ช่วงนี้ที่ญี่ปุ่นก็เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิและเริ่มหนาวแล้ว ที่ญี่ปุ่นเมื่อมีการเปลี่ยนฤดูกาล ก็จะมีการเปลี่ยนวัตถุดิบอาหารตามร้านอาหารให้เข้ากับฤดูกาลด้วย เช่นเดียวกับทางร้านอาหารญี่ปุ่นในเมืองไทยที่วันนี้ทาง JGBTHAI จะมาแนะนำค่ะ
ที่ร้านคาโบฉะซูชิ Kabocha Sushi ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยม ได้พาเราไปพิสูจน์ความคราฟในงาน Mini Event Kabocha Aki-Fuyu 2020 ที่เน้นคอนเซ็ปป์ความคราฟ และความสดใหม่ของวัตถุดิบอาหารทะเลทุกเมนู ประจำฤดูกาล Autumm – Winter นี้โดยส่งตรงมาจากหลากหลายจังหวัดทั่วประเทศญี่ปุ่น เชฟได้มารังสรรค์เป็นเมนูสุดพิเศษให้เราได้ลองรับประทาน
รวมไปถึงการตกแต่งหน้าตาอาหารด้วยดอกไม้ญี่ปุ่น และ Ebi Flower ที่เป็นดอกไม้ออแกนิค มาช่วยเพิ่มสีสันให้กับอาหาร ดอกไม้ที่นำมาตกแต่งนั้นมาจากโครงการอิโรโดริ จากเมืองคามิคัตซึ ของจังหวัดโทคุชิมะ
เรามาดูเมนูอาหารกันเลยค่ะ
ปลาชนิดนี้มีลักษณะพิเศษคือผิวปลาของปลาจะมีสีแดงสด และตาโตมาก เป็นปลากะพงแดงตาโตจากแถบเมืองคานากาวะ ฤดูกาลที่เหมาะสำหรับการทานปลาคินเมได (Kinmadai) คือช่วงต้นเดือนธันวาคมเป็นต้นไป เพราะจะมีปริมาณมากและที่สำคัญ รสชาติของเนื้อจะเข้มขึ้น และไขมันแน่น ซึ่งปลาคินเมไดนี้ยังถูกจัดให้เป็นวัตถุดิบที่มีความหรูหรามากสำหรับคนญี่ปุ่น
เป็นปลาเนื้อขาว ที่หาได้จากแหล่งทะเลชิซึโอกะ / นางาซากิ ที่อยู่ริมฝั่งทิศใต้ของญี่ปุ่น เนื้อปลาจะออกอมชมพู มีรสหวาน หนังของปลามีความกรุบกรอบ เมนูนี้เชฟเลือกเสิร์ฟให้เป็น ซาชิมิ เพราะปลาชนิดนี้จะมีเนื้อเยอะ และสามารถทำได้ทั้งแบบซูชิและซาชิมิ
ปลาชิมะอะจิ เป็นปลาเนื้อขาวหนังเงิน ลักษณะที่ลำตัวปลาจะมีแถบสีเหลืองกลางลำตัว ปกติจะอยู่เป็นฝูงและพบได้มากทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ฤดูอร่อยจะอยู่ช่วงปลายใบไม้ผลิเป็นต้นไปจนไปถึงฤดูร้อน เนื้อปลาจะกรอบใส อร่อย แต่ถ้าช่วงต้นฤดูหนาวจะยิ่งอร่อยมากเป็นพิเศษ เพราะปลาจะสะสมไขมันใต้ผิวหนังเอาไว้มาก เมนูนี้จัดเสิร์ฟเป็นแบบซาชิมิ สัมผัสได้ถึงความมันแน่นเนื้อปลา
เป็นหนึ่งในเมนูอันดับต้นๆ ที่เชฟชาวญี่ปุ่นแนะนำว่าต้องลองให้ได้ ยิ่งถ้าใครได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูหนาวนี้ แล้วได้ไปทานอาหารญี่ปุ่นตามร้านโอมากาเสะ เชฟจะแนะนำเมนูชิราโกะ ให้ลอง สัมผัสของเมนูนี้คือจะรู้สึกนุ่มๆครีมมี่ เป็นวัตถุดิบที่ยิ่งท่านยิ่งเพลิน โดยเชฟจะแนะนำให้ทานคู่กับสาเกจุนไม ช่วยให้การทานชิราโกะกลมกล่อม อร่อยแบบทวีคูณ
