มีหลายๆคนสงสัยว่า...มีเวลาแค่หนึ่งวัน...ถ้าไปโอซาก้าครั้งแรกเราควรไปที่ไหนดี?? วันนี้มีคำตอบค่ะ
จากประสบการณ์มั่วของตัวเองล้วนๆ แต่รอดนะคะ วันนี้เลยจะมาแบ่งปันสถานที่เหล่านี้ให้สำหรับมือใหม่ที่กำลังจะไปตะลุยโอซาก้ากันค่ะ



เริ่มต้นด้วยการมีบัตรผ่านสำหรับการเดินทางโดยรถไฟในญี่ปุ่นค่ะ ซึ่งในครั้งนี้เราใช้ Kansai Hiroshima Area Pass เนื่องจากต้องเดินทางไปฮิโรชิมา รวมถึงเมืองอื่นๆในแถบคันไซด้วย เป็นบัตรผ่านที่แสนจะสะดวก ครอบคลุมสถานที่สำคัญต่างๆซึ่งสามารถใช้กับรถไฟของ JR เท่านั้นนะคะ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้จาก   https://www.westjr.co.jp/global/en/ticket/pass/



Tip: การจะดูว่าต้องไปรถไฟสายไหน ขึ้นรถไฟที่ชานชาลาที่เท่าไหร่ แนะนำว่าต้องพึ่งเจ้าเว็บ http://www.hyperdia.com/en/ นะจ๊ะ รับรองไม่มีหลง ขนาดคนญี่ปุ่นเองยังต้องใช้เจ้านี่ เรามาจากต่างแดนไม่พึ่งมันคงไม่รอดค่ะ

เนื่องจากมีเวลาที่จำกัดแค่หนึ่งวันเท่านั้นเราจึงเดินทางไปสถานที่ที่อยู่ในเส้นทางรถไฟสายหลักเท่านั้น (ในวงกลมสายสีน้ำเงินเข้ม) เท่านั้นค่ะ



พาลุยสถานที่แรกกันเลยดีกว่าค่ะ

1.ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)

จะพลาดกับปราสาทนี้ได้ยังไงล่ะคะ ก็เค้าเป็นถึงหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองโอซาก้า เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวหลักที่ใครมาเที่ยวโอซาก้าก็ต้องเดินทางมาที่นี่ด้วย เราต้องไม่พลาดค่ะ ลุย!!!
ค่าเข้าชม: 600 เยน
เวลาทำการ: 9.00น.-17.00น. (ช่องจำหน่ายตั๋วปิดเวลา 16.30 น.)
การเดินทาง: รถไฟ JR West ไปลงที่สถานี Morinomiya ใช้คันไซพาสผ่านสบายๆ



เดินออกจากสถานีโมริโนมิยะ มาเข้าประตูใหญ่เดินเข้ามานิดนึงจะเจอกับลานนี้เลยค่ะ





เดินมาอีกเรื่อยๆจะเริ่มเห็นคูน้ำล้อมรอบปราสาท พร้อมวิวทิวทัศน์อันสวยงาม ขอบอกอากาศฟินมากค่า







ใบไม้เปลี่ยนสียังคงมีให้เห็นอยู่บ้างในบริเวณสวนนิชิโนมารุใกล้ๆปราสาท ในช่วงต้นเดือนธันวาคมแบบนี้

บริเวณสะพานที่เข้าเข้าไปยังปราสาทของประตูด้านข้างค่ะ

ขอบอกไว้ก่อนนะคะบริเวณของปราสาทโอซาก้านั้นยิ่งใหญ่มากค่ะ ใช้เวลาเดินกันพอสมควรกว่าจะเข้าถึงตัวปราสาท สำหรับคนเวลาน้อยต้องเผื่อเวลานะคะ อย่ามัวแต่ถ่ายรูปเพลินกันไป

สวยงามจริงๆค่ะ เห็นแล้วก็หยุดถ่ายรูปไม่ได้เลย

หอคอยปราสาทมีด้วยกันอยู่ 8 ชั้น นะคะ ทางขึ้นไปจะมีให้เราเลือกค่ะว่าจะขึ้นลิฟท์ หรือเดินขึ้นบันไดไปเอง ส่วนตอนลงเดินลงบันไดอย่างเดียวนะคะ ถึกและบึกบึนอย่างเราเดินสิคะ เพราะลิฟท์คิวยาวมากค่ะ แนะนำให้เดินขึ้นและเดินชมประวัติความเป็นมาในแต่ล่ะชั้น จะทำให้รู้สึกไม่เหนื่อยค่ะ ส่วนตอนลงชิวมากค่ะ





