เมื่อมีแพลนที่จะไปเที่ยวฮอกไกโด สถานที่ในฝันที่จะต้องลองไปสักครั้งคือ คิโรโระ สกี รีสอร์ท (Kiroro Ski Resort) สกีรีสอร์ทที่อยู่ใกล้เมืองซัปโปโรมากที่สุด เป้าหมายของเราคือ ไปเพื่อตามรอยเด่นชัยและนุ้ยจากภาพยนตร์ดัง "แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว"
สถานที่แห่งนี้คือ จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดของเรื่อง บนยอดเขาอะซาริ (Asari Peak) ที่มีความสูง 1,180 เมตร ระฆังแห่งความรักรอคอยผู้มาเยือนเสมอ...โรแมนติคมากกก ขอบอกว่าช่วงไหนมีทัวร์ลง ถึงขนาดที่ต้องเข้าแถวเพื่อรอสั่นระฆังกันเลยทีเดียวค่ะ555
เราเลือกที่จะมาค้าง 1 คืนที่นี่ค่ะ เพื่อดื่มด่ำบรรยากาศได้อย่างไม่รีบร้อน คิโรโรรีสอร์ทมี 2 โรงแรมค่ะ คือ เดอะ คิโรโระ ทริบิวท์ พอร์ตโฟลิโอ (The Piano Kiroro, a Tribute Portfolio Hotel) ซึ่งเป็นโรงแรมขนาดใหญ่และเป็นสถานที่ที่ถ่ายทำภาพยนตร์ และ เชอราตัน ฮอกไกโด คิโรโระ รีสอร์ท (Sheraton Hokkaido Kiroro Resort) ซึ่งจะอยู่ติดกับลานสกีเลย เราเลือกโรงแรมแรกเพราะต้องการมาตามรอยจริงๆ^^ (โรงแรมนี้เป็นของ Property Perfect) ไม่ต้องกังวลเรื่องการไปลานสกี เนื่อวจากมีรถชัตเติ้ลบัสรับ-ส่งฟรีระหว่าง 2 โรงแรม (แค่ 2 นาที แต่ถ้าเดินเองคงไม่ไหว) โดยเราสามารถดูตารางการเดินรถได้เลย
เริ่มต้นกิจกรรมของลานสกีที่ Mountain Center เราสามารถเลือกกิจกรรมที่เราสนใจได้เลย ที่นี่เป็นลานสกีที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ใครต้องการมาแค่เช็คอินก็สามารถซื้อตั๋วกอนโดล่าไป-กลับเพื่อขึ้นเขาได้เลย หรือใครต้องการมาเล่นสกี ลานสกีที่นี่ก็เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆของฮอกไกโดเลย ส่วนใครที่เล่นไม่เป็นแต่อยากเล่นก็ สามารถซื้อคลาสเรียนได้เลยค่ะ มีแบบเป็นกลุ่ม แบบเดี่ยว แบบสกีเด็ก โดยเราสามารถเลือกผู้สอนได้ มีทั้งชาวญี่ปุ่น ชาวต่างชาติ และคนไทยค่ะ นอกจากนี้ยังมีลานกิจกรรมด้านหลังเดอะ คิโรโระ ทริบิวท์ พอร์ตโฟลิโอ ซึงมีกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิเช่น Snow Banana, Mini Snow Mobile, Snow Rafting ช่วงที่เราไปเป็นช่วงปลายหนาว กิจกรรมบนลานสกีไม่มีให้บริการแล้วเพราะหิมะเริ่มละลาย เสียดายมาก
เราเลือกขึ้นกอนโดล่าเพื่อไปทำภารกิจสั่นระฆังแห่งความรัก...เพื่อความรักที่เป็นนิรันดร์ ได้ปั้นตุ๊กตาหิมะ ได้ชมวิวบนเขา บรรยากาศดีมากจริงๆ หนาวมากด้วย ต้องวิ่งเข้าวิ่งออกกับห้องอาหาร Asari View เพื่อหลบหนาวเป็นพักๆ