หอยนางรมยักษ์ญี่ปุ่นฤดูกาลนี้ คนญี่ปุ่นนิยมทานกันในช่วงฤดูหนาวระหว่างปลายเดือนตุลาคม ถึงประมาณกุมภาพันธ์ ทางร้านได้นำเข้าจากแทบทะเลมิยากิ แบบสดๆ เป็นๆ เป็นหอยนางรมมีคุณภาพดีมีรสชาติแบบครีมมี่ เข้มข้น หอมกลิ่นน้ำทะเลอ่อนๆ เมนูนี้เชฟเสิร์ฟพร้อมซอสพอนซึ ให้ความครี่มมี่ ผสมกับความหอมหวานของตัวซอสแบบชุ่มฉ่ำ
เมนูนี้พิเศษสำหรับท่านใดที่ชื่นชอบการทานโอมากาเสะ น่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี กับเมนูอังกิโมะ หรือตับของปลาอังโกะ ตับปลาที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นฟัวกราส์แห่งท้องทะเล อีกหนึ่งวัตถุดิบแสนอร่อยของญี่ปุ่น ที่ทางร้านได้นำเข้ามาให้บริการในช่วงต้นฤดูหนาวของทุกๆ ปี ตับปลาชนิดนี้จะมีความนุ่มมัน คล้ายๆ ฟัวกราส์แต่กลิ่นจะไม่ชัดเจนเท่า เชฟจะปรุงสุก เสิร์ฟพร้อมเยลลี่พอนซึ เข้ากับตัวอังกิโมะได้อย่างดี
หอยอะซาริ (Asari) หรือหอยลายญี่ปุ่น จริงๆ แล้วสามารถหาทานได้ตลอดทั้งปี แต่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิแบบนี้ หอยอะซาริจะหวานและเนื้อแน่นเป็นพิเศษ ทำให้คนญี่ปุ่นนิยมทานกันมากที่สุด ทางร้านได้นำเข้ามาจากเมืองคิซาราสึ ของจังหวัดชิบะ ที่เป็นแหล่งทะเล น้ำใสสะอาด ทำให้ได้หอยอะซาริที่มีคุณภาพดี โดยเมนูในร้านจะมีทั้งแบบต้มซุปใสผสมยูซึ และแบบผัดสาเกกับเห็ดชิเมจิ
ปลาโคได หรือ เบบี้สเนปเปอร์ เป็นสายพันธุ์ของปลากะพงญี่ปุ่น สายพันธุ์เดียวกันกับปลามาไดนั่นเอง แต่โคไดจะเป็นช่วงอายุที่น้อยกว่ามาได เรียกได้ว่าเป็นรุ่นลูกของปลามาไดนั่นเอง ปลาโคไดจะมีรสชาติคล้ายกับปลามาได แต่จะให้สัมผัสที่นุ่มและแน่นมากกว่า เชฟจัดเสิร์ฟแบบซูชิ
ถือเป็นอีกหนึ่งความพิเศษของซูชิร้าน Kabocha คือ นอกจากปลาที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่นแล้ว ข้าวที่ใช้สั่งยังคัดเลือกมาอย่างดี เป็นข้าวพันธุ์โคชิฮิคาริ จากจังหวัดนีกาตะ หนึ่งในข้าวที่มีรสชาติอร่อยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์อื่นๆ
ปลาชนิดนี้ถือเป็นปลาที่แปลกชนิดหนึ่ง เพราะมีเท้าที่เอาไว้คุ้ยหาอาหารตามพื้นทรายแบบที่ปลาชนิดอื่นๆไม่มี ส่วนของเนื้อจะมีสีขาวใส อมชมพู ให้สัมผัสที่กรอบแน่น เคี้ยวเพลินสุดๆ และอีกหนึ่งความพิเศษ คือ ปลาโฮโบ มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์แบบเฉพาะตัว แนะนำให้ลองดมกลิ่นก่อนทานค่ะ
