เมียวงะจัดว่าเป็นพืชผักที่ให้รสชาติที่ออกรสเผ็ดแรงกว่าปกติจึงทำให้อาจไม่เป็นที่โปรดปราน แต่ก็ขาดไม่ได้ในเมนูอาหารญี่ปุ่น ว่าแต่ว่าเมียวงะหน้าตาเป็นยังไง ของกินได้ แต่คืออะไรกันล่ะ วันนี้เราจะไปทำความรู้จักกับเมียวงะกันค่ะ
เมียวงะ (Myoga) หรือขิงญี่ปุ่น จัดเป็นพืชที่อยู่ในตระกูล Zingiber mioga ในวงศ์ขิง (Zingiberaceae) จัดเป็นไม้ล้มลุก ผลัดใบ โดยมีต้นกำเนิดมาจากแถบเอเชียตะวันออก ซึ่งเดิมนั้นเป็นเมียวงะเป็นผักของฤดูร้อนที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ และในเวลาต่อมามีผู้คิดค้นวิธีปลูกได้สำเร็จซึ่งปลูกที่ญี่ปุ่นครั้งแรกในสมัยเอโดะ จึงทำให้ปลูกและเก็บเกี่ยวกันได้ลอดทั้งปี และในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เมียวงะจะให้ดอกที่กลมโต อวบอ้วน ดอกสวยกว่าในช่วงฤดูกาลอื่นอีกด้วยค่ะ เมียวงะดอกตูมจะคล้ายกับดอกขิง มีสีแดง เป็นพืชชอบที่ร่มและมีแสงแดดรำไรส่องถึง และยังเป็นพืชที่ทนความหนาวเย็นได้ดีมากค่ะ เมียวงะมีกลิ่นเฉพาะตัวและแรงกว่ากลิ่นขิงทั่วไป จึงทำให้การรับประทานเมียวงะสดเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสักเล็กน้อยค่ะ
สำหรับการนำเมียวงะไปปรุงอาหารนั้นชาวญี่ปุ่นจะเลือกเมียวงะที่มีก้านสีขาวและดอกสีแดง เพื่อนำปรุงอาหาร โดยส่วนที่นิยมคือ เมียวงะดอกตูมและหน่อ ซึ่งเมนูที่นำไปประกอบอาหารได้แก่ หั่นแล้วโรยซุปมิโซะ นามะสุ เทมปุระ รับประทานเป็นเครื่องเคียงกับซูชิ หมูผัดเมียวงะ เมียวงะย่าง หรือการนำเมียวงะดอกตูมไปดองในน้ำส้ม ทำเป็นเมียวงะดองก็ทำให้รับประทานได้ออกรสเปรี้ยวหวาน อร่อยไปอีกแบบค่ะ นอกจากนั้นยังมีการนำเมียวงะดอกตูมไปหั่นให้สวยงามและใช้ในการจัดจานประดับอาหารได้ด้วยค่ะ
ในเมียวงะที่ให้รสรสเผ็ดของขิงเกิดจาก โชกาออล มีส่วนช่วยกำจัดแบคทีเรียด้วย นอกจากนี้ยังมีวิตามินบี6 กรดโฟลิก วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค วิตามินเอ แคโรทีน วิตามินบี ที่มีส่วนช่วยรักษาอาการร้อนใน อาการเจ็บคอ บรรเทาอาการอ่อนเพลียในช่วงฤดูร้อนได้ และยังมีการศึกษาวิจัยในญี่ปุ่นที่พบว่า ในตัวของเมียวงะหรือขิงญี่ปุ่นนั้นมีฤทธิ์บำรุงหัวใจ ลดความดันเลือด ลดคลอเลสเตอรอลได้อีกด้วยค่ะ อร่อยและมีประโยชน์ แต่ก็ต้องรับประทานให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะพอดีนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของเราค่ะ
ข้อมูล
https://www.daco-thai.com/japaese-veggie/
https://www.marumura.com/buta-shoga-yaki/
เมียวงะ (Myoga) หรือขิงญี่ปุ่น จัดเป็นพืชที่อยู่ในตระกูล Zingiber mioga ในวงศ์ขิง (Zingiberaceae) จัดเป็นไม้ล้มลุก ผลัดใบ โดยมีต้นกำเนิดมาจากแถบเอเชียตะวันออก ซึ่งเดิมนั้นเป็นเมียวงะเป็นผักของฤดูร้อนที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ และในเวลาต่อมามีผู้คิดค้นวิธีปลูกได้สำเร็จซึ่งปลูกที่ญี่ปุ่นครั้งแรกในสมัยเอโดะ จึงทำให้ปลูกและเก็บเกี่ยวกันได้ลอดทั้งปี และในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เมียวงะจะให้ดอกที่กลมโต อวบอ้วน ดอกสวยกว่าในช่วงฤดูกาลอื่นอีกด้วยค่ะ เมียวงะดอกตูมจะคล้ายกับดอกขิง มีสีแดง เป็นพืชชอบที่ร่มและมีแสงแดดรำไรส่องถึง และยังเป็นพืชที่ทนความหนาวเย็นได้ดีมากค่ะ เมียวงะมีกลิ่นเฉพาะตัวและแรงกว่ากลิ่นขิงทั่วไป จึงทำให้การรับประทานเมียวงะสดเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสักเล็กน้อยค่ะ
สำหรับการนำเมียวงะไปปรุงอาหารนั้นชาวญี่ปุ่นจะเลือกเมียวงะที่มีก้านสีขาวและดอกสีแดง เพื่อนำปรุงอาหาร โดยส่วนที่นิยมคือ เมียวงะดอกตูมและหน่อ ซึ่งเมนูที่นำไปประกอบอาหารได้แก่ หั่นแล้วโรยซุปมิโซะ นามะสุ เทมปุระ รับประทานเป็นเครื่องเคียงกับซูชิ หมูผัดเมียวงะ เมียวงะย่าง หรือการนำเมียวงะดอกตูมไปดองในน้ำส้ม ทำเป็นเมียวงะดองก็ทำให้รับประทานได้ออกรสเปรี้ยวหวาน อร่อยไปอีกแบบค่ะ นอกจากนั้นยังมีการนำเมียวงะดอกตูมไปหั่นให้สวยงามและใช้ในการจัดจานประดับอาหารได้ด้วยค่ะ
ในเมียวงะที่ให้รสรสเผ็ดของขิงเกิดจาก โชกาออล มีส่วนช่วยกำจัดแบคทีเรียด้วย นอกจากนี้ยังมีวิตามินบี6 กรดโฟลิก วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค วิตามินเอ แคโรทีน วิตามินบี ที่มีส่วนช่วยรักษาอาการร้อนใน อาการเจ็บคอ บรรเทาอาการอ่อนเพลียในช่วงฤดูร้อนได้ และยังมีการศึกษาวิจัยในญี่ปุ่นที่พบว่า ในตัวของเมียวงะหรือขิงญี่ปุ่นนั้นมีฤทธิ์บำรุงหัวใจ ลดความดันเลือด ลดคลอเลสเตอรอลได้อีกด้วยค่ะ อร่อยและมีประโยชน์ แต่ก็ต้องรับประทานให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะพอดีนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของเราค่ะ
ข้อมูล
https://www.daco-thai.com/japaese-veggie/
https://www.marumura.com/buta-shoga-yaki/