ขึ้นมาแล้วก็ชมวิวเมืองโอซาก้ากันสักหน่อย ซึ่งด้านบนตัวปราสาทสามารถเห็นวิวเมืองโอซาก้าในมุมสูงได้อย่างสวยงามค่ะ

ระหว่างเดินกลับไปขึ้นรถไฟที่สถานีโมริโนมิยะค่ะ

เดินทางต่อไปกับสถานที่ที่ 2 เลยค่ะ

2. วัดชิเทนโนจิ (Shitennoji)

เป็นวัดที่เชื่อว่าเป็นวัดพุทธแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่นเก่าแก่กว่า 1,400 ปีเลยทีเดียว ไม่มาไม่ได้ ภายในอาณาเขตมหาวิหารชั้นในของวัดนั้นประกอบไปด้วย
▪    เจดีย์ห้าชั้นแบบญี่ปุ่น
▪    วิหารทองคำ ที่ประดิษฐานรูปเคารพของพระโพธิสัตว์เนียวไร (Nyorai Kannon)
▪    หอธรรม
ค่าเข้าชม: แบ่งเป็นโซนๆ ค่าเข้าปกติ 300 เยน
เวลาทำการ: 8.30น.-16.30น.
การเดินทาง: รถไฟ JR West ไปลงที่สถานี Tenoji

บริเวณประตูทางเข้าวัด

ก่อนเข้าวัดต้องชำระล้างตามธรรมเนียมญี่ปุ่นก่อนนะคะ

ประตูทางเข้าอีกหนึ่งประตูค่ะ

บริเวณกระถางธูป

บริเวณรอบๆวัดค่อนข้างมีความสงบ ร่มรื่นทีเดียวค่ะ วันนี้ผู้คนไม่พลุกพล่านเท่าไหร่เนื่องจากเป็นวันธรรมดาค่ะ

บริเวณรอบๆวัด สงบ ร่มเย็น

ประตูทางเข้าด้านในสุดก่อนเข้าสู่วิหารค่ะ

เจดีย์ 5 ชั้น และหอธรรม

เจดีย์ห้าชั้น ด้านในวิหารทองคำทางวัดไม่อนุญาติให้ถ่ายรูปนะคะ

ระหว่างทางเดินกลับจากวัดไปยังสถานี Tenoji  เพื่อที่เราจะต่อไปยังอีกวัดแบบไม่เสียเวลาค่ะ

3. ศาลเจ้าสุมิโยชิไทฉะ (Sumiyoshi Taisha)

เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต ที่มีความสวยงามมากอีกแห่งหนึ่งของเมืองโอซาก้า ภายในนั้นจะเป็นที่ตั้งของเทพคามิ (เทพเจ้าชินโต) ซึ่งคอยให้ความคุ้มครองแก่นักเดินทาง ชาวประมงและชาวเรือ ชาวญี่ปุ่นนิยมเดินทางมาขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้
ค่าเข้าชม: ฟรี
เวลาทำการ: 6.00น.-17.00น.
การเดินทาง: รถไฟ JR West ไปลงที่สถานี Tenoji จากนั้นต้องต่อรถรางสาย Hankai สายสีน้ำเงิน ที่สถานี Tennoji-Ekimae (HN01) ไปลงที่สถานี Sumiyoshi Torimae (HN12) สถานีอยู่หน้าทางเข้าวัดเลยค่ะ ค่ารถรางประมาณ 200 เยน ค่ะ



สถานีรถรางท้องถิ่นของเค้าค่ะ จะอยู่กลางถนนนะคะ เดินจากสถานีชิเทนโนจิมาไม่ไกลค่ะ



ลงสถานีหน้าศาลเจ้าเลยค่ะ จุดสังเกตุง่ายมากค่ะ ใครจำชื่อสถานีไม่ได้ มองทางซ้ายมือไว้จะเห็นเสาแบบในรูป ลงตรงนี้เลยค่ะ



มาถึงวัดเราต้องข้ามเจ้าสะพานแดงนี้ไปเข้าไปยังวัดค่ะ เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีความโดดเด่นและสวยงามเป็นเอกลักษณ์ของศาลเจ้านี้เลยค่ะ

สะพานโค้งโซริฮาชิ

แสงแดดสะท้อนสะพานกับคลองสวยงามมากค่ะ

ศาลเจ้าด้านในค่ะ ที่ชาวญี่ปุ่นนิยมมาขอพรกันค่ะ ขอพรช่วยปัดเป่าเคราะห์ร้าย นำโชคดีเข้ามาในชีวิต



