจ้าชานมไข่มุกจะเดินทางและมาบูมในญี่ปุ่นนั้นเป็นอย่างไร แน่นอนกว่าจะเป็นเครื่องดื่มของหวานยอดฮิตขนาดนี้ก็ใช้เวลาในญี่ปุ่นถึง 19 ปีเลยทีเดียว
Tapioca หรือ เจ้าไข่มุกที่เรารู้จักกันดีเนี่ยมันทำจากมันสำปะหลังที่มีมากในบ้านเรานี่แหละค่ะ แน่นอนว่าเจ้ามันสำปะหลังเนี่ยมีการเพาะปลูกอย่างแพร่หลายในอเมริกาใต้ เมื่อประมาณหมื่นปีก่อน นั่นหมายความว่า กว่าจะเป็นเจ้าไข่มุกหนึบ ๆ แสนอร่อย มันเดินทางมาจากอเมริกาใต้เลยนะคะ แน่นอนว่าเจ้ามันสำปะหลังก็ได้เดินทางแพร่หลายไปยังที่ต่าง ๆ และถึงเอเชีย ไต้หวันเมื่อศตวรรษที่ 19 ก็ไม่นานมานี้เอง แน่นอนว่าเข้าไทยมาช่วง ค.ศ.1786 คิดว่าเป็นพืชแถบเอเชียมาตลอดเลยนะ เพิ่งได้รู้ความจริงก็ครั้งนี้
เริ่มแรกเดิมทีมันสำปะหลังถูกส่งมายังไต้หวันในสมัยราชวงศ์ชิง นับแต่นั้นมาทางไต้หวันก็ใช้เจ้าแป้งมันสำปะหลังมาแทนข้าวเหนียวเสีย ต่อมาได้ถูกพัฒนาจนเป็นก้อนกลมเปล่งปลั่งดั่งไข่มุก จึงถูกเรียกว่า "ก้อนไข่มุก" แน่นอนช่วงสงครามโลกเจ้าไข่มุกนี่แหละเป็นอาหารประทังชีวิตของเหล่าทหาร แต่แน่นอนว่าคุณค่าทางอาหารไม่ได้มากขนาดนั้น เหล่าทหารจึงถูกส่งโรงหมอเพราะโรคเหน็บชา
แต่เดิมไข่มุกในไต้หวันถูกนำไปเป็นส่วนหนึ่งในของหวานไต้หวันที่คล้าย ๆ กับน้ำแข็งไส แต่ต่อมาปี ค.ศ.1980 ได้มีผู้นำเจ้าไข่มุกนี้ไปใส่กับชานมของขึ้นชื่อของไต้หวัน จนกลายเป็นเครื่องดื่มสุดฮิตของไต้หวันกันเลยทีเดียว แน่นอนในช่วง ค.ศ.1980 - ค.ศ.2000 โดยประมาณ ยังจำได้ไหมว่ามันเคยบูมในบ้านเรามาก่อนเหมือนกัน ก่อนที่จะบูมอีกครั้งในปีที่ผ่านมา (ค.ศ.2019)
ในช่วงประมาณ ปี 1980 Liu Han-Chieh ผู้ก่อตั้งร้าน Chun Shui Tang ได้เริ่มคิดนำชาเย็นมาเสิร์ฟในร้านหลังจากเดินทางมาญี่ปุ่นแล้วพบร้านที่เสิร์ฟกาแฟเย็น
ต่อมาในปี 1983 สาขาแรกของร้าน Chun Shui Tang ก็ได้สร้างขึ้น ในช่วงเวลานั้นได้ชื่อคือ Yangxian Tea House ซึ่งเป็นครั้งแรกในไต้หวันที่การนำชาร้อนเสิร์ฟเย็นโดยการนำมาเชคโดยที่เชคค็อกเทล
ต่อมาในปี 1987 Lin Hsiu Hui ได้นำเจ้าของหวานไต้หวัน “เฟิ่นเหยียน” ออกมาทานขณะคุยกับสต๊าฟของร้าน ในขณะนั้นเองก็ได้ลองนำเจ้าไข่มุกที่เป็นส่วนหนึ่งของเจ้าขนมเฟิ่นเหยียนมาลองใส่ชาเล่น ๆ แต่เมือลองทานกลับอร่อยเกินคาด จึงได้นำมาเป็นหนึ่งในเมนูของร้านและกลายเป็นที่นิยมอย่างมากทั่วไต้หวัน และนี่ก็คือประวัติความเป็นมาของการกำเนิดชานมไข่มุก เล่ามาเสียยาวไปดูกันดีกว่าว่าไปดังที่ญี่ปุ่นกันได้อย่างไร
จุดเริ่มต้นของชานมไข่มุกในญี่ปุ่น
