ตะลอนเที่ยวนางาซากิ เมืองแห่งประวัติศาสตร์ด้วยตัวเองจากคุมาโมโตะ

สวัสดีค่า จากที่ก่อนหน้านี้เราได้ไปตะลุยจังหวัดคุมาโมโตะกันมาแล้ว วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปยังจังหวัด นางาซากิ กันต่อเลย โดยเราจะเริ่มเดินทางกันต่อเลยจากจังหวัดคุมาโมโตะ เพื่อเข้าสู่จังหวัดนางาซากิกันค่ะ


800px-map_of_japan_with_highlight_on_42_nagasaki_prefecture-svg


nagasaki11


ในวันแรก เราจะออกสตาร์ทจากจังหวัดคุมาโมโตะ โดยข้ามเรือไปยังท่าเรือชิมะบาระ - บ่อนํ้าพุร้อนอุนเซนจิโกคุ - ร้านอาหารมุชิกามายะ - และสิ้นสุดที่ภูเขาอินาสะค่ะ


จากโรงแรม Satsuki Bessou เราจะต้องเดินทางกันโดยใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง อย่าลืมเติมพลังกันก่อนออกจากโรงแรมกันนะคะ ทานข้าวให้เรียบร้อยแล้วออกเดินทางสู่จุดหมายแรก นั่นก็คือสถานีรถไฟคุมาโมโตะกันเลย!


dscf8791


การเดินทางไปยังสถานีคุมาโมโตะเพื่อเดินทางไปยังจังหวัดนางาซากิ เราจะต้องนั่งรถไฟจากสถานี 玉名駅 หรือว่า Tamana Station ไปยังสถานีรถไฟ 熊本駅 หรือว่า Kumamoto Station โดยการเดินทางจะใช้ระยะเวลา 40 นาที โดยประมาณค่ะ เราสามารถซื้อตั๋วรถไฟได้จากเค้าท์เตอร์โดยตรงก็ได้ค่า


dscf8794


dscf8795


เอาล่ะเมื่อเราได้ตั๋วรถไฟกันมาแล้วก็เตรียมตัวออกเดินทางกันเลยยยยยยย ให้ขึ้นหมายเลข 2 นะคะ ถ้าเห็นรถไฟที่เขียนว่า 熊本 ก็ขึ้นได้เลยยยยยย


dscf8799


พอเรามาถึงสถานีรถไฟคุมาโมโตะแล้วนะคะ ให้เราเดินออกจากสถานีแล้วข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้ามค่ะ เพื่อที่เราจะเดินทางไปท่าเรือคุมาโมโตะกัน เพราะว่าเราจะเดินทางไปจังหวัดนางาซากิโดยการนั่งเรือข้ามไปกันนะคะ โอเคค่า ตอนนี้เราจะพาทุกคนขึ้นรถบัสแล้วเดินทางไปท่าเรือกันเลย


dscf8807


อันนี้คือสถานีรถบัส Kumamoto Station (熊本駅前)ให้ไปรอป้ายรถบัสเบอร์ 2 แล้วดูตามตาราเวลานี้เลย


dscf8809


dscf8810


ตารางสีเขียวคือวันธรรมดา สีฟ้าคือวันเสาร์ และ สีชมพูคือวันอาทิตย์ค่ะ สามารถดูตารางรถบัสได้ตามนี้เลยนะคะ อย่างเช่นเบอร์ 西7 ตามรูปนี้สถานีสุดท้ายก็คือท่าเรือคุมาโมโตะ ก็สามารถขึ้นได้ค่ะ เอาล่ะพอเราเจอรถบัสสายนี้แล้วก็ขึ้นกันเลยยยย สำหรับท่านที่ถือบัตร Sun Q Pass สามารถใช้บัตร Sun Q Pass ได้นะคะโดยไม่ต้องเสียค่าโดยสารแต่ใดๆ


