ญี่ปุ่นกำลังจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งฤดูที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายให้มาญี่ปุ่น หากใครที่กำลังมองหาสถานที่ดูใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่น น้ำตกมิโนะ (Minoh Water Fall) อาจจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก เพราะที่นี่เป็นที่เที่ยวยอดฮิตที่ใครที่มาโอซาก้าห้ามพลาด เป็นสถานที่อันดับต้นๆ ในแถบคันไซสำหรับฤดูใบไม้เปลี่ยนสี และนอกจากนี้ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของที่นี่คือที่นี่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองโอซาก้า
สวนมิโนะมีทางเดินป่าระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตรตามแม่น้ำมิโนะเข้าไปถึงน้ำตกมิโนะ จุดชมวิวยอดฮิต น้ำตกมิโนะมีความสูงถึง 33 เมตร และใครที่โชคดี บางวันจะเห็นสายรุ้งตรงน้ำตกด้วย ตลอดระยะทางจากสถานี Hankyu Minoo ไปถึงน้ำตกเป็นทางลาด ไม่ค่อยชัน ทำให้เดินง่าย ชิวๆ แถมยังมีวิวใบไม้เปลี่ยนสีให้ชมตลอดทาง นอกจากนี้ระหว่างทางยังมีวัด และร้านขายของมากมาย ให้ได้แวะตลอดทาง
เมื่อเดินมาได้ครึ่งทางจะพบกับวัด Ryuanji อีกหนึ่งจุดเช็คอินยอดฮิตที่ใครที่มาที่นี่ห้ามพลาดเลย นั่นก็คือสะพานสีแดงของวัดนี้ที่ข้ามแม่น้ำมิโนะไปอีกฝั่งหนึ่ง
ใครที่ได้มีโอกาสมาที่นี่ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี จะได้เจอกับร้านค้ามากมาย ที่มีเมนู 2 อย่างที่ทุกคนต้องชิม เมนูแรกคือลูกพลับตากแห้ง ซึ่งทางร้านแถวนี้เก็บมาสดๆ จากบนเขา และเอามาตากแห้งขาย มีรสชาติหวานธรรมชาติ และอีกเมนูหนึ่งคือ เทมปุระ โมมิจิ หรือใบเมเปิ้ลชุบแป้งทอด ได้ยินชื่อแล้วอาจจะฟังดูไม่ค่อยน่าทาน แต่ขนมนี้เป็นของฝากที่มีขายแค่ที่สวนมิโนะนี้เท่านั้น แป้งที่ใช้ชุบทอดรสชาติคล้ายๆ กับขนมกล้วยแขกของที่ไทย
เดินมาเรื่อยๆ จะเจอกับอุทยานแมลง Insectarium เล็กๆ ซึ่งเป็นทางแยกสำหรับคนที่อยากจะแยกไปทางที่ยากขึ้น ซึ่งจะต้องปีนเขาขึ้นไปที่จุดชมวิว แต่สำหรับคนที่จะไปชมน้ำตก ก็สามารถเดินตามทางต่อไปได้เรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก็จะเดินมาถึงน้ำตกมิโนะ
คนญี่ปุ่นนิยมจะมาปิกนิกที่บริเวณแถวน้ำตก ชมวิวน้ำตกไป ทานข้าวกลางวันไป ส่วนใครที่ไม่อยากจะหิ้วข้าวเข้ามา ถ้ามาช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็จะมีร้านขายอาหารตามทาง Yatai สไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งก็มีหลายเมนู เช่น ยากิโซบะ และทาโกะยากิ
ใครที่กำลังหาที่เที่ยวในญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ลองมาที่มิโนะดูแล้วจะติดใจ
ค่าเข้า: ฟรี (เปิดบริการทุกวัน คนนิยมไปช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีซึ่งจะพีค ประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน)
การเดินทาง: จากสถานี Umeda ขึ้นรถไฟ Hankyu สาย Takarazuka ไปสถานี Ishibashi เพื่อเปลี่ยนไปขึ้นสาย Minoo ไปลงที่สถานี Minoo (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที)
Google map: https://goo.gl/maps/cA4eofB3DtLZTdsP8
สวนมิโนะมีทางเดินป่าระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตรตามแม่น้ำมิโนะเข้าไปถึงน้ำตกมิโนะ จุดชมวิวยอดฮิต น้ำตกมิโนะมีความสูงถึง 33 เมตร และใครที่โชคดี บางวันจะเห็นสายรุ้งตรงน้ำตกด้วย ตลอดระยะทางจากสถานี Hankyu Minoo ไปถึงน้ำตกเป็นทางลาด ไม่ค่อยชัน ทำให้เดินง่าย ชิวๆ แถมยังมีวิวใบไม้เปลี่ยนสีให้ชมตลอดทาง นอกจากนี้ระหว่างทางยังมีวัด และร้านขายของมากมาย ให้ได้แวะตลอดทาง
เมื่อเดินมาได้ครึ่งทางจะพบกับวัด Ryuanji อีกหนึ่งจุดเช็คอินยอดฮิตที่ใครที่มาที่นี่ห้ามพลาดเลย นั่นก็คือสะพานสีแดงของวัดนี้ที่ข้ามแม่น้ำมิโนะไปอีกฝั่งหนึ่ง
ใครที่ได้มีโอกาสมาที่นี่ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี จะได้เจอกับร้านค้ามากมาย ที่มีเมนู 2 อย่างที่ทุกคนต้องชิม เมนูแรกคือลูกพลับตากแห้ง ซึ่งทางร้านแถวนี้เก็บมาสดๆ จากบนเขา และเอามาตากแห้งขาย มีรสชาติหวานธรรมชาติ และอีกเมนูหนึ่งคือ เทมปุระ โมมิจิ หรือใบเมเปิ้ลชุบแป้งทอด ได้ยินชื่อแล้วอาจจะฟังดูไม่ค่อยน่าทาน แต่ขนมนี้เป็นของฝากที่มีขายแค่ที่สวนมิโนะนี้เท่านั้น แป้งที่ใช้ชุบทอดรสชาติคล้ายๆ กับขนมกล้วยแขกของที่ไทย
เดินมาเรื่อยๆ จะเจอกับอุทยานแมลง Insectarium เล็กๆ ซึ่งเป็นทางแยกสำหรับคนที่อยากจะแยกไปทางที่ยากขึ้น ซึ่งจะต้องปีนเขาขึ้นไปที่จุดชมวิว แต่สำหรับคนที่จะไปชมน้ำตก ก็สามารถเดินตามทางต่อไปได้เรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก็จะเดินมาถึงน้ำตกมิโนะ
คนญี่ปุ่นนิยมจะมาปิกนิกที่บริเวณแถวน้ำตก ชมวิวน้ำตกไป ทานข้าวกลางวันไป ส่วนใครที่ไม่อยากจะหิ้วข้าวเข้ามา ถ้ามาช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็จะมีร้านขายอาหารตามทาง Yatai สไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งก็มีหลายเมนู เช่น ยากิโซบะ และทาโกะยากิ
ใครที่กำลังหาที่เที่ยวในญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ลองมาที่มิโนะดูแล้วจะติดใจ
ค่าเข้า: ฟรี (เปิดบริการทุกวัน คนนิยมไปช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีซึ่งจะพีค ประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน)
การเดินทาง: จากสถานี Umeda ขึ้นรถไฟ Hankyu สาย Takarazuka ไปสถานี Ishibashi เพื่อเปลี่ยนไปขึ้นสาย Minoo ไปลงที่สถานี Minoo (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที)
Google map: https://goo.gl/maps/cA4eofB3DtLZTdsP8
