ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แบบนี้ ที่ญี่ปุ่นนั้นจะมีการประดับประดาไฟหลากสีให้ผู้คนได้ไปชมกันค่ะ ไม่ว่าที่ไหนก็ประดับไฟได้สวยงามจนเป็นที่เลื่องลือถึงขนาดมีการจัดอันดับทุกๆปีเลยค่ะ จังหวัดซากะก็เป็นอีกแห่งที่จัดแสดงไฟได้อลังการไม่แพ้ที่อื่นเลยค่ะ โดยปีนี้จังหวัดซากะเขาได้จัด Saga Light Fantasy ขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน ไปจนถึง 10 มกราคมเลยค่ะ โดยจะเปิดไฟตั้งแต่ 17.00 - 24.00 น.
ถ้าหากมีเวลา ก็อยากขอแนะนำว่าให้ค่อยๆ เดินมาจากสถานีซากะเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนในฤดูหนาว ก่อนที่จะได้รู้สึกถึงความเหนื่อยเราก็เดินมาถึงโซนที่เริ่มแสดงไฟแล้วค่ะ แต่ถ้าใครไม่สะดวกเดินก็สามารถนั่งรถบัสจากสถานีซากะ มาลงที่ป้าย Tojinmachi ได้เลยค่ะ ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีเองค่ะ
แม้ว่าจะมีจุดหลักๆ ที่ผู้คนนิยมไปถ่ายรูปก็ตาม แต่ว่าตลอดทางนั้นจะมีไฟประดับสวยงามตลอดเลยค่ะ ถ่ายตรงไหนก็สวย
จุดถ่ายรูปแนะนำจุดแรกคือ ถนนสายต้นสนค่ะ ถนนสายนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการชมไฟเลยค่ะ
เดินมาอีกนิดเดียวเท่านั้น ลานโทจินมาจิมาจิกาโดะ
เดินชิลๆ มาอีกสักหน่อย ก็จะเจออุโมงค์ไฟค่ะ ที่อุโมงค์ไฟนี้มีคนมาถ่ายรูปเยอะมากค่ะ
เดินมาอีกนิดเดียวก็จะเจอถนนช้อปปิ้งชิระยะมะ เป็นอีกจุดไฮไลท์เลยค่ะ โดยที่นี่จะประดับไฟสวยงามราวกับเราอยู่ในความฝันเลยค่ะ ที่นี่ช่วงกลางวันก็จะเป็นย่านการค้า ร้านอาหารครึกครื้นค่ะ
เดินชมตรงไหนก็สวยจับใจไปหมดเลยค่ะ สำหรับไฟต้นคริสต์มาสนั้นจะเริ่มเปิดตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม และมีการแสดงดนตรีตามสถานที่ต่างๆ เป็นบางวันด้วยค่ะ ใครสนใจก็เข้าไปดูข้อมูลในเว็บไซต์ได้เลยค่ะ แต่เป็นภาษาญี่ปุ่นนะคะ
ตามข้างทาง บ้านเรือนต่างๆ ก็มีการประดับไฟด้วยค่ะ
ช่วงใกล้ๆ จะจบเส้นทางแล้ว เราก็จะเจออีกจุดประดับไฟที่แม่น้ำค่ะ โดยออกแบบตกแต่งโคมหลากสีไปตามแม่น้ำค่ะ
นอกจากจะได้ชมความสวยงามแล้ว ถนนสายนี้ของจังหวัดซากะนั้นจะมีรูปปั้นของบุคคลที่ทำคุณประโยชน์ให้กับซากะ พร้อมคำบรรยายไปตามสายถนนค่ะ โดยรูปปั้นเหล่านี้จะอยู่ในอิริยาบทสบายๆ เราสามารถเข้าไปถ่ายรูปเซลฟี่ได้เลยค่ะ และมีตลอดไม่ได้มีเฉพาะช่วงเทศกาล
มีรายละเอียดประวัติข้างรูปปั้น แต่เป็นภาษาญี่ปุ่นเท่านั้นค่ะ
เดินเล่นมาเป็นชั่วโมง เริ่มหนาวและหิวเลยหยุดฝากท้องที่ร้านราเมงตามทางค่ะ มีร้านอาหารเยอะมากค่ะ วันนี้สั่งราเมงหมูชาชูและข้าวหน้าหมูชาชูมาลองดูค่ะ หมดค่าเสียหายไป 800 กว่าเยน อิ่มแปล้ แล้วก็เดินทางกลับกันค่ะ