ชานมไข่มุกนั้นจริง ๆ แล้ว ช่วงที่เข้าญี่ปุ่นใหม่ ๆ ไม่ได้ดังมากนัก ถือเป็นเครื่องดื่มทั่วไปธรรมดา โดยเจ้าแรกที่เปิดจำหน่ายในญี่ปุ่นก็คือร้าน Pearl Lady ในเครือ NETTOWER ในปี 2003 เป็นร้านเล็ก ๆ เท่านั้น แน่นอนว่าขายไม่ค่อยดีเสียเท่าไหร่ ต่อมาจึงเปิดควบเป็นทั้งร้านชานมไข่มุกและร้านเครปมันไปด้วยซะเลย
5 ปีต่อมา ในที่สุดร้านจากแดนต้นฉบับก็มาเปิดในญี่ปุ่น เจ้าแรกจากไต้หวันเจ้านี้ Quickly,Easyway ในตอนนี้เองที่คนญี่ปุ่นทั่วไปก็ในช่วงนี้เองล่ะค่ะ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้บูมพอที่จะทำให้คนไปต่อแถวซื้อกันยาวเหยียดเหมือนอย่างปัจจุบัน
จนกระทั้งในปี 2013 ต้นตำรับมาเอง ร้าน Chun Shui Tang มาเปิดในญี่ปุ่นสาขาแรกที่ชิบูย่า เปิดเป็นร้านคาเฟ่ให้นั่งสบาย ๆ ตกแต่งสไตล์สาว ๆ นั่นเอง ไม่ได้เสิร์ฟแค่เครื่องดื่ม แต่ยังเสิร์ฟขนมและอาหารแบบไต้หวันในแบบที่สาว ๆ ชื่นชอบอีกด้วย เรียกได้ว่านั่งทานขนมสบายเลยล่ะ ชานมไข่มุกจึงเริ่มเป็นที่รู้จักของสาว ๆ มากขึ้นในตอนนี้เอง
ต่อมาปี 2015 ร้าน GongCha ก็ได้มาถึงญี่ปุ่นแน่นอนว่าร้านที่คนต้องต่อแถวยาวเหยียดสุด ๆ ในขณะนี้ก็คือร้านนี้เนี่ยแหละค่ะ แต่ในตอนเปิดใหม่ ๆ ตรงถนนโอโมเตะซานโดะก็ไม่ได้มีคนต่อแถวยาวอะไร ก็เป็นแค่ร้านชานมไข่มุกธรรมดาในสายตาคนญี่ปุ่นในขณะนั้น
แต่ชานมไขมุกดันมาเริ่มบูมกันจริง ๆ เมื่อปี 2017 ที่ร้านชานมชื่อ CoCo เขามาเปิดในญี่ปุ่น ในช่วงต้นปีแต่กว่าจะมาบูมจริง ๆ ก็เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงในปีเดียวกัน อย่างที่ใคร ๆ หลายคนทราบกันว่าสาว ๆ คนญี่ปุ่นกำลังเริ่มเล่น Instagram และนิยมถ่ายรูปมาลงแบบที่เป็นรูปถ่ายและสตอรี่เป็นอย่างมาก แน่นอน เจ้าชานมไข่มุกจาก CoCo ก็กลายเป็นหนึ่งในของอินเทรนด์ที่จะถูกนำไปถ่ายลงไอจีสตอรี่ ทำให้ร้านที่สาขา Shibuya Center Gai มีผู้คนมากมายหลั่งไหลไปซื้อเจ้าชานมไข่มุกกันอย่างเนืองแน่น
พอเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายแบรนด์ต่าง ๆ จากไต้หวันก็เริ่มมาเปิดหลายหลายแบรนด์และขยายสาขาอย่างรวดเร็ว เช่น The Alley และ Chatime ที่แน่ ๆ ร้าน GongCha ที่เปิดมาหลายปีก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วเป็นตัวแทนชานมยอดนิยมจากไต้หวันในญี่ปุ่น ใครไปสาขาใหญ่ ๆ ก็ต้องรอต่อคิวกันหน่อยนะจ้ะ
เล่ามาอย่างยาวนาน และนี้ก็คือที่มาและกว่าจะมาบูมในญี่ปุ่นอย่างที่เราเห็นใยปัจจุบัน ขอบอกเลยไปญี่ปุ่นมีร้านชานมไข่มุกให้เราเลือกเยอะมาก แถมแต่ละร้านก็มีเมนูเฉพาะของร้านอีกด้วย ใครไปญี่ปุ่นอย่าลืมลองมองหาร้านที่ไม่มีในไทยดูล่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://ikebukurogu.com/taiwan-food/tapioka-milktea/tapioca-history.html
