เกียวโต (Kyoto) เป็นจังหวัดหนึ่งในภูมิภาคคันไซ (Kansai) ซึ่งเป็นอดีตเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นมายาวนานที่สุด เกือบๆ 1,100 ปีเลยทีเดียว ในปัจจุบันยังคงเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับต้นของประเทศ ดังนั้นเกียวโตจึงเป็นเมืองสำคัญที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ทำให้เกียวโตจึงมี วัด ศาลเจ้า และสิ่งก่อสร้างที่มีคุณค่าทางด้านศิลปะวัฒนธรรมและเก่าแก่มากมาย เมืองเกียวโตจึงเป็นอีกเมืองหนึ่งที่ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด
รู้จักกับเมืองเกียวโตแล้วก็ มาเริ่มวิธีการเดินทางไปกันเลย เนื่องจาก ผู้เขียนพักที่ โอซาก้า ย่านนัมบะ วิธีการเดินทางจึง เริ่มจาก Namba Station นั่งสายสีเหลือง Kintetsu-Nara Line ExpressKintetsu-Nara (A01) ไปยัง Yamato-Saidaiji Station (A26) และเปลี่ยนขบวนไปนั่งสายสีเหลือง Kintetsu-Limited ExpressToll Limited Express Kyoto จาก Yamato-Saidaiji Station (B26) ไปยัง Kyoto Station (B01)
เมื่อถึงเกียวโต เราก็จะไปตามแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ๆ ของเกียวโตกัน โดยเริ่มจาก หอคอยที่ฝั่งอยู่ตรงข้ามกับสถานีเกียวโต นั่นก็คือ
เกียวโตทาวเวอร์ (Kyoto Tower) เป็นเสมือนแลนมาร์กแห่งหนึ่งของเมือง นับว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมาก โดยเกียวโตทาวเวอร์นั้นถือเป็นสถาปัตยกรรมที่สูงที่สุดของเกียวโตด้วยความสูง 131 เมตร สร้างเสร็จในช่วงปี ค.ศ. 1964 ด้านบนเป็นจุดชมวิว (observation deck) แบบ 360 องศา ที่ระดับความสูงประมาณ 100 เมตร เมื่ออยู่บนจุดชมวิวสามารถมองเห็นสถานีเกียวโต และ รถไฟ Shinkansen ที่กำลังวิ่งเข้า – ออกจากสถานีได้อย่างชัดเจน ซึ่งเกียวโตทาวเวอร์ไม่ได้มีแค่วิวเพราะยังจะมีส่วนของร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร และห้องอาบน้ำสาธารณะเปิดให้ใช้บริการอีกด้วย ส่วนชั้นล่างของเกียวโตทาวเวอร์จะเป็นโรงแรม Kyoto tower Hotel สำหรับเกียวโตทาวเวอร์ นี้จะเปิดตั้งแต่ 9.00น. ถึง 21.00น. ทุกวันไม่มีวันหยุด
เมื่อดูวิวกันอิ่มแล้วเราก็เดินกลับไปยังสถานีเกียวโตเพื่อเตรียมไปยังสถานที่ขึ้นชื่ออื่นๆของเกียวโตกันต่อ ระหว่างทางกลับก็มีโอกาสได้ดูการแสดงดนตรีที่เหล่านักเรียนตัวน้อยมาแสดงดนตรีเพราะให้ได้ชมได้ฟังกันที่หน้าสถานี
เมื่อเดินกลับมาถึงสถานีเกียวโตเราก็แวะหาของอร่อยๆ กินเพื่อเติมพลังก่อนจะไปต่อ วนไปวนมาเล็งร้านน่าอร่อยอยู่ซักพัก แล้วก็เลือกร้านที่อยู่ใกล้ๆกับ สถานีซึ่งเป็นร้านข้าวหน้าสุดอร่อย เลือกกินเมนูยอดฮิต ข้าวหน้าไก่โอยาโกะ (Oyakodon) เป็นไก่ย่างด้วยถ่าน เพิ่มความหวานอร่อยจากไข่ ราดบนข้าวญี่ปุ่น เสิร์ฟคู่กับชาเขียวอุ่นๆ หอมๆ