ถ้าได้มีโอกาสแวะมาเที่ยวซากะช่วงฤดูหนาวแล้วล่ะก็ แวะมาเดินเล่นชมไฟที่งาน Saga Light Fantasy รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
ถ้าหากมีเวลา ก็อยากขอแนะนำว่าให้ค่อยๆ เดินมาจากสถานีซากะเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนในฤดูหนาว ก่อนที่จะได้รู้สึกถึงความเหนื่อยเราก็เดินมาถึงโซนที่เริ่มแสดงไฟแล้วค่ะ แต่ถ้าใครไม่สะดวกเดินก็สามารถนั่งรถบัสจากสถานีซากะ มาลงที่ป้าย Tojinmachi ได้เลยค่ะ ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีเองค่ะ
แม้ว่าจะมีจุดหลักๆ ที่ผู้คนนิยมไปถ่ายรูปก็ตาม แต่ว่าตลอดทางนั้นจะมีไฟประดับสวยงามตลอดเลยค่ะ ถ่ายตรงไหนก็สวย
จุดถ่ายรูปแนะนำจุดแรกคือ ถนนสายต้นสนค่ะ ถนนสายนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการชมไฟเลยค่ะ
เดินมาอีกนิดเดียวเท่านั้น ลานโทจินมาจิมาจิกาโดะ
เดินชิลๆ มาอีกสักหน่อย ก็จะเจออุโมงค์ไฟค่ะ ที่อุโมงค์ไฟนี้มีคนมาถ่ายรูปเยอะมากค่ะ
เดินมาอีกนิดเดียวก็จะเจอถนนช้อปปิ้งชิระยะมะ เป็นอีกจุดไฮไลท์เลยค่ะ โดยที่นี่จะประดับไฟสวยงามราวกับเราอยู่ในความฝันเลยค่ะ ที่นี่ช่วงกลางวันก็จะเป็นย่านการค้า ร้านอาหารครึกครื้นค่ะ
เดินชมตรงไหนก็สวยจับใจไปหมดเลยค่ะ สำหรับไฟต้นคริสต์มาสนั้นจะเริ่มเปิดตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม และมีการแสดงดนตรีตามสถานที่ต่างๆ เป็นบางวันด้วยค่ะ ใครสนใจก็เข้าไปดูข้อมูลในเว็บไซต์ได้เลยค่ะ แต่เป็นภาษาญี่ปุ่นนะคะ
ตามข้างทาง บ้านเรือนต่างๆ ก็มีการประดับไฟด้วยค่ะ
ช่วงใกล้ๆ จะจบเส้นทางแล้ว เราก็จะเจออีกจุดประดับไฟที่แม่น้ำค่ะ โดยออกแบบตกแต่งโคมหลากสีไปตามแม่น้ำค่ะ
นอกจากจะได้ชมความสวยงามแล้ว ถนนสายนี้ของจังหวัดซากะนั้นจะมีรูปปั้นของบุคคลที่ทำคุณประโยชน์ให้กับซากะ พร้อมคำบรรยายไปตามสายถนนค่ะ โดยรูปปั้นเหล่านี้จะอยู่ในอิริยาบทสบายๆ เราสามารถเข้าไปถ่ายรูปเซลฟี่ได้เลยค่ะ และมีตลอดไม่ได้มีเฉพาะช่วงเทศกาล
มีรายละเอียดประวัติข้างรูปปั้น แต่เป็นภาษาญี่ปุ่นเท่านั้นค่ะ
เดินเล่นมาเป็นชั่วโมง เริ่มหนาวและหิวเลยหยุดฝากท้องที่ร้านราเมงตามทางค่ะ มีร้านอาหารเยอะมากค่ะ วันนี้สั่งราเมงหมูชาชูและข้าวหน้าหมูชาชูมาลองดูค่ะ หมดค่าเสียหายไป 800 กว่าเยน อิ่มแปล้ แล้วก็เดินทางกลับกันค่ะ
ถ้าได้มีโอกาสแวะมาเที่ยวซากะช่วงฤดูหนาวแล้วล่ะก็ แวะมาเดินเล่นชมไฟที่งาน Saga Light Fantasy รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