สถานที่นี้จะเห็นคนญี่ปุ่นมาหาก้อนหินที่เขียนคำว่า “โกะ (五)” “ได (大)” “ริกิ (力)” ซึ่งจะมีกระจายอยู่ในกองหิน แต่...หาไม่เจอค่าา เค้าบอกว่าถ้าหาเจอสามารถนำไปเป็นเครื่องราง ที่จะบันดาลพรหนึ่งในห้าประการได้แก่ พลกำลัง ปัญญา โชคลาภ ความมั่งคั่ง และอายุขัยให้เป็นจริงได้ คนญี่ปุ่นข้างๆได้ไปซะก่อน อดไปค่ะ





เดินเข้ามาด้านในอีกก็จะพบศาลเจ้าย่อยๆอีกค่อนข้างหลายศาลเลยทีเดียวค่ะโคมไฟและธงแดงรายล้อมทั่วบริเวณศาล





ด้านในก็จะมีแมวกวักญี่ปุ่น ว่าแล้วซื้อเครื่องราง มาเนกิเนะโกะ แมวกวักนำโชคกลับบ้านสักหน่อย นอกจากจะน่ารักรักแล้ว ยังนำโชคได้อีกด้วย ก่อนจะไปลุยต่อ ได้เวลาช้อปปิ้งสิคะ ไปค่ะไหว้พระทำบุญกันแล้วก็ต้องไปช้อปกันต่อค่ะ โอซาก้าเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องการช้อปปิ้งอยู่แล้ว

4. นัมบะวอค (Namba Walk)

เป็นทางเดินใต้ดินเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆมากมาย รวมไปถึงร้านอาหาร ในเวลาหน้าหนาวคนญี่ปุ่นมักจะชอบเดินกันใต้ดินซะมากกว่าข้างบนเพราะมันสามารถให้ความอบอุ่นได้ระหว่างการเดินทางต่อสถานี

เวลาเปิดปิด: ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน
การเดินทาง: รถไฟใต้ดินสถานีนัมบะ (Namba)

5. โดทงบุริ (Dotonburi)

ย่านช้อปปิ้ง และร้านอาหารชื่อดังมากมาย จุดเด่นที่ตนชอบมาแล้วต้องแอบแชะภาพด้วยคือ เจ้าร้านปูยักษ์ และป้ายกูลิโกะ
เวลาเปิดปิด: ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน
การเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากรถไฟใต้ดินสถานีนัมบะ (Namba)

6. ชินไซบาชิ (Shinsaibashi)

แหล่งช้อปปิ้งที่มีความหลากหลายของร้านค้า รวมถึงแบรนด์ดังมากมายก็ตั้งอยู่ที่นี่ ศูนย์รวมสินค้าแฟชั่น อาหารและเครื่องดื่มของโอซาก้าเลยทีเดียว

เวลาเปิดปิด: เวลาเปิดประมาณ 8.00-10.00 น. เวลาปิดประมาณ 21.00-24.00 น. (ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน)
การเดินทาง: เดิน 1 นาทีจากรถไฟใต้ Midosuji และ Nagahori Tsurumi-ryokuchi สถานีชินไซบาชิทางออก 5 และ 6 หรือ รถไฟใต้ดินสาย Yotsubashi และ Nagahori Tsurumi-ryokuchi สถานี Yotsubashi

เฮ้อออ มีความเหนื่อย ขานี่ชาไปหมดเลยค่าาาคุณขา มาญี่ปุ่นนี่ต้องถึกนะคะ เดินเยอะมากจริงๆค่ะ

เอาเป็นว่าใครมีเวลาแค่ วันเดียวกับโอซาก้า ขอแนะนำสถานที่ตามนี้เลยนะคะ นั่งรถไฟไม่ย้อนไปย้อนมา การไล่เรียงสถานที่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโรงแรมที่เราพักอยู่ด้วยนะจ๊ะ อันนี้คือเราพักแถวสถานีชินโอซากา เลยวนมาทางนี้

ก่อนเดินทางแนะนำอีกอย่างค่ะ การทำแผนการเดินทางที่ดี เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญสำหรับคนที่มีเวลาน้อย เพราะถ้าเราวางแผนดีแล้ว เราจะไม่เสียเวลาเลยค่ะ ขอให้ทุกท่านท่องเที่ยว และช้อปอย่างมีสติ ไม่กระเป๋าเดินทางตุงแต่เงินในกระเป๋าสตางค์หมดนะจ๊ะ ขอย้ำมีสตินะคะ