dscf8817


dscf8818


และแล้วก็มาถึงท่าเรือคุมาโมโตะแล้วค่า พอเราลงจากสถานีท่าเรือคุมาโมโตะ ให้เราเดินเข้าไปซื้อตั๋วได้ข้างในเลยค่ะ ถือบัตร Sun Q Pass ไว้ก่อนนะคะเพราะเราจะต้องใช้อีก พอเราเดินเข้ามาก็เจอร้านขายของฝากเต็มไปหมดเลยให้เราเดินตรงเข้าไปเรื่อยๆ แล้วจะเจอเคาท์เตอร์ทางด้านซ้ายค่ะ


dscf8821


dscf8820


อันนี้เป็นตารางเวลาที่เรือจะออกนะคะ เราจะต้องเดินทางไปที่ท่าเรือชิมาบาระกันก่อนนะคะ (Shimabara) ตรงนั้นมีภาษาอังกฤษเราสามารถสอบถามข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษหรือดูตามป้ายเป็นภาษาอังกฤษได้เลย ไม่ต้องห่วง >___< พอเราเดินเข้าไปที่เคาท์เตอร์แล้วนะคะ ให้เรายื่นบัตร Sun Q Pass และบอกเวลาที่เราจะขึ้นเรือ พนักงานก็จะออกตั๋วให้เรานะคะ หน้าตาตั๋วก็จะเป็นประมาณนี้นะคะ ใบเล็กๆ อย่าทำหายกันนะคะ ไม่งั้นขึ้นเรือไม่ได้น้า


dscf8823


dscf8826


dscf8830


ก่อนที่จะถึงเวลาขึ้นเรือเราก็มานั่งรอที่คาเฟ่ในท่าเรือได้นะคะ มีทั้งของฝากมากมายแล้วก็ขนม ไอศครีมพร้อมเลยล่ะค่ะ สำหรับขนมนี้ เป็นสินค้าที่ส่วนใหญ่คนไทยและชาวต่างชาติจะนิยมซื้อมาทานกันนะคะ เป็นขนมเซมเบ้รสกุ้งค่ะ บอกเลยว่าอร่อยมากๆ ทานแล้วต้องติดใจแน่นอน แถมมีน้องหมีคุมะมงให้เราถ่ายรูปคู่ด้วยนะคะ น่ารักมากๆ


dscf8833


dscf8835


dscf8837


dscf8838


พอถึงเวลาขึ้นเรือแล้ว ให้เราเดินขึ้นไปที่ชั้น 2 แล้วก็เดินตรงไปข้างนอกเพื่อที่เราจะขึ้นเรือกันนะคะ ให้เราเดินตามทางในนี้เลย ไปที่เบอร์ 2 เลยค่ะ ลืมไปบอก เรือนี้สามารถนำรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ จักรยานขึ้นเรือไปพร้อมๆ กันได้ด้วยนะคะ แต่ว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม พอเราเดินเข้าไปแล้วจะเป็นที่นั่งสำหรับบัตรพิเศษ และ บัตรขึ้นเรือธรรมดาค่ะ เราจะสามารถจองที่นั่งที่ไหนก็ได้ค่ะ โดยด้านในเรือลำนี้มีคาเฟ่ด้วยล่ะค่ะ เราสามารถสั่งน้ำ ซื้อขนมมาทางฆ่าเวลาก่อนถึงท่าเรือชิมาบาระได้ การเดินทางเราจะใช้เวลาประมาณ 30 นาทีโดยประมาณค่ะ ไม่นานมาก อันนี้เป็นภาพบรรยากาศบนเรือมาให้ชมกันนะคะ ทั้งบรรยากาศด้านนอกเรือและด้านใน


dscf8839


dscf8843


dscf8844


dscf8850


dscf8855


อันนี้เป็นที่นั่งพิเศษที่จองไว้นะคะ เป็นที่นั่งด้านหน้าสามารถมองเห็นวิวเรือด้านหน้าได้ด้วย แต่พอดีเนื่องจากตอนที่เราไปสภาพอากาศค่อนข้างมีหมอกลงเยอะมาก เลยทำให้มองอะไรไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่ ต้องขออภัยด้วยนะคะ


