มิเอะ (Mie) ดินแดนที่ต้องไปเที่ยวให้ได้สักครั้งหนึ่ง

ภูมิประเทศอันแสนซับซ้อน แต่มีความสมดุลที่ลงตัวระหว่างการใช้ชีวิตแบบดั้งเดิมและการใช้ชีวิตแบบสมัยใหม่ จังหวัดอันเป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรมญี่ปุ่น ที่ตั้งของศาลเจ้าเก่าแก่อย่างศาลเจ้าอิเสะจินกุ (Ise Jingu) บ้านเกิดของนินจาอิกะ (Iga) ที่เก่งกาจ และแหล่งอาหารอร่อย สด ๆ จากท้องทะเล ต้องที่นี่ ที่มิเอะ (Mie) จังหวัดเล็ก ๆ ที่แสนพิเศษค่ะ



จังหวัดมิเอะ ตั้งอยู่ใจกลางของเกาะฮอนชู อยู่ทางตะวันออกของคาบสมุทรคิอิที่ยื่นออกไปสู่มหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่แคบและทอดตัวยาวจากเหนือจรดใต้ และในแถบแนวชายฝั่งทางตอนใต้มีรูปร่างคล้ายกับฟันเลื่อย อันเป็นลักษณะที่ไม่ค่อยได้พบเห็นทั่วไป ซึ่งในด้านชายฝั่งตะวันออกได้รับการยกย่องให้เป็นอุทยานแห่งชาติอิเสะชิมะ ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการเพาะเลี้ยงไข่มุก หอยนางรม และกุ้งอิเสะล็อบสเตอร์อีกด้วยค่ะ 

 

ศาลเจ้าอิเสะจินกุ (Ise Jingu) ศาลเจ้าที่ทุกคนต้องไปสักการะสักครั้งในชีวิต




แต่ก่อนที่เราจะไปดื่มด่ำกับธรรมชาติ  มีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างเมืองต่างถิ่นทั้งที เราก็ต้องไปไหว้สักการะ ขอพรกับสิ่งศักดิ์ของเมืองนั้นๆ กันก่อนค่ะ เราไปกันที่ศาลเจ้าอิเสะจินกุ (Ise Jingu) ซึ่งคำว่า อิเสะจินกุ เป็นคำที่ใช้เรียกครอบคลุมศาลเจ้าทั้งหมด จำนวน 125 แห่ง ซึ่งมี โคไทจินกุ หรือที่เรียกกันว่า “ไนคู” (Naiku) (ศาลเจ้าด้านใน) และ โทโยอุเคะไดจินกุ หรือที่เรียกกันว่า "เกะคู" (Geku) (ศาลเจ้าด้านนอก) เป็นจุดศูนย์กลางที่ประกอบรวมกับศาลเจ้าแห่งอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ ซึ่งมีธรรมเนียมปฏิบัติในการสักการะศาลเจ้าอิเสะจินกุแห่งนี้ว่า ให้เราๆ ท่านๆ เริ่มต้นการไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เกะคูหรือศาลเจ้าด้านนอกกันก่อน แล้วจึงเข้าไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไนคูหรือศาลเจ้าด้านใน ตามลำดับไปค่ะ ศาลเจ้าอิเสะจินกุเป็นสถานที่สักการะองค์อามาเทราสึ โอมิคามิ เทพธิดาแห่งดวงอาทิตย์ โดยในแต่ละปีจะมีผู้นับถือกว่าสิบล้านคนที่เดินทางมาสักการะกันถึงศาลเจ้าแห่งนี้



