[Tokyo-Kawaguchiko 2 วัน 1 คืน] #1 นั่งรถไฟโทมัสเที่ยวเจดีย์แดง Chureito

ทริปออกนอกเมือง โตเกียว-คาวากุจิโกะ 2 วัน 1 คืน ไปดูภูเขาไฟฟูจิและปั่นจักรยานรอบทะเลสาบคาวากุจิโกะ

วิธีเดินทาง

  • JR Pass: สถานีชินจูกุ - สถานี Otsuki - สถานีคาวากุจิโกะ (ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. กว่า)

  • รถบัส Highway Keio: สถานีรถบัสที่ชินจูกุ - สถานีคาวากุจิโกะ (ใช้เวลาราวๆ 45 นาที - 2 ชม. แล้วแต่สภาพการจราจร) จองตั๋วล่วงหน้าที่ http://highway-buses.jp




ฉันกับเพื่อนเลือกเที่ยวรถตอน 8 โมง มาถึงสถานีคาวากุจิโกะ 10 โมงกว่า ออกเช้าหน่อยเผื่อเวลาไปเที่ยวเจดีย์จูเรโต (Chureito Pagoda) อีกหนึ่งจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิยอดฮิตก่อนเข้าที่พัก เพราะวันนี้เห็นวิวภูเขาไฟฟูจิที่สถานีคาวากุจิโกะ ฟ้าใสแดดดีมาก












ถึงสถานีชิโมะโยชิดะ (下吉田駅) แล้ว เป็นสถานีเล็กมากๆค่ะ แต่สวยและเงียบสงบ











การขึ้นเจดีย์แดงสามารถเลือกได้ 2 ทาง คือ เดินขึ้นบันได 398 ขั้นหรือเดินไปทางทางปกติไต่ระดับขึ้นเขา ซึ่งเรากับเพื่อนเลือกเดินขึ้นบันไดเดินไปคุยไป แวะถ่ายรูปบ้าง ไม่เหนื่อยเลย อากาศก็ดีมีร่มเงาต้นไม้ร่มรื่นตลอดทาง



เห็นเสาโทริอิสีแดงเมื่อไหร่เป็นการบอกให้รู้ว่าเริ่มเข้าอาณาเขตของศาลเจ้า สำหรับศาลเจ้านี้ คือ อะราคุระ ฟูจิ เซงเก็น (新倉富士浅間神社)









อันนี้คืออีกวิธีที่ว่า เดินไปตามถนนที่คดโค้งขึ้นภูเขาอย่างที่เราเห็นคุณตาคนนึงถือไม้เท้าเดิน hiking ออกกำลังแขนขาไปเรื่อยๆ ก็ได้ประสบการณ์ไปอีกแบบ










เดินขึ้นไปได้ครึ่งทาง ก็สวนกับคุณลุงญี่ปุ่นคนหนึ่งที่กำลังเดินลง ตอนกำลังจะเดินสวนกัน จู่ๆ คุณลุงก็หยุดเดินแล้วหยิบกล้องถ่ายรูปออกมาเปิดรูปวิวเจดีย์กับฉากหลังฟูจิที่สวยมากจนไม่น่าเชื่อว่าจะถ่ายด้วยกล้องดิจิทัลตัวจิ๋ว พอดูเสร็จลุงถึงเพิ่งจะบอกว่าถ่ายจากโปสต์การ์ดที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อ (-_-‘ เอิ่มม … หลังจากนั้นเราก็กล่าวลาคุณลุงแล้วเริ่มเดินต่อ

แต่คุณลุงกลับเดินย้อนขึ้นมา แล้วตามมาคุยกับฉันไม่หยุด เอ่อ... รู้สึกแปลกๆ และเริ่มอึดอัดละ ฉันเลยคุยตอบน้อยลงแล้วเดินปลีกตัวเข้าไปคุยกับเพื่อน เพื่อไม่เปิดโอกาสให้คุณลุงเข้ามาประชิดตัวอีก จากนั้นเราสองคนเตี๊ยมกันว่าจะแวะอ้อยอิ่งทุกจุดชมวิว คิดว่าเดี๋ยวลุงเบื่อคงจากไปเอง แต่เราคิดผิด ไม่ว่าจะแวะถ่ายรูป แวะเข้าห้องน้ำนานแค่ไหน ลุงก็ยังยืนรออยู่ห่างๆ



เริ่มรู้สึกไม่โอเคจริงๆ ละ ที่ถูกตาม คิดหาทางหนีทีไล่เลยหันไปสังเกตรอบๆ ถึงได้รู้สึกตัวว่าตั้งแต่เริ่มเดินขึ้นมาจนถึงตรงนี้ก็มีแค่ฉัน เพื่อน และลุง 3 คนเท่านั้นเองนี่หว่า อุแง T_T ทำไมต้องเป็นวันที่มีคนมาเที่ยวกันน้อยด้วย ทำไงดี๊


ในที่สุดก็มาถึงจุดชมวิวบริเวณสวนสาธารณะอะราคุระ ยามะ เซงเก็นและเจดีย์ 5 ชั้น จูเรโต (新倉山浅間公園・忠霊塔)  แวะมาถ่ายมุมยอดฮิต เจดีย์กับภูเขาฟูจิ แต่วันนั้นเมฆบังภูเขาไฟฟูจิมิดเลย อยากจิล้องห้ายยย ทำให้ได้แต่รูปเจดีย์อย่างเดียว






จังหวะนั้นมีคุณลุงญี่ปุ่นท่านหนึ่งเดินเข้าไปทักทายคุณลุงคนนี้ เราเลยรีบฉวยโอกาสเดินอ้อมไปอีกทางซึ่งออกจากเส้นทางหลักเพื่อไม่ให้โดนตามอีก เราหาที่นั่งหลบอยู่หลังต้นไม้แล้วแอบมองลุงอยู่ไกลๆ เห็นแกกำลังมองหาอะไรบางอย่าง (คงหาพวกเราสินะ >_<) เราแอบดูจนเห็นลุงค่อยๆ หันหลังเดินลงบันไดไป ...เฮ้อออออ โล่งอกไปที จะได้เที่ยวต่ออย่างสบายใจ

แต่พอเราลุกขึ้นยืน ลุงหันหน้ากลับมาซะงั้น ฉันกับเพื่อนตกใจรีบกระโดดหลบหลังต้นไม้ คราวนี้รอจนแน่ใจว่าลุงไปแล้วจริงๆ พอนึกย้อนกลับไปบางทีลุงอาจจะเป็นแค่คนแก่ขี้เหงาที่อยากหาใครสักคนคุยด้วยก็ได้นะ แต่การที่มีคนแปลกหน้าเดินตามก็น่ากลัวและน่าอีดอัดใจ นับว่าเป็นบทเรียนนึงของเราเลยค่ะ ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนก็ตาม การมีสติและระมัดระวังตัวเองอยู่ตลอดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

ตอนขากลับจากสถานีชิโมะโยชิดะ-คาวากุจิโกะ ได้นั่งรถไฟลายรถไฟโทมัส ดีใจมว้าก เพราะมันน่ารักทั้งภายนอก-ภายในรถไฟเป็นลายรถไฟโทมัสทั้งขบวนเลย














วันแรกจบแบบระทึกขวัญนิดๆ ได้ภาพเจดีย์ 5 ชั้นมาเเต่ไม่ได้วิวฟูจิ ส่วนทริปวันที่สองจะเป็นยังไง การปั่นจักรยานรอบทะเลสาบคาวากุจิโกะจะสำเร็จหรือไม่ รอติดตามอ่านกันนะคะ ^^