เที่ยว Kubota Castle กับ Senshu park ในวันหิมะโปรยปราย

เริ่มแล้วค่ะกับการเที่ยวด้วยตัวเอง...หลังจากกินกับช็อปปิ้งทั้ง Starbucks กับ ร้าน 100 เยน เราเลือกที่จะเดินกลับโรงแรมไปเก็บของก่อนเนื่องจากซื้อของ Starbucks ไว้เยอะและของเป็นแก้วทั้งหนักและกลัวแตก ใช้เวลาเดินไปกลับ สถานีรถไฟ JR กับโรงแรม ก้อชั่วโมงกว่า ทำให้เราอาจเที่ยวได้ไม่เยอะ สถานที่แรกที่เราอยากไป คือ ปราสาทคุโบตะ (Kubota Castle) กับ สวนสาธารณะเซ็นชู (Senshu Park)





สวนสาธารณะเซ็นชู (Senshu Park) สร้างขึ้นมาคู่กับปราสาทคุโบตะซึ่งเป็นปราสาทของเจ้าเมืองผู้ที่ดูแลเมืองอาคิตะในสมัยก่อน เคยเป็นบ้านของตระกูลซาตาเกะ สวนสาธารณะเซ็นชูจะสวยงามที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระบานเต็มทั่วทั้งสวน เพราะในอดีตสถานที่นี้เป็นที่ตั้งของปราสาทอาคิตะ แต่น่าเสียดายที่สิ่งก่อสร้างถูกทำลายไปในช่วงสงครามยุคเมจิหลงเหลือแต่คูเมือง และซากกำแพงเท่านั้น ปัจจุบันได้มีการจำลองบางส่วนของปราสาทขึ้นมาใหม่ ที่น่าสนใจที่สุดคือวิวของเมืองที่มองเห็นได้จากหอคอยป้องกันภัยที่อยู่ทางทิศเหนือ



เมื่อเราขึ้นไปชั้นบนของปราสาทเราก็ยังสามารถที่จะมองเห็นวิวเมืองของอาคิตะได้ทั้งเมืองเลย ร่องรอยปราสาทเคยเป็นที่อยู่อาศัยของตระกูลซาตาเคะ ภายในนั้นมีสวนชื่อว่า เซนชู-โคเอ็น ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ชมดอกซากุระที่มีชื่อเสียง1 ใน 100 แห่งของญี่ปุ่น นอกจากต้นซากุระพันธุ์โซเมโยชิโนะซึ่งมีอายุประมาณ 120 ปี ยังมีต้นซากุระอื่นๆ อีกประมาณ 700 ต้น ตอนกลางคืนมีฉายไฟไลท์อัพ และในช่วงฤดูซากุระบาน ตลอดข้างทางจะมีร้านค้าเรียงรายตลอดจนร้านแผงลอยให้เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อขณะชมความงามของดอกซากุระ


น่าเสียดายที่เรามาตอนฤดูหนาวเลยไม่เห็นตามที่ต้องการแต่ก้อสวยไปอีกแบบนึง แม้ไม่เห็นดอกซากุระ หือร้านค้าต่างๆ แต่เราคงเสียใจถ้าไม่ได้มาที่นี่แน่นอน ที่นี่ในฤดูหนาวอาจจะเดินลำบากเพราะมีหิมะ แต่ก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ เพราะสงบและมีศาลเจ้าเล็กๆในสวน มีพื้นที่กว้างสามารถเดินเล่นเรื่อยๆออกกำลังกายได้








จริงๆการเดินทางจากสถานีรถไฟ JR มาที่ Kubota Castle กับ Senshu park ไม่ไกลมากประมาณ 10-15 นาทีได้ แต่การที่เราใช้ google map ไม่เก่ง เราหาทางขึ้ไม่เจอ เราเดินวนไปวนมานานมาก หรืออาจเรียกว่าหลงก้อได้ แต่ในความโชคร้ายย่อมมีความโชคดี ตอนแรกเราเกือบตัดใจเพราะหาทางขึ้นไม่เจอ แต่เราเจอคุณลุงอยู่คนนึงกำลังกวาดหิมะที่ทางเดินอยู่ เราเลยเดินไปถามทางเค้า แต่ด้วยความที่เราพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ ส่วนคุณลุงก้อไม่รู้ภาษาอังกฤษ การสื่อสารเป็นไปด้วยความยากลำบากมาก แต่ด้วยความใจดีขอคุณลุงเค้าวางการกวาดหิมะแล้วเดินนำทางเราไปที่สวนซึ่งขึ้นบรรไดเยอะมากอยู่ต้องขอบคุณคุณลุงที่ทำให้เราได้เห็นสิ่งที่สวยงามเช่นนี้












เราเดินเล่นไปทั่วๆได้ซักพัก อยากอยู่นานๆแต่มีที่ที่ต้องไปต่ออีก หากใครได้ไปที่นี่เเล้วจะหลงรักสถานที่เเห่งนี้ช่วงฤดูหนาวเลยก็เป็นได้ค่ะ สำหรับวันนี้เอาบรรยากาศมาฝาก เเล้วครั้งหน้าติดตามกันค่ะว่าจะพาไปรีวิวที่ไหนกันต่อ