โดยที่ศาลเจ้าอิเสะจินกุแห่งนี้ ในทุกๆ 20 ปี จะมีการกระทำพิธีสร้างศาลเจ้าและอัญเชิญเทพเจ้า  ซึ่งจะมีการสร้างอาคารศาลเจ้าขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เปลี่ยนเครื่องสักการะและของประดับชิ้นใหม่ทุกชิ้น จากนั้นจึงอัญเชิญเทพเจ้าให้สถิต ณ ที่ศาลเจ้าหลังใหม่ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นหนึ่งในพิธีกรรมที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่นซึ่งได้ปฏิบัติสืบเนื่องกันมามากกว่า 1,300 ปีแล้วค่ะ และด้วยความเก่าแก่ของศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งแต่สมัยโบราณและยังคงมนต์ขลังจนถึงปัจจุบัน จึงมีคำกล่าวขานกันว่า “ต้องไปสักการะศาลเจ้าอิเสะให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต” กันเลยทีเดียวค่ะ 

 

ช้อปปิ้งกันต่อเพลิน ๆ ที่โอคาเกะโยโกโจ (Okage Yokocho)




และเมื่อได้สักการะสิ่งศักดิ์และขอพรกันไปเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปต่อกันที่โอคาเกะโยโกโจ (Okage Yokocho) ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าศาลเจ้าอิเสะชั้นในแห่งนี้เป็นย่านการค้า แหล่งช้อปปิ้ง และร้านอาหารเก่าแก่ โดยที่ร้านค้าและอาคารในแถบนี้มีรูปแบบเรโทร งานไม้ สร้างบรรยากาศให้กับนักท่องเที่ยวราวกับว่ากำลังเดินย้อนเวลาผ่านเข้าสู่ยุคสมัยเอโดะอย่างไรอย่างนั้นเลยค่ะ ซึ่งที่ขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือร้านขายของสินค้าจิปาถะ ขายของฝาก กว่า 50 ร้าน ที่รอให้ได้เยี่ยมชมและเลือกซื้อสินค้ากันเพลิน ๆ จนลืมเวลาเลยละค่ะ 

 

ล่องเรือเที่ยวอ่าวโทบะ (Toba Bay Cruise) ชมเกาะปลาโลมา




เมื่อช้อปปิ้งกันแล้ว จากนั้นเราไปล่องเรือเที่ยวกันที่อ่าวโทบะ (Toba Bay Cruise) แวะเข้าชมเกาะอิรุกะจิมะ หรือเกาะปลาโลมา โดยก่อนที่จะพาท่านสัมผัสเสน่ห์ของทะเลสีครามที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานแห่งชาติกับชายฝั่งโค้งเว้า เรือจะออกจากท่าโทบะมารีนเทอร์มินอล จากนั้นจะแวะจอดที่เกาะปลาโลมาที่ซึ่งนักท่องเที่ยวจะสามารถชมความน่ารักของปลาโลมาและสิงโตทะเลได้ที่นี่ค่ะ และเลยไปเที่ยวเกาะไข่มุกมิกิโมะโตะ (Mikimoto Pearl Island) เกาะแห่งนี้มีการเพาะพันธุ์ไข่มุกเป็นแห่งแรกของโลกที่ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้บนเกาะในพื้นที่กว่า 24,000 ตารางเมตรนี้ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่จัดแสดงเครื่องประดับจากไข่มุก หออนุสรณ์มิกิโมโตะโคคิจิ และยังสามารถหาชมการสาธิตการทำประมงของสาวชาวประมงได้อีกด้วยค่ะ 

 

Toba Aquarium พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่น




เรายังไม่ไปไหนค่ะ เรายังอยู่แถบๆ โทบะ แต่คราวนี้ไปกันที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเลี้ยงสัตว์น้ำกว่า 1,200 สายพันธุ์ รวมกว่า 30,000 ชีวิต นับได้ว่าเป็นที่ที่มีจำนวนสายพันธุ์สัตว์น้ำมากที่สุดของประเทศญี่ปุ่น โดยภายในพิพิธภัณฑ์ได้แบ่งออกเป็น 12 โซน อาทิ อาณาจักรสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม / มหาสมุทรยุคโบราณ / ทะเลที่มีนางเงือก และพะยูน ซึ่งพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้เป็นแห่งเดียวในประเทศญี่ปุ่นที่มีการเลี้ยงพะยูน / นาก / โลมาหัวบาตรหลังเรียบ / โลมามหาสมุทร และสัตว์น้ำอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังสามารถชมเจ้าเสือปลา แมวที่อาศัยอยู่ริมน้ำภายในโซนป่ามหัศจรรย์ และยังมีการจัดการแสดงโชว์สิงโตทะเลและวอลรัสอันยอดนิยมให้ปิดท้ายทริปท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้อย่างน่ารักน่าชังจริงๆ ค่ะ