Snow Sled กิจกรรมบนลานสกีที่สนุกกันได้ทั้งครอบครัวแบบประหยัด^^ สามารถเช่าเสลดได้ที่เจ้าหน้าที่ได้เลย (บางคนอาจเรียกถาดลื่นบนหิมะ บุ้งกี๋ กระดานเลื่อน เรียกตามสะดวกค่ะ) วิธีเล่นคือนั่งบนเสลด จับเชือก แล้วไหลลงมาตามเนินหิมะ สนุกได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยค่ะ
กลับจากลานสกีก็ได้เวลาเดินชมโรงแรมกันแล้วค่ะ โรงแรมใหญ่มากค่ะ Lobby ที่ชั้น 1 ดูหรูหรา สวยงาม บริเวณชั้น1 ยังมีโซนตู้ล็อคเกอร์สำหรับเก็บกระเป๋าและอุปกรณ์ต่างๆของนักสกีด้วยค่ะ
Chapel KIRORO โบสถ์ขนาดเล็กซึ่งได้รับฉายาว่า "โบสถ์แห่งความรัก" เป็นอีกหนึ่งโลเคชั่นของภาพยนตร์
ภายในโรงแรมมีห้องอาหารให้บริการถึง 6 ห้องอาหาร ใครมาพักที่นี่ต้องได้ใช้บริการแน่นอนค่ะ เพราะสกีรีสอร์ทอยู่บนเขา ไม่มีร้านอาหารที่อื่นขายเลย แต่ใครไม่อยากใช้บริการห้องอาหาร อาจแวะซื้ออาหารแบบง่ายๆที่ Resort Market ได้ค่ะ จะเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตขายของเหมือนร้านสะดวกซื้อ และก็มีขายของฝาก สามารถมาฝากท้องได้
โรงแรมยังมีออนเซน (มีค่าใช้จ่าย) และสระว่ายน้ำ (น้ำอุ่น) ให้บริการฟรีอีกด้วย เหมาะกับคนที่ต้องการมาพักผ่อนทั้งคนที่มาเป็นคู่ เป็นครอบครัว หรือเป็นหมู่คณะ
คิโรโระรีสอร์ทเป็นสกีรีสอร์ทที่สามารถมาเที่ยวแบบวันเดียวหรือค้างคืนได้เลย เนื่องจากมีกิจกรรมที่หลากหลาย ใครมาแล้วต้องตกหลุมรัก ต้องกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน
สถานที่แห่งนี้คือ จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดของเรื่อง บนยอดเขาอะซาริ (Asari Peak) ที่มีความสูง 1,180 เมตร ระฆังแห่งความรักรอคอยผู้มาเยือนเสมอ...โรแมนติคมากกก ขอบอกว่าช่วงไหนมีทัวร์ลง ถึงขนาดที่ต้องเข้าแถวเพื่อรอสั่นระฆังกันเลยทีเดียวค่ะ555
เราเลือกที่จะมาค้าง 1 คืนที่นี่ค่ะ เพื่อดื่มด่ำบรรยากาศได้อย่างไม่รีบร้อน คิโรโรรีสอร์ทมี 2 โรงแรมค่ะ คือ เดอะ คิโรโระ ทริบิวท์ พอร์ตโฟลิโอ (The Piano Kiroro, a Tribute Portfolio Hotel) ซึ่งเป็นโรงแรมขนาดใหญ่และเป็นสถานที่ที่ถ่ายทำภาพยนตร์ และ เชอราตัน ฮอกไกโด คิโรโระ รีสอร์ท (Sheraton Hokkaido Kiroro Resort) ซึ่งจะอยู่ติดกับลานสกีเลย เราเลือกโรงแรมแรกเพราะต้องการมาตามรอยจริงๆ^^ (โรงแรมนี้เป็นของ Property Perfect) ไม่ต้องกังวลเรื่องการไปลานสกี เนื่อวจากมีรถชัตเติ้ลบัสรับ-ส่งฟรีระหว่าง 2 โรงแรม (แค่ 2 นาที แต่ถ้าเดินเองคงไม่ไหว) โดยเราสามารถดูตารางการเดินรถได้เลย
