เราเริ่มออกเดินทางจากสถานีโตเกียว ด้วยขบวนรถไฟ Odoriko Limited Express ปลายทางของวันนี้คือ เมืองอิโต (Ito) ชื่ออาจจะฮาร์ดคอร์ แต่ดันน่ารักซะงั้น ใช่เวลาบนรถไฟ นั่งชมวิวทะเล เพลินๆ ชั่วโมงกว่าๆ เราก็มาถึงสถานี Ito Station
เดินออกจากสถานีเลี้ยวซ้ายเล็กน้อย ในขณะที่ข้อมูลของเมืองนี้มีน้อยเหลือเกิน เราก็ทำหน้างงๆ เบลอๆ เปิดหารูปภาพสถานที่ที่เราจะไป ให้คนญี่ปุ่นแถวนั่นดู เขาก็น่ารักมาก พาเราเดินไปในห้องขายตั๋ว แล้วเราก็ได้ Ito Sightseeing Free Pass มาในราคา 1,300 เยนจ้า ป่ะ พร้อมแล้ว ไปกันโลดดดด
หลังจากได้พาสมาแล้ว เราก็ยืนพาสให้พนักงานดู แล้วก็หามองหาที่นั่งบนรถได้เลยค่ะ แต่! แต่!! ที่นั่งเต็ม ? ยืนวนไปจ้า โดยที่ไม่รู้เลยว่าจะไปลงที่ไหน ไปยังไงต่อ รถขับผ่านสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ผ่านไปสัก 10-15 นาที เราก็ได้ที่นั่งข้างๆ คุณลุงชาวญี่ปุ่น เราก็ได้แต่ยื่นรูปถ่ายให้คุณลุงดู คุณลุงก็ได้แต่ทำท่า บายๆ ส่ายมือให้เรา โอเค๊ ยังไม่ถึง เข้าใจตามนี้ ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะมีแต่ชาวญี่ปุ่นที่มากันเป็นครอบครัว นักท่องเที่ยวก็ทยอยลงที่ต่างๆ แต่ก็ยังเหลือบางส่วนบนรถ เราก็เลยคิดไปเลยว่าเขาต้องไปที่เดียวกับเราแน่ๆ และสุดท้าย ก็เป็นจริงค่ะ ? ดีใจ มีเพื่อนลง
ถึงแล้วจ้า Mt.Omuro ภาพที่เราเห็น เราไม่เคยคิดเลยว่ามันจะยิ่งใหญ่ อลัง ถึงเพียงนี้ ความที่เป็นคนชอบภูเขาด้วยแล้ว ยิ่งมาเจอภูเขาสวยๆ หญ้าเขียวปกคลุม ก็ได้แต่ว๊าววววววววววววว ตื่นเต้น ดี๊ด๊า อยู่ในใจ แสดงออกมาไม่ได้ว่าตื่นเต้น เพราะมาคนเดียว ต้องคีพคูล ? พอชื่นชมภายนอกแล้ว ก็รีบไปต่อแถวซื้อตั๋วขึ้นกระเช้า 500 เยน โอ้ววแม่จ๋าา จะถูกไปไหน เมื่อเทียบกับวิวนี้ 1,500 เยน เราก็คิดว่าคุ้ม
ขึ้นมาถึงแล้ว ความว๊าววววว อลังการ ของภูเขาลูกนี้ ทำเราปลื่มปริ่ม น้ำตาแทบไหล เพราะลมแรงมาก ? ไม่ใช่ เพราะวิวมันสวยมากต่างหาก ไม่ว่าจะมุมเงย มุมช้อน มันวอนให้เผลอตัว ? ที่นี่วันไหนอากาศดีๆ สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ด้วยนะ เอ้อ นี่สิ มันดีย์ ดี ดี เราว่าดี
ด้วยความที่เราเดินในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม เราจึงได้ความเขียว สดชื่น แบบนี้มาครอบครอง Mt.Omuro นี้ เป็นภูเขาไฟที่ดับแล้ว วิวที่จะได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ แต่ความยิ่งใหญ่ และสวยงาม เราคิดว่า คงไม่แพ้กันสักฤดู เราใช้เวลาเดินเล่น ถ่ายรูป เกือบสองชั่วโมง ก็คงต้องยอมรับว่าสวยมาก ลมก็แรงมากเช่นกัน พัดทีหัวแทบหลุด
หลังจากใช้เวลาไปพอสมควรแล้ว เราก็นั่งกระเช้าลงมา และมารอรถเพื่อกลับไปยังสถานี Ito ค่ะ ซึ่งพาสที่เรามีเราสามารถใช้แวะเที่ยว ขึ้น ลงตามสถานที่ต่างๆ ได้ แต่ตอนนั้นหิวมาก ขอรีบกลับไปกินราเมงหน้าสถานีที่เล็งไว้ก่อนจะมาดีกว่า เรื่องกินเรื่องใหญ่ ?
สุดท้ายนี้ สำหรับใคร ที่ไม่รู้จะไปไหน อยากเที่ยวเมืองใกล้ๆ โตเกียว ที่สามารถเดินทางไปเช้า เย็นกลับ คนไม่เยอะ เราว่าที่นี่สามารถเพิ่มลงไปในแพลนได้อย่างไม่น่าเกลียดเลยค่ะ แล้วกลับมาพบกันอีกในรีวิวต่อไป ว่าเมืองอิโต (Ito) นี้ ยังมีอะไรเด็ดๆ น่ารักๆ รอเราอยู่อีกบ้าง ?
เดินออกจากสถานีเลี้ยวซ้ายเล็กน้อย ในขณะที่ข้อมูลของเมืองนี้มีน้อยเหลือเกิน เราก็ทำหน้างงๆ เบลอๆ เปิดหารูปภาพสถานที่ที่เราจะไป ให้คนญี่ปุ่นแถวนั่นดู เขาก็น่ารักมาก พาเราเดินไปในห้องขายตั๋ว แล้วเราก็ได้ Ito Sightseeing Free Pass มาในราคา 1,300 เยนจ้า ป่ะ พร้อมแล้ว ไปกันโลดดดด
หลังจากได้พาสมาแล้ว เราก็ยืนพาสให้พนักงานดู แล้วก็หามองหาที่นั่งบนรถได้เลยค่ะ แต่! แต่!! ที่นั่งเต็ม ? ยืนวนไปจ้า โดยที่ไม่รู้เลยว่าจะไปลงที่ไหน ไปยังไงต่อ รถขับผ่านสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ผ่านไปสัก 10-15 นาที เราก็ได้ที่นั่งข้างๆ คุณลุงชาวญี่ปุ่น เราก็ได้แต่ยื่นรูปถ่ายให้คุณลุงดู คุณลุงก็ได้แต่ทำท่า บายๆ ส่ายมือให้เรา โอเค๊ ยังไม่ถึง เข้าใจตามนี้ ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะมีแต่ชาวญี่ปุ่นที่มากันเป็นครอบครัว นักท่องเที่ยวก็ทยอยลงที่ต่างๆ แต่ก็ยังเหลือบางส่วนบนรถ เราก็เลยคิดไปเลยว่าเขาต้องไปที่เดียวกับเราแน่ๆ และสุดท้าย ก็เป็นจริงค่ะ ? ดีใจ มีเพื่อนลง
ถึงแล้วจ้า Mt.Omuro ภาพที่เราเห็น เราไม่เคยคิดเลยว่ามันจะยิ่งใหญ่ อลัง ถึงเพียงนี้ ความที่เป็นคนชอบภูเขาด้วยแล้ว ยิ่งมาเจอภูเขาสวยๆ หญ้าเขียวปกคลุม ก็ได้แต่ว๊าววววววววววววว ตื่นเต้น ดี๊ด๊า อยู่ในใจ แสดงออกมาไม่ได้ว่าตื่นเต้น เพราะมาคนเดียว ต้องคีพคูล ? พอชื่นชมภายนอกแล้ว ก็รีบไปต่อแถวซื้อตั๋วขึ้นกระเช้า 500 เยน โอ้ววแม่จ๋าา จะถูกไปไหน เมื่อเทียบกับวิวนี้ 1,500 เยน เราก็คิดว่าคุ้ม
ขึ้นมาถึงแล้ว ความว๊าววววว อลังการ ของภูเขาลูกนี้ ทำเราปลื่มปริ่ม น้ำตาแทบไหล เพราะลมแรงมาก ? ไม่ใช่ เพราะวิวมันสวยมากต่างหาก ไม่ว่าจะมุมเงย มุมช้อน มันวอนให้เผลอตัว ? ที่นี่วันไหนอากาศดีๆ สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ด้วยนะ เอ้อ นี่สิ มันดีย์ ดี ดี เราว่าดี
ด้วยความที่เราเดินในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม เราจึงได้ความเขียว สดชื่น แบบนี้มาครอบครอง Mt.Omuro นี้ เป็นภูเขาไฟที่ดับแล้ว วิวที่จะได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ แต่ความยิ่งใหญ่ และสวยงาม เราคิดว่า คงไม่แพ้กันสักฤดู เราใช้เวลาเดินเล่น ถ่ายรูป เกือบสองชั่วโมง ก็คงต้องยอมรับว่าสวยมาก ลมก็แรงมากเช่นกัน พัดทีหัวแทบหลุด
หลังจากใช้เวลาไปพอสมควรแล้ว เราก็นั่งกระเช้าลงมา และมารอรถเพื่อกลับไปยังสถานี Ito ค่ะ ซึ่งพาสที่เรามีเราสามารถใช้แวะเที่ยว ขึ้น ลงตามสถานที่ต่างๆ ได้ แต่ตอนนั้นหิวมาก ขอรีบกลับไปกินราเมงหน้าสถานีที่เล็งไว้ก่อนจะมาดีกว่า เรื่องกินเรื่องใหญ่ ?
สุดท้ายนี้ สำหรับใคร ที่ไม่รู้จะไปไหน อยากเที่ยวเมืองใกล้ๆ โตเกียว ที่สามารถเดินทางไปเช้า เย็นกลับ คนไม่เยอะ เราว่าที่นี่สามารถเพิ่มลงไปในแพลนได้อย่างไม่น่าเกลียดเลยค่ะ แล้วกลับมาพบกันอีกในรีวิวต่อไป ว่าเมืองอิโต (Ito) นี้ ยังมีอะไรเด็ดๆ น่ารักๆ รอเราอยู่อีกบ้าง ?