เป็นตระกูลปลาเนื้อขาวที่หน้าตาอาจจะดูแปลกไม่ดึงดูด แต่เนื้อนั้นอร่อยมาก ซึ่งในฤดูกาลนี้ ปลาจะมีรสชาติอร่อยกว่าช่วงอื่นๆ แถมยังถูกยกให้เป็นหนึ่งเมนูในคอร์สโอมากาเสะประจำฤดูหนาวที่ต้องมีในครอร์สวันนี้เชฟเลือกเสิร์ฟแบบ ซูชิพร้อมกับตับของปลา ที่มาช่วยเพิ่มความมันอร่อย
เป็นปลาชั้นสูงที่มีราคา ปลาชนิดนี้จะหาได้จากแหล่งทะเลฟุกุโอกะ และนางาซากิ เนื้อสัมผัสจะออกไปทางนุ่ม หอม และเป็นปลาที่มีรสชาติในเนื้อเลย ทางเชฟจัดเสิร์ฟเป็นซูชิให้สัมผัสความหอม นุ่มผสมกับข้าวญี่ปุ่นที่ละมุนสุดๆ
อูนิบาฟุน จากแบรนด์โอกาว่า แบรนด์อูนิที่ได้รับความนิยมในกลุ่มของตลาดอูนิเลย และเป็นแบรนด์ที่ได้รับรางวัลในเรื่องของคุณภาพอูนิ ตัวอูนิจะมีสีเหลืองทอง ให้รสสัมผัสที่หวานฉ่ำ เกรดที่เราเลือกใช้เป็นเกรดที่ร้านอาหารชั้นนำในญี่ปุ่นใช้กัน
คานิมิโสะ มันปูย่างสูตรของคาโบฉะโดยเฉพาะ ทางร้านได้เลือกใช้มันปูจากปูทาระบะผสมกับปูหิมะหรือปูซูไว เติมรสชาติด้วย จินโจชู สาเก เป็นสาเกพรีเมี่ยมที่บ่มจากข้าวญี่ปุ่น ที่ช่วยให้มันปูมีรสชาติหวานกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น ตัวนี้เชฟจะท็อปปิ้งมาด้วยเนื้อของปูซูไว เสิร์ฟพร้อมเตาถ่าน ได้กลิ่นหอมของมันปู ทานร้อนๆ อร่อยมากเลยค่ะ
ปิดท้ายด้วยของหวานสูตรเฉพาะจากร้าน พุดดิ้งมิลค์ ทำสดแบบวันต่อวัน เพียงวันละ 30 ถ้วยเท่านั้น โดยใช้ส่วนผสมของนมสดแท้ๆ โดยปรับสูตรจนได้ความอร่อยลงตัว ไม่หวานจนเกินไป และท็อปปิ้งด้วยสตรอว์เบอร์รีสด มีกลิ่นหอมคาราเมล เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ติดใจเมื่อทานที่ร้านคาโบฉะ จะต้องสั่งเป็นเมนูปิดท้ายทุกครั้ง
สำหรับใครที่มาทานที่คาโบฉะ ซูชิ (Kabocha Sushi) ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยม จะได้พบกับเมนูและวัตถุดิบรับฤดูกาล Autumn - Winter ตามนี้เลยค่ะ ช่วงนี้ไปเที่ยวญี่ปุ่นไม่ได้ ก็ลองมาทานอาหารญี่ปุ่นที่นี่กันก่อนได้นะคะ
ร้านคาโบฉะ ซูชิ (Kabocha Sushi) มีทั้งหมด 9 สาขา ท่ัวกรุงเทพและปริมณฑล ได้แก่
- ลาดพร้าว 19
- โฮมโปร พระราม9
- โฮมโปร พระราม3
- The nine พระราม9
- The bright พระราม2
- เซ็นทรัลบางนา
- โฮมโปรราชพฤกษ์
- The Street รัชดา
- โฮมโปรจรัญ
ใกล้ที่ไหนไปที่นั่นเลยค่ะ
ที่ร้านคาโบฉะซูชิ Kabocha Sushi ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยม ได้พาเราไปพิสูจน์ความคราฟในงาน Mini Event Kabocha Aki-Fuyu 2020 ที่เน้นคอนเซ็ปป์ความคราฟ และความสดใหม่ของวัตถุดิบอาหารทะเลทุกเมนู ประจำฤดูกาล Autumm – Winter นี้โดยส่งตรงมาจากหลากหลายจังหวัดทั่วประเทศญี่ปุ่น เชฟได้มารังสรรค์เป็นเมนูสุดพิเศษให้เราได้ลองรับประทาน
รวมไปถึงการตกแต่งหน้าตาอาหารด้วยดอกไม้ญี่ปุ่น และ Ebi Flower ที่เป็นดอกไม้ออแกนิค มาช่วยเพิ่มสีสันให้กับอาหาร ดอกไม้ที่นำมาตกแต่งนั้นมาจากโครงการอิโรโดริ จากเมืองคามิคัตซึ ของจังหวัดโทคุชิมะ
เรามาดูเมนูอาหารกันเลยค่ะ
คินเมได (Kinmadai) หรือปลากะพงแดงตาโต
ปลาชนิดนี้มีลักษณะพิเศษคือผิวปลาของปลาจะมีสีแดงสด และตาโตมาก เป็นปลากะพงแดงตาโตจากแถบเมืองคานากาวะ ฤดูกาลที่เหมาะสำหรับการทานปลาคินเมได (Kinmadai) คือช่วงต้นเดือนธันวาคมเป็นต้นไป เพราะจะมีปริมาณมากและที่สำคัญ รสชาติของเนื้อจะเข้มขึ้น และไขมันแน่น ซึ่งปลาคินเมไดนี้ยังถูกจัดให้เป็นวัตถุดิบที่มีความหรูหรามากสำหรับคนญี่ปุ่น
อิซากิ (Isaki)
เป็นปลาเนื้อขาว ที่หาได้จากแหล่งทะเลชิซึโอกะ / นางาซากิ ที่อยู่ริมฝั่งทิศใต้ของญี่ปุ่น เนื้อปลาจะออกอมชมพู มีรสหวาน หนังของปลามีความกรุบกรอบ เมนูนี้เชฟเลือกเสิร์ฟให้เป็น ซาชิมิ เพราะปลาชนิดนี้จะมีเนื้อเยอะ และสามารถทำได้ทั้งแบบซูชิและซาชิมิ
ปลาชิมะอะจิ (Shima Aji)
ปลาชิมะอะจิ เป็นปลาเนื้อขาวหนังเงิน ลักษณะที่ลำตัวปลาจะมีแถบสีเหลืองกลางลำตัว ปกติจะอยู่เป็นฝูงและพบได้มากทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ฤดูอร่อยจะอยู่ช่วงปลายใบไม้ผลิเป็นต้นไปจนไปถึงฤดูร้อน เนื้อปลาจะกรอบใส อร่อย แต่ถ้าช่วงต้นฤดูหนาวจะยิ่งอร่อยมากเป็นพิเศษ เพราะปลาจะสะสมไขมันใต้ผิวหนังเอาไว้มาก เมนูนี้จัดเสิร์ฟเป็นแบบซาชิมิ สัมผัสได้ถึงความมันแน่นเนื้อปลา
ชิราโกะ (Shirako)
เป็นหนึ่งในเมนูอันดับต้นๆ ที่เชฟชาวญี่ปุ่นแนะนำว่าต้องลองให้ได้ ยิ่งถ้าใครได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูหนาวนี้ แล้วได้ไปทานอาหารญี่ปุ่นตามร้านโอมากาเสะ เชฟจะแนะนำเมนูชิราโกะ ให้ลอง สัมผัสของเมนูนี้คือจะรู้สึกนุ่มๆครีมมี่ เป็นวัตถุดิบที่ยิ่งท่านยิ่งเพลิน โดยเชฟจะแนะนำให้ทานคู่กับสาเกจุนไม ช่วยให้การทานชิราโกะกลมกล่อม อร่อยแบบทวีคูณ
หอยนางรมยักษ์ มิยางิ คากิ (Miyagi Kaki)
หอยนางรมยักษ์ญี่ปุ่นฤดูกาลนี้ คนญี่ปุ่นนิยมทานกันในช่วงฤดูหนาวระหว่างปลายเดือนตุลาคม ถึงประมาณกุมภาพันธ์ ทางร้านได้นำเข้าจากแทบทะเลมิยากิ แบบสดๆ เป็นๆ เป็นหอยนางรมมีคุณภาพดีมีรสชาติแบบครีมมี่ เข้มข้น หอมกลิ่นน้ำทะเลอ่อนๆ เมนูนี้เชฟเสิร์ฟพร้อมซอสพอนซึ ให้ความครี่มมี่ ผสมกับความหอมหวานของตัวซอสแบบชุ่มฉ่ำ
อังกิโมะ (Ankimo) ฟัวกราส์แห่งท้องทะเล
เมนูนี้พิเศษสำหรับท่านใดที่ชื่นชอบการทานโอมากาเสะ น่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี กับเมนูอังกิโมะ หรือตับของปลาอังโกะ ตับปลาที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นฟัวกราส์แห่งท้องทะเล อีกหนึ่งวัตถุดิบแสนอร่อยของญี่ปุ่น ที่ทางร้านได้นำเข้ามาให้บริการในช่วงต้นฤดูหนาวของทุกๆ ปี ตับปลาชนิดนี้จะมีความนุ่มมัน คล้ายๆ ฟัวกราส์แต่กลิ่นจะไม่ชัดเจนเท่า เชฟจะปรุงสุก เสิร์ฟพร้อมเยลลี่พอนซึ เข้ากับตัวอังกิโมะได้อย่างดี
ซุปหอยลาย อะซาริยูซึซุป (Asari Yusu Soup)
หอยอะซาริ (Asari) หรือหอยลายญี่ปุ่น จริงๆ แล้วสามารถหาทานได้ตลอดทั้งปี แต่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิแบบนี้ หอยอะซาริจะหวานและเนื้อแน่นเป็นพิเศษ ทำให้คนญี่ปุ่นนิยมทานกันมากที่สุด ทางร้านได้นำเข้ามาจากเมืองคิซาราสึ ของจังหวัดชิบะ ที่เป็นแหล่งทะเล น้ำใสสะอาด ทำให้ได้หอยอะซาริที่มีคุณภาพดี โดยเมนูในร้านจะมีทั้งแบบต้มซุปใสผสมยูซึ และแบบผัดสาเกกับเห็ดชิเมจิ
ปลาโคได (Kodai)
ปลาโคได หรือ เบบี้สเนปเปอร์ เป็นสายพันธุ์ของปลากะพงญี่ปุ่น สายพันธุ์เดียวกันกับปลามาไดนั่นเอง แต่โคไดจะเป็นช่วงอายุที่น้อยกว่ามาได เรียกได้ว่าเป็นรุ่นลูกของปลามาไดนั่นเอง ปลาโคไดจะมีรสชาติคล้ายกับปลามาได แต่จะให้สัมผัสที่นุ่มและแน่นมากกว่า เชฟจัดเสิร์ฟแบบซูชิ
ถือเป็นอีกหนึ่งความพิเศษของซูชิร้าน Kabocha คือ นอกจากปลาที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่นแล้ว ข้าวที่ใช้สั่งยังคัดเลือกมาอย่างดี เป็นข้าวพันธุ์โคชิฮิคาริ จากจังหวัดนีกาตะ หนึ่งในข้าวที่มีรสชาติอร่อยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์อื่นๆ
ปลาบินโฮโบ (Hobo)
ปลาชนิดนี้ถือเป็นปลาที่แปลกชนิดหนึ่ง เพราะมีเท้าที่เอาไว้คุ้ยหาอาหารตามพื้นทรายแบบที่ปลาชนิดอื่นๆไม่มี ส่วนของเนื้อจะมีสีขาวใส อมชมพู ให้สัมผัสที่กรอบแน่น เคี้ยวเพลินสุดๆ และอีกหนึ่งความพิเศษ คือ ปลาโฮโบ มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์แบบเฉพาะตัว แนะนำให้ลองดมกลิ่นก่อนทานค่ะ
ปลาหน้าวัว หรือคาวาฮาคิ (Kawahaki)
เป็นตระกูลปลาเนื้อขาวที่หน้าตาอาจจะดูแปลกไม่ดึงดูด แต่เนื้อนั้นอร่อยมาก ซึ่งในฤดูกาลนี้ ปลาจะมีรสชาติอร่อยกว่าช่วงอื่นๆ แถมยังถูกยกให้เป็นหนึ่งเมนูในคอร์สโอมากาเสะประจำฤดูหนาวที่ต้องมีในครอร์สวันนี้เชฟเลือกเสิร์ฟแบบ ซูชิพร้อมกับตับของปลา ที่มาช่วยเพิ่มความมันอร่อย
ปลาทรายแดงญี่ปุ่น อิโตะโยริ (Itoyori)
เป็นปลาชั้นสูงที่มีราคา ปลาชนิดนี้จะหาได้จากแหล่งทะเลฟุกุโอกะ และนางาซากิ เนื้อสัมผัสจะออกไปทางนุ่ม หอม และเป็นปลาที่มีรสชาติในเนื้อเลย ทางเชฟจัดเสิร์ฟเป็นซูชิให้สัมผัสความหอม นุ่มผสมกับข้าวญี่ปุ่นที่ละมุนสุดๆ
ไข่หอยเม่นสด (Uni Bafun)
อูนิบาฟุน จากแบรนด์โอกาว่า แบรนด์อูนิที่ได้รับความนิยมในกลุ่มของตลาดอูนิเลย และเป็นแบรนด์ที่ได้รับรางวัลในเรื่องของคุณภาพอูนิ ตัวอูนิจะมีสีเหลืองทอง ให้รสสัมผัสที่หวานฉ่ำ เกรดที่เราเลือกใช้เป็นเกรดที่ร้านอาหารชั้นนำในญี่ปุ่นใช้กัน
คานิมิโซะ มันปูย่าง หน้าปูหิมะ (Kani Miso Yaki Top Zuwai)
คานิมิโสะ มันปูย่างสูตรของคาโบฉะโดยเฉพาะ ทางร้านได้เลือกใช้มันปูจากปูทาระบะผสมกับปูหิมะหรือปูซูไว เติมรสชาติด้วย จินโจชู สาเก เป็นสาเกพรีเมี่ยมที่บ่มจากข้าวญี่ปุ่น ที่ช่วยให้มันปูมีรสชาติหวานกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น ตัวนี้เชฟจะท็อปปิ้งมาด้วยเนื้อของปูซูไว เสิร์ฟพร้อมเตาถ่าน ได้กลิ่นหอมของมันปู ทานร้อนๆ อร่อยมากเลยค่ะ
คาโบฉะ พุดดิ้งมิลค์ (Kabocha Pudding Milk)
ปิดท้ายด้วยของหวานสูตรเฉพาะจากร้าน พุดดิ้งมิลค์ ทำสดแบบวันต่อวัน เพียงวันละ 30 ถ้วยเท่านั้น โดยใช้ส่วนผสมของนมสดแท้ๆ โดยปรับสูตรจนได้ความอร่อยลงตัว ไม่หวานจนเกินไป และท็อปปิ้งด้วยสตรอว์เบอร์รีสด มีกลิ่นหอมคาราเมล เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ติดใจเมื่อทานที่ร้านคาโบฉะ จะต้องสั่งเป็นเมนูปิดท้ายทุกครั้ง
สำหรับใครที่มาทานที่คาโบฉะ ซูชิ (Kabocha Sushi) ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยม จะได้พบกับเมนูและวัตถุดิบรับฤดูกาล Autumn - Winter ตามนี้เลยค่ะ ช่วงนี้ไปเที่ยวญี่ปุ่นไม่ได้ ก็ลองมาทานอาหารญี่ปุ่นที่นี่กันก่อนได้นะคะ
ร้านคาโบฉะ ซูชิ (Kabocha Sushi) มีทั้งหมด 9 สาขา ท่ัวกรุงเทพและปริมณฑล ได้แก่
- ลาดพร้าว 19
- โฮมโปร พระราม9
- โฮมโปร พระราม3
- The nine พระราม9
- The bright พระราม2
- เซ็นทรัลบางนา
- โฮมโปรราชพฤกษ์
- The Street รัชดา
- โฮมโปรจรัญ
ใกล้ที่ไหนไปที่นั่นเลยค่ะ