dscf8846


dscf8860


dscf8861


dscf8865


dscf8866


dscf8867


ในขณะที่เราชมภายในเรือและใช้เวลาพักผ่อนก่อนที่เราจะต้องเดินทางต่ออีก ในที่สุดก็ได้เดินทางมาถึงท่าเรือชิมาบาระเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ ทางออกให้เราเดินลงไปชั้นล่างได้เลย เพื่อที่เราจะขึ้นรถบัสเดินทางไปเที่ยวที่ ย่านอุนเซ็น Unzen Area นั่นเองค่ะ ที่นี่จะขึ้นชื่อในเรื่องของ บ่อน้ำร้อนออนเซ็นอีกด้วย สำหรับการเดินทางนี้จะพาทุกท่านขึ้นรถบัสไปกันนะคะ ให้ลงสถานีที่ชื่อว่า 雲仙お山情報館 หรือที่อ่านว่า อุนเซ็นโอยามะโจวโฮกัง นะคะ พอได้ยินชื่อป้ายนี้ปุ๊บให้ลงได้ทันทีเลย (ป้ายรถบัสตามรูปภาพนี้เลยค่ะ)


dscf8906


dscf8872


พอเรามาถึงที่อุนเซ็นแห่งนี้แล้วให้เราสามารถเดินขึ้นไปบนภูเขาได้เลยค่ะ เราสามารถเดินเข้าไปชมออนเซ็นที่มีอุณหภูมิถึง 100 องศาแบบเห็นของจริงเลยค่ะ และออนเซ็นบนภูเขาอุนเซ็นนี้แต่ละโรงแรมหรือโรงอาบน้ำก็ต่อสายตรงนำน้ำจากบนภูเขาไปใช้ค่ะ แน่นอนว่าธรรมชาติเต็มๆ 100% เลย นี่เป็นบรรยากาศของบนภูเขาออนเซ็นนะคะ กลิ่นกำมะถันอาจจะแรงหน่อยและควันจะเยอะ แต่เป็นเรื่องของปกติในภูเขาไฟหรือน้ำที่ร้อนมากๆ ค่ะ ประวัติของภูเขาไฟอุเซ็นแห่งนี้ เริ่มจากจากการปะทุเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1990 และสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1999 ในดินแดนแห่งนี้ ได้มีอะไรหลงเหลืออยู่บ้างให้พวกเราได้รับชมกันค่ะ


dscf8874


dscf8879


dscf8882


dscf8885


dscf8889


dscf8887


ที่ภูเขาไฟอุนเซ็นแห่งนี้มีไข่ต้มที่ต้มจากน้ำออนเซ็นด้วยนะคะ ราคาไม่แพงด้วย แล้วพอเดินไปเรื่อยๆ ก็เจอแมวน้อยมาหลบๆ อยู่ที่นี่ด้วยค่ะ พนักงานที่นี่บอกว่าพวกแมวจะมาอาศัยอยู่ที่นี่ในช่วงตอนเช้าเยอะมากๆ เพราะว่าอากาศค่อนข้างอบอุ่นสำหรับพวกสัตว์ค่ะ สำหรับไข่ต้ม 2 ฟองราคา 200เยน แต่ถ้า 5 ฟองจะราคา 400 เยนค่า สามารถนั่งแกะเปลือกแล้วทานตรงศาลาได้เลย อยากจะบอกว่าอร่อยมากๆเลยค่ะ แถมฟินอีกตังหากกกกกก ได้บรรยากาศด้วยค่ะ (ถึงแม้จะได้กลิ่นกำมะถันก็ตาม) แล้วก็ยังมีมันเผาอีกด้วย!! แต่เนื่องจากวันที่เราไปเหลือน้อยมาก เขาไม่ได้เอามาขายไว้นะคะ ฮาๆ แต่มีภาพมาให้ชมเลย บอกเลยว่าชวนหิวมาก


dscf8894


dscf8895


dscf8899


dscf8902


สำหรับภูเขาไฟอุนเซ็นก็จะประมาณนี้นะคะ เราสามารถเดินขึ้นไปให้ถึงยอดเขาเรื่อยๆ ได้ค่ะ แต่ว่าเนื่องจากสภาพอากาศที่ไปมา เริ่มฝนตกและมีหมอกครึ่มมาก ทางเราเลยมาสุดได้แค่นี้นะคะ


ต่อจากนี้เดี๋ยวเราจะพาทุกคนไปโรงแรมที่มีชื่อเสียงของที่นี่กันนะคะ และแน่นอนว่าบรรยากาศดีมากๆ ทั้งโครงสร้างการออกแบบถือว่าสวยงามมากค่ะ นั่นก็คือโรงแรม Unzen Kanko Hotel (雲仙観光ホテル)


dscf8931


dscf8915


dscf8916


dscf8911


โรงแรมนี้สร้างขึ้นเมื่อ 10 ตุลาคม ค.ศ 1935 โรงแรมมีรถรับ-ส่งสนามบินฟรี Unzen Kanko Hotel มีระยะทาง 37.3 กิโลเมตรจาก Nagasaki Airport เราจะมีรูปบรรยากาศสวยๆ จากภายในล๊อบบี้ของโรงแรมและบรรยากาศข้างนอกมาให้ชมกันนะคะ


สำหรับท่านไหนที่อยากได้รูปรายละเอียดการของโรงแรมเพิ่มเติมนะคะ สามารถเข้าไปในเว็บ Booking.com , Agoda.com หรือว่า tripadvisor.com ได้หมดเลยค่า แล้วเสิร์จด้วยชื่อ Unzen Kanko ได้เลย


i%e2%88%91ceafe%c2%a8ilccacaeoex


เอาล่ะค่ะสำหรับตอนนี้เดินทางมากันตั้งแต่เช้าแล้ว เราไปหาอะไรทานกันนะคะ และที่จะแนะนำจากนี้ก็คือร้านอาหารทะเลนั่นเอง! โดยเราจะเดินทางโดยรถบัส ซึ่งเราจะขึ้นที่ป้าย อุนเซ็น (Shimatetsu Bus : Unzen Eigyousho) เดินจากโรงแรมประมาณ 10 นาที ใช้เวลาเดินทางถึงสถานีโอบามะ ประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที โดยความถี่ของรถบัสจะมีแค่ 1 ชั่วโมงต่อ 1 คันเท่านั้น อันนี้แนะนำว่าต้องเช็คเวลากันให้ดีนะคะตามภาพด้านล่างเลย


bustime


dscf8939


ถึงแล้วจ้าร้านมีชื่อว่า Mushigamaya ค่ะ ยังอยู่ในเขตของชิมาบาระอยู่นะคะ ร้านนี้ตั้งอยู่ใกล้ๆ ほっとスポット105 (Hot Spot 105) หรือออนเซ็นแช่เท้าที่ยาวถึง 105 เมตรนั่นเอง อาหารร้านนี้สดมากๆ เลยค่ะ แถมใช้น้ำจากออนเซ็นธรรมชาติต้มเอาด้วยนะคะ! ที่ร้านนี้เราสามารถเลือกอาหารได้เองแล้วนำไปให้พนักงานแล้วพวกเขาจะต้มให้เราเอง ถ้าเราอยากได้ปูแบบไหน กุ้ง ปลา เราสามาถเลือกได้ตามใจชอบเลยค่ะ ราคาต่างๆ ก็จะเขียนไว้อยู่ตามกระบะ หรือป้ายที่ทางร้านได้เขียนติดไว้เลยค่า


dscf8964


dscf8942


dscf8943


dscf8947


dscf8950


dscf8962


อันนี้เป็นตัวอย่างของอาหารที่ต้มเสร็จแล้วนะคะ น่าทานใช่ไหมล่ะ จะบอกว่าอร่อยมากๆ เลย โดยเฉพาะปูกับปลา ที่ญี่ปุ่นบอกตรงๆ เลยว่าปูหาทานยากมากๆ ถ้ามาที่นี่แล้วต้องสั่งปูนะคะ  แถมมะเขือเทศที่นี่อร่อยแล้วหวานมากๆ เลย ใครที่ชอบทานมะเขืออันนี้ก็ต้องไม่พลาดเช่นกัน


dscf8973


dscf8977


dscf8979


dscf8974


หลังจากเรารับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว เมื่อกี้ได้กล่าวกันไปแล้วว่าใกล้ๆ กับร้านอาหารนี้มี ほっとスポット105 (Hot Spot 105) หรือออนเซ็นแช่เท้าที่ยาวถึง 105 เมตรค่ะ อันนี้ก็ถือว่ามีชื่อเสียงของที่นี่เหมือนกันนะคะ เพราะว่าเป็นน้ำออนเซ็นที่เอาไว้แช่เท้าที่ยาวที่สุด แช่ในฤดูหนาวบอกเลยว่าสบายแน่นอนค่ะ แต่จริงๆ ไม่จำเป็นต้องหน้าหนาวก็ได้ค่า ฮาๆ สามารถแช่ได้ตลอดเลย และที่นี่ยังสามารถซื้อไข่ มัน และ ข้าวโพดไปต้มกับน้ำออนเซ็นด้วยตัวเองได้ด้วยนะคะ ใครที่อยากลองทำ แล้วอยากทานก็สามารถซื้อได้จากที่ร้านแล้วนำไปต้มเองได้เลยยยยยย


dscf8983


dscf8982


dscf8992


dscf8988


ต่อจากชิมาบาระ ตอนนี้พวกเราจะต้องเดินทางเข้าตัวเมืองนางาซากิกันนะคะ! เราจะไปขึ้นรถบัสกันที่ 島鉄バス小浜ターミナルหรือว่า Shimatetsu Bus Obama Terminal กันนะคะ จากที่นี่เราจะนั่งไปเข้าตัวเมืองนางาซากิกันค่ะ


dscf8995


dscf8996


เราสามารถใช้บัตร Sun Q Pass ได้โดยไม่ต้องเสียตังเลยล่ะค่ะ หรือถ้าท่านไหนเราไม่ได้ถือบัตรนี้ ให้เราหยิบตั๋วจากเครื่องทางด้านขวาของรถ ว่าได้เบอร์อะไรแล้วดูที่จอของรถบัสได้เลยค่ะ จะมีราคาแจ้งไว้อยู่นะค้า จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที – 1ชั่วโมงโดยประมาณนี้นะคะ ระหว่างนี้ก็พักผ่อนกันบนรถบัสอีกครั้ง


dscf8999


dscf9001


ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงตัวเมืองในจังหวัดนางาซากิแล้วค่า โรงแรมของเราที่จะมาพักกันในคืนนี้อยู่ตรง Nagasaki Station เลยล่ะค่ะ ทั้งใกล้ป้ายรถบัสแล้วก็สถานีรถไฟใหญ่ สะดวกต่อการเดินทางมากๆเลย


dscf9003


dscf9004


ก่อนอื่นเราจะนำสัมภาระไปเก็บที่โรงแรมกันก่อนนะคะ เพราะว่าถ้าของเยอะเราจะเดินทางกันไม่สะดวก โรงแรมแห่งนี้เราอยากจะขอแนะนำคุณผู้หญิงเป็นพิเศษเลย เพราะว่าที่โรงแรมแห่งนี้มีชั้นสำหรับห้องผู้หญิงโดยเฉพาะด้วยล่ะค่ะ! แถมปลอดภัยสบายใจหายห่วงเลยยยย ที่โรงแรม Cuore Nagasaki ekimae เลยค่ะ อันนี้เป็นตัวอย่างห้องนะคะ