 

หมู่บ้านสเปนชิมะ สวนสนุกธีมสเปน เมืองกระทิงดุอันร้อนแรง




หลังจากล่องเรือเที่ยวเกาะและแวะชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำกันไปแล้ว ต่อไปเราไปเที่ยวสวนสนุกกันบ้างค่ะ ซึ่งก็คือสวนสนุกหมู่บ้านสเปนชิมะ (Shima Spain Village Parque Espana) สวนสนุกที่ใช้ธีมเป็นประเทศสเปน เมืองกระทิงดุอันร้อนแรง ที่จะเสิร์ฟความบันเทิง สิ่งอำนวยความสะดวก ร้านขายอาหาร และสิ่งของต่างๆ อาทิ โชว์ระบำสเปน Flamenco / พาเหรดแบบฉบับสเปนอันเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ที่จะสร้างสีสันให้กับทุกคนที่ได้เข้าไปเที่ยวชมในหมู่บ้านสวนสนุกแห่งนี้ จากนั้นแล้วหาที่พักผ่อนกันสักหน่อยที่ ออนเซนอิเซะชิมะ (Ise Shima Onsen) ออนเซนที่อยู่ถัดจากสวนสนุก Shima Spain Village Parque Espana ไปประมาณ 5 นาที เป็นออนเซนกลางแจ้งที่สามารถมองเห็นทะเลได้ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามมากค่ะ มีห้องอาบน้ำรวมขนาดใหญ่ที่มีกระจกใสอยู่ด้านหน้า มีอ่างอาบน้ำฟองสบู่และซาวน่าเกลือสำหรับคุณผู้หญิงไว้บริการด้วยค่ะ ได้ทั้งพักเหนื่อยได้ทั้งวิวสวยๆ เป็นโบนัสแบบนี้ มีแรงเที่ยวต่อขึ้นมาทันทีเลยค่ะ

 

ชมโชว์นินจาขนานแท้ ที่หมู่บ้านนินจาอิกะริว (Iga Ninja Museum)






หลังจากพักกายให้หายเหนื่อยกันแล้ว เราไปต่อกันที่หมู่บ้านนินจาอิกะริว (Ninja Museum of Igaryu) เยือนถิ่นบ้านนินจาที่เต็มไปด้วยกลไกต่างๆ ตามรูปแบบของนินจา พร้อมทั้งยังมีการแสดงสาธิตและการบรรยายกลยุทธ์ของอาคาร หรือประตูกลไกพิเศษที่นินจาและคุโนอิจิ (นินจาผู้หญิง) ใช้ในการล่องหนหายตัวได้อย่างพิศวง รวมถึงโชว์การใช้อาวุธดาวกระจาย และโชว์อื่นๆ ที่ให้เหล่านักท่องเที่ยวได้ชมกันอย่างตื่นตาตื่นใจกันเลยทีเดียว

สำหรับใครที่ไปเที่ยวนาโกย่า และอยากหาที่เที่ยวที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ก็อยากให้ลองมาสัมผัสความเป็นนินจาที่หมู่บ้านนินจาอิงะกันสักครั้งค่ะ และพิเศษสุด ๆ ตอนนี้มีแคมเปญเที่ยวฟรีจากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ นาโกย่า ที่ให้เราเข้าชมหมู่บ้านนินจาอิกะแบบฟรี ๆ รวมถึงได้รับของที่ระลึกน่ารัก ๆ กลับไปด้วยนะคะ (สามารถใช้ได้จนถึง 30 เมษายน 2020)

ลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ได้ที่ http://th.centrair-campaign.com/microsite/centrairwinterspring/ 

 

ชมงานประดับไฟอลังการดาวล้านดวง ที่นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato)




นอกจากบ้านของนินจาแล้วยังมีสถานที่เที่ยวอื่นๆ อีกมากมายเลยค่ะ เช่น ที่นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato) สวนดอกไม้ธีมพาร์คที่มีทั้งสวนดอกไม้และร้านอาหารที่ตั้งอยู่ภายใน ที่สวนแห่งนี้กลางวันรับชมและยลโฉมดอกไม้สวยๆ ตามฤดูกาล ส่วนตอนกลางคืนในช่วงฤดูหนาวจะจัดแสดงแสงไฟ เพิ่มแสงสียามค่ำคืนให้กับสวนดอกไม้แห่งนี้ หรือจะไปนั่งกระเช้าลอยฟ้า กินลมชมดอกไม้ที่โกะไซโชะ เป็นกระเช้าลอยฟ้าที่จะทำให้เรารู้สึกราวกับได้เดินเล่นอยู่กลางเวหากันเลยทีเดียว

สำหรับที่นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato)  ก็เข้าร่วมแคมเปญเที่ยวฟรีจากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ นาโกย่า เช่นกัน ท่านสามารถลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ได้ที่ http://th.centrair-campaign.com/microsite/centrairwinterspring/

 

ล่องเรือด้วยเรือสำเภา “เอสเพรันซ่า” เที่ยวชมอ่าวอาโกะ (Ago bay)




แต่ถ้าหากใครยังติดใจกับการล่องเรือแล้วละก็ เราขอแนะนำอีกหนึ่งที่ค่ะ ซึ่งที่นี่จะเป็นการล่องเรือด้วยเรือสำเภา “เอสเพรันซ่า” เที่ยวชมอ่าวอาโกะ (Ago bay) อ่าวซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ไข่มุก จึงทำให้เราๆ ท่านๆ สามารถพบเห็นฟาร์มเลี้ยงหอยมุกลอยอยู่กลางทะเล และด้วยเส้นทางชายฝั่งทะเลที่คดเคี้ยวจากบรรดาหมู่หิน ผสมกับทัศนียภาพราวกับเกาะส่วนตัวจึงเป็นอีกจุดที่เหมาะสำหรับนักบันทึกภาพความสวยงามเก็บเอาไว้อย่างยิ่งเลยละค่ะ

 

ลิ้มรสหอยอาวาบิ กุ้งอิเสะ อาหารทะเลขึ้นชื่อของจังหวัดมิเอะ




อิ่มอกอิ่มใจจากสถานที่เที่ยวสวย ๆ กันไปแล้ว ต่อไปนี้เป็นเวลาของการอิ่มท้องกันแล้วค่ะ ประเดิมเมนูแรกด้วยหอยอาวาบิและกุ้งอิเสะ ทั้งสองอย่างนี้ไม่ว่าจะอยู่ในเมนูย่าง ทอด หรือซาชิมิก็อร่อยด้วยรสชาติที่แตกต่างไปตามกรรมวิธีปรุง เพราะจะได้ทั้งความหวานของเนื้อหอยและกุ้งที่สดใหม่ จึงไม่แปลกใจที่ทั้งหอยอาวาบิและกุ้งอิเสะจะเป็นวัตถุดิบชั้นเยี่ยม อาหารทะเลขึ้นชื่อของจังหวัดมิเอะเลยละค่ะ เรียกได้ว่าไปมิเอะต้องได้กินนะคะ

 

อิเสะอุด้ง (Ise udon) อุด้งขึ้นชื่อเมืองอิเสะ




แต่ใครที่อยากกินเส้น เราก็มีเมนูเส้นที่มิเอะให้รับประทานกันด้วยค่ะ นั่นคือ อิเสะอุด้ง (Ise udon) อุด้งขึ้นชื่อเมืองอิเสะ จังหวัดมิเอะ ซึ่งอิเสะอุด้งนี้มีเอกลักษณ์อยู่ที่เส้นอุด้งที่อวบและหนานุ่มไม่เหมือนที่ไหน โดยเราจะรับประทานอุด้งคู่กับน้ำซุปดาชิที่ให้รสชาติหวานเข้มข้นที่สกัดมาจากปลาโอหรือปลาซาบะ อิเสะอุด้งจัดเป็นอุด้งที่ไม่ใส่วัตถุดิบหรือเครื่องท็อปปิ้งเพิ่มเติม นั่นก็เพื่อให้นักชิมได้ลิ้มลองรสและรับสัมผัสเส้นอุด้งที่หนานุ่มลื่นชวนกินได้อย่างเต็มที่นั่นเองค่ะ รับรองค่ะว่าชิมแล้วจะติดใจ 

 

เทโกเนะซูชิ (Tegone sushi) เมนูข้าวหน้าปลาโอ ชิ้นใหญ่จุใจ




ยังค่ะ เมนูความอร่อยยังไม่หมดนะคะ หากใครกลัวว่า เอ๋ รับประทานอุด้งแล้วกลัวไม่อิ่มจังเลย ไม่ต้องกลัวค่ะ เรามีอีกหนึ่งเมนูอาหารท้องถิ่นจากแถบเมืองอิเสะชิมะ ในจังหวัดมิเอะมานำเสนอค่ะ เมนูนั้นก็คือ เทโกเนะซูชิ (Tegone sushi) เมนูข้าวหน้าปลาโอแล่ชิ้นใหญ่ผสมโชยุ ที่จะเสิร์ฟเมนูข้าวผสมผักและเครื่องเทศอย่างใบงาและขิง ปรุงรสด้วยซอสโชยุเพิ่มความอร่อยอิ่มให้กับมื้อนี้ขึ้นไปอีกค่ะ

 

เนื้อวัวมัตสึซากะ (Mutsuzaka beef) สุดยอดเนื้อวัวลายหินอ่อน




และอีกหนึ่งเมนูที่จะขอแนะนำก็คือเนื้อวัวมัตสึซากะ (Mutsuzaka beef) เนื้อวัวลายหินอ่อน รสชาติชั้นเลิศแห่งเมืองมัตสึซากะ จังหวัดมิเอะ ถูกจัดให้เป็น 1 ใน 3 เนื้อวัวชั้นดีของประเทศญี่ปุ่น และเมื่อเนื้อวัวมัตสึซากะอยู่ในเมนูสุกี้ยากี้แล้วก็จะกลายเป็นสุดยอดเมนูที่ต้องชิมกันให้ได้สักครั้งเมื่อมาเที่ยวมิเอะเลยค่ะ

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่อยากลิ้มรสเบอร์เกอร์/บัน ที่ใช้เนื้อวัวมัตสึซากะที่สุดยอดนี้ ก็สามารถรับสิทธิ์ทานฟรีได้จากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ นาโกย่า เช่นกัน ท่านสามารถลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ได้ที่ http://th.centrair-campaign.com/microsite/centrairwinterspring/

อาคาฟุกุ (Akafuku) มันจูขึ้นชื่อของจังหวัดมิเอะ




สุดท้ายของมื้ออาหาร ก็ต้องปิดท้ายด้วยขนมค่ะ แล้วเมนูนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นเมนูต้องห้ามพลาด ที่ไม่ว่าอย่างไร หากได้มาเที่ยวที่มิเอะแห่งนี้แล้ว ต้องโดนค่ะ ซึ่งก็คือ อาคาฟุกุ (Akafuku) มันจูขึ้นชื่อของจังหวัดมิเอะ มันจูที่ทำมาจากน้ำตาล ข้าวเหนียว และถั่วแดงกวนสุดพิถีพิถัน ทำให้ออกมาได้รสชาติหวานลิ้นนุ่มลึก เมื่อได้รับประทานแล้ว ชิ้นเดียวไม่พอค่ะ

 

อิจิโกะไดฟุกุ (Ichigo daifuku) ไดฟุกุสอดไส้สตรอว์เบอร์รี่ทั้งลูก




และสุดท้าย ปิดทริปเที่ยวมิเอะ เราก็ต้องมีของฝากติดมือกลับบ้านกันค่ะ งานนี้ขอแยกเป็นสายนะคะ ใครที่เป็นสายกิน ก็ต้อง อิจิโกะไดฟุกุ (Ichigo daifuku) ไดฟุกุเป็นขนมที่ทำจากแป้งโมจินุ่มนิ่ม สอดไส้สตรอว์เบอร์รี่ทั้งลูกและถั่วแดงกวน เมื่อได้ชิมแล้วจะได้รสเปรี้ยวของสตรอว์เบอร์รี่และรสหวานอ่อนๆ ของถั่วแดงกวนที่ละลายในปาก ฟินวนไปค่ะงานนี้ รับรองเลยค่ะว่าหากได้ลองแล้วจะติดใจ

 

เชือกเปียอิกะคุมิฮิโมะ (Kumihimo) ศิลปะดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่น




สำหรับสาวๆ หนุ่มๆ ที่รักงานฝีมือและงานประดิษฐ์แล้วละก็ เราขอแนะนำให้หาซื้อเชือกเปียอิกะคุมิฮิโมะ (Kumihimo) อันเป็นศิลปหัตถกรรมแบบดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่น ที่เมืองอิกะแหล่งผลิตคุมิฮิโมะ โดยตัวเชือกทำมาจากการถักด้ายไหมหรือฝ้ายให้เป็นเส้น โดยชาวญี่ปุ่นได้นำมาใช้เป็นทั้งเชือกรัดโอบิที่ใช้ตอนใส่ชุดกิโมโน และการนำมาทำเป็นที่ห้อยพวงกุญแจ และเครื่องประดับสวยงามต่างๆ จัดว่าเป็นผลงานศิลปหัตถกรรมตามสไตล์ญี่ปุ่นบวกกับมีสีสันสดใสสวยงาม จึงเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะซื้อเป็นของที่ระลึกที่ดีที่สุดอีกชิ้นหนึ่งเลยละค่ะ

 

อิเสะคาตากามิ (Ise-katagami) ศิลปะกระดาษที่สวยงาม



ของฝากอีกหนึ่งอย่างที่อยากนำเสนอคือ อิเสะคาตากามิ (Ise-katagami) หรือ กระดาษแพทเทิร์นอิเสะคาตากามิ ก็คืองานหัตถกรรมที่ใช้ในการย้อมผ้ากิโมโนหรือยูกาตะ ทำโดยการใช้มีดแกะสลักกรีดวาดลวดลายหรือแบบลงบนกระดาษที่แปรรูปมาจากกระดาษญี่ปุ่น โดยเป็นงานฝีมือที่ต้องให้ผู้ชำนาญที่มีฝีมือขั้นสูงระดับชั้นครูในการทำ ซึ่งปัจจุบันได้มีการทำเป็นของประดับตกแต่งต่างๆ หรือกระดาษแพทเทิร์นสไตล์อาร์ตสวยๆ ลงบนกรอบรูป ทำให้ได้งานฝีมือที่มีคุณภาพและตามกระแสของยุคสมัย ควรค่าแก่การเป็นของฝากของที่ทำให้ถูกใจทั้งผู้ให้ โดนใจทั้งผู้รับอย่างแน่นอนค่ะ


หากใครอยากสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ชิมอาหารรสเลิศหลากหลายเมนู และเที่ยวศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่สักครั้งหนึ่งในชีวิตต้องได้มาสักการะแล้วละก็ ขอให้นึกถึงจังหวัดมิเอะนะคะ เพราะรับประกันว่า เมื่อได้มาเที่ยวแล้วทั้งคุ้มค่าและไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ


ข้อมูลจาก
https://www.kintetsu.co.jp/foreign/thai/sightseeing/ise/area_01.html


https://matcha-jp.com/th/3197