แพลนเที่ยว 1 วัน Obara & Korankei : ซากุระบาน พร้อมกับใบไม้เปลี่ยนสี

Posted by :

Obara – Korankei  เป็นสถานีที่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือชาวญี่ปุ่น  ทั้ง 2 แห่งนี้ ตั้งอยู่ในเขตเมืองโตโยตะ (Toyota) จังหวัดไอจิ (Aichi) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากนาโกย่า (Nagoya) ถึงแม้ว่า Obara และ Korankei นั้นจะมีใบไม้เปลี่ยนสีที่ปกคลุมไปด้วยทั้งสีแดงและสีเหลืองเหมือนกันก็จริง แต่จะมีเสนห์ที่แตกต่างกัน จึงเป็นเหตุผลที่ว่าเราควรไปชื่นชมความงามของธรรมชาติทั้ง 2 แห่ง

Obara : มีชื่อเสียงในเรื่องของสวนที่ปลูกดอกซากุระสายพันธุ์พิเศษไว้กว่า 10,000 ต้น ที่จะออกดอกได้ปีละ 2 ครั้ง มีชื่อเรียกว่า ชิคิซากุระ (Shikizakura) หรือซากุระฤดูหนาว (Winter Cherry Blossom) ทำให้เราได้สัมผัสบรรยากาศ ที่ดอกซากุระบาน ท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสี นั่นเอง
Korankei : เป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง เพราะมีต้นโมมิจิ (Momiji) หรือต้นเมเปิ้ลญี่ปุ่นหลากหลายสีสันทั้งแดงและเหลือง ล้อมรอบ บริเวณหุบเขา มากกว่า 4,000 ต้น ทำให้เราได้สัมผัสถึงหุบเขาที่มีชีวิตชีวา น่าหลงใหล ชวนให้ค้นหาสุดๆ

เราจึงสามารถจัดโปรแกรมเที่ยววันเดียวกันได้ เนื่องจาก 2 สถานีที่นี้อยู่ไม่ไกลกันมาก สำหรับเราเลือกเช่ารถแล้วขับไปกันเอง เพราะสะดวกรวดเร็ว สามารถกำหนดเวลาเองได้ วันที่เราเลือกเป็นวันอังคาร (Nov 26, 2019) ไม่เจอรถติดเลยค๊าาาา สามารถเช่ารถได้จากเมือง Toyota หรือ Nagoya ได้นะคะ แต่ทริปนี้เราเลือกเช่ารถตั้งแต่สนามบินนาโกย่าค่ะ สามารถดูรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.jgbthai.com/review-rent-car-japan/

ข้อแนะนำสำหรับการเดินทางในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี  Obara & Korankei ใน 1 วัน

  1. ควรเลี่ยง วันเสาร์ – วันอาทิตย์ และวันหยุดของญี่ปุ่น เนื่องจากทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นเองก็จะมาเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก จึงอาจจะเจอกับการจราจรที่หนาแน่น ทำให้เราใช้เวลาในการเดินทางนานกว่าปกติ
  2. ดูพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีว่าทั้ง 2 ที่นี้ใบไม้เปลี่ยนสีใกล้ๆกันหรือไม่ จะทำให้เราเลือกวันเดินทางได้อย่างเหมาะสม
  3. วางแผนการเดินทางล่วงหน้า เราจะได้ไม่หลงทาง และไม่เสียเวลา เพราะถ้าเราเดินทางโดยใช้บริการรถสาธารณะอาจจะต้องเผื่อเวลาคนเยอะ รถติด รอรถนาน เป็นต้น (อาจจะต้องแยกเป็น 2 วันเพื่อความมั่นใจ) พระอาทิตย์ตกดินค่อยข้างเร็วนะคะ ประมาณ 17.00 น. ท้องฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว
  4. แนะนำว่าเช่ารถขับไปเองจะสะดวกกว่าแบ่งเป็น ช่วงเช้า – ช่วงบ่าย ออกเดินทางเช้าหน่อยจะได้ดื่มด่ำบรรยากาศของทั้ง 2 แห่งได้อย่างเต็มอิ่ม

โปรแกรมการเดินทางวันนี้ คือ ช่วงเช้าเราไป Obara โดยออกเดินทางจากเมือง Toyota ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที จะได้ไปถึงแต่เช้า ช่วงบ่าย ไป Korankei และกลับเข้าเมือง Nagoya

07.00 น. ถึง Obara จริงๆ จุดชมวิวซากุระมีหลายจุดนะคะ แต่เราเลือกมาแค่ 2 จุด โดยเริ่มจากที่ Senmi Shikizakura no Sato  ชื่นชมวิวจากจุดนี้ก็เต็มอิ่มแล้ว ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชั่วโมง

  • Senmishikizakura Car park 1 
 GPS. 35.258172, 137.301215  Mapcode: 98 021 524*03 Mapcode: 98 021 525*52
  • Senmishikizakura Car park 2 
 GPS. 35.254764, 137.300339 Mapcode: 98 021 161*60
สามารถดูรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.jgbthai.com/senmi-shikizakura-no-sato-obara/

11.30 น. เดินเล่นตลาดนัดวิวสวย ๆ Obara Fureai Park  ขับรถประมาณ 10 นาทีจากจุดแรก  Mapcode : 281 814 195*52 
 หรือ Mapcode : 281 814 138*44


จุดนี้ดีงามมาก วิวสวย ก็ยังคงมีซากุระบาน ท่ามกลางใบไม้สีแดงนะจ๊ะ  อาหารอร่อย ห้องน้ำสะอาด

มีการแสดงโชว์ด้วยนะคะ คนญี่ปุ่นนั่งดูโชว์กันเป็นระเบียบ เรียบร้อยเชียว

14.00 น. ถึง Korankei ใช้เวลาประมาณ  40 นาที จาก Obara เนื่องจากเราโชคดีไม่เจอรถติดจึงตรงตามโปรแกรมที่จัดไว้ ตั้ง GPS : 35.133936, 137.313451   /  Mapcode : 281 457 629*88

บรรยากาศภายในหุบเขาโครังเค สามารถดูรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.jgbthai.com/autumn-leaves-in-korankei/

หลังพระอาทิตย์ตกดินก็จะมี light up เวลา 17.00-21.00 น.

20.00 น. เดินทางกลับ Nagoya ใช้เวลาขับรถประมาณ 60 นาที

สรุป การจัดโปรแกรมเที่ยว Obara & Korankei ใน 1 วัน ถ้าเป็นการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวนั้น น่าจะสะดวกที่สุด เพราะฤดูใบไม้เปลี่ยนสี นักท่องเที่ยวต่างก็หลั่งไหลกันมาเป็นจำนวนมาก อาจจะทำให้การเดินทางโดยรถสาธารณะไม่สะดวก สักเท่าไหร่ อีกทั้งอาจจะทำให้เจอกับการจราจรที่หนาแน่ การเช่ารถจึงเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะจะทำให้เราออกเที่ยวได้ตั้งแต่เช้าตรู่ เรียกว่าใช้ 1 วันได้อย่างคุ้มค่ามากๆ

ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ

Comment here

บทความของนักเขียน


ดูบทความของนักเขียนทั้งหมด