dscf9005


dscf9006


dscf9007


โอเคค่า ต่อจากนี้เราจะพาทุกคนไปชมวิวตอนกลางคืนของจังหวัดนางาซากิกันนะคะ เกี่ยวกับจังหวัดนางาซากิ วิวกลางคืนมูลค่านับสิบล้านดอลลาร์ เป็นหนึ่งในวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น และยังได้รับเลือกให้เป็นวิวยามค่ำคืนที่สวยติด 1 ใน 3 ประเทศญี่ปุ่น และ ของโลก จุดชมวิวที่เราจะพาไปวันนี้ก็คือวิวยอดเขาอินาสะยามะ (Mt.Inasayama) เอาล่ะเราไปกันเลย!


15007976_10211198237621360_2071883833_o


อ๊ะๆ ก่อนออกเดินทาง เรามีสิ่งหนึ่งอยากจะมาแนะนำสักนิด นั่นก็คือ Discount Card คูปองส่วนลดสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในเมืองนางาซากิจ้า อย่างเช่น Nagasaki Ropeway ที่เราจะไปต่อจากนี้ ราคาตั๋วปกติจะอยู่ที่ 1,230 เยน แต่ถ้าเราใช้คูปองนี้ก็จะเหลือแค่ 610 เยนเท่านั้น! เรียกว่าประหยัดไปครึ่งหนึ่งเลย ซึ่งคูปองส่วนลดนี้จะแจกตามโรงแรมที่พักต่างๆ ในเมืองนางาซากิ รวมถึงโรงแรม Cuore Nagasaki Ekimae แห่งนี้ด้วย สามารถเช็ครายชื่อโรงแรมได้ที http://travel.at-nagasaki.jp/resources/tw/DiscountCardTxt.pdf อย่าลืมหยิบติดไม้ติดมือไปด้วยนะ


discount-card


รายชื่อสถานที่ต่างๆ ที่สามารถใช้บัตรส่วนลดได้


dscf9009


dscf9012


เอาล่ะ ลุยกันต่อเลย เราจะเริ่มการเดินทางโดยรถบัสนะคะ ให้เราขึ้นรถบัสนี้ ตัวอย่างนะคะ สามารถขึ้นรถบัสเบอร์ 4 ก็ได้ค่ะ ถ้าเจอคันไหนเขียนว่าสถานี ロープウェイ前 หรือว่า Ropeway mae ให้ขึ้นไปได้เลยยยย


dscf9017


dscf9024


พอลงจากสถานี Ropeway แล้วให้เดินตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายขึ้นเขาไปได้เลย จะเจอที่เขียนว่า Nagasaki Ropeway ตื่นเต้นมากๆเลย จะได้ขึ้นไปดูวิวสวยๆ แล้ว ภูเขาแห่งนี้มีความสูงประมาณ 333 เมตรค่ะ


dscf9027


dscf9029


dscf9031


dscf9033


เข้ามาถึงก็ต้องซื้อตั๋วกันก่อนเลย สำหรับราคาการขึ้นกระเช้าก็มีอยู่ที่เค้าท์เตอร์ตามนี้เลยค่า (มีข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษให้พร้อม!) เอาล่ะค่ะ ถ้าพร้อมแล้ว เราก็ขึ้นไปชมกันเลยยยย ในการขึ้นกระเช้าในแต่ละรอบ ให้เราเช็ครอบจากทางด้านขวามือของเค้าท์เตอร์ว่า เราสามารถขึ้นตอนนั้นได้เลยหรือว่าจะต้องรอรอบต่อไปนะคะ พอเราได้ขึ้นแล้วก็ไปดูวิวจากบนกระเช้ากันเลยค่ะ (อาจจะเบลอบ้างเล็กน้อยนะคะ)


dscf9048


dscf9055


night-view-from-mt-inasa-nagasaki-city


เอาล่ะ! เราก็ได้ขึ้นมาข้างบนภูเขาเรียบร้อยแล้วนะคะ ตอนนี้เราจะออกไปเดินดูบรรยากาศข้างนอกกันเลย อันนี้เป็นบรรยากาศเมื่อเราเดินออกจากกระเช้าแล้วนะคะ แล้วกำลังเดินไปสู่จุดชมวิว พอเดินตรงไปก็จะเจอจุดชมวิวที่สวยที่สุดแล้วสามารถมองเห็นได้รอบจังหวัดนางาซากิเลย สวยมากๆ เลยค่ะ แสงไฟจากในเมือง


the-view-from-mt-inasa-nagasaki-city


วิวตอนกลางวันก็สวยงามไม่แพ้ตอนกลางคืนเลยนะ


dscf9079


dscf9080


dscf9073


ต่อจากนี้จะพาไปรับประทานอาหารบนภูเขาแห่งนี้กันนะคะ ที่นี่เป็นร้านอาหารมีชื่อของบน Ropeway ภูเขาอินาสะยามะเลยค่ะ ร้านนี้มีชื่อว่า Hikari no Restaurant หรือภาษาไทยที่แปลว่า ร้านอาหารแห่งแสงสว่างนะคะ ศิลปินไทยอย่างวงละอองฟอง ก็เคยมาทานกันนะคะ และดาราไทยอีกหลายๆ ท่านก็เคยมาทานด้วยล่ะค่ะ รวมถึงศิลปินญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน เมนูวันนี้เราอยากจะขอเสนอนี่เลย! กับเมนู Turkey Rice (トルコライス) เมนูที่มีชื่อเสียงมากๆ ของจังหวัดนางาซากิ เรียกว่าถ้ามาเที่ยวต้องไม่พลาด เป็นการผสมผสานกันระหว่างข้าวสวย, สปาเกตตี้นาโปลิตัน, แล้วก็หมูทอดทงคัตสึที่ราดด้วยซอสเดมิกลาส เนื่องจากนางาซากิในสมัยก่อนได้รับอิทธิพลจากชาติตะวันตก รวมถึงมีการติดต่อค้าขาย ก็เลยถือกำเนิดเมนูที่ผสมผสานวัฒนธรรมเมนูนี้ขึ้นมา ขอบอกว่าอร่อยมากๆ เลย แถมบรรยากาศที่นั่งคือเราสามารถมองเห็นวิวได้ทั่วเลย โดยเฉพาะตอนกลางคืนนับว่าสวยมากจริงๆ ร้านนี้เปิดตั้งแต่ตอน 11:00 ถึง 21:30 ค่ะ

เอาล่ะค่ะ ทานกันอิ่มแล้วใช่มั้ยคะ >___< อย่าลืมถ่ายรูปกันให้กระหน่ำเลยนะคะ เพราะว่างโอกาสดีๆ แบบนี้เราจะมาเห็นกันได้ยากมาก เพราะหากว่าอากาศฝนตกหรือมีเมฆมากจะทำให้รูปภาพไม่สวยและเสียบรรยากาศในการมาท่องเที่ยวมากๆ เลยล่ะค่ะ ได้โอกาสนี้ก็โกยให้สุดๆ ไปเลยยยยย พอหลังจากนี้เราก็จะกลับโรงแรมไปพักผ่อนกันนะคะ สำหรับวันนี้ราตรีสวัสดิ์ เดี๋ยววันรุ่งขึ้นเราจะลุยกันต่อค่ะ

ติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับจังหวัดนางาซากิเพิ่มเติมได้ที่

เฟสบุคเพจ  https://www.facebook.com/nagasaki.th


เว็บไซต์หลัก http://nagasaki-th.blogspot.jp/