หลังจากอิ่มแล้วก็จะเดินทางไปที่ไหนกันต่อโปรดติดตามได้ใน เที่ยวเกียวโต Part II นะ ... ^^
รู้จักกับเมืองเกียวโตแล้วก็ มาเริ่มวิธีการเดินทางไปกันเลย เนื่องจาก ผู้เขียนพักที่ โอซาก้า ย่านนัมบะ วิธีการเดินทางจึง เริ่มจาก Namba Station นั่งสายสีเหลือง Kintetsu-Nara Line ExpressKintetsu-Nara (A01) ไปยัง Yamato-Saidaiji Station (A26) และเปลี่ยนขบวนไปนั่งสายสีเหลือง Kintetsu-Limited ExpressToll Limited Express Kyoto จาก Yamato-Saidaiji Station (B26) ไปยัง Kyoto Station (B01)
หน้าตาของขบวนรถไฟที่นั่งมา ใช้เวลาเกือบ ๆ 2 ชั่วโมง
เมื่อถึงเกียวโต เราก็จะไปตามแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ๆ ของเกียวโตกัน โดยเริ่มจาก หอคอยที่ฝั่งอยู่ตรงข้ามกับสถานีเกียวโต นั่นก็คือ
เกียวโตทาวเวอร์ (Kyoto Tower) เป็นเสมือนแลนมาร์กแห่งหนึ่งของเมือง นับว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมาก โดยเกียวโตทาวเวอร์นั้นถือเป็นสถาปัตยกรรมที่สูงที่สุดของเกียวโตด้วยความสูง 131 เมตร สร้างเสร็จในช่วงปี ค.ศ. 1964 ด้านบนเป็นจุดชมวิว (observation deck) แบบ 360 องศา ที่ระดับความสูงประมาณ 100 เมตร เมื่ออยู่บนจุดชมวิวสามารถมองเห็นสถานีเกียวโต และ รถไฟ Shinkansen ที่กำลังวิ่งเข้า – ออกจากสถานีได้อย่างชัดเจน ซึ่งเกียวโตทาวเวอร์ไม่ได้มีแค่วิวเพราะยังจะมีส่วนของร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร และห้องอาบน้ำสาธารณะเปิดให้ใช้บริการอีกด้วย ส่วนชั้นล่างของเกียวโตทาวเวอร์จะเป็นโรงแรม Kyoto tower Hotel สำหรับเกียวโตทาวเวอร์ นี้จะเปิดตั้งแต่ 9.00น. ถึง 21.00น. ทุกวันไม่มีวันหยุด
เมื่อดูวิวกันอิ่มแล้วเราก็เดินกลับไปยังสถานีเกียวโตเพื่อเตรียมไปยังสถานที่ขึ้นชื่ออื่นๆของเกียวโตกันต่อ ระหว่างทางกลับก็มีโอกาสได้ดูการแสดงดนตรีที่เหล่านักเรียนตัวน้อยมาแสดงดนตรีเพราะให้ได้ชมได้ฟังกันที่หน้าสถานี
เมื่อเดินกลับมาถึงสถานีเกียวโตเราก็แวะหาของอร่อยๆ กินเพื่อเติมพลังก่อนจะไปต่อ วนไปวนมาเล็งร้านน่าอร่อยอยู่ซักพัก แล้วก็เลือกร้านที่อยู่ใกล้ๆกับ สถานีซึ่งเป็นร้านข้าวหน้าสุดอร่อย เลือกกินเมนูยอดฮิต ข้าวหน้าไก่โอยาโกะ (Oyakodon) เป็นไก่ย่างด้วยถ่าน เพิ่มความหวานอร่อยจากไข่ ราดบนข้าวญี่ปุ่น เสิร์ฟคู่กับชาเขียวอุ่นๆ หอมๆ
หลังจากอิ่มแล้วก็จะเดินทางไปที่ไหนกันต่อโปรดติดตามได้ใน เที่ยวเกียวโต Part II นะ ... ^^