เริ่มต้นกิจกรรมของลานสกีที่ Mountain Center เราสามารถเลือกกิจกรรมที่เราสนใจได้เลย ที่นี่เป็นลานสกีที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ใครต้องการมาแค่เช็คอินก็สามารถซื้อตั๋วกอนโดล่าไป-กลับเพื่อขึ้นเขาได้เลย หรือใครต้องการมาเล่นสกี ลานสกีที่นี่ก็เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆของฮอกไกโดเลย ส่วนใครที่เล่นไม่เป็นแต่อยากเล่นก็ สามารถซื้อคลาสเรียนได้เลยค่ะ มีแบบเป็นกลุ่ม แบบเดี่ยว แบบสกีเด็ก โดยเราสามารถเลือกผู้สอนได้ มีทั้งชาวญี่ปุ่น ชาวต่างชาติ และคนไทยค่ะ นอกจากนี้ยังมีลานกิจกรรมด้านหลังเดอะ คิโรโระ ทริบิวท์ พอร์ตโฟลิโอ ซึงมีกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิเช่น Snow Banana, Mini Snow Mobile, Snow Rafting ช่วงที่เราไปเป็นช่วงปลายหนาว กิจกรรมบนลานสกีไม่มีให้บริการแล้วเพราะหิมะเริ่มละลาย เสียดายมาก
เราเลือกขึ้นกอนโดล่าเพื่อไปทำภารกิจสั่นระฆังแห่งความรัก...เพื่อความรักที่เป็นนิรันดร์ ได้ปั้นตุ๊กตาหิมะ ได้ชมวิวบนเขา บรรยากาศดีมากจริงๆ หนาวมากด้วย ต้องวิ่งเข้าวิ่งออกกับห้องอาหาร Asari View เพื่อหลบหนาวเป็นพักๆ
Snow Sled กิจกรรมบนลานสกีที่สนุกกันได้ทั้งครอบครัวแบบประหยัด^^ สามารถเช่าเสลดได้ที่เจ้าหน้าที่ได้เลย (บางคนอาจเรียกถาดลื่นบนหิมะ บุ้งกี๋ กระดานเลื่อน เรียกตามสะดวกค่ะ) วิธีเล่นคือนั่งบนเสลด จับเชือก แล้วไหลลงมาตามเนินหิมะ สนุกได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยค่ะ
กลับจากลานสกีก็ได้เวลาเดินชมโรงแรมกันแล้วค่ะ โรงแรมใหญ่มากค่ะ Lobby ที่ชั้น 1 ดูหรูหรา สวยงาม บริเวณชั้น1 ยังมีโซนตู้ล็อคเกอร์สำหรับเก็บกระเป๋าและอุปกรณ์ต่างๆของนักสกีด้วยค่ะ
Chapel KIRORO โบสถ์ขนาดเล็กซึ่งได้รับฉายาว่า "โบสถ์แห่งความรัก" เป็นอีกหนึ่งโลเคชั่นของภาพยนตร์
ภายในโรงแรมมีห้องอาหารให้บริการถึง 6 ห้องอาหาร ใครมาพักที่นี่ต้องได้ใช้บริการแน่นอนค่ะ เพราะสกีรีสอร์ทอยู่บนเขา ไม่มีร้านอาหารที่อื่นขายเลย แต่ใครไม่อยากใช้บริการห้องอาหาร อาจแวะซื้ออาหารแบบง่ายๆที่ Resort Market ได้ค่ะ จะเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตขายของเหมือนร้านสะดวกซื้อ และก็มีขายของฝาก สามารถมาฝากท้องได้
โรงแรมยังมีออนเซน (มีค่าใช้จ่าย) และสระว่ายน้ำ (น้ำอุ่น) ให้บริการฟรีอีกด้วย เหมาะกับคนที่ต้องการมาพักผ่อนทั้งคนที่มาเป็นคู่ เป็นครอบครัว หรือเป็นหมู่คณะ
คิโรโระรีสอร์ทเป็นสกีรีสอร์ทที่สามารถมาเที่ยวแบบวันเดียวหรือค้างคืนได้เลย เนื่องจากมีกิจกรรมที่หลากหลาย ใครมาแล้วต้องตกหลุมรัก ต้องกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน
